วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - ย่างกุ้ง - หงสาฯ - เจดีย์ไจ้ปุ่น - พระราชวังบุเรงนอง - เมืองไจ้โท - พระธาตุอินทร์แขวน (รวมกระเช้า+รถขึ้นพระธาตุ) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
07.30 น. | คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 6 สายการบินเมียนมาร์ แอร์เวย์ (8M) เคาท์เตอร์ N1-4 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทาง |
10.40 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองย่างกุ้ง โดยเที่ยวบินที่ 8M336 สายการบินเมียนมาร์ แอร์เวย์ (8M) |
11.25 น. | ถึง สนามบินมิงกลาดง เมืองย่างกุ้ง ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร (เวลาท้องถิ่นที่เมียนม่าร์ ช้ากว่าประเทศไทยครึ่งชั่วโมง) นำท่านเดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุด ของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่และอายุมากกว่า 400 ปี อยู่ห่างจากย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) นำท่านนมัสการ พระพุทธรูปไจ้ปุ่น เป็นพระเจดีย์ที่มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ทั้ง 4 ด้านอายุกว่า 500 ปี หันพระพักตร์ไปยัง 4 ทิศ สร้างขึ้นโดย 4 สาวพี่น้องที่อุทิศตนแด่พุทธศาสนาจึงสร้างพระพุทธรูปเพื่อแทนตนเอง และได้สาบานไว้ว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ ต่อมาน้องสาวคนสุดท้อง กลับพบรักกับชายหนุ่มและแต่งงานกัน จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของน้องสาวคนสุดท้องพังทลายลงมา และมีการบูรณะขึ้นมาใหม่จึงทำให้พระพุทธรูปองค์นี้จะมีลักษณะ แตกต่างจากองค์อื่นๆ นำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของไทย คือ บริเวณที่เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 แต่ได้ถูกทำลายด้วยฝีมือของพวกยะไข่กับตองอูในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ในปี พ.ศ. 2142 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึก เมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองไจ้โท แห่งรัฐมอญ ระหว่างทางท่านจะข้ามผ่านชม แม่น้ำสะโตง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ซึ่งในอดีตขณะที่สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยาได้ถูกทหารพม่าไล่ตามหลังมาซึ่งนำทัพโดยสุรกรรมาเป็นทัพหน้า พระมหาอุปราชาเป็นทัพหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนต้นคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมาแม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นเช่นนั้นจึงขวัญเสียและถอยทัพกลับกรุงหงสาวดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30-3 ชั่วโมง ก็จะถึง คิ้มปูนแค้มป์ เพื่อทำการเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่น (รถบรรทุกหกล้อขนาดเล็กเป็นรถประจำเส้นทางชนิดเดียวที่เราจะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-45 นาที จากนั้น ให้ท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการ ขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนโดยการนั่งกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที บนกระเช้าท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและวิวที่สวยงามของการเดินทางสู่ยอดเขาในอีกรูปแบบนึง **หมายเหตุ กรณีที่กระเช้าปิดทำการเนื่องจากสภาพอากาศ หรือเหตุอื่นใดก็ตามที่ทางบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ขอสงวนสิทธิ์ในการเดินทางขึ้นสู่พระธาตุฯโดยรถหกล้อแทน และขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี จากนั้นท่านจะต้องเดินเท้าเพื่อเข้าสู่ที่พัก ให้ท่านอิสระตามพักผ่อนตามอัธยาศัย นำท่านนมัสการ เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ก้อนหินทอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งสิ่งสักการะสูงสุดของชาวพม่า เป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทองที่วางหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผา แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป ตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนาพระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็นพระธาตุปีเกิดของปีจอแทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้งผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน (พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุภาพบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น. ส่วนสุภาพสตรี สามารถอธิฐาน และฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวน) |
ค่ำ | รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นท่านสามารถขึ้นไปนมัสการหรือนั่งสมาธิที่พระเจดีย์ได้ตลอดทั้งคืน |
พักที่ | KYAIKHTO HOTEL // YOE YOE LAY HOTEL ระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | พระธาตุอินทร์แขวน - หงสาวดี - วัดไจ๊ทะวาย - พระธาตุมุเตา - พระนอนชเวตาเลียว - ย่างกุ้ง - ตลาดสก๊อต - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม ** อิสระให้ท่านทำบุญตักบาตรตามอัธยาศัย สำหรับอาหารที่จะใส่บาตรสามารถซื้อได้โดยจะมีร้านค้าจำหน่าย ราคาอาหาร ประมาณ 3,000 จ๊าต ดอกไม้ธูปเทียน ประมาณ 300-500 จ๊าต** นำท่านลงจากพระธาตุอินทร์แขวน โดยรถบรรทุกหกล้อขนาดเล็กถึง คิ้มปูนแค้มป์ เปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ นำท่านร่วม ทำบุญตักบาตร ณ วัดไจ้คะวาย ซึ่งเป็นวัดสำคัญมีพระสงฆ์ จำพรรษากว่า 500 รูป อีกทั้งวัดนี้ยัง เป็นสถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกของพระภิกษุและสามเณรอีกด้วย (หมายเหตุ: ท่านสามารถนำสมุด ปากกา ดินสอไปบริจาคที่วัดแห่งนี้ได้ หากท่านใดไม่สะดวกสามารถถวายเป็นปัจจัยได้เช่นกัน) จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ชเว-มอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี พระเจดีย์องค์นี้ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆด้าน เก่าแก่กว่า 2,600 ปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของชาวพม่า นำท่านนมัสการ ยอดเจดีย์หัก ซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก (ณจุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถนำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคลซึ่งเปรียบเหมือนดั่งค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป) ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 114 เมตร สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 14 เมตร มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยงคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์-สิทธ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน จากนั้นนำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว กราบนมัสการ พระพุทธรูปนอนที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า อีกทั้งท่านสามารถที่จะเลือกหา เครื่องไม้แกะสลัก ที่มีให้เลือกมากมาย ตลอดสองข้างทางและยังสามารถเลือกซื้อ ของฝาก อาทิเช่น ผ้าพม่า ของที่ระลึกต่างๆ ในราคาถูก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (พิเศษ !!! เมนู กุ้งเผา) |
บ่าย | จากนั้นนำทุกท่านเดินทางกลับเมืองย่างกุ้ง จากนั้นให้ท่าน อิสระช้อปปิ้ง ณ ตลาดสก๊อต เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด งานแกะสลักจากไม้ อัญมณี หยก ผ้าทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น (หากซื้อสิ้นค้าหรืออัญมณีที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากจะต้องแสดงให้ศุลกากรตรวจ หมายเหตุ:ตลาดสก๊อต (Scot Market) ปิดทุกวันจันทร์) นำท่านนมัสการ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง (ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง) แห่งลุ่มน้ำอิระวดี เจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน มหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคำโอบหุ้มอยู่เป็นน้ำหนักถึง 1100 กิโลกรัม ยอดฉัตรประดับประดาด้วยเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่า กว่า 5,548 เม็ด รวมถึงทับทิม ขนาดเท่าไข่ไก่บนยอดองค์พระเจดีย์ชเวดากองเป็นลานกว้างรองรับแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนได้จำนวนมาก บริเวณทางขึ้นทั้งสี่ทิศจะมีวิหารโถงสร้างด้วยเครื่องไม้หลังคาทรงปราสาทปิดทองล่องชาดประดับกระจกทั้งหลัง ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา เพราะชาวมอญและชาวพม่าถือการกราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากองเป็นนิตย์ จะนำมาซึ่งบุญกุศลอันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล บ้างนั่งทำสมาธิเจริญสติภาวนานับลูกประคำ และบ้างเดินประทักษัณรอบองค์เจดีย์ จากนั้นให้ท่าน ชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตร โดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีน้ำเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น (สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต) |
ค่ำ | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ !!! สลัดกุ้งมังกร + เป็ดปักกิ่ง |
พักที่ | BEST WESTERN HOTEL ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ย่างกุ้ง - เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - พระนอนเจ๊าทัตจี - พระพุทธรูปหงาทัตจี - เจดีย์กาบาเอ (พิธีเทิญพระธาตุ) - สนามบินย่างกุ้ง - สุวรรณภูมิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านกราบนมัสการ เจดีย์โบตาทาวน์ ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่พระสงฆ์อินเดีย 8รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์ นำท่านขอพร เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย นัตโบโบยี ก็คือ "นัต" หรือวิญญาณเทพผู้คุ้มครองสถานที่ตามความเชื่อของชาวพม่า โดยเทพที่จะถูกจัดว่าเป็น "นัต" นั้น มักจะเป็นคนที่เคยสร้างความดี หรือมีวีรกรรมน่าประทับใจ และมาตายลงด้วยเหตุร้ายแรงที่เรียกว่า ตายโหง ทำให้วิญญาณยังมีความห่วงใยในภาระหน้าที่บ้านเมือง และยังคงผูกพันกับผู้คนเบื้องหลัง ทำให้ไม่อาจไปเกิดใหม่ได้ จึงกลายเป็นนัตที่มาคอยคุ้มครองรักษาบ้านเมือง หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระเจดีย์องค์สำคัญ
นำท่านข้ามฝั่งถนน สักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้ นำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน ซึ่งเป็นพระพุทธไสยาสน์องค์ขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 6 ชั้น ยาวกว่า 70 เมตร ใช้โครงเหล็กกั้นถึง 65 เมตร มีหลังคาคลุม 6 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี 1907 ถูกยกย่องให้เป็นพระนอนที่มีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดในพม่า ด้วยพระพักตร์ที่งดงามเปื้อนยิ้ม ดวงตาทำจากลูกแก้วที่สั่งผลิตจากต่างประเทศ ทาขอบตาด้วยสีฟ้าและมีขนตาหนายาวทำให้ดวงตาดูหวาน จนถูกเรียกพระนามอีกชื่อคือ “ พระตาหวาน ” บริเวณพระบาทมีภาพวาดลายธรรมจักร ตรงกลางฝ่าพระบาทล้อมรอบด้วยรูปมงคล 108 ประการ ที่แสดงถึงอากาศโลก สัตว์โลก และสังขารโลก อีกทั้งจีวรยังมีลักษณะพริ้วไหวสมจริงและตรงชายประดับด้วยอัญมณีแวววาว ถือเป็นพุทธศิลป์ที่มีความงดงามทรงคุณค่า นำท่านนมัสการ พระพุทธรูปหงาทัตจี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามตามแบบฉบับศิลปะของพม่า มีความสูงประมาณ ตึก 5 ชั้น เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังจะเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมด และสลักป็นลวดลายต่างๆ จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง(สมัยมัณฑเลย์) ซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ชาบูบุฟเฟ่ต์ |
บ่าย | จากนั้นนำท่านชม เจดีย์กาบาเอ เป็นเจดีย์ทรงกลม สูง 34 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี 1952 เพื่อทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 เป็นเจดีย์ที่มีความสวยงามและแปลกตา ภายในบรรจุพระอัฐิธาตุของพระอัครสาวกแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร จะมีทางเข้าทั้งหมดห้าด้าน ทุกด้านมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนฐานทักษิณ มีพระพุทธรูปหุ้มด้วยทองคำองค์เล็กๆอีก 28 องค์ แทนอดีตสาวกของพระพุทธเจ้าทั้ง 28 องค์ ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้ ส่วนพระพุทธรูปองค์พระประธานที่อยู่ข้างในหล่อด้วยเงินบริสุทธิ์มีน้ำหนัก กว่า 500กิโลกรัม และ เข้าร่วมพิธีเทินพระธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคล ได้เวลาอันสมควรนำท่าน เดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย |
16.30 น. | เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ 8M331 สายการบินเมียร์มาร์ แอร์เวย์ |
18.15 น. | ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ และประทับใจในบริการ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel