วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - จ.บุรีรัมย์ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
20.30 น. | จุดนัดพบ : Big C Extra ลาดพร้าว ซอย 7 (คลิกดูแผนที่) ออกเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ VIP รุ่นใหม่ มุ่งหน้าสู่ จ.บุรีรัมย์ |
21.00 น. | ล้อหมุน !! หากมาช้าเกินกว่านี้ ท่านจะตกทริป และไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น |
วันที่ 2 | จังหวัดบุรีรัมย์ - วนอุทยานเขากระโดง - วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน) - เพ ลา เพลิน - I Mobile Stadium - เซราะกราว Indy Market |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.30 น. | เดินทางถึง จังหวัด บุรีรัมย์ อิสระให้ท่านได้ทำภาระกิจส่วนตัว รับประทานอาหารเช้า (1) ณ ร้านอาหาร |
เช้า | นำท่านเดินทางไป วนอุทยานเขากระโดง เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วรอบ บริเวณปกคลุมด้วยป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็ก โดยเฉพาะนกนานาชนิด เดิมชื่อเดิม คือ "พนมกระดอง" เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดอง (เต่า) เป็นภูเขาที่มีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น "กระโดงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและศึกษาประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยา เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานกู่เขากระโดง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และมี “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ คู่เมืองบุรีรัมย์บนยอดเขา การขึ้นไปเขากระโดง ทำได้สองวิธี คือ เดินขึ้นบันไดจำนวน 297 ขั้น หรือ ขับรถขึ้นไปถึงยอดเขา นำท่านเดินทางสู่ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน) ภายในวัดประดิษฐานพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ เพื่อเป็นปูชนียสถานระลึกถึงองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ลักษณะขององค์พระมหาเจดีย์ เป็นศิลปะประยุกต์ร่วมสมัยความสูง ๖๐ เมตร มี ๔ ชั้น ชั้นที่ ๑ ใช้ประโยชน์เป็นศาลาอเนกประสงค์ ชั้นที่ ๒ เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ชั้นที่ ๓ เป็นอุโบสถ พิพิธภัณฑ์และที่ประดิษฐาน รูปเหมือนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชั้นที่ ๔ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายสยามวงศ์ และพระอัครมหาบัณฑิต วิมละรัตนะ เจ้าอาวาสวัดศรีเวฬุวนาราม ประเทศศรีลังกา ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุและหน่อพระศรีมหาโพธิ์ แก่พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) เมื่อปี ๒๕๔๗ ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้ปลูกไว้ ด้านหลังพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ภายในวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน เป็นสถานที่สงบร่มรื่น และมีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมาก เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการไปกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทำบุญและปฏิบัติธรรม |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (2) ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปยัง เพ ลา เพลิน แหล่งศึกษาเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับความสนุกและบันเทิง ให้เราได้รื่นรมย์ชมดอกไม้ตามฤดูกาลหลากสีสัน รวมทั้งพันธุ์ไม้สวยงามต่างๆ ที่อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน ซึ่งจัดแสดงในโรงเรือนทั้ง 6 หลัง อุทยานไม้ดอกแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นอุทยานไม้ดอกแห่งแรกในเขตพื้นที่ภาคอีสานใต้อีกด้วย |
15.00 น. | นำท่าน Check in เข้าที่พัก เก็บสัมภาระ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่พักระดับมาตรฐาน ห้องละ 2-3 ท่าน (แอร์ + ทีวี + น้ำอุ่น) |
16.00 น. | นำท่านเดินทางไปยัง I-Mobile Stadium เที่ยวชม สนามไอ-โมบาย (i-Mobile Stadium) หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ธันเดอร์คาสเซิลสเตเดียม (Thunder Castle Stadium) เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอล ที่กำลังฮอตสุดๆ ในขณะนี้ สนามแห่งมีความจุ 32,600 ที่นั่ง สนามไอ-โมบาย ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดผู้คนทั้งในและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงแฟนบอลทุกเพศทุกวัยให้มาที่นี่ เพื่อชมสนามฟุตบอลที่สวยงาม และได้มาตราฐานระดับโลกโดยเปิดให้กับบุคคลที่ สนใจเข้าชมฟรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันที่ทีมมีแข่งขันเปิดให้ชมเป็นรอบๆ รอบละ 30 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 09.30 - 16.00 น. ปิดพักเที่ยงตั้งแต่เวลา 12.00 - 13 .00 น. เมื่อเดินขึ้นบันไดเข้ามาก็จะเข้าสู่สนามจะ ต้องร้องว้าวเพราะสนามสวยงาม ทันสมัย ยิ่งใหญ่ เหมือนเรากำลังเดินชมสนามฟุตบอลในต่างประเทศ สิ่งแรกที่สะกดสายตา คือ ตัวสนามหญ้าพร้อมสแตนด์ฝั่งตะวันตกที่มีตัวอักษร Thunder Castle เด่นเป็นสง่าตัดกับพื้นหญ้าสีเขียว ตัวสนามเน้นใช้สีน้ำเงิน ทำให้ดูเรียบโก้และหนักแน่น โดยสามารถเดินชม และถ่ายภาพได้ทั้งหมดยกเว้นห้ามเดินลงไปเหยียบหญ้า เพราะหญ้าคือหัวใจสำคัญ ของสนามฟุตบอลต้องดูแลรักษากันเป็นอย่างดี และเลือกซื้อ ของที่ระลึกกันที่ Buriram United Mega Store นำท่านเดินทางไปยัง เซราะกราว Indy Market อิสระให้ท่านเลือกทานอาหารพื้นเมือง ที่มีให้เลือกชิมเยอะแยะ มากมาย หรือเลือกช้อป เสื้อผ้า พื้นเมืองของชาวบุรีรัมย์ โดยเฉพาะผ้าไหม ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ หรือผ้าภูอัคนี สิ่งพิเศษของถนนเซราะกราวอยู่ที่มีลานให้นั่งกินข้าวชิวๆ ชมน้ำพุดนตรีสวยๆ ที่เต้นตามจังหวะเสียงเพลง มีเวทีเล่นเพลงกันตรึมให้ฟังตลอด |
22.00 น. | นำท่านเดินทางกลับที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 3 | ปราสาทหินพนมรุ้ง - ปราสาทเมืองต่ำ - วัดเขาอังคาร - ฟาร์มโชคชัย - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
07.00 น. | รับประทานอาหารเช้า (3) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหาร นำท่านเดินทางไป อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บน เขาพนมรุ้ง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) คำว่า พนมรุ้ง มาจากภาษาเขมร คำว่า วนํรุง แปลว่าภูเขาใหญ่ ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรม การจำหลักลวดลายการเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขามีแผนผังตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง คือ ปราสาทประธาน จากงาน ก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่นี้ชวนให้เกิดความสงสัยและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าคนในสมัยโบราณสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ปราสาทหิน พนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์และ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย หมายเหตุ : เวลาเข้าชมปราสาทหินพนมรุ้ง อาจปรับเปลี่ยนให้ตรงกับปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ส่องแสงลอดช่องประตู 15 บาน วันที่ 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน ของทุกปี ดวงอาทิตย์ขึ้น ส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน ช่องชาวบ้านจะเดินเท้าขึ้น มาเพื่อชม ความอลังการที่ผสานระหว่างธรรมชาติและสิ่งก่อสร้างของบรรพชน นอกจากนี้ในวันที่ 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี ดวงอาทิตย์ตก ก็ส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน เช่นกัน มีความเชื่อกันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธิ์ การรับแสง อาทิตย์ที่สอดส่องผ่านศิวลึงค์ ซึ่งตั้งอยู่กลางปราสาทเขาพนมรุ้ง เป็นการเสริมพลังชีวิตและความเป็นสิ่งมงคลกับตนเองและครอบครัว ของผู้ที่พบเห็น |
10.00 น. | นำท่านเดินทางไป ปราสาทเมืองต่ำ ปราสาทเมืองต่ำ ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทาง ทิศใต้เป็นระยะทาง ประมาณ 64 กิโลเมตร สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดูสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อถวายพระศิวะมีลักษณะเป็นศาสนสถาน ประจำเมืองหรือประจำชุมชน ปราสาทหินเมืองต่ำมีรูปแบบที่แตกต่างจากปราสาทแห่งอื่นๆ ที่จะมีปรางค์องค์ใหญ่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยปรางค์ขนาด เล็กกว่าทั้ง 4 มุม ลักษณะเป็นกลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนศิลาแลง อันเดียวกัน เรียงเป็น 2 แถวตามแนวทิศเหนือใต้ แถวหน้า 3 องค์ องค์กลางมี ขนาดใหญ่กว่าปรางค์อื่น ส่วนแถวหลังมีปรางค์อิฐจำนวน 2 องค์ วางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างช่อง ของปรางค์ 3 องค์ ในแถวแรก ทำให้สามารถมองเห็น ปรางค์ทั้ง 5 องค์ พร้อมกันโดยไม่มี องค์หนึ่งมาบดบัง คำว่า เมืองต่ำไม่ใช่ชื่อดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณ สถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่บน พื้นราบ ส่วนปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนเชิงเขา ซึ่งทั้งปราสาทเมืองต่ำและปราสาทพนมรุ้งอยู่ไม่ห่างกันมาก คือห่างกันเพียง 8 กิโลเมตร นอกจากนี้ วัสดุส่วนหนึ่งจากโบราณสถาน และโบราณวัตถุของปราสาทเมืองต่ำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงนำมาเป็นส่วนประกอบ ในการทำพระเครื่อง ที่เรียกว่า "พระสมเด็จจิตรลดา" อีกด้วย |
11.00 น. | นำท่านเดินทางไป เขาอังคาร หรือ เขาพระอังคาร เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว ซึ่งที่ขอบปากปล่องภูเขาไฟโบราณนี้เองเป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่ชื่อ วัดเขาอังคาร วัดเขาอังคาร ในประวัติลายแทงธาตุพนมกล่าวว่า เมื่อ พ.ศ. 8 มีการนำพระอังคารธาตุ (เถ้ากระดูก) ของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานที่เขาลูกนี้ จนถึง พ.ศ.2520 พระอาจารย์ปัญญา วุฒิโธ จึงได้มาสร้างวัดบนยอดเขา และนำพระอังคารธาตุ ขึ้นบรรจุในสถูปบนยอดอุโบสถของวัด อุโบสถของวัดสร้างจากหินทรายสีแดง และผสมผสานศิลปะสมัยต่างๆ อย่างงดงามแปลกตากว่าอุโบสถไทยวัดอื่นๆ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธชาดก ที่มีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษด้วย นอกจากนี้ยังมีการค้นพบใบเสมาหินบะซอลท์สมัยทวาราวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 หรือกว่า 1,300 ปีมาแล้ว อันเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าบริเวณนี้เคยเป็นพุทธสถานมาแต่โบราณ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน (4) ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับ กรุงเทพฯ ระหว่างการเดินทาง แวะซื้อของฝาก ณ ฟาร์มโชคชัย และอิสระให้ท่านรับประทานอาหารเย็น ตามอัธยาศัย |
20.00 น. | เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel