ทัวร์ปากีสถานใต้ เที่ยวปากีสถาน

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE1013 : โปรแกรมทัวร์ปากีสถานใต้ 11 วัน 9 คืน (TG)

Thai Airways (TG)


ทัวร์ปากีสถานใต้...เจาะลึกเส้นทางอารยธรรมนับพันปี

 การาจี | ทัตตา | ไฮเดอราบัด | ซักเคอร์ | โมเฮนโจดาโร | อูจชารีฟ | บาฮาวัลปูร์ | เดราวาร์ | มูลตาน | ฮารัปปา | ลาฮอร์

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE000-00107-17 ธ.ค. 67Thai Airways (TG)85,555จองด่วน
DE000-00222 ก.พ.-04 มี.ค. 68Thai Airways (TG)85,555จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ – การาจี (ประเทศปากีสถาน)
16.00 น.คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น4 เคาเตอร์สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
18.50 น.ออกเดินทางจากสู่ การาจี โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 341 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) เวลาที่ปากีสถานช้ากว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง
22.25 น.เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติจินนาห์ เมืองการาจี ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ...ไกด์ท้องถิ่นรอต้อนรับคณะ  ให้ท่านแลกเงินรูปีปากีสถานที่สนามบิน นำท่านออกเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก Karachi Pearl Continental หรือเทียบเท่า
วันที่ 2การาจี - ทัตตา - ไฮเดอราบัด
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติการาจี (National Museum Karachi) ก่อตั้งขึ้นใน Frere Hall เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2493 แทนที่พิพิธภัณฑ์วิกตอเรียที่เลิกใช้งานแล้วFrere Hall สร้าง  ขึ้นในปี 1865 เพื่อเป็นเกียรติแก่ Sir Bartle Frere ผู้บัญชาการแห่ง Sind ในช่วงศตวรรษที่ 19 
 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทัตตา (Thatta) ระหว่างทางนำท่านชม สุสานเจาขัณฑี (Chaukhandi Tombs) ตั้งอยู่ที่ชานเมืองการาจี เป็นที่รู้จักจากงานแกะสลักหินที่วิจิตรตระการตา เป็นสถานที่ฝังศพของชนเผ่า JOKHIO และ BALOCH สร้างขึ้น ในช่วงรัชสมัยของราชวงศ์โมกุล (คริสต์ ศตวรรษที่ 15–18) สถาปัตยกรรมของสุสานทั้งหมดสร้างขึ้น โดยหินทรายที่มีการแกะสลักอย่างประณีตและงดงาม เดินทางถึงเมืองทัตตา (Thatta) เป็นเมืองที่ชาวปากีสถานเชื่อว่าเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของศาสนาฮินดู นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของ มหาสุสานเมกลี (Makli Necropolis) ซึ่งประกอบไปด้วยอนุสาวรีย์หลากหลายรูปแบบตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 – 18 

จากนั้นชม มัสยิดชาห์จาฮาน (Shah Jahan Mosque) สร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1647 และเสร็จสิ้นในปีคริสต์ศักราช 1659 ในช่วงรัชสมัยของราชวงศ์โมกุล ก่อสร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างเอเชียกลางและอิหร่าน ประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกที่มีความละเอียดที่สุดในเอเชียใต้
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นเดินทางสู่ เมืองไฮเดอราบัด (Hyderabad) เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของแคว้น และมีประชากรมากเป็นอันดับ 8 ของปากีสถาน เมืองสร้างโดยเมียน กูลัม ชาห์ กัลโฮรา แห่งราชวงศ์กัลโฮรา เมื่อปี ค.ศ.1768 ได้เป็นเมืองหลวงของแคว้นสินธ์จนกระทั่งตกเป็นของอังกฤษในปี 1843 จึงได้เปลี่ยนเมืองหลวงมาเป็นการาจี
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Hyderabad Indus Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่ 3ไฮเดอราบัด - ซักเคอร์
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านชม ป้อมโกดดิจิ (Kot Diji Fort) สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 18 ทำให้ได้เห็นความสืบเนื่องของการใช้อิฐก่อสร้างสถาปัตยกรรมที่แข็งแรงใหญ่โต
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซักเคอร์ (Sukkur) เป็นเมืองในจังหวัดสินธุของปากีสถาน ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสินธุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอารยธรรม ลุ่มแม่น้ำสินธุเป็นเมืองเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินทผาลัมที่มีชื่อเสียงมานับร้อยปี ชื่อ Sukkur อาจมาจากคำภาษาอาหรับที่แปลว่า "น้ำตาล" ชัคการ์ เดิมเมืองนี้มีทุ่งอ้อยที่เคยอุดมสมบูรณ์ในภูมิภาคนี้ในอดีต
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Sukkur Hotel One หรือเทียบเท่า
วันที่ 4ซักเคอร์ - โมเฮนโจดาโร - ซักเคอร์
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโมเฮนโจดาโร (Mohenjo-Daro) คืออารยะธรรมที่สาบสูญในอินเดียถูกสร้างในศตวรรษที่ 26 ก่อนคริสตกาล โดยเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุโบราณ ที่รู้จักกันในชื่อ อารยธรรมฮารัปปา ซึ่งพัฒนาประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงสูงสุด อารยธรรมสินธุขยายไปไกลทั่วปากีสถานและอินเดีย โดยฝั่งตะวันตกถึงชายแดนประเทศอิหร่าน ทางใต้ถึงรัฐคุชราตของอินเดีย และทางเหนือถึงด่านนอกที่แบกเตรีย ที่มีใจกลางเมืองที่สำคัญอยู่ที่ฮารัปปา, โมเฮนโจ-ดาโร, โลธาล, คาลิบันกาน, โฑลาวีระ (Dholavira) และราคิการ์ฮี (Rakhigarhi) โมเฮนโจ-ดาโรเป็นเมืองที่พัฒนาที่สุดในเวลานั้น
กลางวันบริการอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านชม โบราณสถานมรดกโลกเมืองโมเฮนโจ ดาโร (Mohenjo-Daro) เคยเป็นหนึ่งในมหานครที่เก่าแก่ที่สุดในยุคสัมฤทธิ์ (Bronze age) และหนึ่งในเมืองยุคแรกสุดของโลกคู่กับอารยธรรมอียิปต์โบราณ, เมโสโปเตเมีย, ไมนอส และการัล และโบราณสถานแห่งนี้ มีการวางแผนผังเมืองที่เป็นระเบียบและมีความทันสมัยมีระบบระเบียบ มีระบบท่อระบายน้ำ มีสระขนาดใหญ่ภายใต้ตึก 3 ชั้น มีสระอาบน้ำสาธารณะ เมื่ออารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุสิ้นสุดลง โมเฮนโจ-ดาโร ก็ถูกทิ้งไปในศตวรรษที่ 19 ก่อนคริสตกาล จนกระทั่งคริสทศวรรษที่ 1920 และกลายเป็นมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1980
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Sukkur Hotel One หรือเทียบเท่า
วันที่ 5ซักเคอร์ - อูจชารีฟ - บาฮาวัลปูร์
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบาฮาวัลปูร์ (Bahawalpul) เมืองสำคัญทางตอนใต้ของแคว้นปัญจาบ มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและสถาบันการศึกษา
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นออกเดินทางต่อผ่าน เมืองอูจชารีฟ (Uch Sharif) นำท่านชม สุสานของบีบี จาวินดี (Tomb of Bibi Jawindi) เป็นโบราณสถานในทางตะวันตกเฉียงใต้ของ เมืองอูจชารีฟ อดีตนครเก่าแก่ที่ตั้งขึ้นโดยอะเล็กซานเดอร์มหาราช แคว้นปัญจาบ ประเทศปากีสถาน ปัจจุบันอยู่ในรายชื่อแหล่งมรดกโลกเบื้องต้นของยูเนสโก และเป็นศาลเจ้าในศาสนาอิสลามนิกายซูฟี สร้างขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 มักบะรา (ที่ไว้ศพ) นี้สร้างขึ้นด้วยอิฐเคลือบกระเบื้องบนฐานรูปแปดเหลี่ยม มักบะเรบีบีจาวินดีถือเป็นโบราณสถานที่ประดับประดาอย่างงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอูจชารีฟ 
 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาฮาวัลปูร์ (Bahawalpul) เป็นเมืองสำคัญทางตอนใต้ของแคว้นปัญจาบ มีชื่อเสียงในด้านมรดกทางวัฒนธรรมและสถาบันการศึกษา ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐพหวัลปูร์ในอดีต ซึ่งก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีบาฮาวัลข่าน อับบาซีที่ 2 สิ่งนี้ยังคงเป็นรัฐอิสระมานานกว่า 200 ปี ในช่วงการปกครองของมหาเศรษฐีคนสุดท้าย เซอร์ ซาดิก มูฮัมหมัด ข่าน อับบาซีที่ 5 รัฐได้เข้าร่วมกับปากีสถานเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2490 และรวมเข้ากับรัฐปัญจาบเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2497 ในสมัยโบราณ Bahawalpur เป็นเมืองแห่งพระราชวัง มีพระราชวังที่สวยงามหลายแห่งเช่น Noor Mahal, Gulzar Mahal, Darbar Mahal และ Sadiq Garh Palace และทั้งนี้ตั้งอยู่ที่ชายขอบของทะเลทราย Cholistan มีอุทยานแห่งชาติ Lal Suhanra
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Bahawalpur Hotel One หรือเทียบเท่า
วันที่ 6บาฮาวัลปูร์ - เดราวาร์ - มูลตาน
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เดราวาร์ นำท่านชม ป้อมเดราวาร์ (Derawar Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 9 โดย Rai Jajja Bhatti ผู้ปกครองเผ่าฮินดูแห่งตระกูล Bhatti เพื่อเป็นเครื่องบรรณาการให้กับกษัตริย์ Jaisalmer และ Bahawalpur โดยตอนแรกมีชื่อว่าป้อม “เดรา ราวัล” ต่อมาถูกเรียกว่า “เดรา ราวาร์” และรวบคำเป็น “เดราวาร์” จนถึงปัจจุบัน ต่อมาในศตวรรษที่ 18 ป้อมเดราวาร์ถูกยึดโดยกลุ่มคนมุสลิมและมีการสร้างในรูปแบบใหม่จนมีหน้าตาเหมือนในปัจจุบันนี้ โดยกำแพงป้อมมีความยาวประมาณ 1,500 เมตร และความสูงประมาณ 30 เมตร มีลักษณะเป็นหอคอยโค้งคล้ายทรงกระบอกสร้างขึ้นจากก้อนอิฐ มีจำนวนทั้งหมด 40 ป้อม ตั้งเรียงกัน รายการพิเศษ ฟรี นำท่านขี่อูฐชมป้อมเดราวาร์
กลางวันบริการอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมูลตาน (Multan) เมืองมูลตานได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองแห่ง นักบุญหรือเมืองแห่ง นักบวชมุสลิม มีชื่อเสียงสำหรับประวัติศาสตร์ทางศาสนาที่ยาวนานอย่างเหลือเชื่อ ท้องถนนเรียงรายไปด้วยปูชนียสถานและสุสานโบราณต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อ อุทิศให้แก่วีรบุรุษในตา นานและบุคคลสำคัญทางศาสนา

นำท่านชม สุสานเรชาห์รุกเนอาลัม (Tomb of Shah Rukn-e-Alam) เป็นที่ไว้ศพและศาลเจ้าในศาสนาอิสลามนิกายซูฟี ตั้งอยู่ในเมืองมุลตาน ประเทศปากีสถาน เป็นที่ไว้ศพสันตะของซูฟี เชคห์ รุกเนอูดดีน อาบูล ฟาเตห์ สถาปัตยกรรมที่ใช้ก่อสร้างมักบะรา นี้ ถือเป็นตัวอย่างชิ้นแรก ๆ ของสถาปัตยกรรมตุฆลุก ในยุคก่อนการเข้ามาของสถาปัตยกรรมโมกุล และหนึ่งในศาลเจ้าซูฟีที่งดงามที่สุดในอนุทวีปอินเดียมีศาสนิกชนจาริกมายังที่นี่มากกว่า 100,000 คนทุก ๆ ปีระหว่างเทศกาลประจำปี อูร์ส ซึ่งจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงมรณกาลของท่าน

นำท่านชม สุสาน Bahauddin Zakariya สร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 ที่ หลุมฝังศพแห่งนี้อุทิศให้กับ Bahauddin Zakariya ชาวมุสลิมผู้ก่อตั้งกลุ่ม Suhrawardiyya ที่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในสุสานที่สำคัญที่สุดในจังหวัดปัญจาบ และเป็นต้นแบบของรูปแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของ เมืองมูลตานอีกด้วย
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก  Multan Hotel One หรือเทียบเท่า
วันที่ 7มูลตาน - เมืองโบราณฮารัปปา - ลาฮอร์
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณฮารัปปา มรดกโลก (Harappa) เป็นเมืองโบราณยุค 5-7 พันปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นยุคเดียวกับอารยธรรมเมโสโปเตเมียและอียิปต์ ลักษณะเป็นเมืองสร้างจากดินเหนียวบนเนินสูงและมีกำแพงล้อมรอบ ฮารัปปาเป็นแหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุที่มีอายุ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล มันเป็นโบราณสถานในปัญจาบ สถานที่นี้ตั้งชื่อมาจากหมู่บ้านสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางเดิมของแม่น้ำราวี

จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์ฮารัปปา (Harappa Museum) ซึ่งรวบรวมโบราณวัตถุส่วนหนึ่งที่ขุดค้นพบจากเมืองโบราณฮารัปปา
กลางวันบริการอาหารกลาง ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลาฮอร์ (Lahore) เป็นเมืองหลวงและมหานครที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ โดยแม่น้ำราวีเป็นสายน้ำหลักหล่อเลี้ยง เป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของภูมิภาคเอเชียใต้ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นปัญจาบ ใกล้กับชายแดนรัฐปัญจาบของอินเดีย ทั้งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคปัญจาบ และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสรีนิยมก้าวหน้าและเป็นสากลมากที่สุดในปากีสถาน และเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโมกุลอันยิ่งใหญ่ ที่มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าอักบาร์มหาราช จักรพรรดิชาห์ชะฮัน และออรังเซพผู้มั่งคั่งซึ่งต่างเคยพำนักอยู่ที่นี่เดิมเคยอยู่และเคยภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Lahore Grand Luxus หรือเทียบเท่า
วันที่ 8ลาฮอร์ (เต็มวัน)
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านชม ป้อมลาฮอร์ (Lahore Fortress) ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 1981 ป้อมลาฮอร์เป็นพระราชวังโบราณสร้างโดยจักรพรรดิอักบาร์ (Akbar The Great) ในระหว่างปี 2099-2149 เป็นสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถเห็นความแตกต่างของสถาปัตยกรรมโมกุล ในแต่ละยุคสมัยของผู้ปกครองที่ได้สร้างต่อเติมมาเรื่อย ๆ 

นำท่านเข้าชม มัสยิดบัดชาอิ (Badshahi Mosque) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าเป็นลานกว้างที่จุคนได้ราวห้าหมื่นคนและมีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคน มัสยิดแห่งนี้เคยถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 100 ปี และได้รับการบูรณะกลับมาใหม่ในปี ค.ศ.1960
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านชม พิพิธภัณฑ์แห่งลาฮอร์ (Lahore Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถาน สิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมายได้ถูกแสดงไว้ ซึ่งมีห้องแสดงหลายห้อง จากโบราณวัตถุในพุทธศาสนาสมัยคันธาระ (GANDHARA) พระพุทธรูปสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ พระพุทธรูปปางทุกรกิริยาของพระพุทธเจ้า ซึ่งถูกแสดงอยู่ที่นี่รวมถึง โบราณวัตถุในศาสนาเชน (JAIN) โมกุล (MUGHAL) และสมัยอาณานิคม 
  
นำท่านชม สวนชาลิมาร์ (Sharlimar Garden) เป็นกลุ่มสวนเปอร์เซีย เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1637 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1641 ควบคุมการสร้างโดยคาลิลุเลาะห์ ข่าน ขุนนางในราชสา นักจักรพรรดชิาห์จะฮานแห่งจักรวรรดิโมกุล ร่วมกับอาลี มาร์ดาน ข่าน และ มุลละ อะลอล มอล์ก ตูนี แต่เดิมที่ดินที่สร้างสวนเป็นของตระกูลเมียนแห่งเมืองบักบันปุระ ภายหลังจักรพรรดิชาห์จะฮาน พระราชทานพระราชานุญาตให้ตระกูลนี้เป็นผู้ดูแลสวนเป็นการตอบแทนที่ถวายที่ดิน สวนชาลิมาร์อยู่ในการดูแลของตระกูลเมียนนานกว่า 350 ปี จนกระทั่งในปี ค.ศ.1962 โมฮัมหมัด อัยยุบข่าน อดีตประธานาธิบดีปากีสถานประกาศให้สวนชาลิมาร์อยู่ในการดูแลของรัฐ และในปี ค.ศ.1981 สวนชาลิมาร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมร่วมกับป้อมลาฮอร์ 
 
นำท่านสู่บริเวณ ชายแดนวากาห์ (Wagha Border) ด่านพรมแดนกั้นระหว่างเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน และเมืองอัตตริ ประเทศอินเดีย ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “กำแพงเบอร์ลินแห่งชมพูทวีป” ชมพิธีสวนสนามปิดด่านอินเดีย-ปากีสถาน (Wagha-Attari Border Ceremony) ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกช่วงเย็นประมาณ 16.30 น. ของทุกวัน จนเป็นสัญลักษณ์แห่งการให้เกียรติ “มิตรและศัตรู” ของทั้งสองประเทศ พิธีการนี้จึงเป็นเหมือนสนามประลองขนาดย่อมที่มีไว้เพื่อประชันลีลาและความสง่างามระหว่างกัน โดยทหารปากีสถานแต่งกายในชุดทหารสีดำและสวมหมวกทรงคล้ายพัดสีดำ ส่วนทหารอินเดียจะอยู่ในชุดทหารสีน้ำตาล สวมหมวกทรงคล้ายพัดสีแดง
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Lahore Grand Luxus หรือเทียบเท่า
วันที่ 9ลาฮอร์  - อิสลามาบัด
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางไป อิสลามาบัด (Islamabad) เมืองหลวงของประเทศปากีสถาน
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

แวะชม เหมืองเกลือ (Khewra Salt Mine) เหมืองเกลือที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกมีการขุดเกลือออกมาเพื่อขายทำไฟฟ้าและอบอาหาร ปัจจุบันได้ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว…ออกเดินทางต่อสู่อิสลามาบัด
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Pearl Continental Rawalpindi หรือเทียบเท่า
วันที่ 10อิสลามาบัด - ตักศิลา - อิสลามาบัด
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางไป นครตักศิลา (Taxila)  นครโบราณ อดีตที่รุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา อดีตเป็นนครหลวงแห่งแคว้นคันธาระ (Ghandara) เดิมชื่อว่า ตักชาศิลา-Takshasila เป็นภาษาสันสกฤต ต่อมาเมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชรุกรานอินเดียเมื่อ 326 ปีก่อนคริสตกาล ได้มาหยุดพักที่เมืองนี้แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น ตักศิลา-Taxila ...เมืองตักสิลาถือว่าเป็นเมืองมหาวิทยาลัยอันยิ่งใหญ่ของโลกที่มีมาก่อนพุทธกาล และเป็นศูนย์กลางการศึกษาของพราหมณ์ และในยุคที่พุทธศาสนาเจริญ เมืองนี้ก็กลายเป็นแหล่งศึกษาที่สำคัญของพุทธศาสนา มีนักศึกษาจากทั่วทุกทิศ ทั้งในอินเดีย และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ทั้งเปอร์เซีย และประเทศทางแถบเอเชียกลางมาเล่าเรียน ยุคนั้นไม่ว่าใครจะศึกษาศิลปวิทยาการ หรือศาสตร์แขนงใดก็ตาม ก็จะต้องไปศึกษากันที่ตักศิลา รวมทั้งแพทยศาสตร์ และเป็นที่กล่าวขานกันว่าใครสำเร็จสรรพวิทยาไม่ว่าศาสตร์ใดจากตักสิลาแห่งนี้ ก็จะได้รับการยกย่องและเป็นที่เชื่อถือกันอย่างมากในสังคม ดังเช่นหมอชีวกโกมารภัจจ์ ก็สำเร็จวิชา การแพทย์จากมหาวิทยาลัยตักสิลาแห่งนี้ สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตักศิลาเป็นนครที่รุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา ซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมๆ กับศาสนา เชน และฮินดู 
ต่อมาในสมัยหลวงจีนเหี้ยนจังหรือพระถังซัมจั๋งมาสืบพระพุทธศาสนาในอินเดียเมื่อพ.ศ.1186 ท่านได้บันทึกว่า เมืองตักศิลาตกอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม และเป็นเพียงเมืองหนึ่งในแคว้นกัษมีระหรือแคชเมียร์ (ปัจจุบันอยู่ในเขตราวัลปินดี ประเทศปากีสถาน) โบสถ์และวิหาร สถานศึกษาก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น จากนั้นมาก็ไม่ปรากฏเรื่องเมืองตักสิลาอีกเลย ตักศิลาถูกบรรจุเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวหลักของปากีสถาน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับเมืองตักสิลา ปัจจุบันตักศิลาอยู่ในเขตประเทศปากีสถาน แม้จะคงเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่อดีตพุทธนครโบราณอันรุ่งเรืองแห่งนี้ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1980

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ตักศิลา (Taxila Museum) เก็บรวบรวมหลักฐานความเป็นอยู่และภูมิปัญญาของชาวตักศิลายุคต่าง ๆ รวมถึงซากสถูปเจดีย์ วัดวาอาราม เหรียญกรีกในยุคสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช และพระพุทธรูปสมัยคันธาระจำนวนมาก เมืองโบราณเซอกัป (Sirkap) สร้างขึ้นในราวครึ่งแรกของศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล โดยพวกแบคเตรียนและกรีก จากสภาพการขุดค้นทางโบราณคดี ได้พิสูจน์ทราบถึงการเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่รุ่งเรืองในอดีต จากร่องรอยการอยู่อาศัย   ของหมู่ชนจำนวนมากในยุคนั้นที่มีระบบผังเมืองสมบูรณ์ มีการวางระบบผังเมืองไว้เป็นอย่างดี 
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านชม อารามพุทธจูเลียน (Julian Monastery) โบราณสถานที่สะท้อนให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในพื้นที่บริเวณนี้  ซึ่งเป็นวัดหรืออารามโบราณบนเนินเขาความสูง 300 ฟุต บนลานกว้างรายล้อมด้วยกาแพงห้องขนาดเล็ก คงเหลือแต่ฐานพระสถูปให้เห็นและจินตนาการถึงความรุ่งเรืองเมื่อครั้งอดีต ธรรมราชิกสถูป (Dharmarajika stupa) สร้างขึ้นโดยกุษาณะในคริสต์ศตวรรษที่ 2 เพื่อบรรจุชิ้นส่วนพระอัฐิขนาดเล็กของพระพุทธเจ้า ถูกบรรจุลงในแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกใน ค.ศ. 1980…

นำท่านเดินทางสู่ อิสลามาบัด

นำท่านชม มัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามาร์กาลา (Margalla Hills) มัสยิดนี้ประกอบด้วยการออกแบบร่วมสมัยมีชั้นนอกของอาคาร 8 ด้านซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระโจมเบดูอิน (Bedouin tent)เริ่มต้นก่อสร้างในปี 1976 โดยสมเด็จพระราชาธิบดีไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบียพระราชทานงบประมาณ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมัสยิดนี้ตั้งชื่อจากพระนามของพระองค์ 
งานออกแบบที่แปลกใหม่นี้เป็นผลงานของสถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากการประกวดในระดับนานาชาติ มัสยิดนี้เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศปากีสถาน และเคยดำรงตำแหน่งมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1986-1993…นำท่านช้อปปิ้งก่อนเดินทางกลับ
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร...และนำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด
23.20 น.ออกเดินทางจากสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 350  (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 11กรุงเทพฯ
06.25 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ85,555 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ14,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ13,500 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ85,555 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ14,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ13,500 บาท

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด โดยสายการบินไทย เส้นทาง กรุงเทพฯ – การาจี/ อิสลามาบัด - กรุงเทพฯ(กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ นำหนักไม่เกิน 20 กก. /กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง 1 ใบน้ำหนักไม่เกิน 7 กก)
  • ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีน้ำมัน และค่าประกันภัยทางอากาศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักโรงแรมตามที่ระบุตลอดการเดินทางพักห้องคู่ ตามรายการระบุ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามรายการระบุ(เป็นอาหารท้องถิ่นแบบอิสลามทานง่ายและมีอาหารไทยเสริม ทุกมื้อ)
  • น้ำเปล่าท่านละ 2 ขวด/ท่าน ต่อวัน 
  • ฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าปากีสถานแบบท่องเที่ยว
  • ค่าพาหนะ รถรับ-ส่ง ตลอดการเดินทาง ตามรายการระบุ
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ 
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุและสุขภาพแบบบุคคล (Asia Plus Basic ) 
    -วงเงินคุ้มครอง 1,000,000 บาท /คน
    -ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
    -ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท 
    -ค่ารักษาพยาบาทครั้งแรกในประเทศไทย 100,000 บาท
    ****กรณีการรักษาพยาบาทต่อเนื่องในประเทศไทยผู้เอาประก้นภัยต้องขอรับการรักษาพยาบาทในประเทศไทยภายใน 24 ชั่งโมงนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย และ รับการรักษาต่อเนื่องไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่ได้รับการรักษาครั้งแรกในประเทศไทย
    ****กรณีที่ผู้เอาประกันได้รับการรักษาพยาบาทที่ต่างประเทศผู้เอาประกันมีกำหนดเวลา 7วันนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยที่จะรับการรักษาต่อเนื่องในประเทศไทย
    หมายเหตุ : คุ้มครองผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 75-85 ปี จ่ายเบี้ย 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย  วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
  • ค่าทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และเอกสารวีซ่าของคนต่างด้าว 
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% 
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากรายการ
  • ค่าทิปไกด์ ท้องถิ่น และคนขับรถ และคนที่มาบริการ ตลอดทริป  50 usd/ท่าน (หรือเงินไทย 1,800 บาท)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน 
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 25,000 บาท / หลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอนหรือตาม เจ้าหน้าที่กำหนด พร้อมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางหรือตามเจ้าหน้าที่กำหนด
  • หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท
  • ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วงPeak seasonสายการบินให้มัดจำล่วงหน้า2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง) 
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์ + ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท
  • แจ้งยกเลกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100 % ของราคาทัวร์

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม 

ยกเลิกช่วงเทศกาล 

  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 50 - 60 วัน ชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท + และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง) 
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 0 - 40 วัน ชำระ 100% ของราคาทัวร์

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ  

  • กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only) *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช่จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิก เที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • ห้องพักส่วนใหญ่เป็นห้องเตียง และสำหรับห้องพัก 3 เตียงมีแบบเสริมเตียงเท่านั้น 
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ปหรือตั๋วหมู่คณะ หากออกตั๋วแล้วไม่สามารถขอเงินคืนได้และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • เสื้อผ้าลำลองสำหรับใส่เที่ยวตามเมืองทั่วไป   เน้นสีสันสดใสได้เลยจ้า แต่ขอเน้นสุภาพ 
1) ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินหรือค่าเงินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตามสถานการณ์ดังกล่าว
2) รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
3) กรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึงตามที่บริษัทฯ กำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางหรือปรับเปลี่ยนราคาก่อนล่วงหน้า 10-15 วันก่อนออกเดินทาง
4) กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
5) กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ
6) กรณีท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
7) กรณีท่านถูกห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศนั้น
8) กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
9) กรณีท่านไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
10) กรณีท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ท่านไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
11) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์ โปรดสอบถามทางบริษัท

บริษัทฯ ถือว่าท่านได้อ่านและยอมรับเงื่อนไขต่างๆในโปรแกรมทัวร์ดี แล้วจึงชำระเงินมัดจำ กับเจ้าหน้าฝ่ายขายของเรา ..ขอบพระคุณที่ไว้วางใจ

โรงแรม ที่พัก และอาหารการกิน ที่เราจัดในเส้นทางท่องเที่ยว ประเทศปากีสถาน ระดับโรงแรม 3-4-5 ดาว ของปากีสถาน อาจไม่หรูหรา แต่ก็เป็นที่พักที่มีความปลอดภัย สะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับหนึ่ง บางแห่งมี Wi-Fi free บางแห่งที่ไกลออกไปอาจไม่มี Wi-Fi ให้ใช้ อาหารส่วนใหญ่ หากเป็นมื้อเย็นจะรับประทานอาหารกันที่โรงแรม อาหารปากีสถาน 99 % เป็นอาหารอิสลาม มีไก่เป็นหลัก แต่ละโรงแรม หรือ ร้านอาหารจะมีไก่ทอดสูตรเด็ดของแต่ละแห่งอร่อยไม่เบาคะ อาหารท่านง่ายเนื่องจากไม่มีเครื่องเทศแรง เราสามารถขอไปใช้ครัวเขาทำอาหารไทยได้คะ ชาวปากีสถานใจดีคะ...
  • สำเนาหนังสือเดินทาง มีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ภาพชัดเจน ไม่เซ็นชื่อทับเอกสาร (สามารถถ่ายรูปส่งทางทางไลน์หรืออีเมล์ได้)
  • รูปถ่ายปัจจุบัน ไม่เกิน 6 เดือน หน้าตรง สามารถถ่ายด้วยกล้องมือถือได้ มองเห็นใบหน้าชัดเจน ไม่มีเงาบังบนใบหน้า ไม่นำผมมาปิดใบหน้า ไม่สวมแว่นตา ไม่สวมเครื่องประดับ ไม่ยิ้มเห็นฟัน
  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • สำเนาเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
  • วีซ่าปากีสถานเก่า (ถ้ามี)

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy