เยือน เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพู
ชมสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล คาซเนท์
ล่องเรือท้องกระจก ชม ปะการัง ปลาทะเลหลากชนิด
ทะเลเดดซี ทะเลที่เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก ระดับน้ำลึด 400 เมตร
นั่งรถ Jeep 4X4 รับบรรยากาศท่องทะเลทราย
** ค่าทิปพนักงานขับรถ และไกด์ท้องถิ่น (35 USD) **
** ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (21 USD) **
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
22.00 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
วันที่ 2 | ดูไบ - อัมมาน - มาดาบา - ภูเขาเนโบ - เพตรา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
01.05 น. | ออกเดินทางสู่ นครดูไบ ด้วยเที่ยวบิน EK385 |
05.00 น. | เดินทางถึง กรุงดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง |
08.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงอัมมาน ด้วยเที่ยวบิน EK901 |
09.40 น. | ถึง สนามบินนานาชาติ Queen Alia กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา (Madaba) เมืองแห่งโมเสก ชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ (Greek Orthodox Church of St. George) ถูกสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเล็ม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางขึ้นชม ภูเขาเนโบ (Mount Nebo) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวที่นำพาชาวยิวเดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม ชม โบสถ์อนุสรณ์โมเสส (The Moes Memorial Church) ภายในโบสถ์ประกอบไปด้วยภาพโมเสกสีบนพื้นโบสถ์อันล้าค่า แสดงถึงภาพชีวิตสัมพันธ์ระหว่างคน, สัตว์ และธรรมชาติ, รูปคน ฯลฯ และยังมีแท่นพิธี ม้านั่ง ตามรูปแบบของศาสนาคริสต์ไว้ประกอบพิธีต่าง ๆ และอนุญาตให้ใช้ในปัจจุบัน ในปี ค.ศ. 2000 โป๊ป จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นชม อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส (The Serpentine Cross sculpture) ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู ถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้าจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเบธเลเฮม และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเพตรา (Petra) เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพู หรือ Rose City ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ (New 7 Wonders of the World) จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07 มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa Valley) หรือหุบเขาแห่งโมเสส ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล โดยชาวนาบาเทียน (Nabataeans) และได้กลายมาเป็นนครแห่งการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตลาด ซื้อสินค้าสำคัญที่สุดของโลกตะวันออก ที่ต่อมาถูกละทิ้งเป็นเวลานานกว่า 700 ปี จนเมื่อมีนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ โยฮันน์ ลุควิก บวร์กฮาร์ท เดินทางผ่านมาพบ เห็นเข้าเมื่อปี พ.ศ. 2355 และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ “TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ที่พัก | GRAND VIEW PETRA หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เพตรา - อคาบา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้นนำท่านชม เมืองเพตรา (Petra) ให้ท่านได้ขี่ม้าระยะทางประมาณ 800 เมตร บนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง (ไม่รวมค่าทิปขี่ม้า โดยประมาณ 3-5 USD และไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก สนใจกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์) จากนั้นเดินเท้ากับเส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.5 กิโลเมตร ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างทาง จนพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล คาซเนท์ (Al-Khazneh หรือ The Treasury) ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในศตวรรษที่ 1-2 เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และ มีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ เดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปยัง เมืองอคาบา (Aqaba) เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สำคัญของประเทศจอร์แดน เป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ที่พัก | CITY TOWER HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | อคาบา - ล่องเรือท้องกระจก - ทะเลทรายวาดิรัม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านชม เมืองอคาบา แวะถ่ายรูปกับ ทะเลแดง (Red Sea) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยทะเลแห่งนี้ครั้งนึงได้มีการกล่าวขานในพระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่า โมเสสได้ทำอัศจรรย์แหวกทะเลแดงพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการเป็นทาสของอียิปต์เพื่อเดินทางไปสู่แผ่น ดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล โดยการชูไม้เท้าของโมเสส ทะเลแดงนี้มีน่านน้ำครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือประเทศจอร์แดน อิสราเอล อิยิปต์ และซาอุดิอาระเบีย จากนั้นนำท่าน ล่องเรือท้องกระจก (Big Glass Boat) แล่นในทะเลแดง ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง, ปลาทะเลหลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ จากนั้นให้ท่านได้เดิน ช้อปปิ้งสินค้าต่างๆมากมาย ณ ตลาดของเมืองอาคาบา | |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (Wadi Rum) ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญที่เมืองเพตรา ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปี ค.ศ. 1916-1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการบของนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และ เจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และรางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า 30 รางวัล นำแสดงโดย Peter O’Toole, Omar Sharif |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ที่พัก | SUN CITY HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | สนุกสนานกับการนั่งรถ 4X4 ขับขี่บนทะเลทราย - ปราสาทเครัคแห่งครูเสด - ทะเลเดดซี |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่าน นั่งรถ Jeep 4X4 รับบรรยากาศท่องทะเลทรายที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีชมพูอมส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสงของดวงอาทิตย์ ชม น้ำพุแห่งลอว์ เรนซ์ สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็นสถานที่พัก และคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน นำท่านท่องทะเลทรายต่อไปยัง ภูเขาคาซารี ชมภาพเขียนแกะสลักก่อนประวัติศาสตร์ ที่เป็นภาพแกะสลักของชาวนาบาเทียนที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ และรูปภาพต่างๆ ผ่านชมเต็นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย เลี้ยงแพะเป็นอาชีพ จากนั้นนำท่านสู่ เมืองเครัค (Kerak) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามข้างทาง ระหว่างทางขึ้นสู่เขาโดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็นแกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน จากนั้นนำท่านชม ปราสาทเครัคแห่งครูเสด (Kerak Castle) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1142 โดย ผู้ปกครอง Payen Le Boutieller ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิมจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกเข้าทำลายโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของซาลาดิน (Saladin) | |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (Dead Sea) ซึ่งเป็นทะเลที่ถูกบันทึกลงใน กินเนสส์บุ๊ค ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ ให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเล และ พิสูจน์ความจริงว่าสามารถลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้ำในทะเลมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ที่พัก | RAMADA HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | นครเจอราช - โรมันโบราณ - กรุงอัมมาน - ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน - สนามบิน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ นครเจอราช (Jerash) 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน โดยสันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 - 100 ปีก่อนคริสตกาล ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทราย หลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน (Hadrian 's Arch) จากนั้นนำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ชม โอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง ชม โรงละครโบราณ (South Roman Theatre) ซึ่งก็คือโรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา จากนั้นนำท่านชม น้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงอัมมาน นำท่านชม เมืองหลวงกรุงอัมมาน (Amman) เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่านเมืองเก่า เมืองใหม่ ย่านธุรกิจ ตลาดใจกลางเมือง ย่านคนรวย ฯลฯ จากนั้นนำท่านชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Citdael) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุการณ์ต่างๆรอบเมือง ให้ท่านอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
21.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินอัมมาน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย |
วันที่ 7 | ดูไบ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
01.45 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพ ด้วยเที่ยวบิน EK906 ** คณะออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ออกเดินทางเวลา 02.05 น. และเดินทางถึงดูไบเวลา 06.05 น.** |
06.40 น. | ถึง สนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง |
09.30 น. | ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเทพ ด้วยเที่ยวบิน EK 37 ** คณะออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 63 ออกเดินทางเวลา 09.45 น. และเดินทางถึงกรุงเทพเวลา 18.55 น.** |
18.40 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel