วันที่ 1 | ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
23.55 น. | ขอเชิญคณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 8-9 เคาน์เตอร์ T สายการบิน Emirate Airlines โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกตลอดขั้นตอนการเช็คอิน และ หัวหน้าทัวร์ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง |
วันที่ 2 | ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ - ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ - เมืองดูไบ - ขึ้นชมด้านวิวบนอาคารดูไบเฟรม - สุเหร่าจูไมร่า - พระราชวังชีค - อาคารบุรจญ์อัลอาหรับ - ศูนย์รวมสินค้าพื้นเมือง - ห้างเอมิเรตส์ มอลล์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
03.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ โดย สายการบิน Emirate Airlines เที่ยวบินที่ EK377 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 55 นาที (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) |
07.15 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ เมืองดูไบ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ** เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 3 ชั่วโมง ** นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูไบ (Dubai) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ถือเป็นเมืองแห่งความมหัศจรรย์เพราะถูกผันแปรจากดินแดนแห่งทะเลทราย สู่ดินแดนแห่งโลกอนาคต ความมั่งคั่งทางการค้า บริการการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และศูนย์กลางธุรกิจ ไม่จำกัดเฉพาะการค้าน้ำมันแบบก่อนๆ สู่การเป็นเมืองแห่งผู้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ไม่มีสิ่งใดบนโลกใบนี้ ที่เมืองดูไบจะทำไม่ได้ แม้การสร้างแผ่นดินและจารึกลงบนแผนที่โลกในอาณาเขตของตนเอง นำท่าน ขึ้นชมวิวด้านบนอาคารดูไบเฟรม (Dubai Frame) สัญลักษณ์ใหม่ของเมืองดูไบ อาคารหน้าตาคล้าย กรอบรูป ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นกรอบรูปฉาบทองคำความสูงขนาด 150 เมตร กว้าง 93 เมตร ใช้เวลาในการก่อสร้างมาถึง 10 ปีเต็ม ด้วยจำนวนเงินประมาณ 43.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.39 พันล้านบาท คือการแสดงภาพให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของประเทศดูไบ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพราะที่ตั้งของดูไบเฟรม นั้นอยู่บริเวณสวนสาธารณะ Zabeel Park ซึ่งเป็นเขตแบ่งระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่อย่างพอดิบพอดี นำท่าน ผ่านชม สุเหร่า จูไมร่า (Jumeirah Mosque) สุเหร่าคู่บ้านคู่เมืองของเมืองดูไบ สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง และได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองดูไบ ผ่านชม ชายหาดจูไมร่า (Jumeirah Beach) สถานที่ตากอากาศยอดนิยมของชาวดูไบ นำท่าน ผ่านชม พระราชวังท่านชีค (Shiekh Palace) ตื่นตาตื่นใจกับการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน้าพระราชวังอันงดงามสุดอลังการของครอบครัวชีคค์ อัล มัคตูม (Shiekh Al Maktoum) ซึ่งมีความร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้และพืชพรรณนานาชนิด และบรรดาเหล่านกยูงมากมายนับหลายสิบตัวที่ถูกเนรมิตขึ้นท่ามกลางเมืองแห่งทะเลทราย นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ อาคารบุรจญ์อัลอาหรับ (Burj Al Arab) โรงแรมสุดหรูระดับ 7 ดาว รูปทรงคล้ายเรือใบที่งดงามและหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่ริมอ่าวอาหรับ เป็นที่พักอาศัยของเศรษฐีที่มีชื่อเสียงชาวตะวันออกกลาง นำท่านเดินทางสู่ ตลาดเมดินัท จูไมร่า (Medinat Jumeirah Souk) ตลาดพื้นเมืองโบราณแต่แฝงไปด้วยความโรแมนติก ตกแต่งสไตล์อาหรับผสมผสานกับวัฒนธรรมของตะวันออกกลางแบบดั้งเดิม มีทั้งร้านแบบรถเข็นแผงลอยและบ้านมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ร้านบูติก ร้านอาหารสุดหรูที่มีความหลากหลายและขึ้นชื่อจากทั่วโลก ตั้งแต่ร้านกาแฟไปจนถึงภัตตาคาร ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของสถาปัตยกรรมเมืองเก่าและโอบล้อมด้วยลำคลองสวยงาม |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์รวมสินค้าพื้นเมือง (Local Product Shop) จำหน่ายของฝาก ของที่ระลึกท้องถิ่นของเมืองดูไบ เช่น พรม เครื่องประดับ ชุดพื้นเมือง รูปติดผนัง เป็นต้น นำท่านเดินทางสู่ ห้างเอมิเรตส์ มอลล์ (Emirates Mall) เป็นห้างขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูง มีโรงภาพยนตร์ Cinestar แบบคอมเพล็กซ์ มีอาร์เคดกว้างใหญ่ ติดตั้งตู้เกมส์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในเมืองดูไบ และ Borders, Debenhams, Zara และแม้แต่ Harvey Nichols สินค้าแบรนด์ดังอย่าง H&M และ Phat Farm สำหรับลูกค้าทั่วไป และ Via Rodeo ที่เต็มไปด้วย Versace, D&G, Ferragamo และอื่นๆ จุดที่โดดเด่นที่สุดของ Mall of the Emirates ก็คือ สกี ดูไบ (Ski Dubai) ไม่น่าแปลกใจที่ Mall of the Emirates เป็นห้างสรรพสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเมืองดูไบเพราะ สกี ดูไบ (Ski Dubai) คือหนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเลือกเล่นระหว่างสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลหิมะในสวนหิมะ หรือ สามารถเลือกดื่มชา กาแฟ รับประทานอาหารใน Mall of the Emirates มีร้านอาหารให้คุณเลือกแบบนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เช่น Apres ร้านมีสไตล์ที่พักสำหรับนักเล่นสกี มีเครื่องดื่มบริการทันใจหรือเลือกทานฟองดูก็ได้, ใกล้ Ski Dubai เป็นที่ตั้งร้าน Sezzam ซึ่งมีเมนูอาหารนานาชาติให้เลือกมากมาย, The Butcher’s Shop รวมอาหารสุดยอดที่นำเข้าจากแอฟริกาใต้ ที่ที่คุณต้องแวะทาน Biltong (เนื้อตากแห้ง) หรือสเต็กรสเลิศ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารเกาหลีแบบเซ็ทเมนู |
ที่พัก | Novotel Barsha / Golden Tulip หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ดูไบ - นั่งรถลีมูซีนสุดหรู ชมเมืองดูไบ - นั่งรถไฟโมโนเรล สู่โครงการเดอะปาล์ม - โรงแรมแอตแลนติส - ชิงช้าสวรรค์ดูไบ อาย - ตะลุยทัวร์ทะเลทรายพร้อมดินเนอร์สไตล์อาหรับ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ นั่งรถลีมูซีนสุดหรู ชมความสวยงามโดยรอบของเมืองดูไบ นำท่าน นั่งรถไฟโมโนเรล (Monorail) สู่โครงการเดอะปาล์ม (The Palm Project) เป็นสุดยอดโครงการของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยการถมทะเลให้เป็นเกาะเทียม สร้างเป็นรูปต้นปาล์ม จำนวน 3 เกาะ มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเมนท์ ร้านค้า ภัตตาคาร ผับ บาร์ รวมทั้งสำนักงานต่างๆ นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก และส่วนของโครงการได้ถูกจารึกให้เป็นส่วนหนึ่งในแผนที่โลกเรียบร้อย นำท่าน ผ่านชม ความหรูหราและยิ่งใหญ่ของ โรงแรมแอตแลนติส (Atlantis Hotel) ที่อยู่บริเวณส่วนปลาย หรือ ยอดของโครงการเดอะ ปาล์ม นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ ชิงช้าสวรรค์ ดูไบอาย (Dubai Eye) ตั้งอยู่ในเขตบลู วอเตอร์ (Blue Waters) สัญลักษณ์ใหม่ต่อจากดูไบ เฟรม ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 ที่จะถึงนี้ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก เพื่อเตรียมความพร้อม เปลี่ยนเครื่องแต่งกายสำหรับตะลุยทะเลทราย ** คำแนะนำ **
นำท่าน ตะลุยทะเลทราย ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD Sand Dune / Desert Safari) เพื่อเดินทางสู่ ทะเลทราย (The Desert) ท่านจะได้สนุกสนานและตื่นเต้นไปกับประสบการณ์อันแปลกใหม่ นั่งรถตะลุยไปบนเนินทรายทั้งสูงและต่ำสลับกัน |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ในแคมป์กระโจมสไตล์อาหรับ พื้นเมืองเบดูอิน (Bedouin) อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ในแคมป์กระโจมแบบอาหรับ ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกของพระอาทิตย์ตกดินที่แสนสวยงาม และสัมผัสชีวิตแบบชาวพื้นเมืองเบดูอิน (Bedouin) อาทิ การสวมชุดพื้นเมืองชาวอาหรับเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก การเพ้นท์มือแบบอาหรับ (Henna Tattoo) ลองสูบ มารากู กลิ่นผลไม้ (Shi Sha) ชม โชว์ระบำหน้าท้อง (Belly Dance) ซึ่งเป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก รวมถึงสนุกสนานกับการขี่อูฐ (Camel Ride) |
ที่พัก | Novotel Barsha / Golden Tulip หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ดูไบ - เมืองอาบูดาบี - เฟอร์รารี่ เวิลด์ - สุเหร่าหลวงแห่งเมืองอาบูดาบี - โรงแรมเอมิเรตส์พาเลซ - อาคารเอทิฮัดทาวเวอร์ - ทำเนียบประธานาธิบดี แห่งเมืองอาบูดาบี - ดูไบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ เฟอร์รารี่เวิลด์ (Ferrari World) เป็นแหล่งรวมเทคโนโลยี นวัตกรรมทั้งยานยนต์ วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และสรรพสิ่งที่เป็นองค์ความรู้เชิงวิศวกรรม, ศิลปกรรม การออกแบบ วิจัย พัฒนา จากรถยนต์เฟอร์รารี่ และทุกๆ ศาสตร์ในโลก เอามารวมกันเพื่อสร้างเป็นโครงการนี้ ที่เป็นทั้งสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โชว์รูมเทคโนโลยี, โชว์รูมวิศวกรรมยานยนต์, แหล่งรวมเทคนิคความรู้ และความบันเทิงทุกอย่างเอาไว้ในนี้ ** คำแนะนำ โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับเข้าชมสุเหร่าหลวง และ ทำเนียบประธานาธิบดีฯ ** นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาบูดาบี (Abu Dhabi) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งอยู่บนเกาะรูปตัวที ยื่นออกไปบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดอันดับ 3 ในภูมิภาค และอันดับ 26 ของโลก เป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า Garden of Gulf หรือ อ่าวแห่งความเขียวขจี และมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสวนสวยงามท่ามกลางทะเลทราย นำท่าน เข้าชม สุเหร่าหลวงแห่งเมืองอาบูดาบี (Grand Mosque of Abu Dhabi) หรือ สุเหร่า ชีคค์ ซายิด บิน สุลตาล อัล นาร์ยันต์ (Sheikh Zayed Bin Sultan Al Nahyan Mosque) สุเหร่าประจำเมืองหลวงที่ท่าน Sheikh Zayed Bin Sultan Al Nahyan หรือ ท่านชีคค์ บุคคลสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี เป็นผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้เป็นที่รักและเปรียบเสมือนบิดาของชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างใช้เวลารวมทั้งหมด 10 ปี ภายในสุเหร่าแห่งนี้มีพรมทอมือผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร ผลงานท้องถิ่นของชาวอาหรับโบราณ และ โคมไฟ Chandelier ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดงซึ่งถูกสั่งทำขึ้นพิเศษ ซึ่งภายหลังที่ท่านชีคค์สวรรคต ทางรัฐบาลจึงใช้สุเหร่าแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของท่าน สุเหร่าแห่งนี้สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารของโรงแรม International Buffet |
บ่าย | นำท่าน ผ่านชม โรงแรมเอมิเรตส์พาเลซ (Emirates Palace Hotel) ซึ่งในอดีตใช้เป็นที่รับรองผู้นำประเทศในเครือ GCC หรือ คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ได้แก่ บาร์เรน การ์ตาร์ คูเวต โอมาน ซาอุดิอารเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พระราชอาคันตุกะของท่านชีคค์ ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาลเมืองอาบู ดาบี บริหารโดยกลุ่ม Kempinski เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2548 โดยใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีความสวยงามดุจดั่งพระราชวังของเจ้าผู้ครองนคร โรงแรมแห่งนี้อยู่บนที่ดินของท่านชีคค์ อดีตประธานาธิบดี อีกเช่นกัน อาคารเอทิฮัดทาวเวอร์ (Etihad Tower) แวะถ่ายรูปกับตึกเอทิฮัดทาวเวอร์ (Etihad Tower) คือกลุ่มอาคารที่ใช้ในการถ่ายทำฉาก‘จัมป์ นำท่าน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับ อาคารเอทิฮัดทาวเวอร์ (Etihad Tower) คือกลุ่มอาคารหรูหรา งดงามท่ามกลางบรรดาตึกระฟ้าในเมืองอาบู ดาบี ตัวอาคารสำนักงานสร้างจากหินอ่อนและประกอบไปด้วยการตกแต่งรายละเอียดอย่างใส่ใจและระบบไฟที่ทันสมัยทั่วทั้งอาคารตั้งแต่ทางเข้าอาคารผู้ที่แวะเวียนมาที่ตึกเอทิฮัดทาวเวอร์จะต้องประทับใจกับบรรยากาศและสภาพแวดล้อม และใช้ในการถ่ายทำฉาก “จัมป์รถ” ข้ามตึกของโดมินิกทอเรตโต้ ในภาพยนตร์เรื่อง ฟาส แอนด์ ฟีเรียด 7 (ในปี ค.ศ. 2015) นำท่าน เข้าชม ทำเนียบประธานาธิบดี แห่งเมืองอาบูดาบี (Presidential Palace of Abu Dhabi / Qasr Al Wattan) สถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงดงามของสถาปัตยกรรมตะวันออกกลาง เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา เริ่มจากโถงกลาง (The Great Hall) มีลักษณะเป็นโดมทองขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 37 เมตร กลางอาคาร ผ่านทางเชื่อมเข้าสู่ห้องต่างๆ ภายในถูกประดับประดาด้วยกระเบื้องโมเสควิจิตรบรรจงด้วยศิลปะร่วมสมัยได้อย่างสวยงามหรูหรา ทุกห้องล้วนมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ตลอดจนเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมและขนบประเพณีของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้จากที่นี่ นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูไบ (Dubai) ผ่านถนน Sheikh Zayed Road ถนน 12 เลนส์ สายหลักสำคัญที่สุดของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เชื่อมต่อเมืองอาบู ดาบี และ เมืองดูไบ เข้าด้วยกัน ขนานไปกับแนวชายฝั่ง ถนนเส้นนี้มีโรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงานและอพาร์ตเมนท์ ตั้งเรียงรายมากมาย สถาปัตยกรรมสมัยเก่า และ สมัยใหม่รวมกันอยู่แสดงถึงความมั่งคั่งสวยงามทางอารยธรรมและวัฒนธรรม |
ค่ำ | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
ที่พัก | Novotel Barsha หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ดูไบ - พิพิธภัณฑ์แห่งชาติดูไบ - ดูไบ ครีก - นั่งเรือข้ามฟาก ABRA TAXI - ตลาดทอง - ตลาดเครื่องเทศ - ร้านเครื่องหนัง - ห้างดูไบมอลล์ - ขึ้นชมวิวด้านบนอาคารบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ - ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ - ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน เข้าชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติดูไบ (Dubai Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 บูรณะครั้งล่าสุดปี พ.ศ. 2513 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น การค้นพบงานศิลป์ ที่มีอายุถึง 4,000 ปี เรื่องราวการค้าขายมุกในประวัติศาสตร์ก่อนการค้นพบน้ำมัน ท่านจะประทับใจกับการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาถ่ายทอดเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอาหรับโบราณ นำท่านเดินทางสู่ ดูไบ ครีก (Dubai Creek) เป็นคลองที่สร้างขึ้นโดยการขุดเข้ามาในชายฝั่ง เพื่อแบ่งเมืองดูไบออกเป็น 2 ส่วน คือ Deira Dubai และ Bur Dubai มีความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร มีท่าจอดเรือ 8 ท่า นำท่าน นั่งเรือข้ามฟาก ที่ชาวเมืองดูไบเรียกกันว่า Abra Taxi ซึ่งเป็นเรือที่รับใช้ชาวเมืองดูไบมาช้านานจวบจนถึงปัจจุบัน ให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวเมืองดูไบแบบโบราณ ที่ไม่ว่าเมืองดูไบจะมีความก้าวล้ำทันสมัยทางเทคโนโลยีระดับโลกมากเพียงใด แต่ก็ยังมีโอกาสได้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่นโบราณอยู่จนถึงปัจจุบัน นำท่านเดินทางสู่ ตลาดทอง (Gold Souk) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก วางขายเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ ขายเครื่องประดับทุกชนิด เช่น มุก อัญมณี ต่างๆ ร้านเล็กๆ มากมายกว่าร้อยร้านค้า หรือ ใกล้กันจะเป็น ตลาดเครื่องเทศ (Spice Souk) ที่ทั้งตลาดตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศ ไม้หอม อบเชย กระวาน กานหลู และ ถั่ว คุณภาพต่างๆนับร้อยชนิดจากทั่วทุกมุมโลก มารวมไว้ที่ตลาดเครื่องเทศแห่งนี้ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง อาหารไทย |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ร้านเครื่องหนัง (Leather Shop) จำหน่ายเสื้อหนัง และ เสื้อขนสัตว์ (ขนเฟอร์) ที่ชาวพื้นเมืองดูไบ นิยมใช้ แน่นอนว่าจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัตถุดิบที่ดีสุดจากทั่วทุกมุมโลก นำท่าน ขึ้นชมวิวบน อาคารบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ (Burj Khalifa) เดิมชื่อ ตึกบุรจญ์ดูไบ ที่ชั้น 124 หนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งยังเป็นฉากเสี่ยงตายสำคัญของพระเอก “ ทอม ครูซ ” จากภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible 4 ซึ่งตึกมีความสูงถึง 828 เมตร ปัจจุบันมีทั้งหมด 160 ชั้น เป็นตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก ตัวตึกได้ทำสถิติกลายมาเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกมีความสูงถึง 546 เมตร แซงตึกไทเป 101 เรียบร้อย (สูงกว่าตึกไทเป 101 ประมาณ 97 เมตร และสูงกว่าอาคารใบหยก 2 ประมาณ 218 เมตร) ซึ่งได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553 และ เปลี่ยนชื่ออาคารจาก " บุรจญ์ ดูไบ " เป็น " บุรจญ์ เคาะลีฟะฮ์ " เพื่อ เป็นเกียรติแก่ ท่านชีคค์ อดีตประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตึกบุรจญ์ เคาะลีฟะฮ์ ออกแบบโดย เอสโอเอ็ม ผู้ออกแบบเดียวกันกับเซียร์ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาใน ปัจจุบันการตกแต่งภายในจะตกแต่งโดย จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) โดยเป็นโรงแรมอาร์มานี สำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็นอพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงาน และ ชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึกที่สำคัญ ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำ กลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 18 ม./วินาที (65 ก.ม./ชม. , 40 ไมล์/ชม.) โดยลิฟต์ที่มีความเร็วสูงสุดอันดับที่ 2 ปัจจุบันอยู่ที่ตึกไทเป 101 ที่มีความความเร็ว 16.83 ม./วินาที หมายเหตุ : รอบของการขึ้นชมวิวบนอาคาร บุรจญ์ เคาะลีฟะฮ์ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และ อัตราค่าบริการของบัตรขึ้นชม ตามอัตราที่คณะกำหนดเท่านั้น กรณีที่ไม่สามารถขึ้นชมได้ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่สามารถคืนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งให้กับท่านได้ทุกกรณี เนื่องจากเป็นการชำระล่วงหน้ากับผู้แทนเรียบร้อยแล้วทั้งหมด บริเวณเดียวกันเป็นที่ตั้งของ ห้างดูไบ มอลล์ (Dubai Mall) ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ภายใน ให้ท่านได้ถ่ายรูปหน้าตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่กว่าคนสิบคนยืนเรียงกัน อิสระในการเลือกซื้อของฝาก สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังมากมายจากยุโรป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี กระเป๋าถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องกีฬา เป็นต้น สินค้าบางชิ้น ไม่สามารถหาซื้อได้ที่ยุโรป แต่อาจหาซื้อได้ที่นี่ และ ช่วงเวลา 18.00-24.00 น. ของทุกวัน ท่านจะได้ชมการแสดง น้ำพุเต้นระบำ แห่งเมืองดูไบ (Dubai Dance Fountain) เป็นน้ำพุเต้นระบำอันสวยงามวิจิตร อยู่ในทะเลสาบหน้า ตึก บุรจญ์ เคาะลีฟะฮ์ ถือเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรอบถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียงมากมาย สิ่งพิเศษของน้ำพุแห่งดูไบนี้ คือ จะใช้ไฟทั้งสิ้น 6,600 ดวง โปรเจคเตอร์สี 50 ตัว ควบคุมการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยจะแสดงประกอบดนตรี ครั้งละประมาณ 5 นาที โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 7.2 พันล้านบาท |
ค่ำ | ***อาหารค่ำอิสระตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกแก่การช้อปปิ้ง*** นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ |
22.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน Emirate Airlines เที่ยวบินที่ EK374 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน) |
วันที่ 6 | ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
08.00 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel