วันที่ 1 | กรุงเทพ ฯ - จังหวัดน่าน |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.30 น. | จุดนัดพบ : Big C Extra ลาดพร้าว ซอย 7 (คลิกดูแผนที่) ออกเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ VIP รุ่นใหม่ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดน่าน |
20.00 น. | ล้อหมุน !! หากมาช้าเกินกว่านี้ ท่านจะตกทริป และไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น |
วันที่ 2 | น่าน - อุทยานแห่งชาติศรีน่าน - ดอยเสมอดาว - วัดมิ่งเมือง - วัดภูมินทร์ - วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน - วัดหนองบัว - อ.ปัว - ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ - ร้านลำดวนผ้าทอ - วัดภูเก็ต - วัดศรีมงคล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.00 น. | เดินทางถึง จังหวัดน่าน แวะให้ท่านทำภาระกิจส่วนตัวตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ ดอยเสมอดาว นอกจากนี้ท่านยังสามารถชม ผาหัวสิงห์ ได้ในเวลาเดียวกันอีกด้วย |
07.30 น. | บริการอาหารเช้า (1) ณ ห้องอาหารของรีสอร์ท หลังอาหารนำท่านเดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองน่าน |
09.30 น. | เดินทางถึง ตัวเมืองน่าน นำท่านเดินทางไปยัง วัดมิ่งเมือง เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน วัดมิ่งเมือง เดิมเป็นวัดร้างมีเสาหลักเมืองที่เป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ พบที่ซากวิหารในราวปี 2400 เจ้าอนันตวรฤทธิเดชเจ้าครองนครน่า สถาปนาวัดใหม่ และตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อที่เรียกเสาหลักเมืองว่าเสามิ่งเมือง ต่อมาปี 2527 ได้มีการรื้อถอนและสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็นแบบล้านนาร่วมสมัยแบบในปัจจุบัน ลักษณะเด่นคือ ฃลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอกของพระอุโบสถ มีความสวยงามวิจิตรบรรจงมากเป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตรงดงามมากภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวเมืองน่านฝีมือช่างท้องถิ่นยุคปัจจุบัน และในบริเวณวัดยังเป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองซึ่งอยู่ในศาลาจตุรมุขด้านหน้าพระอุโบสถเสาหลักเมืองสูงประมาณ 3 เมตร ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทองยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อเมตตากรุณามุทิตาอุเบกขา |
เช้า | นำชมจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามของ วิหารจตุรทิศภายใน วัดภูมินทร์ Unseen In Thailand และนมัสการ พระประธานจตุรทิศ เพื่อความเป็นสิริมงคล นำท่านเดินทางไป นมัสการ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ที่ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร นำท่านชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ชมงาช้างดำ สัญลักษณ์แห่งเมืองน่าน |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (2) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำคณะทัวร์เดินทางไปยัง อ.ปัว |
บ่าย | นำท่านไปชมหมู่บ้านไทลื้อ ที่บ้านหนองบัว อ.ท่าวังผา ซึ่งอพยพมาจากสิบสองปันนาเลือกซื้อผ้าทอพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง ชมจิตรกรรมไทลื้ออันงดงามภายในวิหาร วัดหนองบัว นำท่านไปเลือกซื้อเครื่องเงินที่ผลิตจากโรงงานทำเครื่องเงินที่ อ.ปัว นำท่านไปจิบเครื่องดื่มกาแฟ และจิบบรรยากาศสไตล์ไทลื้อพื้นบ้าน ที่ ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ของ ร้านลำดวนผ้าทอ เป็นอีกหนึ่งร้านเก๋ไก๋ติดริมนาข้าวแฝงไปด้วยบรรยากาศแบบไทลื้อดั้งเดิมเมื่อได้เห็นต้องร้องว๊าว!! น่าซื้อเครื่องดื่มซักแก้วไปนั่งเล่นนอนเล่นรับลมเย็นมองดูวิวนาข้าวและขุนเขาที่อยู่เบื้องหน้าพร้อมถ่ายภาพเช็คอินเก๋เก๋ยังกระท่อมปลายนาในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร นำท่านชม วัดภูเก็ต ชมวิหารทรงล้านนาประยุกต์ และภาพจิตรกรรมแนวร่วมสมัย 3 มิติ ที่แสดงวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และภาพพุทธประวัติได้อย่างวิจิตรตระการตาและไฮไลท์ของวัดภูเก็ต คือ ลานชมวิวหน้าอุโบสถ ท่านจะได้เห็นทุ่งนาเป็นภาพมุมกว้าง และมีอุทยานแห่งชาติดอยภูคาเป็นฉากหลัง วัดภูเก็ต ได้ตั้งชื่อตามหมู่บ้านเก็ต แต่เนื่องด้วยเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินสูง จึงตั้งชื่อว่า "วัดภูเก็ต" หมายถึง วัดบ้านเก็ตที่อยู่บนภู เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดน่าน มีอุโบสถทรงล้านนาประยุกต์ จิตรกรรมฝาผนังสามมิติ เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อแสนปัว หรือ หลวงพ่อพุทธเมตตา" ที่ศักดิ์สิทธิ์ ด้านล่างวัดมีแม่น้ำไหลผ่าน นักท่่องเที่ยวสามารถให้อาหารจากลานข้างบนผ่านท่อไหลลงไปให้กับฝูงปลาได้ และสามารถมองเห็นฝูงปลาที่อยู่ด้านล่างได้อย่างชัดเจน นำท่านเดินทางไป วัดศรีมงคล (ก๋ง) ไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ชมพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี เรือนไทยล้านนาประยุกต์ จิบกาแฟ ชมวิวดอยภูคา และทุ่งนาเขียวขจี สนุกสนานกับมุมถ่ายรูปเก๋ๆ วัดศรีมงคล (ก๋ง) เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2395 พระสงฆ์ที่มีชื่อที่สุดของวัดนี้คือ หลวงปู่ก๋ง ด้านหลังวัดมีลานชมวิว ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงาม มองเห็นทุ่งนาเขียวขจีและทิวเขาของดอยภูคาเรียงราย สลับซับซ้อนโดยบริเวณลานชมวิวทางวัดได้จัดทำเป็นซุ้มและจุดชมวิวให้ถ่ายภาพหลายจุด รวมถึงร้านกาแฟบรรยากาศไทยๆ ให้พักผ่อนหย่อนใจ ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจทั้งวิหารหลวงที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามโดยเลียนแบบการวาดของหนานบัวผัน จิตรกรชาวน่านเชื้อสายไทลื้อ ซึ่งวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และวัดหนองบัวของจังหวัดน่านรวมถึงพิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี ซึ่งรวมรวมของโบราณต่างให้ได้ชม นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์มงคลธรรมรังสี เรือนไทยล้านนาประยุกต์ ตัวเรือนใช้ไม้สักทองทั้งหมด งามสง่าเห็นมาแต่ไกล ที่รวบรวมเอาเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยโบราณมาจัดให้ชม อาทิ อุปกรณ์ที่ใช้ทำมาหากินของคนโบราณ ใบเกิด หรือใบสูติบัตรที่จารึกลงในใบลาน รวมถึงเครื่องเงินต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภาพของหลวงปู่ครูบาวัดก๋ง และพระเกจิชื่อดังต่างๆ |
เย็น | บริการอาหารเย็น (3) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารเดินทางกลับที่พักระดับมาตรฐาน อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 3 | อ.ปัว - น่าน - เฮือนฮังต่อ - พระธาตุแช่แห้ง - วัดพระธาตุเขาน้อย - แพร่ - คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ - วัดพงษ์สุนันท์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ด้วยอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น เย็นสบาย รับประทานอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารเก็บสัมภาระ เช็คเอ้าท์ นำคณะทัวร์ออกเดินทางสู่ ตัวเมืองน่าน |
09.30 น. | เดินทางถึง ตัวเมืองน่าน เฮือนฮังต่อ ได้รวบรวมเมล็ดกาแฟจากแหล่งปลูกที่มีชื่อเสียงของน่าน ไม่ว่าจะเป็น |
เช้า | นำคณะทัวร์เดินทางไปไป นมัสการพระธาตุประจำปีเกิด ปีเถาะ พระธาตุแช่แห้ง นำท่านไปยัง วัดพระธาตุเขาน้อย แลนมาร์คสำคัญของจังหวัดน่าน วัดพระธาตุเขาน้อย เป็นปูชนียสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งที่อยู่บนดอยเขาน้อย มีขั้นบันไดนาค 303 ขั้นให้เดินขึ้นไปหากใครไม่อยากเดินขึ้นก็สามารถขับรถขึ้นถึงตัววัดได้เช่นกัน นำคณะไปนมัสการพระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบเมื่อวันที่5 ธันวาคมพ.ศ. 2542 สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางไปยัง วัดศรีพันต้น ชมวิหารที่สวยงามตั้งเด่นเป็นสง่ามีสีทองระยับเป็นอีกวัดหนึ่งในจังหวัดน่านที่มีจิตรกรรม |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (5) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำคณะทัวร์เดินทางไปยัง จังหวัดแพร่ |
15.00 น. | เดินทางถึง จังหวัดแพร่ นำคณะทัวร์เดินทางไปยัง คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ คุ้มแห่งนี้เป็นอาคารโอ่โถง มีประตูหน้าต่างทั้งหมด 72 บานงดงามด้วยลวดลายฉลุไม้อยู่ด้านบนปั้นลมและชายคาน้ำเป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ยุคต้นซึ่งมีรูปทรงเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรปถือเป็นอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งเรือนเก่าในเมืองแพร่ที่ไม่ควรพลาดแวะมาเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่แห่งนี้ นำท่านชม วัดพงษ์สุนันท์ วัดพงษ์สุนันท์ ซึ่งภายในวัดมีพระนอนสีทองอร่ามอยู่ริมกำแพงเป็นสัญลักษณ์ของวัดใกล้กับซุ้มประตูมงคล 19 |
เย็น | บริการอาหารเย็น (6) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำท่านเข้าที่พักระดับมาตรฐาน อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 4 | แพร่ - วนอุทยานแพะเมืองผี - บ้านทุ่งโฮ้ง - วัดพระธาตุช่อแฮ - พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง - พระธาตุสุโทนมงคลคีรี - อุตรดิตถ์ - อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก - พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองลับแล - วัดพระแท่นศิลาอาสน์ - พิษณุโลก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า (7) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารเก็บสัมภาระ เช็คเอ้าท์ |
เช้า | นำท่านเดินทางไป วนอุทยานแพะเมืองผี ซึ่งถ้าใครมาแพร่แล้วไม่มาแพะเมืองผีถือว่ายังมาไม่ถึง แพะเมืองผี เป็นภาษาพื้นเมือง “แพะ” แปลว่าป่าละเมาะ “เมืองผี” แปลว่าเงียบเหงาวังเวงเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกการถล่มของหน้าดินทำให้มีลักษณะแปลกแตกต่างกันไปบ้างดูคล้ายดอกเห็ด หน้าผาและเสาหิน อิสระให้ท่านเดินชมปรากฏการณ์พร้อมเก็บภาพตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางไป ซื้อหม้อห้อม ที่ บ้านทุ่งโฮ้ง เมืองแพร่ อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางไปนมัสการพระธาตุช่อแฮ ณ วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่และเป็นพระธาตุประจำปีขาล นำท่านเดินทางไปนมัสการพระธาตุอินทร์แขวนจำลอง ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยารามพุทธ อุทยานดอยผาสวรรค์เฉลิมพระเกียรติ ร.9 เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีจอ นอกจากจะได้สักการบูชาพระธาตุอินทร์แขวนจำลองแล้วยังจะได้สัมผัส องค์พระผุด ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาโพธิวงศาจริยารามพุทธอุทยานดอยผาสวรรค์เฉลิมพระเกียรติร.9 อ.เมือง จ.แพร่ วัดนี้ยังตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาธรรมชาติที่เป็นแหล่งโอโซนติดอันดับ 7 ของประเทศไทย มาไหว้พระขอพรแล้ว ยังจะได้สูดอากาศชั้นดีช่วยชาร์จพลังชีวิต ภายในพุทธอุทยานมีเดินทางขึ้นไปนมัสการพระธาตุอินทร์แขวนประมาณ 200 เมตรเป็นขั้นบันไดและบางช่วงเป็นทางซีเมนต์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน ได้แก่ พระพุทธชยันตรีมหัศจรรย์รอยพระพุทธบาท ถ้ำศิลาบรรณคูหา ซึ่งมีร่องรอยของสมบัติของคนโบราณพระพุทธรูป นำท่านเดินทางไป นมัสการพระธาตุสุโทนมงคลคีรี หรือ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม เป็นวัดที่รวบรวมศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ภาพจิตรกรรมบนฝาผนังระเบียงคตเป็นเรื่องราวของชาดกพื้นบ้านและภาพพุทธประวัติในบริเวณวัดมีเจดีย์ทรงล้านนากว่า 30 องค์ ด้านหน้าบันไดทางขึ้นทิศตะวันออกมีรูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่และพระนอนองค์ใหญ่โดดเด่นอยู่ด้านหน้าวัดนอกจากนี้ยังมีอาคารพิพิธภัณฑ์ไม้สักทรงล้านนาที่เก็บรวบรวมเรื่องราวของล้านนาและเมืองแพร่จัดแสดงเครื่องใช้อาวุธของนักรบโบราณรวมทั้งภาพถ่ายของเจ้านายฝ่ายเหนือและภาพเหตุการณ์ต่างๆในล้านนา |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (8) ณ ร้านอาหาร หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดอุตรดิตถ์ |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปกราบสักการะ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ตามประวัติ พระยาพิชัยหรือทองดี เกิดในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยามีความสามารถในชั้นเชิงทั้งมวยและดาบต่อมาได้เข้ารับราชการกับเจ้าเมืองตาก (สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี) คอยปราบข้าศึกที่มารุกราน(ประวัติโดยย่อเท่านั้น) และได้ต่อสู้กับกองทัพพม่าที่ยกเข้ามาตีเมืองพิชัยจนกระทั่งดาบซึ่งใช้ในการรบหัก (พ.ศ.2316) แต่ก็สามารถป้องกันเมืองเอาไว้ได้ (จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาพิชัยปกครองเมืองพิชัยที่เป็นบ้านเกิด) หลังจากนั้นชาวบ้านจึงได้สดุดีวีรกรรมของท่านและสร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญองอาจรักชาติและความเสียสละ นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักระยะห่างประมาณ 1-200 เมตร ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกสองแห่งที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์พระยาพิชัยดาบหัก พิพิธภัณฑ์ดาบเหล็กน้ำพี้ (ใหญ่ที่สุดในโลก) นำท่านเดินทางไปยัง อำเภอ ลับแล นำชม พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติของเมืองวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองลับแล โดยจำลองผ่านเรือนในแต่ละหลังอาทิ สะพานไม้เข้าหมู่บ้านจัดแสดงเครื่องปั่นฝ้ายกี่ทอผ้าขนาดใหญ่บ่งบอกถึงวิถีการทอผ้าของสาวเมืองลับแลและในปัจจุบันอำเภอลับแลยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตถกรรมเช่น ผ้าตีนจก ไม้กวาด ติดอันดับของประเทศ เครื่องสีข้าวโบราณและยุ้งฉาง แสดงให้เห็นอาชีพเกษตรกรรมของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เรือนการทำอาหารชาวลับแลหรือคนไทยภาคเหนือส่วนใหญ่นิยมทำอาหารบนเรือนและอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองลับแลคือหมี่พัน นำท่านเดินทางไปยัง วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ตั้งอยู่ใน ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ วัดพระแท่นศิลาอาสน์ คือ พระแท่นศิลาอาสน์ ที่อยู่ภายในพระวิหารของวัดตามตำนานกล่าวว่า พระแท่นศิลาอาสน์ไม่มีปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างขึ้นแต่เชื่อกันว่าเคยเป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์เสด็จมาบำเพ็ญเพียรฉันอาหารและบิณฑบาต องค์พระแท่นประดิษฐานอยู่ในพระวิหารบนเนินสูง ถือกันว่าเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์และโบราณสถานอันเก่าแก่ของไทยมีลักษณะเป็นพระแท่นศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกว้าง 8 ฟุตยาว 9 ฟุต 8 นิ้วสูง 3 ฟุต เดิมเป็นพระแท่นศิลาแลงเปล่าๆไม่มีมณฑปและไม่มีวิหาร จากนั้นได้มีพระมหากษัตริย์ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์มาตลอด เช่นพระเจ้าลิไท แห่งกรุงสุโขทัย สมเด็จพระเจ้าบรมโกศ แห่งกรุงศรีอยุธยาและสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี จนถึงปีพ.ศ.2451 ได้เกิดไฟป่าไหม้พระมณฑปและวิหารเหลืออยู่แต่เพียงศิลาแลง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานมณฑปและวิหารที่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดพิษณุโลก |
เย็น | บริการอาหารเย็น (9) ณ ร้านอาหาร หลังอาหาร |
วันที่ 5 | พิษณุโลก - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า (10) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารเก็บสัมภาระ เช็คเอ้าท์ นำท่านออกเดินทางไป วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ไหว้ขอพรพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อใหญ่ เพื่อความเป็นสิริมงคล วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นวัดสำคัญของจังหวัดพิษณุโลกเมืองสองแควแห่งนี้ เพราะอยู่คู่บ้านคู่เมืองมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัยนอกจากจะไปไหว้พระพุทธชินราชแล้ว ยังสามารถเดินไปบริเวณด้านหลังวิหารเพื่อไปสักการะพระอัฏฐารส พระพุทธรูปยืนปางซึ่งในอดีตเคยประดิษฐานในวิหารใหญ่แต่ปัจจุบันตัววิหารนั้นได้พังลงไป จะเหลือให้เห็นก็เพียงแค่เสาศิลาแลง นั่นเองแต่ถึงแม้ว่าจะพังลงไปแล้วความสวยงามความศรัทธานั้นก็ยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยมเช่นเคย นำท่านเดินทางไปยัง เขาสมอแคลง วัดจีนขนาดใหญ่โรงเจไซทีฮุกึ้งที่ได้รับการเรียกว่าเป็นดอยสุเทพ 2 เขาสมอแคลง เป็นสถานที่ยอดนิยมของคนพิษณุโลก เพราะที่วัดมีจุดสวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนจุดชมวิวมุมสูงที่กราบไว้บูชาตามความเชื่อนอกจากนี้ยังมีโรงเจไซทีฮุกตึ้ง ทานได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายทั้งได้บุญและยังอิ่มท้องแถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆไว้เช็คอินอีกด้วยใครมองหาที่เที่ยวมุมสวยสวยๆ วิวดีๆ บรรยากาศเย็นๆ ที่นี่ใช่เลย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (11) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยัง น้ำตกแก่งโสภา |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปยัง น้ำตกแก่งโสภา น้ำตกแก่งโสภา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่มี 3 ชั้น สูงกว่า 40 เมตร สวยงามจนได้ชื่อว่าเป็น ไนแองการาเมืองไทย ในช่วงฤดูฝนนั้นน้ำจะค่อนข้างมากเวลาเดินจะต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควรเพราะน้ำค่อนข้างเชี่ยว ไม่ควรเดินออกนอกเส้นทาง แต่ถ้าไปช่วงฤดูน้ำน้อย จะสามารถมองเห็นแผ่นหินได้ชัดเจนทั้งสวยงามและยังเดินได้ง่าย นอกเหนือจากน้ำตกบริเวณโดยรอบยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอยู่มากทั้งต้นไม้ แมลง นก ยังมีอาศัยอยู่ในพื้นที่ให้เราได้ไปสอดส่องกันได้ นำท่านเดินทางไปยัง เนินมะปราง เนินมะปราง เป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก ออกไปเกือบ 70 กิโลเมตร แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยวเป็นประจำด้วยความน่ารักของอำเภอแห่งนี้นั่นเอง เสน่ห์ของอำเภอเนินมะปรางนั้นอยู่ตรงที่ธรรมชาติ เพราะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวสบายตา ยังไม่รวมถึงภูเขาหินปูนอายุกว่า 300 ล้านปี ถ้ำค้างคาว ถ้ำผาท่าพล และที่พลาดไม่ได้ไฮไลท์ของอำเภอแห่งนี้ก็คือ ชิงช้าบนต้นไม้รูปหัวใจ ที่บ้านรักไทยโฮมสเตย์ ที่ถึงแม้ว่าไม่ได้พักก็สามารถมาทำกิจกรรมได้ซึ่งมุมนี้ใครที่แวะเวียนมาต่างก็ต้องมานั่งไกวชิงช้ามองออกวิวข้างหน้า ซึ่งไม่ต้องบอกก็คงจินตนาการกันได้ว่าคงชิลมาก จริงๆแต่ถ้าใครไม่อยากแค่จินตนาการก็รีบไปเที่ยวเนินมะปรางกันเลยดีกว่า รับรองว่าฟินแน่นอนให้เวลาท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย |
20.00 น. | เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel