ทัวร์ยุโรป มอนโดวา โรมาเนีย บัลแกเรีย 2567/2024 เที่ยวบัลแกเรีย

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE596 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป มอนโดวา โรมาเนีย บัลแกเรีย 11 วัน 8 คืน (TK)

DE596 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป มอนโดวา โรมาเนีย บัลแกเรีย 11 วัน 8 คืน (TK)
Turkish Airlines (TK)

CROWNE PLAZA HOTEL
Golden Time Hotel
HOLIDAY INN HOTEL
Ramada by Wyndham Hotel Sofia

มอลโดวา | คีชีเนา | ออร์เฮ | เบนเดอร์ | ทีรัสปอล | โรมาเนีย | ฮูซี | บาเคา | โบสถ์พรีไซส์ |  บราซอฟ | โบสถ์ดำ | บราน | ปราสาทแดร๊กคูล่า | ปราสาทเปเลส | ซินายา | ตีร์โกวิชเต | บูคาเรสต์ | บัลแกเรีย | รูเซ่ | เวลีโค ทาร์โนโว | ชิพก้า  พลอฟดิส | โซเฟีย | รีล่า

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE596-00127 ธ.ค. 67-06 ม.ค. 68Turkish Airlines (TK)130,000จองด่วน
DE596-00413-23 ก.พ. 68Turkish Airlines (TK)125,000จองด่วน
DE596-00520-30 มี.ค. 68Turkish Airlines (TK)125,000จองด่วน
DE596-00211-21 เม.ย. 68Turkish Airlines (TK)130,000จองด่วน
DE596-00628 เม.ย.-07 พ.ค. 68Turkish Airlines (TK)125,000จองด่วน
DE596-00331 พ.ค.-10 มิ.ย. 68Turkish Airlines (TK)130,000จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 กรุงเทพฯ - อิสตันบูล
20.00 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน U  ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
23.05 น.ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี 
วันที่ 2อิสตันบูล – คีชีเนา (ประเทศมอลโดวา) - ออร์เฮ
05.20 น.เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบินสู่เมืองคีชีเนา ประเทศมอลโดวา

อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ภายในสนามบินอิสตันบูล ตามอัธยาศัย
07.40 นออกเดินทางสู่สนามบินคีชีเนา ประเทศมอลโดวา โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK269 มีบริการอาหารว่างบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชม.)
09.10 น. เดินทางถึงสนามบินคีชีเนา ประเทศมอลโดวา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์เฮ (Orhei) (ระยะทาง 60 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคีชีเนา ประมาณ 40 กม. โดยมีแม่น้ำราอุทไหลผ่าน (Raut River) เมืองโบราณแห่งนี้เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของมอลโดวา สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชนเผ่าทริปพิเลียน (Trypillian) 

 
นำท่านเที่ยวชม เขตประวัติศาสตร์ออร์เฮ ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่ผสมผสานทิวทัศน์ธรรมชาติของอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณนี้ประกอบด้วยซาก ถ้ำ อาราม ห้องอาบน้ำสาธารณะ และป้อมปราการ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ภายในเชิงเขาหินปูน ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามมาก
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองคีชีเนา (Chisinau) (ระยะทาง 54 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)

นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมอลโดวา (Modova National Museum) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงคีชีเนา เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาและความสวยงามทางสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการเก็บรักษาสิ่งของทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ กว่า 3,500,000 ชิ้น นำท่านย้อนรอยชมประวัติศาสตร์ของประเทศมอลโดวาที่แสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาของมอลโดวา (Parliament)

จากนั้นนำท่านเดินทางชมสวนสาธารณะสเตฟาน เซล แมร์ (Stefan Cel Mare Park) ซึ่งเคยมีชื่อว่าสวนสาธารณะพุชกิน (Pushkin Park) เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 เฮกเตอร์ สถานที่น่าสนใจในสวนสาธารณะแห่งนี้ มีทั้งน้ำพุที่สวยงามและรูปปั้นกวีเพลงคลาสสิกชาวโรมาเนียและชาวมอลโดวาผู้มีชื่อเสียง

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ถนนสเตฟานเซลแมร์ (Stefan Cel Mare Boulevard) อันเป็นถนนที่ตั้งของหมู่อาคารสวยงาม และหน่วยงานสำคัญต่างๆของมอลโดวา

ได้เวลานำท่านเดินทางเข้าชมมหาวิหารแห่งการประสูติ (Nativity Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดในศาสนจักรออร์ทอดอกซ์มอลโดวา (Moldovan Orthodox Church) โดยสร้างขึ้นในปี 1836 ตั้งอยู่ใจกลางกรุงคีชีเนา เป็นมหาวิหารในสไตล์นีโอคลาสสิก หนึ่งในลักษณะเด่นที่สุดของมหาวิหารแห่งนี้คือแท่นบูชาสามแท่นที่สวยงาม และหอ ระฆังด้านหน้าของอาสนวิหาร

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูชัย (Trimphal Arch) หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองหลวงตั้งอยู่ถัดจากมหาวิหารแห่งการประสูติ (Nativity Cathedral) โดยสร้างขึ้นในกลางศตวรรษที่ 19 เป็นอนุสรณ์ถึงชัยชนะของรัสเซียเหนือจักรวรรดิออตโตมัน หนึ่งในจุดเด่นของประตูชัยนี้คือระฆังขนาดยักษ์ซึ่งอยู่ภายในประตูชัยแห่งนี้
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก  Hotel Jolly Alon Chisinau **** หรือเทียบเท่า (พักคืนที่ 1) 
วันที่ 3คีชีเนา – เบนเดอร์ – ทีรัสปอล
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองเบนเดอร์ (Bender) (ระยะทาง 65 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ  1.20 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำดิเนสเตอร์ (Dniester) ในแหล่งประวัติศาสตร์ของมอลโดวา นำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราการเบนเดอร์ (Bender Fortress) เป็นป้อมปราการสร้างแบบออตโตมัน ประมาณศตวรรษที่ 16 เพื่อป้องกันการรุกรานจากกองทัพรัสเซียและตุรกี นำท่านชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการโบราณแห่งนี้

ได้เวลานำท่านเดินทางเข้าชม อาราม นูออล นีมท์ (Noul Neamt Monastery) เป็นอารามมอลโดวาออร์ทอดอกซ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองชิตคาเนีย ใกล้กับเมืองเบนเดอร์ และทีรัสปอล และยังตั้งอยู่ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของบาสซาราเบีย อารามแห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1861 และได้ถูกปิดและเปลี่ยนเป็นสถานพยาบาลในปี 1962 ในครั้งที่มอลโดวายังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และได้ทำการเปิดอีกครั้งในปี 1962 นำท่านชมความสวยงามของอารามนี้

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองทีรัสปอล (Tiraspol)  (ระยะทาง 25 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ  40 นาที) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศมอลโดวา และเป็นเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของทรานส์นีสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนีสเตอร์ และเป็นเมืองศูนย์กลางภูมิภาคในการผลิตอุตสาหกรรมเบา เช่น เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และผลิตเหล้าองุ่น เมืองนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1792 ถึงแม้ว่าจะมีหลายชนชาติอาศัยอยู่นานกว่าพันปี และเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐโซเวียตมอลโดวาในสหภาพโซเวียต จนถึง ค.ศ. 1940 เมืองนี้ได้ถูกทำลายอย่างหนักระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง

นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองทีรัสปอล นำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์เลนิน (Vladimir Lenin Monument) รูปปั้นหินแกรนิตของ Vladimir Lenin อยู่ด้านหน้า อาคารรัฐสภา Transnistria ใน Tiraspol จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์รถถัง (Tank Monument) รถถังคันนี้เป็นรถถัง T-34 ที่ปลดประจำการแล้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานแห่งความรุ่งโรจน์ และอนุสาวรีย์เครื่องบิน (Monument of Aviators) เสาโอเบลิสก์ (สร้างขึ้นในปี 1975) สำหรับนักบินของกองทัพอากาศที่ 17 ซึ่งได้ปลดปล่อยเมือง Tiraspol ในปี 1944 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวรบยูเครนที่ 3 เครื่องบินรบ MiG-19 ติดตั้งอยู่บนแท่นอนุสรณ์

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองคีชีเนา
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก  Hotel Jolly Alon Chisinau **** หรือเทียบเท่า (พักคืนที่ 2)
วันที่ 4ฮูซี – อารามมานัสตีเรอา ชิมบาเรอา ลา ฟาตา – บาเคา - โบสถ์พรีไซส์
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ฮูซี (Husi) (ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองในเทศมณฑลวาสลุย ประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของเทศมณฑลฟัลซิวที่ถูกยุบในประวัติศาสตร์ ภูมิภาคมอลดาเวียตะวันตก และยังเป็นที่ตั้งของไร่องุ่นที่ดีที่สุดบางแห่งของโรมาเนีย เมืองนี้ตั้งอยู่บนสาขาของทางรถไฟยาช-กาลาตี ห่างจากแม่น้ำปรุตไปทางตะวันตก 14 กม. และอยู่ติดกับสาธารณรัฐมอลโดวา ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยอาณานิคมของ Hussites ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนี้ สิ่งนี้ได้รับการโต้แย้งโดยนักวิชาการเช่น Nicolae Iorga และบาทหลวง Melchisedec ştefănescu ซึ่งแย้งว่าชื่อของเมืองนั้นเก่ากว่าโดยมีต้นกำเนิดมาจาก โบยาร์ฮุส (ซึ่งชื่อนี้แปลว่า Husul หรือ Husea ด้วย) ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในพื้นที่

นำท่านเดินทางชม อารามมานัสตีเรอา ชิมบาเรอา ลา ฟาตา (Manastirea Schimbarea la Fata) ตั้งอยู่บนถนนที่ขึ้นไปจาก Crasna และ Bârlad ภาพเงาของโบสถ์ไม้เป็นภาพแรกที่นักเดินทางพบก่อนเข้าเมืองแห่ง "โบสถ์และโรงเรียน" สร้างขึ้นในปี 1996 อารามแห่งนี้สร้างขึ้นเหนือ Husi ริมป่า Dobrina ผู้คนหลายร้อยคนมาเฉลิมฉลองครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งสถานที่นี้มีความเงียบสงบเป็นอย่างมาก

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านเที่ยวชมเมืองบราซอฟ สวิตเซอร์แลนด์น้อยแห่งโรมาเนีย เพชรน้ำงามแห่งยุโรปตะวันออก  นำท่านเที่ยวชมย่านใจกลางเมือง และจัตุรัสกลางเมืองที่มีหอนาฬิกาสูงโดดเด่นแสดงเวลาให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา นำท่านเดินทางชมตลาดใหญ่ใจกลางเมืองบราซอฟ Walking street ตลาดนี้เป็นถนนระหว่างตึกขนาดใหญ่ยาวติดต่อกัน ข้าวของที่ขายมีมากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าหนัง เครื่องสำอาง ของที่ระลึก ฯลฯ นำท่านเดินทางเข้าชมโบสถ์ดำ หรือที่รู้จักในนาม Black Church ที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 ใช้เวลาสร้างกว่าร้อยกว่าปี จัดเป็นโบสถ์แบบศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุด ใน South East Europe  (**หากโบสถ์ปิดให้เข้าชมเนื่องด้วยการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา บริษัทจะนำท่านถ่ายรูปภายนอกแทน) จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชมโรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย  Romania First School  นำท่านชมย่านใจกลางเมืองและจัตุรัสกลางเมืองซึ่งมีหอนาฬิกาสูงโดดเด่นแสดงเวลาให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา 
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก  Dumbrava Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5บราซอฟ – โบสถ์ดำ – โรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราซอฟ (Brasov) (ระยะทาง 180 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ระหว่างทางท่านจะได้ชมและสัมผัสกับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวพื้นเมืองโรมาเนีย และความเขียวขจีของภูเขาที่อุดมสมบูรณ์แห่งประเทศโรมาเนีย ภูมิทัศน์และวิวทิวเขาสลับสวยงามยิ่ง

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่าย นำท่านเข้าชมป้อมปราสาท Tsarevets (Tsarevets Fortress) อดีตที่ประทับของกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายอยู่รายล้อมซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีต ซากปราสาทปรักหักพังอันโดดเด่นของ ซึ่งเป็นป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยานตา ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์และมีโบสถ์ที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ในปัจจุบันได้มีการตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัยที่สวยงามและแปลกตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองชิพก้า (Shipka) (ระยะทาง 78 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ประจำเมืองแห่งเมืองชิพก้า (Shipka Memorial Church) โบสถ์คริสต์นิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1885-1902 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศให้แก่ทหารรัสเซีย ยูเครน และบัลแกเรีย ที่เสียชีวิตในสงครามรุสโซ่-เตอร์กิช หรือสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมันและอาณาจักรรัสเซียเมือปี ค.ศ.1877

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เมืองทันสมัยที่มีต้นตอมาแต่โบราณ (ระยะทาง 102  ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบัลแกเรียรองจากเมืองโซเฟีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา ล้อมรอบด้วยภูเขาเจ็ดลูก จึงถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งขุนเขาทั้งเจ็ด” นอกจากนี้หลักฐานทางโบราณคดียังพบว่าเมืองนี้ถูกตั้งรกรากมากว่า 6,000 ปี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย

​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก   Hotel Ambient Brasov**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6บราน – ปราสาทแดร๊กคูล่า – ปราสาทเปเลส - ซินายา
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราน (Bran) นำท่านเดินทางเข้าชมปราสาทบราน (Bran Castle) แห่งโรมาเนีย หรือที่รู้จักกันในนาม ปราสาทแดร๊กคูล่า ความจริงแล้วปราสาทบรานที่ผู้คนขนานนามว่า ปราสาทแดรกคูล่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผีดิบดูดเลือดเลย แต่วรรณกรรมอมตะเมื่อศตวรรษก่อนก็ได้เชื่อมจินตนาการจากตัวอักษรมาสู่ปราสาทแห่งนี้ จนสามารถสร้างแรงดึงดูดมหาศาล และอาจกล่าวได้ว่า ปราสาทบรานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศโรมาเนียไปแล้ว ปราสาทสร้างเมื่อ ปี ค.ศ.1377 ในยุคจักรวรรดิฮังกาเรียน เพื่อเป็นป้อมดูแลเรื่องการค้าและภาษีระหว่างแคว้น Transylvania กับ Wallachia ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นปราการสำคัญป้องกันการรุกรานของอาณาจักรออตโตมาน ในยุคที่แคว้นทรานซิลวาเนียยังสู้รบกับจักรวรรดิออตโตมาน เจ้าชาย ‘วลาด’ ผู้ครองปราสาท เป็นนักรบผู้แกร่งกล้า โหดเหี้ยมไร้ความปราณีต่อศัตรู กลายเป็นที่เลื่องลือ บ้างเล่าต่อๆกันไปว่า เจ้าชายดื่มเลือดจากศัตรูด้วย ปราสาทนี้ ตั้งอยู่บนเชิงเขาเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูระหว่างชายแดนแคว้นวอลลัคเทียและทรานซิลเวเนีย ภายในปราสาทมีห้องต่างๆมากมาย ซึ่งจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่ ห้องแสดงอาวุธโบราณ ตู้โบราณอายุหลายร้อยปีที่แกะสลักลวดลายงดงาม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเลือกซื้อของที่ระลึกที่มีวางจำหน่ายบริเวณปราสาทแห่งนี้ 

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
​บ่าย นำท่านเดินทางเข้าชมปราสาทเปเลส (Peles Castle)  (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในโลก เนื่องจากตั้งอยู่กลางป่าสนบนเทือกเขาคาร์เปเทียน ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน ตัวอาคารจะมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ แต่ดูเหมือนปราสาทแห่งนี้จะได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ของประเทศเยอรมนีมากที่สุด  ความงดงามของปราสาทแห่งนี้ มิใช่อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ของตัวปราสาทแต่อยู่ที่การตกแต่งภายในอย่างหรูหรางดงาม ปัจจุบันเป็นสถานที่สาธารณะและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสมบัติล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของโรมาเนีย ***หากปราสาทเปเลส ไม่เปิดให้บริการด้วยเหตุสุดวิสัยใดๆก็ตาม ทางบริษัทจะนำท่านถ่ายรูปภายนอกแทน***

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซินายา (Sinaia) เมืองตากอากาศที่สำคัญแห่งหนึ่งของโรมาเนีย  ชื่อของเมืองตั้งตามอารามซีนายาซึ่งสร้างขึ้นในปี 1695 ชื่อของอารามซีนายามาจากชื่อของเขาซีไนในพระคัมภีร์ไบเบิล  นอกจากนี้ยังเป็นเมืองอันเป็นที่ตั้งของปราสาทเปเลส หนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศโรมาเนีย
​ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก  Hotel Sinaia **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7ตีร์โกวิชเต -  บูคาเรสต์  - อาคารรัฐสภา
​เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองตีร์โกวิชเต (Tirgoviste) (ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านเที่ยวชมเมืองเมืองตีร์โกวิชเต (Tirgoviste) เป็นเทศบาลนครและศูนย์กลางของเทศมณฑลดึมบอวิตซา ประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ห่างจากบูคาเรสต์ไปทางเหนือประมาณ 80 กม. เมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยาลอมิตซา เป็นเมืองท่องเที่ยวในโรมาเนีย และเป็นที่ประทับของราชวงศ์และเมืองหลวงระหว่างปี 1396 ถึง 1714 ทาร์โกวิชเต ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร และศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศโรมาเนียมานานกว่าสามศตวรรษ

นำท่านเดินทางสู่ กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) (ระยะทาง 83 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ ปารีสดินแดนตะวันออก โรมาเนีย เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโรมาเนีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบวอลลาเซีย ติดเทือกเขาคาร์เปเชียน และแม่น้ำดานูป บูคาเรสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองและแวะถ่ายรูป  (**หากรถสามารถจอดได้) ชมจัตุรัสแห่งการปฎิวัติ (Revolution Square) โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) คลับทหารแห่งชาติ (National Military Academy) ผ่านชม "ประตูชัย" ซึ่งตั้งอยู่บนถนน KISSELEFF ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูชัย  ในกรุงปารีส ในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนีย (Romanian Athenaeum)

​กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
​บ่าย นำท่านเดินทางเข้าชมอาคารรัฐสภา (Parliament Palace) หรือทำเนียบประธานาธิบดีของโรมาเนีย ทำเนียบประธานาธิบดีที่ใหญ่โตโอฬารของประธานาธิบดีเชาเชสคู และ นางเอลินา ภรรยาผู้ซึ่งอยากมีชีวิตหรูหราประหนึ่งเอวิต้า  เปรอง อาคารรัฐสภานี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนห้องมากถึง 6,000 ห้อง สร้างแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนีย ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคาร แต่ละห้องตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา โดยเฉพาะห้องแกรนด์บอลรูม ที่ได้มีการตกแต่งโคมไฟประดับโบฮีเมียน้ำหนักถึง 5 ตัน ปูพื้นด้วยพรมเปอร์เซียผืนใหญ่ ห้องรับรองซึ่งสร้างจากหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ให้ท่านได้สัมผัสถึงความโอ่อ่า ความยิ่งใหญ่ของอาคารรัฐสภาที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้างมหาศาลถึง 3 ล้านล้านยูโร
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก Crown Plaza Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 8รูเซ – เวลิโค ทาร์โนโว - ชิพก้า - พลอฟดิฟ
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองรูเซ (Ruse) ประเทศบัลกาเรีย (Bulgaria) (ระยะทาง 82 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.)  เมืองใหญ่อันดับ 5 ของบัลกาเรีย เมืองที่มีพรมแดนติดกับโรมาเนีย และเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศบัลกาเรีย ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเวียนนา (Little Vienna) เป็นที่รู้จักกันมากในช่วงศตวรรษที่ 19 - 20 โดยเฉพาะความโดดเด่นทางด้าน สถาปัตยกรรมแบบนีโอ-บาโรก และนีโอ-โรโคโค (Neo-Baroque and Neo-Rococo) นำท่านผ่านชมอนุสาวรีย์เสรีภาพ (Monument of Liberty) อนุสาวรีย์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยประติมากรชาวอิตาเลี่ยน Arnoldo Zocchi นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City Centre) ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าอาคารที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของเมืองรูเซ ชื่นชมในความงดงามของเหล่าอาคารมีการตกแต่งด้วยสไตล์บาร็อค

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวลิโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) (ระยะทาง 108 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) หนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของบัลแกเรีย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีภูมิประเทศและสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงาม และเป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก ซึ่งได้แก่ Tsarevets  Trapezitsa และ Sveta Gora ด้วยความพร้อมในทุกๆด้านทำให้เมืองแห่งนี้ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตอนเหนือ นอกจากนี้ในยุคกลางนั้น เวลิโค ทาร์โนโว ถือได้ว่าเป็นเมืองป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่งอีกแห่งของบัลแกเรียอีกด้วย นำท่านเดินชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนที่มีการอนุรักษ์ไวในแบบเดิมโดยบ้านแต่ละหลังนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราสาท (Tsarevets Fortress) อดีตที่ประทับของกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายอยู่รายล้อมซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีต ซากปราสาทปรักหักพังอันโดดเด่นของ ซึ่งเป็นป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยานตา ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์และมีโบสถ์ที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ในปัจจุบันได้มีการตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัยที่สวยงามและแปลกตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์

นำท่านเดินทางสู่เมืองชิพก้า (Shipka) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมืองแห่งเมืองชิพก้า (Shipka Memorial Church) โบสถ์คริสต์นิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1885-1902 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศให้แก่ทหารรัสเซีย ยูเครน และบัลแกเรีย ที่เสียชีวิตในสงครามรุสโซ่-เตอร์กิช หรือสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมันและอาณาจักรรัสเซียเมือปี ค.ศ.1877

นำท่านเดินทางสู่เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เมืองทันสมัยที่มีต้นตอมาแต่โบราณ (ระยะทาง 102  กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบัลแกเรียรองจากเมืองโซเฟีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา ล้อมรอบด้วยภูเขาเจ็ดลูก จึงถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งขุนเขาทั้งเจ็ด” นอกจากนี้หลักฐานทางโบราณคดียังพบว่าเมืองนี้ถูกตั้งรกรากมากว่า 6,000 ปี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย  
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Holiday Inn Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 9โรงละครโรมัน – โซเฟีย – โบสถ์เซนต์จอร์จ - มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมโรงละครโรมัน (Roman Amphitheatre) หนึ่งในโรงละครโรมันโบราณที่ได้รับการบูรณะรักษาและยังคงความสมบูรณ์ไว้ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.98-117 หน้ากว้างทั้งหมด 82 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ราว 7,000 คน

จากนั้นนำท่านชมย่านเมืองเก่า (Old Town) ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรม ซึ่งทำให้พลอฟดิฟยังคงมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์จนถึงปัจจุบัน
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่เมืองโซเฟีย (Sofia) (ระยะทาง 147  กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.)  เมืองหลวงของประเทศบัลแกเรีย หนึ่งในเมืองสวยของยุโรปตะวันออก และยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 15 ของสหภาพยุโรปด้วยประชากรกว่า 1.2 ล้านคน เมืองโซเฟียตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาวิโตชา และห่างจากชายแดนประเทศเซอร์เบียเพียง 50 กิโลเมตร นับเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง กระจัดกระจายไปด้วยร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นำท่านเที่ยวชมเมืองโซเฟีย และนำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาแห่งกรุงโซเฟีย (Parliament) อาคารสีขาวรูปทรงโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้ามหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ ซึ่งปัจจุบันยังใช้เป็นที่ทำการของคณะรัฐบาลอยู่ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George Church) โบสถ์หินโบราณที่เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซเฟีย สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 และถูกต่อเติมเรื่อยมา นอกจากนี้ในอดีตยังเคยถูกใช้เป็นสุเหร่าหรือมัสยิดในสมัยที่กรุงโซเฟียถูกปกครองโดยจักรวรรดิออตโตมันก่อนจะถูกปรับปรุงกลับมาใช้งานเป็นโบสถ์ในคริสตจักร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ (Alexander Nevsky Cathedral) มหาวิหารที่ก่อสร้างในแบบนีโอไบเซนไทน์เมื่อปี ค.ศ.1882 มีโดมหลังคาทรงกลมสีเขียว ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่วิจิตรตระการตา ซึ่งถือเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของภูมิภาค และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองบนคาบสมุทรบอลข่าน เป็นรองเพียงแค่มหาวิหารแห่งเซนต์ ซาวาที่เมืองเบลเกรดของประเทศเซอร์เบีย 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พัก Ramada by Wyndham Hotel Sofia **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 10สำนักสงฆ์เมืองรีล่า – โซเฟีย - อิสตันบูล
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่สำนักสงฆ์เมืองรีล่า (Rila Monastery) (ระยะทาง 119 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) สำนักสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่บนภูเขารีล่าทางตอนใต้ของนครหลวงโซเฟีย บนความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 และตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งสำนัก คือ นักบวชไอแวนแห่งเมืองรีล่า สำนักสงฆ์เมืองรีล่าถูกรับรองโดยยูเนสโก้ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของบัลแกเรีย (UNESCO World Heritage) โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 900,000 คนเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ 
12.30 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินโซเฟีย  (SOF)

อิสระอาหารกลางวัน ภายในสนามบินตามอัธยาศัย
15.55 น.ออกเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1032 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.35 ชม.)
18.30 น.เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน
19.40 น.ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK 64  (ใช้เวลาบินประมาณ 9.15 ชม.) สายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
วันที่ 11อิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร
08.20 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ130,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ120,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ33,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ18,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ115,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ30,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ115,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ30,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ130,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ120,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ33,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ18,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ125,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ115,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ30,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ130,000 บาท
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ120,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ33,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ3,500 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ18,000 บาท

เทศกาลกุหลาบ

เงื่อนไขในการจอง

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า 
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 30 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TK  (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 30 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
    ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าภาษีในทุกประเทศ  (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • ค่าทิปไกด์ไทย, ไกด์ท้องถิ่น และ คนขับรถ
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (คิดจากค่าบริการทัวร์)
  • ค่าเจ้าหน้าที่ยกกระเป๋า ท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเองเพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า) (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-30 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี) (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 75-100% ของค่าทัวร์ (สงกรานต์-ปีใหม่ 0-19วัน)

***ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง
    (TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)

1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 ซม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานฑูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) 
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 
10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ Bank Statement เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- Bank statement ย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (เอกสารอายุห้ามเกิน 30 วันก่อนยื่นวีซ่า)
************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************
- Statement บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบ Statement บัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 (สถานฑูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy