ท่องดินแดนอารยะธรรมอนาโตเลียกับตุรกีเส้นทางใหม่
รวบรวมทุกไฮไลท์ไม่เหมือนใคร เที่ยวครบจบครั้งเดียว
ชมความยิ่งใหญ่ของหุบเขาเทพเจ้าเนมรุต 1 ใน UNESCO
โรงแรมถ้ำ 5 ดาว 2 คืน คัปปาโดเกีย
อิสตันบูลพัก 4 ดาว ย่านช้อปปิ้งทักซิม 2 คืน
**โปรแกรมคุณภาพ โรงแรมดีทุกคืน อาหารอร่อย**
อิชเมียร์-คูซาดาซี-ปามุคคาเล่-คัปปาโดเกีย-เนมรุต-อิสตันบูล
วันที่ 1 | กรุงเทพ-อิสตันบูล-เมืองอิซเมียร์ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
04.00 น | พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ |
06.25 น. | ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 59 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และ สายการบินฯ บริการ อาหารกลางค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี |
13.20 น | เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
16.00 น. | เดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ (Izmir) โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2328 |
17.15 น. | ถึงสนามบินเมืองอิซเมียร์ (Izmir) ตั้งอยู่ทางปลายสุดทางตะวันตกของประเทศตุรกี เมืองอิชเมียร์ เป็นเมืองในปลายสุดทางตะวันตกของอานาโตเลีย และเป็นเมืองอันดับที่สามมีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีเป็นรองอิสตันบูล กับอังการา และเป็นเมืองริมทะเลอีเจียนที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดรองจากเอเธนส์ นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | RAMADA IZMIR 4*หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เมืองคูซาดาซี-เอฟฟิซุส-โรงงานเครื่องหนัง-เมืองปามุคคาเล่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองคูซาดาซีตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีตัดกับชายฝั่งทะเลอีเจี้ยนซึ่งเป็นท่าเรือที่สำคัญ ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของท้องทะเลสีฟ้าครมของทะเลอีเจี้ยน นำท่านชมเมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองโบราณ ที่ขนานนามว่า มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่งเคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionian) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนา “เอฟฟิซุส” ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ ชมห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบเฮเลนนิสติคที่มีความปราณีต จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมโรงงานเครื่องหนัง (Leather Jacket Factory) ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศตุรกี ตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ (PAMUKKALE) นำท่านเข้าชมปราสาทปุยฝ้าย เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผาผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | RICHMOND THERMAL HOTEL 5* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เมืองคอนยา-เมืองคัปปาโดเกีย |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) อดีตเมืองหลวงของอาณาจักร เซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071 - 1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สําคัญของภูมิภาคแถบนี้ โดยระหว่างทาง นําท่านชม “คาราวานสไรน์” ที่พักแรมและที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน ในการเดินทางนี้ท่านจะได้ชมทัศนียภาพที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคตอนกลางของตุรกี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | เดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างแล้วทับถม เป็นเวลาหลายล้านปีเกิดการกัดเซาะแผ่นดินเรื่อยๆมาก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ ดั่งสวรรค์บนดิน จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี และยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณกาลเพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | DEDELI CAVE HOTEL 5*หรือเทียบเท่า **หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน** |
วันที่ 4 | นครใต้ดิน-Carpet School-หมู่บ้านของนกพิราบ-อุชิซาร์-หุบเขาเดฟเรนท์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
05.00 น. | สำหรับท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ **(ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนท่านละ 300-390 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tourรายการนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละท่าน)** |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม นครใต้ดิน (Underground city) ซึ่งเกิดจาการขุดเจาะพื้นดินลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเกียในอดีต โดยทั้งจากชาวอาหรับจากทางตะวันออกที่ที่ต้องการเข้ามายึดครองดินแดนนี้เพื่อประโยชน์ทางการค้า และชาวโรมันจากทางตะวันตก ด้วยเหตุผลเดียวกัน รวมทั้งต้องการที่จะหยุดยั้งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในดินแดนแถบนี้ด้วย โดยชั้นล่างที่ลึกที่สุด ลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง, ห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องถนอมอาหาร, ห้องครัว, ห้องอาหาร, โบสถ์, ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นถ่ายเทค่ำสบาย หน้าร้อนอากาศค่ำ หน้าหนาวอากาศอบอุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-18 องศาเซลเซียส และด้วยการออกแบบที่ดี มีทางออกฉุกเฉินที่เป็นทางระบายอากาศไปในตัว ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก จากนั้นนำท่านเข้าชมโรงงานผลิตพรม (Carpet School & Factory) ชมวิธีการทอพรมแบบดั้งเดิมซึ่งถือได้ว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม หมู่บ้านของนกพิราบ โดยชาวบ้านได้ขุดเจาะโพรง เจาะรูเอาไว้ให้นกมาอยู่อาศัยเพื่อจะได้เก็บขี้นกพิราบไป จากนั้นนำท่านสู่ เมืองอุชิซาร์ เป็นพื้นที่ที่มีจุดเด่นคือภูเขาขนาดใหญ่มีรูพรุนเหมือนรวงผึ้ง รายล้อมไปด้วย หินทรงกระโจม กรวยคว่ำ และเจดีย์เต็มไปหมด ที่สำคัญก็คือส่วนหนึ่งของหินเหล่านี้มีคนอาศัยอยู่ภายใน ในลักษณะ“บ้านถ้ำ” มาช้านานนับจากอดีตถึงปัจจุบัน เป็นการอยู่อาศัยแบบ“เจาะเข้าไป”ภายในหิน โดยไม่มีการ“ทุบทำลายหิน”เหล่านี้ทิ้งเพื่อปรับพื้นที่ให้ราบเรียบแต่อย่างใด ส่วนบ้านที่ปลูกสร้างขึ้นใหม่ก็ทำอย่างกลมกลืน ไม่ทำลายทัศนียภาพ นับเป็นการอยู่อาศัยกับธรรมชาติอย่างอิงแอบพึ่งพิงที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง นำท่านสู่หุบเขาเดฟเรนท์ (Devrent Valley) หุบเขาแห่งจินตนาการ ตื่นตากับอัศจรรย์ของภูมิประเทศที่แปลกตาที่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลกตา อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | DEDELI CAVE HOTEL 5*หรือเทียบเท่า **หมายเหตุ: กรณีห้องพักของโรงแรมถ้ำเต็ม ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเป็นโรงแรมเทียบเท่าระดับเดียวกัน** |
วันที่ 5 | ไคซีรี่- Sultanhan คาราวานสไรน์-Kahramanmaraş-อะดิยามา-เนมรุต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่เมืองไครซีรีซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของดินแดนอนาโตเลีย เดิมเป็นศูนย์กลางการค้าในยุคสมัยเก่าแก่ นำท่านชม Sultanhan คาราวานสไรน์ ถูกสร้างขึ้นในสมัยเซจุกโดยสุลตาล Alaeddin Keykubat ในต้นศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันยังคงเป็นศูนย์กลางค้าที่ใหญ่ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง Kahramanmaraş เมืองทางตอนใต้ของตุรกี ตั้งอยู่ที่ขอบที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ใต้ภูเขา Ahır ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาดานา เมืองนี้อยู่ใกล้กับทางออกทางใต้ของเส้นทางสำคัญ 3 แห่งที่ตัดผ่านเทือกเขาทอรัส (จากGöksun, Elbistan และ Malatya) เมืองนี้มีไอศกรีม ที่ขึ้นชื่อของตุรกี นั้นคือ ไอศกรีม Maraş มีชื่อตามชื่อเมือง Kahramanmaraş เป็นไอศกรีมที่หาซึ้อได้ทั่วทุกแห่งในตุรกี มีส่วนผสมซึ่งมีถิ่นกำเนิดในดินแดนนี้ ซึ่งรวมถึง “ซาเลป” หรือ “ซาห์เลป” ซึ่งเป็นหัวที่เป็นผงของกล้วยไม้สีม่วงที่ปลูกได้เฉพาะบริเวณภูเขาอาฮีร์เท่านั้น คนตุรกีเขื่อว่าทำให้ทานไอศกรีมมีอารมณ์ดีขึ้น ให้ทุกท่านได้ชิมไอศกรีมต้นตำหรับ |
เที่ยง | บริการอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | เดินทางสู่เมืองอะดิยามาเป็นที่ตั้งของภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut)ซึ่ง มีความสูง 2,134 เมตร มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องรูปสลักขนาดใหญ่ที่สร้างในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลเดิม ภูเขาลูกนี้เป็นภูเขาไฟมาก่อนและเป็นที่ตั้งของสุสานกษัตริย์แห่งอาณาจักรโคมายานา(Commagene Kingdom) UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้สถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลก ในปี 1987 เป็นราชอาณาจักรที่หลอมรวมวัฒนธรรมโรมันและเปอร์เซียเข้าด้วยกัน |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | EUPHRAT HOTEL NEMRUT 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ภูเขาเนมรุต-สะพานเซเวอรัน-เมืองโบราณอาเซเมีย-สุสานคาราคูซ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
05.30 น. | นำท่านชมหนึ่งในไฮไลท์ความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่ ภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut) เป็นไฮไลท์ที่สำคัญส่วนหนึ่งของทริปนี้ “ภูเขาเนมรุต เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่งสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้น และ พระอาทิตย์ตกดิน ” องค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก ภูเขาเนมรุตปี ค.ศ. 62 กษัตริย์แอนติโอได้สร้างสุสานโดยมีรูปปั้นของตนเองขนาดใหญ่และหมู่สุสานและวิหารที่งดงามแห่งนี้ ถูกขนาบด้วยรูปสลักหินขนาดใหญ่สูง 8-10 เมตร เพื่อเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ของกษัตริย์ และมีสิงโตสองตัวนกอินทรีและเทพเจ้า ไว้บนภูเขาหุบเขา เทพเจ้าแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักขอเรียงว่าระเบียง 3 ด้าน คือด้านทิศเหนือ ตะวันออก และตะวันตก ระเบียงฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกประกอบด้วยแถวของหินสลักเทพเจ้าขนาดใหญ่ที่สลักจากเนื้อหินของภูเขา ส่วนระเบียงทางทิศเหนือไม่มีรูปสลักเหมือนอีกสองฝั่ง คาดว่าเป็นที่ชุมนุมในช่วงที่มีการประกอบพิธี ไม่มีร่องรอยของการสร้างสิ่งอื่นใดในเขตบริเวณนี้คือระเบียงฝั่งตะวันตกระเบียงฝั่งตะวันออกอยู่ในสภาพดีกว่าฝั่งตะวันตก รูปสลักหินส่วนลำตัวยังนั่งอยู่บนบัลลังก์ ความสูง 8-10 เมตร แต่ส่วนเศียรร่วงลงมา แต่ถูกจับเรียงตั้งขึ้นเป็นแถว ซึ่งส่วนเศียรก็มีความสูง 2 เมตรรูปสลักหินทั้งหมดจากที่รวบรวมไว้ได้มี สิงโต นกอินทรี ซึ่งสัตว์ 2 ชนิดนี้มีหน้าที่คุ้มครองทุก สิ่งบนหุบเขา รูปสลักหินกษัตริย์ Antiochos I, เทพีโคมายานา, ซุส-อารามาสต์, เทพอาร์เมเนียน, สุริยะเทพอะพอลโลม เทพเฮอร์คิวลิ ให้ท่านเก็บภาพประทับใจ จากนั้นกลับสู่กลับสู่โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชมสะพานเซเวอรัน สร้างประมาณปี ค.ศ.200 เพื่อถวายจักรพรรดิ Septimius Severus เป็นสะพานโรมันที่สร้างด้วยหินทั้งหมด 92 ก้อนๆ ละประมาณ 10 ตัน เป็นสะพานที่สร้างโดยชาวโรมันที่อาจจะมีขนาด ใหญ่เป็นอันดับสอง ยาว 120 เมตร กว้าง 7 เมตร ปัจจุบันยังคงอยู่สมบูรณ์แบบ จากนั้นชมเมืองโบราณอาร์เซเมีย ซึ่งเดิมรู้จักในนามของป้อมปราการ สร้างเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามารุกรานที่อยู่อาศัยภายในอุโมงค์ บริเวณนี้เคยได้รับการปกครองจาก อเล็กซานเดอร์มหาราช ผู้โด่งดัง กรีฑาทัพจากกรีซผ่านเมืองต่างๆมาเรื่อยจนถึงเอเชียกลาง หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ดินแดนที่พระองค์เคยรวบรวมไว้ก็แตกออกเป็นเมืองต่างๆ แล้วก็ปกครองตนเอง รวมถึงอาณาจักรโคมานายาแห่งนี้ วัฒนธรรมของโคมานายา เป็นอารยธรรมแบบกรีกผสมรวมเข้ากับความเชื่อของคนพื้นเมือง โคมานายาเป็นเอกเทศอยู่ 200 ปี ก่อนจะถูกรวบรวมเข้ากับจักรวรรดิโรมันในเวลาต่อมา นำท่านชมสุสานคาราคูซ สุสานของราชินี Isias และเจ้าหญิง Antiochis และ Aka I แห่งโคมายานา สร้างในช่วงปี 30-20 ก่อนคริสตกาล โดยกษัตริย์คนที่สองแห่งโคมายานา โดยคำว่า Karakus มีความหมายว่า นกสีดำ โดยชื่อนี้ได้มาจาก นกอินทรีย์ที่อยู่ด้านบนของเสาและรูปสลักกษัตริย์แห่งโคมายานา |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
19.20 น. | เดินทางสู่อิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2215 |
21.15 น. | ถึง สนามบินอิสตันบูล นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | TAKSIM GONEN HOTEL 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | พระราชวังฤดูร้อนเบย์เลอร์เบยี-ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส-ตลาดสไปซ์-ทักซิมสแควร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม เทศกาลดอกทิวลิป ณ Emirgan Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศตุรกี โดยที่ช่วงระหว่างเดือน เมษายน ของทุกๆ ปี ณ สวนสาธารณะแห่งนี้จะมีจัดงานเทศกาลดอกทิวลิป ให้ทุกท่านได้สัมผัสดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกอย่างแท้จริง ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิป หลากสี หลายสายพันธุ์ นับเป็นล้าน ๆ ดอกได้ตามอัธยาศัย **หมายเหตุ เทศกาลทิวลิปจะมีเฉพาะช่วงเดือนเมษายนของทุกปีเท่านั้น** นำท่านชมความงามของพระราชวังฤดูร้อนเบย์เลอร์เบยี (Beylerbeyi Palace)ตั้งอยู่ในฝั่งเอเชียของช่องแคบบอสฟอรัส เป็นที่ประทับของราชวงศ์ในจักรวรรดิออตโตมันในช่วงฤดูร้อนและเป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2404-2408 โดยคำสั่งของสุลต่านอับดุลลาซิซ อาคารพระราชวังเบย์เลอร์เบยีมี 2 ชั้นและมีชั้นใต้ดินซึ่งใช้เป็นที่เก็บของและห้องครัว อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ หมายเหตุ กรณีหากพระราชวังปิด ทางบริษัทจะนำท่านชมอ่างเก็บน้ำเยเรบาตันแทน |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea Of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 ก.ม. ความกว้าง ตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 3 ก.ม. ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรป และสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้วช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจะกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่า กรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปีค.ศ.1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ สองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง หรือบ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น นำท่านสู่ตลาดสไปซ์มาร์เกต อิสระให้ท่านได้ชมสีสันของตลาดอียิปต์โบราณท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันขึ้นชื่อของตุรกีอย่างแอปปลิคอทหรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย จากนั้นนำท่านสู่จัตุรัสทักซิมสแควร์เป็นย่านที่คึกคักที่สุดในอิสตันบูล และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมีช็อปปิ้งสตรีทที่รายล้อมไปด้วยร้านค้าอาหารและร้านค้าแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์อินเตอร์ อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย |
ที่พัก | TAKSIM GONEN HOTEL 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย- Galata port -สนามบินอิสตันบูล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (BLUE MOSQUE) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านในและถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เมตที่ 1 ค.ศ. 1609 ใช้เวลาสร้างทั้งหมด7 ปีและ จากนั้นนำท่านชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St. Sophia) ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดของศาสนาอิสลามอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา ชมสนามแข่งม้าโบราณของชาวโรมัน “ฮิบโปโดรม” จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต นำท่านสู่ Galata port ย่านเช็คอินยอดนิยมแห่งใหม่ของอิสตันบูล เป็นท่าเรือสำราญมีพื้นที่ 29,000 ตารางเมตรและทอดยาวไปตามชายฝั่ง 1.2 กิโลเมตร สามารถจอดเรือสำราญขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ลำ ด้านหน้ามีทัศนียภาพที่สวยงามของผืนน้ำไปยังคาบสมุทรประวัติศาสตร์ของอิสตันบูล ซี่งที่นี่ได้รวบรวมความบันเทิงตั้งแต่การท่องเที่ยวไปจนถึงวัฒนธรรม การรับประทานอาหาร การช็อปปิ้ง และมีร้านกาแฟ ร้านอาหาร และร้านค้าชั้นนำ อยู่มากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย (อิสระอาหารกลางวัน) ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน |
15.20 น. | ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 58 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) |
วันที่ 9 | กรุงเทพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
04.45 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดีภาพและความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel