ทัวร์ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ 2567/2024 เที่ยวปากีสถาน

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE593 : โปรแกรมทัวร์ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ 9 วัน 7 คืน (TG)

DE593 : โปรแกรมทัวร์ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์ 9 วัน 7 คืน (TG)
Thai Airways (TG)

Darbar Hotel
EAGLE NEST HOTEL
Pearl Continental Hotel
Serena Hotel Gilgit

โปรแกรมทัวร์ปากีสถาน คาราโครัมไฮเวย์

 อิสลามาบัด | ตักศิลา | กิลกิต | หุบเขาฮุนซา | หุบเขานาการ์ | ฮอปเปอร์ กลาเซียร์ | อีเกิลเนสท์ | พาสสุ | ล่องเรือทะเลสาบอัตตาบัต | กุลมิต | สะพานฮุนเซน | ลาฮอร์ 

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE593-00105-13 เม.ย. 68Thai Airways (TG)95,000จองด่วน
DE593-00207-15 เม.ย. 68Thai Airways (TG)95,000จองด่วน
DE593-00312-20 เม.ย. 68Thai Airways (TG)95,000จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพ – อิสลามาบัด (พักค้าง 2 คืน)
16.00  น.

คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ สายการบินไทย (TG) อาคารผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 23 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ) และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก.

19.00 น.ออกเดินทางสู่ กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถานโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG349 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.10 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
22.00 น.

เดินทางถึงสนามบินอิสลามาบัด นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักที่Pearl Continental Hotel***** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) 
วันที่ 2อิสลามาบัด - ตักศิลา (เมืองมรดกโลก) – เที่ยวชมเมืองอิสลามาบัด
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

 

นำท่านเดินทางเข้าชมมัสยิดไฟซาล (Faisal Mosque) (กรุณาแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงเตรียมผ้าคลุมผมไปด้วย) มัสยิดแห่งนี้เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 1987 สร้างโดยกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย King Faisal จึงนำพระนามของพระองค์ใช้เป็นชื่อมัสยิดแห่งนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี ให้มีลักษณะคล้ายทรงเต็นท์ 8 เหลี่ยมของชาวเบดูอิน ซึ่งมาถึงบริเวณนี้เป็นพวกแรก มัสยิดไฟซาลสามารถจุคนได้ถึง 100,000 คน และบริเวณรอบนอกจุได้อีกกว่า 200,000 คน และมีเสามินาเรท (หอขาน) 4 ต้น ขนาบสี่มุม สูงต้นละ 79 เมตร นับเป็นมัสยิดที่ใหญ่และสวยงามประจำกรุงอิสลามาบัด

 

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่อนุสาวรีย์ปากีสถาน (Pakistan Monument) เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาชาการ์ปาเรียนทางตะวันตก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีของชาวปากีสถาน ออกแบบสร้างให้เหมือนรูปกลีบดอกไม้สี่กลีบ สร้างขึ้นจากหินแกรนิต โดยแต่ละกลีบนั้นเป็นตัวแทนแคว้นสำคัญของปากีสถานทั้ง 4 แห่งได้แก่ แคว้นบาลูจิสถาน, แคว้นสินธ์, แคว้นปัญจาบ และแคว้นไคเบอร์ปัคตูนควา โดยแต่ละกลีบจะมีภาพแกะสลักของ สถานที่สำคัญของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ มัสยิดแบดชาฮิ, ป้อมเมืองลาฮอร์, ช่องเขาไคเบอร์ และมินาร์ เอ ปากีสถาน ในใจกลางของอนุสาวรีย์จะมีประติมากรรมรูปสามเหลี่ยมที่มีฐานเป็นดาวห้าแฉก ล้อมรอบไปด้วยน้ำ ที่แสดงถึงบุคคลสำคัญอย่าง มูฮัมหมัด อาลี จินนาห์ บิดาแห่งปากีสถานและมูฮัมมัด อิกบาล กวีและนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงแห่งปากีสถาน ซึ่งดวงดาวและพระจันทร์ยังเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาอิสลาม อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปและเก็บภาพตามอัธยาศัย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ในโรงแรม
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่เมืองตักศิลา (Taxila) (ระยะทาง 34 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในรัฐปันจาบของปากีสถาน ปัจจุบันเหลือเพียงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต

 

นำท่านชมสถานที่สำคัญ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ โบสถ์และเจดีย์ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้องค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี 1980 เมืองตักศิลานี้ยังมีชื่อเสียงในการที่เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ศิลปะแบบคานธีรา ประติมากรรม สถาปัตยกรรม การศึกษา และพระพุทธศาสนา มีแหล่งโบราณคดีกว่า 50 แห่งกระจายอยู่รอบเมือง จุดชมเมืองที่สำคัญๆ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ตักศิลา, เจดีย์ธรรมยาสิกา, เมืองเก่าชีร์กัป, อารามจูเลี่ยน, เทวาลัยจันเดียล อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองเก่าตามอัธยาศัย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Pearl Continental Hotel***** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) 
วันที่ 3บินภายในสู่เมืองกิลกิต – หุบเขาฮุนซา – ป้อมปราการบาลิต 
เช้ารับประทานอาหารเช้า (Breakfast Box)
05.00 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิสลามาบัด
06.50 น. 

ออกเดินทางสู่เมืองกิลกิต โดยเที่ยวบิน PK601 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.15 ชั่วโมง)

08.05 น. เดินทางถึงสนามบินกิลกิต 

นำท่านสู่เมืองกิลกิต (Gilgit) เป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศปากีสถาน ห่างจากเมืองอิสลามาบัดระยะทางโดยประมาณ 500 กิโลเมตร หากนั่งรถจะใช้เวลาประมาณ 15-18 ชั่วโมง เมืองกิลกิตนั้นเป็นเมืองสำคัญในอดีตเพราะเคยเป็นเมืองที่มีเส้นทางสายไหมตัดผ่านและเป็นเส้นทางเผยแพร่พุทธศาสนาไปยังเมืองต่างๆ ปัจจุบันกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญไป ตามทางหลวงโคราคารัม (Karakoram) ที่มีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังเมืองสการ์ดู, เมืองจิตราล, เมืองเปศวาร์อิสลามาบัด และประเทศจีน นำท่านออกเดินทางไปตามถนนหลวงคาราโครัม ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของแม่น้ำฮุนซารวมถึงหมู่บ้านต่างๆ ริมทางขนานกับเส้นทางสายไหมเก่า ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าและวัฒนธรรม

นำท่านสู่จุดชมวิวยอดเขาราคาโปชิ (Rakaposhi View Point) สัมผัสความสวยงามของเทือกเขาราคาโปชิที่ปกคลุมด้วยหิมะอย่างใกล้ชิด ยอดเขาแห่งนี้มีความสูง 7,790เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและถูกจัดอันดับความสูงอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความวามพิสุทธิ์ของธรรมชาติและเทือกเขาแห่งนี้ตามอัธยาศัย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางเข้าชม ป้อมปราการบาลิต (Balit Fort) ตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซาใกล้เมืองคาริมาบัดทางตอนเหนือของปากีสถาน โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 ป้อมปราการมีความเก่าแก่ถึง 700 ปี ในอดีตเคยเป็นพระราชวังหลวงที่มีสถาปัตยกรรมรูปแบบผสมผสาน ระหว่างแคชเมียร์กับทิเบต พระราชวังได้มีการปรับปรุงและต่อเติมในส่วนต่าง ๆ เพิ่มขึ้น จนมีรูปแบบเหมือนดังเช่นปัจจุบัน ทางขึ้นของป้อมปราการนั้นรถไม่สามารถขึ้นไปได้ จะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ตามทางที่เดินขึ้นไปท่านจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และร้านมีขายของที่ระลึกให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้อตลอดเส้นทางเช่นกัน เมื่อท่านขึ้นไปถึงแล้วท่านได้พบกับความสวยงามของป้อมปราการและเทือกเขาที่ล้อมรอบ และวิวของหมู่บ้านที่ลดหลั่นลงไปเป็นขั้นๆ

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองคาลิมาบัด (Karimabad) ซึ่งอยู่ด้านล่างของป้อมบัลทิตชาวบ้านในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะมีอาชีพปลูกผลไม้เมืองหนาวเช่น แอปเปิล และแอปริคอท เนื่องจากอากาศในหุบเขาแห่งนี้จะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ปล่อยอิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝาก ผลไม้สด และผลไม้อบแห้ง ก่อนนำท่านกลับสู่เมืองฮุนซา
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก​

Darbar Hotel/ Legend Hotel / Roomy Dastan Hotel**** หรือเทียบเท่า  
(กรุณาเตรียมเสื้อผ้า 1 คืน สำหรับพักค้างที่ Eagle’s Nest Hotel)

วันที่ 4ฮุนซา – หุบเขานาการ์ – ฮอปเปอร์ กลาเซียร์ – เทือกเขาดุยเกอร์ - Eagle’s Nest  
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่หุบเขานาการ์ (Nagar Valley) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 2,438 เมตร อดีตเคยเป็นเมืองหลวงรัฐนาการ์ จนกระทั่งล่มสลายลงในปี ค.ศ. 1974 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามของต้นไม้ ลำธาร ท่านจะได้สัมผัสกับความสวยงามของ แนวเทือกเขาราคาโปชิ และเทือกเขาอื่นๆ อีกกว่า 30 ยอดเขา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพธรรมชาติตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หุบเขาฮอปเปอร์ (Hopper Valley) เพื่อชมธารน้ำแข็งฮอปเปอร์ (Hopper Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความเก่าแก่จากการทับถมของหิมะอย่างยาวนาน จากหิมะจนกลายเป็นหิน ได้มีบันทึกว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็น เคลื่อนไหวเร็วที่สุดในโลก จุดที่เราจะเข้าไปชมนั้นจะเป็นจุดที่ใกล้ธารน้ำแข็งมากที่สุดซึ่ง เราสามารถเข้าไปชมในจุดที่กำหนดเท่านั้น 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบราณ (Altit Village) ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในอดีต เนื่องจากเป็นทางผ่านของเส้นทางสายไหม จึงทำให้คนจากหลายเมืองผ่านมาพักที่หมู่บ้านแห่งนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ยอดเขาดุยเคอร์ (Duiker) เพื่อชมความงดงามของพระอาทิตย์ตกดินตามแนวเทือกเขา อิสระให้ท่านได้ดื่มด่ำกับรรยากาศสวยงามแห่งเทือกเขาดุยเคอร์
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักEagle’s Nest Hotel****  หรือเทียบเท่า 
วันที่ 5เลดี้ ฟิงเกอร์ – ล่องเรือทะเลสาบอัลตาบัต - กุลมิต – สะพานฮุซซา - เมืองพาสสุ 
05.00 น.นำท่านชม ความงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่ยามเช้า ณ จุดที่ได้ขชื่อว่าสวยที่สุดแห่งเทือกเขานี้ บริเวณที่ได้รับการขนานนามว่า นิ้วมือของหญิงสาว หรือ Lady Finger และบริเวณนี้สามารถเห็นยอดเขาที่สูงที่สุดระดับโลกถึง 5 เขา คือ รัคคาโปชิ, ดิราน, โกลเดนพีค, อัลเตอร์พีค และ มูโลไจแอนท์พีค อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจและความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบตามอัธยาศัย
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือทะเลสาบอัตตาบัต เพื่อสัมผัสประสบการณ์ล่องเรือชมทะเลสาบอัตตาบัต (Attabad Lake) ชมความงดงามของทะเลสาบสีฟ้าราวกับเทอร์ควอยซ์ตัดกับเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุม ทะเลสาบตั้งอยู่ในหุบเขาฮุนซา เกิดจากดินถล่มเพราะแผ่นดินไหวเมื่อปี  2009 ลงมาปิดกั้นการไหลของน้ำในแม่น้ำฮุนซาจึงเกิดเป็นทะเลสาบแห่งนี้  ทะเลสาบมีความยาว  21 เมตร และลึก 103 เมตร ทางการจีนได้ช่วยสร้างอุโมงค์ผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมกับถนนคาราโครัมใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทะเลสาบอัตตาบัดจึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของปากีสถานเช่นกัน

ได้เวลานำท่านสู่ เมืองกุลมิต (Gulmit) แปลว่า หุบเขาแห่งทุ่งดอกไม้ ตามความหมายของภาษาท้องถิ่น มีพื้นที่ครอบคลุมทางเหนือของหุบเขาฮุนซา เป็นเมืองที่มีความเก่าแก่มีอายุมานานหลายทศวรรษตั้งอยู่บนความสูง 2,408 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

จากนั้นนำท่านสู่ สะพานฮุซเซน แห่งทะเลสาบโบริท (Hussaini suspension bridge) สะพานแขวนมีอายุนับร้อยปี ถูกจัดให้เป็นสะพานที่น่ากลัวที่สุดในโลก สะพานมีลักษะเป็นสะพานถูกขึงด้วยสลิงพาดด้วยไม้แบบห่างๆ ดังนั้นเวลาข้ามเราจะมองเห็นแม่น้ำที่ไหลอยู่ด้านล่างให้ท่านได้ลองเดินข้ามสะพานแห่งนี้ หรือถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่เมืองพาสสุ (Passu) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ บนทางหลวงคาราโครัมไฮเวย์ ติดกับแม่น้ำท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับยอดเขาที่มีลักษณะคล้ายกับทางแหลมของหลังคาปราสาทจนได้ชื่อว่า Passu Cones หรือ Passu Cathedral

จากนั้นนำท่านชมธารน้ำแข็งพาสสุ (Passu Glacier)โดยต้องใช้เวลาเดินประมาณ 1 กิโลเมตร  สำหรับธารน้ำแข็งพาสสุนั้นเป็นธารน้ำแข็งที่เกิดจากหิมะที่ตกมาสะสมจนหนา 50 – 60 เมตร แล้วเคลื่อนตัวลงมาตามไหล่เขาอย่างช้าๆ ทำให้เกิดการสึกกร่อนลึกลงไปเพราะความหนักของหิมะ พื้นดินที่รองรับจึงเกิดเป็นร่องลึกและกว้างเพราะมีน้ำหนักของน้ำแข็งกดทับ ธารน้ำแข็งจะค่อยๆ ครูดบริเวณที่รองรับจนเกิดหุบเขาตัดขวางรูปตัวยู เมื่อธารน้ำแข็งไหลไปถึงตอนล่าง ธารน้ำแข็งก็ค่อย แตกออกและละลายกลายเป็นลำธาร

ค่่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักDarbar Hotel/ Legend Hotel / Roomy Dastan Hotel**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6สการ์ดู
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองสการ์ดู (Skardu) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในกิลกิต-บัลติสสถาน แห่งปากีสถานและทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของเขตสการ์ดู ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเกือบ 2,500 เมตร ในหุบเขาสการ์ดู ที่จุดบรรจบกันของแม่น้ำสินธุและแม่น้ำสิการ์ เมืองนี้เป็นประตูสำคัญบนเส้นทางแยกคาราโครัมไฮเวย์และเทือกเขาหิมาลัย ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติแห่งเทือกเขาหิมาลัย และส่วนของคาราโครัมไฮเวย์ รวมถึงสการ์ดูไฮเวย์อีกด้วย

นำท่านชมพระพุทธรูปคาร์กาห์ (Kargah Buddha) พระพุทธรูปยืนถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาในหุบเขาคาร์กาห์ (Kargah Valley) ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 7  พระพุทธรูปมีลักษณะเป็นพระยืน ในลักษณะแบบนูนต่ำ องค์พระมีความสูง 50 ฟุต ปรากฏเด่นอยู่บนหน้าผาหินตั้งชัน ถูกค้นพบในช่วงปี ค.ศ. 1938 – 1939 ห่างจากองค์พระไปประมาณ 400 เมตร ยังค้นพบเจดีย์ 3 องค์ด้วยเช่นกัน ยังมีตำนานที่เกี่ยวกับพระพุทธรูปแกะสลักคาร์กาห์นี้ที่ถูกเล่าขานโดยชาวบ้านในท้องถิ่น ตามตำนานระบุว่าครั้งหนึ่ง บริเวณแถบนี้มียักษ์กินคนตนหนึ่งอาศัยอยู่ เรียกกันว่า “ยักษิณี” (Yakhsni) ชาวบ้านนั้นได้รับความเดือดร้อนจากยักษ์ตนนี้ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากนักบวชที่ผ่านทางมาและนักบวชก็ได้ตรึงนางยักษิณีตนนี้ไว้ที่ก้อนหินเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านชมป้อมปราการคาร์โปโช (Kharpocho Fort) ซึ่งเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 บนชะง่อนหินหน้าผาสูง และเป็นป้อมปราการที่ไว้ป้องกันเมืองสการ์ดู ป้อมแห่งนี้ได้ถูกทำลายในช่วงการเข้ายึดครองของจักรวรรดิโมกุล แต่ยังคงความแข็งแกร่งและตั้งตระหง่านมาจนปัจจุบัน นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการหินแห่งนี้
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักShangri La Resort Skardu****  หรือเทียบเท่า 
วันที่ 7สการ์ดู – อิสลามาบัด - ลาฮอร์ 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
10.00 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินสการ์ดู
12.55 น.ออกเดินทางสู่เมืองอิสลามาบัด โดยเที่ยวบิน PK452 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชั่วโมง)
13.55 น.เดินทางถึงสนามบิน อิสลามาบัด
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางกลับ สู่ เมืองลาฮอร์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง)  มีภาษิตปัญจาบโบราณกล่าวไว้ว่า “ผู้ใดไม่เคยเห็นเมืองลาฮอร์ ผู้นั้นก็เหมือนยังไม่ได้เกิดมา” ในความหมายที่ว่า ความยิ่งใหญ่และงดงามของเมืองลาฮอร์นั้น จำเป็นต้องมาเห็นด้วยตาให้ได้สักครั้งในชีวิต ลาฮอร์ เมืองหลวงของแคว้นปัญจาบ ปากีสถาน และมหานครที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ เมื่อพูดถึงลาฮอร์แล้ว บ้างอาจนึกถึงพิธีสวนสนามระหว่างทหารปากีสถานและอินเดีย ที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนของประเทศทั้งสอง บ้างก็อาจนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นป้อมลาฮอร์ (Lahore Fort) หรือมัสยิดแบดชาฮิ และบ้างก็อาจนึกถึงลาฮอร์ในแง่ที่ครั้งหนึ่ง เมืองๆ นี้เคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโมกุลอันยิ่งใหญ่ ที่มีจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าอักบาร์มหาราช จักรพรรดิชาห์ชะฮัน (พระองค์เดียวกับที่ทรงสร้างทัชมาฮาลนั่นแหละครับ) และออรังเซพผู้มั่งคั่ง ต่างเคยพำนักอยู่ที่นี่

ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักPearl Continental Hotel , Lahore*****  หรือเทียบเท่า 
วันที่ 8ลาฮอร์ - กรุงเทพมหานคร
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมมัสยิดวาซิรข่าน (Wazir Jhan Masjid) เป็นอีกหนึ่งมัสยิดจากสถาปัตยกรรมโมกุลที่สามารถพบได้ในเมืองลาฮอร์ ขึ้นชื่อเรื่องความงามของงานดินเผาเคลือบลงสีและงานกระเบื้องแบบกาชาน จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองลาฮอร์ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของเมือง


นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลาฮอร์ (Lahore Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถาน ภายในจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมาย ซึ่งมีห้องแสดงโชว์หลายห้อง จาก คันทราราฎษ์ GANDHARA, ศาสนาพุทธ BUDDHIST, เจน JAIN, โมกุล MOGUL และ สมัยอาณานิคม พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุด คือพระพุทธรูปปางทุกข์กริยาของพระพุทธเจ้า (สิทธัตถะ) ก็ถูกแสดงอยู่ที่นี่


จากนั้นนำท่านเข้าชมสุเหร่าบัดซาฮิ (Badshahi Mosque) หรือ สุเหร่าหลวง (Royal Mosque) ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้านหน้าของสุเหร่าเป็นลานกว้าง มีหอสวดมนต์ที่จุคนได้ราวสองพันคน ลานกว้างของมัสยิดนี้จุคนได้ราวห้าหมื่นคน สุเหร่าบัดซาฮิถูกปล่อยให้รกร้างเกือบ 100 ปีและได้รับการบูรณะให้อยู่ในสภาพที่เห็นในปี พ.ศ. 2503 ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 จะเสด็จประพาสสุเหร่าแห่งนี้ในอีกสองปีต่อมา

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลาฮอร์ (Lahore Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศปากีสถาน ภายในจัดแสดงสิ่งของทางประวัติศาสตร์ที่มีค่ามากมาย ซึ่งมีห้องแสดงโชว์หลายห้อง จาก คันทราราฎษ์ GANDHARA, ศาสนาพุทธ BUDDHIST, เจน JAIN, โมกุล MOGUL และ สมัยอาณานิคม พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงที่สุด คือพระพุทธรูปปางทุกข์กริยาของพระพุทธเจ้า (สิทธัตถะ) ก็ถูกแสดงอยู่ที่นี่

ได้เวลานำท่านเข้าชมมัสยิดวาซิรข่าน (Wazir Jhan Masjid) เป็นอีกหนึ่งมัสยิดจากสถาปัตยกรรมโมกุลที่สามารถพบได้ในเมืองลาฮอร์ ขึ้นชื่อเรื่องความงามของงานดินเผาเคลือบลงสีและงานกระเบื้องแบบกาชาน

จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองลาฮอร์ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของเมือง

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
20.30 น.นำท่านเดินทางสู่สนามบินลาฮอร์
23.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน TG346 (ใช้เวลาบินประมาณ 5 ชั่วโมง)
วันที่ 9 กรุงเทพฯ
06.10 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ95,000 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ87,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ18,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ95,000 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ87,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ18,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ95,000 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ87,000 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ18,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ15,000 บาท

เงื่อนไขในการจอง

  •  สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง กรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กก. , กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TG / PK (กระเป๋าเดินทาง 1 ใบ น้ำหนัก ไม่เกิน 20 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน,ค่าภาษีน้ำมัน,ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
  • ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ (ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)
  • ค่าภาษีในทุกประเทศ (ประเทศตามระบุในโปรแกรมทัวร์)
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • ค่าวีซ่าปากีสถาน
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ

งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอน

งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

- แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%

- ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100%

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม

  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน การนัดหยุดงาน การประท้วง ภัยธรรมชาติ การก่อจราจล อุบัติเหตุ ปัญหาการจราจร ฯลฯ หรือสถานการณ์อื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฎิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฎิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน)เดินทางกับคณะ บริษัทฯสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฏิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น

2. หลักฐานการได้รับวัคซีนครบโดส (สำเนาวัคซีนพาสปอร์ต หรือ Certificate Vaccine)

3. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 ซ.ม. จำนวน 3 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา

4. สำเนาทะเบียนบ้าน และ สำเนาบัตรประชาชน

กรุณาสแกนพาสปอร์ต และ รูปถ่าย (แสกนสี) ส่งให้ทางบริษัท เพื่อทำการขอวีซ่าออนไลน์


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy