วันที่ 1 | กรุงเทพฯ(สนามบินสุวรรณภูมิ) - มัณฑะเลย์ - พุกาม - จุดชมวิวเมืองพุกาม - ชมโชว์หุ่นกระบอก |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
08.30 น. | คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ (PG) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วกรุ๊ประบบ Randomไม่สามารถล็อกที่นั่งได้ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันในคณะ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน |
12.05 น. | บินลัดฟ้าสู่เมือง มัณฑะเลย์ ประเทศพม่า โดยสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ (PG) เที่ยวบินที่ PG709 (มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
13.20 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 30 นาทีกรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองพุกาม (Bagan) ดินแดนแห่งเจดีย์หมื่นองค์ ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ของกษัตริย์อนุรุทมหาราชแห่งอาณาจักรพุกาม (ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง โดยประมาณ นำท่านขึ้นชม จุดชมวิวเมืองพุกาม ทะเลเจดีย์เมืองพุกามในมุมมอง 360 องศา ที่เจดีย์ชเวสันดอว์เจดีย์แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะเห็นวิวของเจดีย์นับพันองค์ไกลสุดลูกหูลูกตา เจดีย์แห่งนี้จะแบ่งเป็น 4 ชั้น สามารถเลือกถ่ายรูปได้ตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นบนสุดของตัวเจดีย์ เหมาะแก่การชมวิวพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พิเศษ ชมละครหุ่นกระบอก |
ที่พัก | Bagan View Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | พุกาม - เจดีย์ชเวสิกอง - วัดมนูหา - วัดอนันดา - เครื่องเขิน - วิหารธรรมยันจี - เจดีย์ติโลมินโล - มัณฑะเลย์ - สะพานไม้อูเบ็ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านชมและร่วมสักการะ เจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) 1 ใน 5 มหาสถานสิ่งศักดิ์สิทธ์ของพม่าซึ่งเป็นสถูปดั้งเดิมของพม่าโดยแท้สร้างขึ้นหลังพระเจ้าอโนรธาขึ้นครองราชย์ เพื่อใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจากพระสรีระหลายส่วนมีลักษณะเป็นสีทองขนาดใหญ่ใช้เป็นทั้งที่ประชุมสวดมนต์และศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในพุกาม จากนั้นนำท่านชม วัดมานุหะ ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ของหมู่บ้านยินกะบา สร้างโดยพระเจ้ามานุหะ เพื่อสั่งสมบุญไว้ชาติหน้าจึงได้สร้างวัดนี้ไว้ ด้วยโครงสร้างพระวิหารค่อนข้างแคบทำให้พระพุทธรูปถูกสร้างอย่างเบียดเสียดอยู่ภายใน มีพระนอนหนึ่งองค์ กับพระพุทธรูปอีกสามองค์นั่งเบียดเสียดอยู่ภายใน คล้ายราวกับว่าเป็นการสื่อถึงความคับแค้นพระทัยของท่านที่ได้ตกเป็นเชลยในครั้งนึง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นท่านชมวัดอนันดา (Ananda Temple) เป็นวัดสีขาว มองเห็นได้ชัดเจนสร้างเสร็จเมื่อปี 1091 ซึ่งวิหารแห่งนี้นับได้ว่าเป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพุกาม มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุขเด็จยื่นออกไปทั้ง 4 ด้าน แผนผังเหมือนไม้กางเขนแบบกรีกซึ่งต่อมาเจดีย์แห่งนี้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมพม่าในยุคต้นของพุกาม และสิ่งที่น่าทึ่งของวิหารแห่งนี้ก็คือ ที่ช่องหลังคาเจาะเป็นช่องเล็กๆ ให้แสงสว่างส่องลงมาต้ององค์พระ ทำให้มีแสงสว่างอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นนำท่าน แวะชมสินค้าพื้นเมืองชื่อดัง เครื่องเขิน หนึ่งในงานหัตถกรรมที่แพร่หลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเอเชียอาคเนย์ ในอดีตเครื่องเขินมีสถานภาพเป็นทั้งของใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ในพิธีกรรม ตลอดจนรูปเคารพและงานศิลปกรรม มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการใช้สอย โดยผลงานแต่ละชิ้นเป็นสินค้าที่ทำจากมือทั้งสิ้น เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวตะวันตก นำท่านชม วิหารธรรมยังยี (Dhammayangyi Temple) สร้างโดยพระเจ้านะระตู่ และพระองค์ก็เชื่อว่าเป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อล้างบาป ด้วยทรงปริวิตกว่าผลกรรมจากการกระทำปิตุฆาตจะติดตามพระองค์ไปในชาติภพหน้า ตั้งโดดเด่นยิ่งใหญ่ตระหง่านดังตำนานที่โหดร้ายได้เล่าต่อกันมา จากนั้นนำท่านชม เจดีย์ติโลมินโล เป็นวัดที่สร้างแบบก่ออิฐถือปูนบนฐานกว้างด้านละ 43 เมตร องค์เจดีย์สูง 46 เมตร ภายในวิหารมีช่องบันไดเดินขึ้นสู่ระเบียงชั้นบนได้ และวิหารแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นวิหารองค์สุดท้ายที่มีการสร้างในแบบสถาปัตยกรรมพุกาม ภายในวิหารมีพระพุทธรูป 4 องค์ที่ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองของวิหาร ภายในมีช่องแสงที่เมื่อส่องกระทบพระพุทธรูปแล้วงดงามมาก องค์พระพุทธรูปที่ประดิษฐานภายในนั้นมีความแตกต่างจากที่เห็นกัน มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่กับลวดลายปูนปั้น อันประณีตสวยงาม จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมือง มัณฑะเลย์ จากนั้นนำท่านชม สะพานไม้อูเบ็ง (U - Ben) สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง 1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบตองตามัน ของเมืองอมรปุระ |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Palace View Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | มัณฑะเลย์ - พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี - มิงกุน - ล่องแม้น้ำอิรวะดี - หมู่บ้านมิงกุน - เจดีย์มิงกุน - ระฆังมิงกุน - เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) - วัดกุโสดอว์ - พระราชวังมัณฑะเลย์ - พระราชวังไม้สักทองชเวนานจอง - กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
04.00 น. | นำท่านร่วมพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ใน พิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุนี และร่วมกันถวายผ้าจีวรแด่พระมหามัยมุนี (1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า) ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อนจะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้น้ำหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่าโดยรอบๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำอิระวดี สู่เมืองมิงกุน โดยระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ” เนื่องจากระดับน้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก ระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอน ครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำเมืองมิงกุน ในชีวิตประจำวัน โดยระหว่างการเดินทาง ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศวิถีชิวิตที่เรียบง่ายของชาวพม่าริมฝั่งแม่น้ำ เป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำอิรวดีฝั่งตะวันตก ห่างจากมัณฑะเลย์ประมาณ 11 กิโลเมตร นำท่านชม เจดีย์มิงกุน ซึ่งมีความหมายว่าเจดีย์ที่สร้างไม่เสร็จ พระเจ้าปดุงมีพระราชดำริจะสร้างเจดีย์มิงกุน หรือ “เจดีย์จักรพรรดิ” ที่ใหญ่ที่สุดและสูงกว่าเจดีย์ใดๆในสุวรรณภูมิประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีน โดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกามและใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม จากนั้นนำท่านชม ระฆังมิงกุน ซึ่งพระเจ้าปะดุงทรงสร้างไว้ เป็นระฆังสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้สูง 4 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ปากกว้าง ราว 5 เมตร นับว่าเป็นระฆังที่แขวนอยู่ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก นำท่านชม เจดีย์ชินพิวเม ที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควรจนเป็นที่กล่าวขานว่าเป็น “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมือง มัณฑะเลย์ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านชม วัดกุโสดอว์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 โดยพระเจ้ามินดงโปรดให้จัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้น ณ เมืองมัณฑะเลย์ หลังจากนั้นโปรดให้สลักพระไตรปิฎกลงบนแผ่นหินแล้วสร้างเจดีย์ทรงปราสาทสำหรับประดิษฐานแผ่นจารึกแต่ละแผ่น วัดกุโสดอจึงถือเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยพระขรรภ์กว่า 84,000 ฉบับ ลักษณะทางศิลปกรรมประกอบด้วยเจดีย์ประธานซึ่งจำลองแบบมาจากเจดีย์ชเวซิกองเมืองพุกาม แวดล้อมไปด้ยเจดีย์ทรงปราสาทขนาดเล็กซึ่งประดิษฐานแผ่นจารึกพระไตรปิฎก เจด์เหล่านี้มีการแบ่งกลุ่มตามหมวดของพระไตรปิฎกตั้งแต่พระวินัย พระสูตรและพระอภิธรรม จากนั้นนำท่านชม พระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างโดยพระเจ้ามินดง เป็นอาคารไม้ตกแต่งด้วยปูนปั้นมีระเบียงรอบถึง 5 ชั้น แตกต่างจากวัดอื่นๆต่อมาถูกไฟไหม้หมด ขณะนี้ทางการพม่าได้ก่อสร้างขึ้นมาใหม่ในรูปแบบเดิม ชมพระราชวังมัณฑะเลย์ สร้างขึ้นเมื่อย้ายราชธานีมาจากอมรปุระ เป็นพระราชวังขนาดใหญ่มีประตูเข้าถึง 12 ประตู ตัวพระราชวังเป็นหมู่อาคารไม้และตึก ประกอบด้วยท้องพระโรงพระที่นั่ง และตำหนักต่างๆทั้งหมดถูกไฟไหม้เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ปัจจุบันทางการพม่าได้จำลองขึ้นใหม่อีกครั้งบนฐานเดิม นำท่านชม พระราชวังไม้สักชเวนานจอง วังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีต โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน |
19.15 น. | บินลัดฟ้าสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน บางกอก แอร์เวย์ (PG) เที่ยวบินที่ PG714 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที (มีบริการอาหารบนเครื่อง) |
21.30 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel