DE866 : โปรแกรมทัวร์จอร์เจีย AMAZING GRAND GEORGIA 8 วัน 5 คืน (TK)

คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน N ประตูทางเข้าที่ 7 อาคารผู้โดยสาร เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

ออกเดินทางจาก สนามบินอิสตันบูล (IST) สู่ สนามบินทบิลิซี่ (TBS) โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 2.15 ช.ม.) 

เดินทางถึงสนามบินทบีลิซี่ ประเทศจอร์เจีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรจากนั้นเดินทางสู่เมืองทบีลิซี่ (TBILISI)

นำท่านชม อนุสาวรีย์ CHRONICLE OF GEORGIA ที่เสมือน STONEHENGE แห่ง Tbilisi ลักษณะเป็นแท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์ บนแท่นหินสลักเป็นรูปต่างๆ และเรื่องราวของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดัง เริ่มสร้างเมื่อปี 1985 แต่ยังไม่เสร็จ โดยไม่มีใครรู้ว่าจะเลิกสร้างตอนไหน Chronicle of Georgia ประกอบด้วยแท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร แต่ละเสาจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วน คือ ล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ ส่วนกลาง คือ เรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจีย และส่วนบนเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ

จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าชมวิวเมืองเก่าแห่งนครหลวงทบิลิซี่ (Old town of Tbilisi) ชมสีสันอาคารบ้านเรือน สถาปัตยกรรมอันโดดเด่นที่ผสมผสานศิลปะแบบเปอร์เซียและยุโรปเป็นการบรรจบกันของตะวันออกและตะวันตกของประเทศที่ตั้งอยู่ระหว่างสองทวีปอย่างจอร์เจียเกิดเป็นศิลปะแบบจอร์เจียที่มีเอกลักษณ์

จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับสะพานสันติภาพ(Peace bridge) ซึ่งเชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและเมืองใหม่ เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี  ค.ศ. 2010 จัดว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่สวยงามชิ้นหนึ่งซึ่งพาดผ่านแม่น้ำคูรา 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

เดินทางสู่ เมืองมิทสเคต้า (Mtskheta)อดีตนครหลวงแห่ง  แรกของประเทศจอร์เจีย ปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญ ทางศาสนาคริสต์ นิกายจอร์เจียออร์โธด็อกซ์ โดยจอร์เจียรับคริสต์ศาสนาเข้ามาในประเทศเป็นครั้งแรกช่วงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 4 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานแห่งเมืองมิทสเคต้าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) เมื่อปี ค.ศ.1994

นำท่านชม อารามจวารี (Jvari monastery) หรืออารามแห่งกางเขน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยุคศตวรรษที่ 6 ซึ่งชาวจอร์เจียสักการะนับถือบูชาเป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดยักษ์ซึ่งชาวเมืองกล่าวกันว่า นักบุญนีโน่แห่งคัปปาโดเกีย (ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากของประเทศ ตุรกี) ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล อิสระให้ท่านเก็บภาพทิวทัศน์ของเมืองมิทสเคต้าและจุดบรรจบของแม่น้ำคูราและแม่น้ำอะรักวี ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก

จากนั้นนำท่านชม วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli cathedral) สัญลักษณ์ของการเปลี่ยนความเชื่อมานับถือศาสนาคริสต์ซึ่งกลายมาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นในคริสตวรรษที่11 ภายในมีภาพเขียนเฟรสโกที่งดงาม

นำท่านสู่ไวน์เทสติ้ง (Wine Testing) ให้ท่านได้ชิมไวน์หลากหลายปีการผลิต ชมโรงบ่มองุ่นเพื่อผลิตเป็นไวน์ที่ขึ้นชื่อหากถูกใจท่านก็สามารถเลือกซื้อเป็นของฝากได้อีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาสเบกิ (Kazbegi) เมืองเล็กๆซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus mountains) เมืองนี้ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส เป็นจุดชมวิวยอดเขาคาสเบ็ค (Mt. Kazbeg) หนึ่งในยอดเขาที่สวยที่สุดของเทือกเขาคอเคซัส นำท่านเปลี่ยนอริยาบถ นั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ (Jeep 4 wheels Drive) สู่โบสถ์เกอร์เกติสเมบา (Gergeti sameba church) เป็นโบสถ์เก่าแก่กลางหุบเขาคอเคซัส สร้างตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 ด้วย หินแกรนิตขนาดใหญ่ บนความสูง 2,170 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล รอบตัวโบสถ์แห่งนี้สามารถมองเห็นเทือกเขาคอเคซัส360องศา ระหว่างการเดินทางท่านให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและวิวอันงดงามของธรรมชาติเทือกเขาคอเคซัส

นำท่านแวะให้ท่านถ่ายรูปกับ  อนุสรณ์แห่งมิตรภาพ (Monument of friendship) กำแพงทรงครึ่งวงกลมซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างรัสเซียและ  จอร์เจีย 

INTOURIST KAZBEGI HOTEL 4* หรือเทียบเท่า
ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมการเดินทางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ**

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านถ่ายรูปกับป้อมปราสาทอันนานูรี (Ananuri fortress) สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 13 ถูกออกแบบให้มีหอคอยสูงและมีความแข็งแกร่งเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยในยามศึกสงคราม นับเป็นป้อมปราการของชาวคริสต์ในอตีตกาลที่อาศัยอยูในภูมิภาคคอเคซัส และไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิออตโตมันและเปอร์เซียซึ่งเป็นชาวมุสลิม

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่เมืองซุกดิดี (Zugdidi) หรือเรียกอีกชื่อว่า ถูกเรียกว่า Dadi จากนามสกุลของผู้ปกครองของ  Megrelia เจ้าชาย Dadiani เคยที่ประทับอยู่ที่เมืองนี้เป็นเมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจอร์เจีย ระหว่างทางนำทางแวะเก็บภาพของเขื่อนเอนกูรี่ (Enguri Dam) เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำบนแม่น้ำ Enguri ปัจจุบันเป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งที่สูงเป็นอันดับสองของโลก 

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

เดินทางสู่ หมู่บ้าน Ushguli เป็นชุมชนมรดกโลกที่สูงที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาบนแนวเทือกเขาคอเคซัส ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม สูงจากระดับน้ำทะเล 2,100 เมตร ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกจากองค์กร UNESCO ในปี 1996 หรือเรียกว่า Upper Svaneti มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200 คนเท่านั้น คนในชุมชนทำการเลี้ยงสัตว์ปลูกพืชในตัวหมู่บ้านเอง เหตุที่ชุมชนนี้ที่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกของโลกจาก UNESCO เนื่องจากเป็นชุมชนที่มีความเก่าแก่และสามารถดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมสืบต่อมาจากยุคอดีต โรงเรียน และโบสถ์ บ้านเรือนส่วนใหญ่จะสร้างด้วยอิฐ หิน และวัสดุพื้นบ้าน มีหอคอยทุกหลังดูเป็นเอกลักษณ์ของชุมชน อิสระให้ท่านเดินเล่นเก็บภาพประทับใจและดื่มด่ำกันบรรยากาศสวยงามน่าหลงใหล ราวกับสวรรค์บนดิน เรียกได้ว่า หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในจุดที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของจอร์เจีย
  
ได้เวลาอันสมควรนำท่านท่านเดินทางกลับสู่ชมชุมชนโบราณ Mestia เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาคอเคซัสที่อยู่ในเขต Svaneti ที่ถือเป็นศูนย์กลางในการเที่ยวชมธรรมชาติยอดนิยมของชาวจอร์เจีย หมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบมากสภาพอากาศเย็นสบายความงามจากธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ความบริสุทธิ์ของอากาศสมบูรณ์ที่ของจอร์เจียก็ว่าได้  นำท่านอิสระให้ท่านเดินเล่นและเก็บภาพประทับใจหมู่บ้าน Mestia ตามอัธยาศัย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาทูมิ (Batumi) เมืองท่าชายทะเลและหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย ตัวเมืองตั้งอยู่ติดทะเลดำทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองบาทูมิยังได้รับการสนับสนุนให้เป็นเมืองท่องเที่ยว ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา โดยมีการปรับรูปโฉมอาคารและตัวเมืองเก่าอิสระให้ท่านเดินทางตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านชมรูปปั้นอาลีและนีโน่ (Ali and Nino moving sculptures) งานสถาปัตยกรรมโลหะสมัยใหม่รูปคู่รักชายชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงสาวชาวจอร์เจียนในนวนิยายท้องถิ่น ชมหอคอยชิงช้าสวรรค์ (Ferris Wheels Tower) อาคารตัวอักษร (Alphabet Tower) ที่ประดับด้วยตัวอักษรโลหะอันมีเอกลักษณ์ และหอคอยแห่งบาตูมี (Batumi Tower) ที่สูงถึง 200 เมตร อิสระให้ท่านเก็บภาพ  ประทับใจ 

นำท่านเดินชมนครบาทูมิ ชมแลนด์มาร์กสำคัญ ๆ ตลอดถนน ชมจัตุรัสปิอาซซ่า (Piazza Square) หนึ่งในจัตุรัสสำคัญของเมืองบาทูมิ ซึ่งรายล้อมด้วยร้านอาหารและโรงแรมมากมายบนเนื้อที่กว่า 5,700 ตารางเมตร ใกล้ริมอ่าวทะเลดำ สถาปัตยกรรมโดยรอบ นับว่าได้แรงบันดาลใจจากประเทศอิตาลีโดยแท้ สังเกตได้จากภาพ โมเสกและงานกระจกสีที่หาดูได้ตาม อาคารรอบจัตุรัส อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ

เดินทางมาถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง 

เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ