วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ - อิสตันบูล |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.00 น. | พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน S ประตู 9 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง |
22.35 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 69 (บินตรง) (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 10.20 ชั่วโมง) |
วันที่ 2 | กรุงอิสตันบูล - กรุงซาเกรบ - คาโลวัช - อุทยานพลิทวิเซ่ เจเซร่า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.20 น. | เดินทางถึง สนามบิน กรุงอิสตันบูล (แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน) |
07.05 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองซาเกรบ โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1053 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 2.15 ชั่วโมง) |
08.15 น. | เดินทางถึง สนามบิน Pleso International Airport เมืองซาเกรบ ประเทศโครเอเชีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ กรุงซาเกรบ เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี เดินชมเขตเมืองตอนบนและตอนล่าง ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดเด่น ไม่เหมือนใคร จากนั้นนำท่านชม ตลาดกลางเมือง Dolac Market ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก นำท่านเข้าชม มหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ มีเวลาให้ท่านได้อิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ นำท่านทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา ระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ณ เมืองคาโลวัช เป็นเมืองที่ผลิตเบียร์ชื่อดังของประเทศ |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | โรงแรม Mirjana RastokeHotel 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | อุทยานพลิทวิเซ่ เจเซร่า - เมืองซาดาร์ - เมืองซิบินิค |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเพลิดเพลินเดินชมความงามของ ทะเลสาบและน้ำตก ที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วย หุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวใน อุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ)… นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ Kozjak ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง เมนูพิเศษ ปลาเทร้า |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาดาร์ Zadar เมืองที่มีประวัติศาสตร์มากว่า 3,000 ปีมาแล้ว และเป็นเมืองท่าสำคัญซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรทะเลอาเดรียติค และเป็นท่าเรือสู่ประเทศอิตาลี เป็นท่าเรือที่มีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ในยุคโบราณ นำท่านชม ซี ออแกน Sea Organ เป็นผลงานการออกแบบที่มีชื่อเสียงของเมืองซาร์ดาร์ โดยศิลปินที่มีชื่อว่า นิโคล่า บาซิช เป็นผลงานด้านเสียงเพลงจากการทำแนวบันไดหินอ่อนเป็นช่องๆ ตามชายฝั่ง แล้วน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่ง ทำให้เกิดเสียงบรรเลงจากธรรมชาติ ถ่ายรูปกับ โบสถ์ เซนต์ โดแนท St. Donatus Church ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรมันฟอรัม ซึ่งเป็นโบสถ์ ไบแซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในเขตดัลเมเชียน |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือ |
ที่พัก | Ivan Solaris Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | เมืองซิบินิค - เมืองโทรเกียร์ - เมืองสปลิท |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองซีบีนิค Sibenik เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติคที่ได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจากเวนิส ในใจกลางเมืองนั้นมีโบสถ์เซนต์จาคอบ (เซนต์เจมส์) ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยเรอเนสซองต์ในปี ค.ศ.1431 ตามสถาปัตยกรรมแบบเวนิส-โกธิค ผสมศิลปะทอสคาโนเรอเนสซองส์ โดยศิลปินชาวอิตาเลียน ซีบีนิคเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตอนกลางของแควันดัลเมเชีย เนื่องจากเมืองซีบีนิคนั้นตั้งอยู่บนบริเวณที่แม่น้ำครึคาไหลลงสู่ทะเลอาเดรียติค จึงเกิดเป็นความได้เปรียบทั้งในด้านคมนาคมทางน้ำ และความงามของทัศนีย์ภาพที่แต่งแต้มโดยธรรมชาติ นำท่านชมสถานที่สำคัญที่สุดของเมืองคือ “มหาวิหารเซนต์จาคอบ” สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ. 1431-1535 เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานกันระหว่าง 3 ศิลปกรรม คือ ดัลเมเชียน (ท้องถิ่น), ศิลปะทางเหนือของอิตาลี และทัสคานี สถาปนิคทั้ง 3 ท่านได้ใช้เทคนิคชั้นสูงในการสร้างห้องโถงสูงใหญ่ และโดมครึ่งวงกลม ทั้งวิหารล้วนสร้างด้วยหินทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของศิลปะโกธิคและเรอเนสซองส์ ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน โดยองค์การยูเนสโก้ยกย่องให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 นำท่านเดินทางสู่ เมืองโทรเกียร์ ที่ได้รับการขนานนามว่า “A Little Venice” เมืองโบราณบนเกาะเล็กๆที่ถูกปกครองโดยพวกกรีกและโรมัน ปัจจุบันมีการอนุรักษ์เป็นเมืองเก่า ไม่ว่าจะเป็นป้อมปราการ, จัตุรัสกลางเมือง และกำแพงเมืองไว้เป็นอย่างดี จน ได้รับการยกย่องจาก ยูเนสโก้ UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ปี ค.ศ.1997 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง |
นำท่านเดินชมภายใน เขตเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ เช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชม มหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อิสระให้ท่านเดินชมเมืองเก่าตามอัธยาศัย นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองสปลิท Split โดยใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบไปตามชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีส้ม สลับตามแนวชายฝั่งเป็นระยะๆ | |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
ที่พัก | Atrium Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | เมืองสปลิท - เมืองนีอุม (บอสเนีย) - มาลีสตอน - ดูบรอฟนิค |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านจะได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ ประเทศบอสเนีย (แวะถ่ายรูป) ที่เรียกว่า เมืองนีอุม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชาการส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย.ต่อด้วยนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นดัลเมเทีย Dalmatia |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน แบบพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลีสตอน Mali Ston ก่อนที่ท่านจะเดินทางถึงเมืองมาลีสตอน ท่านจะได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศบอสเนีย (แวะถ่ายรูป) ที่เรียกว่า เมืองนีอุม ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของโครเอเชีย โดยประชาการส่วนใหญ่ก็เป็นชาวโครเอเชีย. ต่อด้วยนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้งหนึ่งเพื่อกลับเข้าสู่ ประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นดัลเมเทีย Dalmatia เดินทางถึงเมืองมาลีสตอน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงและขึ้นชื่อสถานที่ใช้เลี้ยงหอยนางรมของประเทศโครเอเชีย นำท่าน ล่องเรือเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) ชมขั้นขั้นตอนต่าง ๆ ของการเลี้ยงหอย จากนั้นให้ท่านได้ ลองลิ้มชิมรสหอยนางรมสด ๆ จากท้องทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยเครื่องเคียง จิบไวน์สดเติมเต็มรสชาดท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามของอ่าวมาลีสตอน แห่งท้องทะเลอเดรียติก ได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค เมืองทางตอนใต้และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกทั้งเป็นที่จอดเรือสำราญขนาดใหญ่ นำท่านสู่ Konzum ซุปเปอร์ขนาดใหญ่ แบรนด์ของโครเอเชีย เพื่อให้ได้สินซื้อของฝากในราคาย่อมเยา |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | President Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ดูบรอฟนิค - กำแพงเมืองโบราณ - กรุงอิสตันบูล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ สถานีเพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า ที่ความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีส้ม และความงดงาม ทะเลอะเดรียติค |
เที่ยง | รับประทาน กุ้งมังกร เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ นั่งรับประทานริมทะเลอเดรียติค |
นำท่านเที่ยวชม เมืองดูบรอฟนิค ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่ สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่งชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิค ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมแนวกำแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไป ชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างดี นำท่านเดินขึ้นชม กำแพงเมืองโบราณ ชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงามโดยว่ากันว่า ใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณ จัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน, หอนาฬิกา ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลัง | |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
18.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค (หากมีการทำการคืนภาษีกรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบด้วย) |
21.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 1440 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 1.50 ชั่วโมง) |
23.35 น. | เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Pullman Airport Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี |
วันที่ 7 | กรุงอิสตันบูล - โกลเด้นฮอร์น - โกลเด้นฮอร์น - โบสถ์ชอร่า - ทักซิม สแควร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ โกลเด้นฮอร์น Golden Horn หรือแหลมที่ยื่นสู่ทะเลมาร์มาร่าทางฝั่งตะวันตกของอิสตันบูล ในอดีตเคยเป็นหนึ่งในสมรภูมิพิชัยการรบและเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการรบของกองทัพเรือแห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์ นำท่านขึ้นนั่งกระเช้า Cable Car ขึ้นสู่ ยอดเขาเปียลอททึ Pierre Loti Hill ยอดเขาซึ่งสามารถเห็นวิวของโกลเด้นฮอร์นและทัศนียภาพของนครอิสตันบูลได้อย่างชัดเจน ชื่อของเขาเปียลอททึถูกตั้งขึ้นเพื่อให้เกียรติแก่ "จูเลี่ยน วูด" Julien Viaud นักประพันธ์ชื่อดังชาวฝรั่งเศสซึ่งมีชื่อเสียงในตุรกีเป็นอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 19 หรือที่รู้จักในนามปากกา "เปีย ลอททึ" Pierre Loti อิสระให้ท่านชมทัศนียภาพอันสวยงามบนยอดเขาเปียลอททึตามอัธยาศัย ท่านสามารถนั่งจิบกาแฟตุรกี Turkish Coffee ที่มีชื่อเสียงหรือชาหลากหลายชนิดในร้านคาเฟ่ ซึ่งเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวบนยอดเขาแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ร้านเสื้อหนัง ที่มีคุณภาพของประเทศตุรกี ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง | พิเศษ!! รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนหอคอย กาล้าต้า |
นำท่านเข้าชม โบสถ์ชอร่า Chora Church หนึ่งในโบสถ์ไบแซนไทน์อันสวยงามที่ยังคงหลงเหลืออยู่ มีการตกแต่งภายในในด้วยกระเบื้องโมเสกและภาพจิตรกรรมฝาผนัง ปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น พิพิธภัณฑ์ คาริเย่ Kariye อันน่าสนใจ โบสถ์ชอร่า อยู่ห่างจากย่านประวัติศาสตร์หลักของอิสตันบูลออกไป แต่กระนั้นผู้คนเป็นจำนวนมากก็ยังคงเดินทางมาที่นี่ทุกวัน เพื่อมาชมความอลังการและความงามของกระเบื้องโมเสกและจิตรกรรมฝาผนัง โบสถ์ไบแซนไทน์เก่าแก่แห่งนี้รอดพ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และการรื้อถอนสัญลักษณ์ของศาสนาคริสต์ในยุคที่กายออร์โธดอกซ์และศาสนาอิสลามเรืองอำนาจ โบสถ์หลังแรกในเวณนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4 Chora แปลว่า “ชนบท” จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงรับสั่งให้สร้างโบสถ์ไว้ทางทิศตะวันตกของเมือง และตั้งชื่อโบสถ์ที่มีความหมายว่า “โบสถ์พระมหาไถ่นอกกำแพง” จักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 ทรงขยายกำแพงเมืองในปี ค.ศ. 413 เพื่อให้โบสถ์เข้ามาอยู่ในเขตเมืองคอนสแตนติโนเปิลอย่างเหมาะสม โบสถ์หลังปัจจุบันสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 โดยมาดาพระชายาของจักรพรรดิอเล็กซิออสที่ 1 โคมเนนอส มีการต่อเติมและตกแต่งภายในหลายครั้ง รวมถึงกระเบื้องโมเสกและจิตกรรมฝาผนังที่อยู่มาตั้งแต่ต้น ศตวรรษที่ 14 หลังจากจักรวรรดิออตโตมันได้รับชัยชนะ โบสถ์จึงถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นมัสยิด สุดท้ายในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ Kariye ที่เปิดให้เข้าชมจนถึงปัจจุบัน ส่งท้ายช่วงบ่ายวันนี้ด้วยการนำท่านสู่ย่าน ทักซิม สแควร์ Taksim Square เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล คำว่า Taksim หมายถึงการแบ่งแยก หรือ การกระจราย ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ Sultan Mahmud I สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำในยุคของออตโตมันและเป็นจุดที่สายน้ำจากทางตอนเหนือถูกรวบรวมและกระจายออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของเมืองนอกจากนี้คำว่า Taksim ยังหมายถึงรูปแบบดนตรีพิเศษในเพลงคลาสสิคของตุรกีอีกด้วย ระหว่างที่เราเดินเพลินบางช่วงเวลาจะมีรถรางสีแดงที่วิ่งมาตามรางมีกิจกรรมพิเศษบนรถรางได้นักท่องเที่ยวได้เห็นการแสดงต่างบนรางได้ตลอดเวลานอกจากนี้ Taksim Square ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารตุรกี, ร้านค้า, ผับ, คาเฟ่และร้านอาหารจานด่วนนานาชาติมากมายได้แก่ Pizza Hut, Mc Donald’s, Subway และ Burger King และสินค้าแบรนด์เนม ชื่อดัง อื่น ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินได้ตลอดเวลา | |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน |
ที่พัก | Pullman Airport Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี |
วันที่ 8 | กรุงอิสตันบูล - ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส - พระราชวังฤดูร้อน - ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ เรือนำท่านขึ้นด้านหน้าเพื่อเข้าชมภายใน พระราชวังเบย์เลอเบยี่ Beylerbeyi Palace พระราชวังฤดูร้อนอันเลื่องชื่อของจักรวรรดิออตโตมัน พระราชวังเบย์เลอเบยี่ มีความหมายว่า “พระราชวังของราชาแห่งราชา” และใช้เป็นพระตำหนักฤดูร้อนสมัยจักรวรรดิออตโตมันมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1860 พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตามคำสั่งของสุลต่านอับดุลอะซีซ โดยตั้งใจให้เป็นสถานที่เล็ก ๆ สำหรับใช้เพื่อความบันเทิงกับแขกบ้านแขกเมือง โดยที่แขกคนสำคัญที่เคยมาเยือนพระราชวัง ได้แก่ จักรพรรดินีเออเฌนีของฝรั่งเศส และ แกรนด์ดยุคนิโคลาสของรัสเซีย พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า Sarkis Balyan เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมพระราชวังที่ค่อนข้างจะเรียบง่ายเมื่อเทียบกับพระราชวังตุรกีทั่วไป แต่กระนั้นก็เป็นอาคารที่ตกแต่งอย่างหรูหราฟู่ฟ่ายิ่งกว่าอาคารสไตล์ยุโรปหรืออเมริกันส่วนใหญ่ ภายในพื้นที่สามชั้นมีห้องมากกว่า 20 ห้อง มีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยสำหรับชายและหญิง ภายนอกพระราชวังจะมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยระเบียงและคอกม้า ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย |
เที่ยง | พิเศษ!! รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Seven Hill Restaurant |
บ่าย | ท่านจะได้เห็นวิว Hagia Sophia และ Blue Mosque และอีกฝั่งจะเป็นวิวทะเล มามาร่า และ ช่องแคบบอสฟอรัส เป็นร้านอาหารที่วิวที่สวยทีสุดในอิสตันบูล และแน่นอนเป็นที่ฮอตฮิตสำหรับการมา Check in ส่งท้ายช่วงบ่ายด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ |
16.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร |
20.15 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 64 (ใช้เวลาในการบิน ประมาณ 9.35 ชั่วโมง) |
วันที่ 9 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
09.50 น. | เดินทางถึงสนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
***เมื่อท่านชำระมัดจำแล้ว ไม่สามารถคืนเงินมัดจำได้ทุกกรณี
หมายเหตุ
หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากได้รับการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ต ไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่า จะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม
ผู้เดินทางที่ไม่สามารถ เข้า-ออก เมืองได้ เนื่องจากยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%
(ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 14 วัน ทำการ)
สถานทูต ไม่อนุญาต ให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ
เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และ ให้ แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทาง มาด้วย
การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และ เตรียมให้ครบ และ กรุณาอย่าดื้อและยึดติดกับการยื่นในอดีต
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือน ขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่าย สี หน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเท่า ใช้ไม่ได้)
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีเป็นผู้หญิง ... หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ... นาง ... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีเป็นผู้หญิง ... ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ... นาง ... ต้องแนบมา)
7. สำเนาใบมรณะบัตร
8. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ต้องแนบสูติบัตรมา)
9. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขต หรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมาดา (ระบุชื่อมารดา)
10. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONDERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
- กรณีเกษียณอายุราชการ : ถ่ายสำเนาบัตรขาราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา : ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้น ปีที่ศึกษา
11. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank Guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน Bank Guarantee ของ บัญชีออมทรัพย์ Saving Account ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชี ให้ครบถ้วน มี อายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการรับรอง 1 ท่าน และ ยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วัน ก่อนยื่นวีซ่า)
********** ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็น สมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **********
หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่น 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank Statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี
- บัญชีฝากประจำ Fixed สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ Saving มาด้วย หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียม ดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน Bank Guarantee ของบัญชีฝากประจำ Fixed Account ออกโดย ธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชี ให้ครบถ้วน มี อายุไม่เกิน 20 วัน นับจากวันที่จะยื่นวีซ่า พร้อมทั้งถ่ายเอกสารสมุดบัญชีเงินฝากเล่มเดียวกันกับที่ทางธนาคารออกหนังสือรับรองสถานะทางการเงิน
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประจำ มียอดไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการรับรอง 1 ท่าน
หมายเหตุ : หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองการเงิน Bank Guarantee ต้อง ระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย)
- กรุณา แนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส, หรือ หลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้าง ระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดัง 11.1 และ 11.2
สถานทูต ไม่รับ พิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel