ทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา 2567/2024 เที่ยวภูฏาน

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE430 : โปรแกรมทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา 4 วัน 3 คืน (B3)

DE430 : โปรแกรมทัวร์ภูฏาน พาโร ทิมพู พูนาคา  4 วัน 3 คืน (B3)
Bhutan Airline (B3)


ประเทศภูฏาน (Bhutan) หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรกูฏาน (Kingdorn of Bhutan)

เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ที่มีขนาดเล็ก และมีภูเขาเป็นจำนวนมาก ตั้งอยู่ในเทือกเขาหิมาลัย

ระหว่างประเทศอินเดียกับประเทศจีน ชื่อในภาษาทองถิ่นของประเทศคือ Druk Yul

แปลว่า "ดินแดนของมังกรสายฟ้า (Land of the Thunder Dragon)

ภูฏานเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ไปด้วยรรรมชาติ ภูเขา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี

ที่ยังคงรักษาไว้ได้เป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางไปสัมผัสสักครั้ง

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE430-00113-16 ก.พ. 68Bhutan Airline (B3)59,900จองด่วน
DE430-00209-12 พ.ค. 68Bhutan Airline (B3)59,900จองด่วน
DE430-00319-22 มิ.ย. 68Bhutan Airline (B3)59,900จองด่วน
DE430-00410-13 ก.ค. 68Bhutan Airline (B3)59,900จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1 :: กรุงเทพฯ - พาโร - ทิมพู
04.30 น.คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 7 สายการบิน Bhutan Airlines (B3) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระต่างๆแก่ท่าน
06.30 น.ออกเดินทางสู่ เมืองพาโร  โดย สายการบิน Bhutan Airlines เที่ยวบินที่ B3-701  
09.55 น.เดินทางถึง สนามบินแห่งชาติเมืองพาโร (Paro International Airport) ในเวลาท้องถิ่น หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านออกเดินทาง เวลาที่ภูฏานช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง  สนามบินพาโร...สนามบินสุดท้าทายนักบินที่สุดในโลก เป็นสนามบินหลักของเมืองพาโร (PARO) และเมืองหลวงทิมพู (THIMPHU) มีความท้าทายในการลงจอดสูงมาก จนต้องมีการคัดเลือกนักบินและมีการรับรองเป็นพิเศษจึงจะสามารถบังคับเครื่องบินขึ้น-ลงจากสนามบินแห่งนี้ได้

จากนั้นนำท่านสู่ ตัวเมืองพาโร (Paro) เปิดประตูมุ่งสู่ภูฏานดินแดนแห่งสวรรค์ เมืองท่องเที่ยวที่มี ชื่อเสียงที่อยู่ทางตะวันตกของภูฏาน เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีความเก่าแก่ที่สุดของภูฏาน เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งของภูฏาน เป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อาคารประวัติศาสตร์ ที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขาเขียวขจี ดินแดนซึ่งโอบล้อมด้วยหุบเขา และ แม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน ผสานเป็นทัศนียภาพอันงดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้เป็น จำนวนมาก...มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆหลายแห่ง 

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติภูฏาน (National Museum of Bhutan) (โปรดแต่งกายให้สุภาพ) ซึ่งตั้งอยู่ใน เมืองพาโร ในอดีตเคยเป็นป้อมปราการ หรือ ตาซอง (Ta Dzong) แต่ ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ.1968 มีทั้งหมด 6 ชั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวม เครื่องแต่งกาย อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย สัตวป่าในแถบเทือกเขา หิมาลัย งานแสดงสวนใหญ่เป็นงานที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา ชมภาพพระบฏ ตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีงานหัตถกรรมที่ใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย ชุดเสื้อเกราะ สัตวสตาฟและดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงามมากมายหลายรูปแบบ 

นำท่านชมความงดงามของ รินปุง ซอง (Rinpung Dzong) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า "พาโรซอง" (Paro Dzong) ซึ่งแปลว่า ป้อมปราการแห่งอัญมณี เป็นอาคารป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ได้รับ ความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองพาโรเป็นอย่างมาก “พาโรซอง” ถูกสร้างขึ้นโดย ซับดรุง งาวัง นัมเกล (Shabdrung Ngawang Namgyal) ในปี ค.ศ. 1644 และหลังจากนั้นก็ได้ กลายเป็นที่ยอมรับในฐานะเป็นศูนย์กลางการบริหารและส่วนที่เป็นวัดซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษา มากกว่า 200 รูป นอกจากนี้แล้ว พาโรซอง ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Little Buddha ภาพยนตร์สารคดีอีกหนึ่งเรื่องที่ชาวพุทธต้องไม่พลาด
กลางวันรับประทานอาหารกลางวันในภัตตาคารพื้นเมือง (เมืองพาโร)
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองทิมพู (Thimphu)  ระยะทาง 53 ก.ม. ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง ทิมพู เมืองหลวงแห่งภูฏาน เมืองทิมพู หรือ ชิโชซอง เป็นเมืองหลวงของภูฏานตั้งแต่ พ.ศ.2504 ในสมัยซับดรุง เริ่มแรกเป็นเพียงเมืองเล็กๆ เมื่อเป็นเมืองหลวงจึงมีประชากรมากขึ้นเมืองทิมพู ตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำวัง เป็นเมืองหลวงแห่งเดียวในโลกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรใช้ ศูนย์กลางความเจริญของดินแดนมังกรสายฟ้า ภูฏานแต่ความเจริญของเมืองที่มีประชากรราวแสนคนเศษ ยังเป็นไปอย่างมีทิศทาง กลมกลืนระหว่างความทันสมัยแบบพอเพียงกับอัตลักษณ์วัฒธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ในรูปแบบที่ไม่อาจหาได้จากเมืองหลวงอื่นๆ ที่สำคัญคือ ทิมพู เป็นที่ประทับของของสมเด็จพระราชาธิบดี และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งภูฏาน เราสามารถมองเห็นพระราชวังของพระราชาธิบดีได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะว่าไปแล้วหากไกด์ไม่บอก เราก็คงไม่รู้ว่าเป็นพระราชวัง ด้วยมองดูเหมือนอาคารทั่วๆไป ไม่ได้มีความหรูหรา ยิ่งใหญ่ หรือแปลกไปจากอาคารอื่นๆในภูฏานเลย พระราชวังอยู่ใกล้ๆกับทิมพูซอง..ระหว่างทางชมทัศนียภาพอันสวยงามของภูฏาน ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูฏาน ตลอดสองข้างทาง..จนถึงเมืองหลวงทิมพู
 
นำท่านเข้าชม ทิมพูซอง (Thimphu Dzong) หรือ ตาชิโชซอง (Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ป้อมปราการแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี1907 ซึ่งนอกจากเป็นป้อมปราการแล้วยังเป็นอารามหลวงสำหรับพระอีกด้วย โดยตอนนี้สถานที่แห่งนี้เป็น เหมือนศาลาการจังหวัด ที่ตั้งของสำนักพระราชวัง ที่ทำงานของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีจากที่นี่ท่านจะเห็นทำเนียบรัฐบาลตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามและนอกจากนั้นจะได้เห็นที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน รัชกาลที่ 5
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

พิเศษ.. ชมโชว์การแสดงทางวัฒนธรรมของชาวภูฏาน หรือระบำหน้ากากเทซู  นาฏศิลป์ภูฏานในชุดระบำหน้ากากที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและชมการเต้นรำพื้นเมืองของชนเผ่าที่อาศัยอยู่ทั่วประเทศภูฏาน  
ที่พักTara Phendeyling Hotel, THIMPHU หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่ 2 ::ทิมพู - พูนาคา
เช้ารับประทาน อาหารเช้า ณ โรงแรม

พิเศษชุดโกและ คีร่า (ชุดพื้นเมืองภูฏาน) จัดเตรียมให้สมาชิก ทุกท่านได้ใส่ชมเมืองเก็บภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวสไตน์คนท้องถิ่นกันตลอดทั้งวัน

วันนี้นำท่านสู่ มณฑลพูนาคา (Punakha)  อดีตเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน ห่างจากทิมพูไป 70 กม. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ช.ม) เมืองพูนาคา อดีตราชธานีของภูฏาน (ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1639 – 1955) สร้างและปกครองโดย ชับดรุง งาวัง นัมเกล (Shabdrung Ngawang Namgyal) เป็นเมืองเล็กๆ แต่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของภูฏาน เพราะที่นี่เคยเป็นเมืองหลวง ตั้งอยู่ในเมืองพูนาคาระหว่างแม่น้ำโพ (พ่อ) และ แม่น้ำโม (แม่) พูนาคาเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน ป้อมปราการนี้จึงมีความสำคัญและสวยงามติดอันดับต้นๆ ของประเทศ สถานที่นี้ยังใช้จัดพระราชพิธีต่างๆ ของราชวงศ์รวมไปถึงพระราชพิธีราชาพิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ที่จัดขึ้นในปี 2554 ภูนาคาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ก.พ.– เม.ย.) ต้นศรีตรังที่บานสะพรั่งจะทำให้พูนาคาซองสวยขึ้นมาอีกหลายเท่าเลยทีเดียว
 
ระหว่างทางนำท่านแวะชม ดอร์ชูลาพาส (Dochula Pass) ระดับความสูง 3,150 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลเป็นช่องเขาที่สามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยได้ในบางวันอาจเห็นทะเลหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไป ชมความงามของ เจดีย์ดรุกวังเยลลาคัง..สถูปแห่งชัยชนะ ชม 108 สถูป อนุสรณ์สถานที่มีต่อกองกำลังกลุ่มหัวรุนแรงที่ยึดพื้นที่ทางภาคใต้ของภูฏาน ตั้งอยู่บนระดับความสูง 3,150 เมตร จากระดับน้ำทะเล พร้อมดื่มด่ำธรรมชาติทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยด้านตะวันตกอันตระการตา และยอดเขาต่างๆเรียงรายกัน รวมไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุด อย่างจูโมฮารี ซึ่งมีความสูงถึง 7,328 เมตร
   
จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองพูนาคา ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาและสายน้ำ ลำธาร...เดินเท้าผ่านหมู่บ้านโลเบซ่า (Lobesa) ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ตกแต่งผนังอาคารบ้านเรือน้ำด้วยรูปอวัยวะเพศชายตามความเชื่อเรื่องสิริมงคลแห่งการป้องกันสิ่งชั่วร้ายและพลังของการให้กำเนิดชีวิต เพลิดเพลินชมท้องทุ่งนากลางหุบเขา
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง (พูนาคา)   

พาท่านเดินทางไป ชม วัด Chimi Lhakhang อันศักดิ์สิทธิ์หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วัดเจริญพันธุ์” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ ได้รับพรจากโยคีผู้ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและนักบุญ Drukpa Kunley ที่รู้จักกันในชื่อ 'Divine Madman' และบิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ เขามีวิธีการสอนที่แปลกใหม่มากและวัดในพุทธศาสนาแห่งนี้กล่าวกันว่าเป็นสถานที่แห่งความอุดมสมบูรณ์และพร บรรดาผู้ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์และคู่รักที่ไม่มีบุตรได้เดินทางมาแสวงบุญที่นี่ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะได้รับเกียรติด้วยวังหรือพรจากพระภิกษุสงฆ์และ 'สายฟ้าแห่งปัญญาวิเศษ' ของเขา ผู้หญิงที่เข้าไปในวัดที่หวังจะตั้งครรภ์ต้องแบกลึงค์ไม้รอบวัดสามครั้ง

จากนั้น นำท่านชม ป้อมปราการแห่งพูนาคา (Punakha Dzong) ป้อมปราการประจำเมืองพูนาคา สร้างขึ้นในปี 1637 โดยฉับดรุง งาวังนัมเกล  ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น พระราชวังแห่งความสุขอันยิ่งใหญ่ “Palace of Great Happiness” เป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สวยงามที่สุดในภูฏาน เป็นป้อมที่สร้างเป็นอันดับสองของภูฏาน ในอดีตเมื่อครั้งเมืองพูนาคายังเป็นเมืองหลวง ป้อมแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันเป็นที่พักในฤดูหนาวของพระชั้นผู้ใหญ่ ป้อมนี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณที่แม่น้ำ Pho chu และ แม่น้ำ Mo chu ไหลมาบรรจบกันอีกทั้งเป็นสถานที่ท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล มรณภาพที่นี่ และปัจจุบันก็ได้เก็บรักษาร่างของท่านอยู่ภายในท่านจะได้เห็นลามะ(พระสงฆ์)จำนวนมากที่กำลังศึกษาพระธรรมและสวดมนต์ และในปี 1988 
 
“เปิดตำนานประเพณีแต่งงานภูฎาน แดนดินถิ่นหิมาลัย”ที่ยังเป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีที่ 4 จิกมี ซิงเย วังชุก (Jigme Singye Wangchuck) และ  พระราชพิธีอภิเษกของกษัตริย์ “จิกมี-ราชินีเปมา สองพระคู่ขวัญแห่งดินแดนมังกรสายฟ้า” ที่จัดขึ้นภายในเมืองพูนาคา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2554 พระราชพิธีอภิเษกสมรสนั้นจัดขั้นอย่างเรียบง่าย แต่ถูกต้องตามโบราณราชประเพณีแห่งภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี หรือ “เจ้าชายจิกมี” ที่คนไทยรู้จักกันดี ทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งภูฏาน เมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา พร้อมทรงนำภูฏานเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ตลอดจนทรงสืบสานต่อจากสมเด็จพระราชบิดาของพระองค์ ในเรื่องของปรัชญา “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness) อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กษัตริย์หนุ่มพระองค์นี้ทรงถูกเรียกขานด้วยพระนามต่างๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น “เค 5” ซึ่งหมายถึงรัชกาลที่ 5 หรือ “เจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์จากแดนหิมาลัย”จากนั้นเดินทางสู่     เมืองทิมพู

นำท่านชม สะพานแขวนพูนาคา (Punakha Suspension Bridge) สะพานสำหรับคนเดินที่ยาวที่สุดอันดับสองของภูฏาน โดยตั้งอยู่ใกล้กับป้อมปราการแห่งพูนาคา สะพานแขวนแห่งนี้ทอดข้ามแม่น้ำ Pho Chu โดยเชื่อมระหว่างเมืองพูนาคากับป้อมปราการแห่งพูนาคา นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวสวย ๆ ของแม่น้ำและภูเขาที่โอบล้อมรอบ ๆ ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปธรรมชาติที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองพูนาคาด้วยเช่นกัน
ค่ำรับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมในเมืองพูนาคา อิสระผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พัก Damchen Resort Punakha หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่ 3 ::พูนาคา - ทิมพู - พาโร
เช้ารับประทาน อาหารเช้า ณ โรงแรม นำท่านชม พระพุทธรูปดอร์เดนมา Great Buddha Dordenma เป็นพระพุทธรูปศากยมุนีขนาด มหึมา บนภูเขาของภูฏานเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของกษัตริย์ Jigme Singye Wangchuck ที่สี่ ทำจากทองสัมฤทธิ์ สร้างด้วยราคา 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดย Aerosun Corporation แห่งหนานจิงประเทศจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Rinchen Peter Teo นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ต้นทุนรวมของโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์ "ทาคิน"(Takin) สัตว์ท้องถิ่นประจำประเทศภูฏาน เป็นสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เพราะมีอยู่ที่ภูฏานเพียงแห่งเดียวสัตว์ลูกผสมแห่งเทือกเขาหิมาลัย "ทาคิน"เป็นสถานอนุรักษ์สัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์จากการถูกไล่ล่า และเริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนอยู่ในจุดที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะพื้นที่อาศัยของมันถูกมนุษย์รุกล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งคนในพื้นที่บางกลุ่มยังล่าพวกมัน เพื่อนำเนื้อและเขาไปขายในตลาดสัตว์แปลกอีกด้วย โดยประกาศ ให้ "ทาคิน"Takin เป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏานเพราะมีอยู่ที่ภูฏานเพียงแห่งเดียว
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายจากนั้นได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่ เมืองพาโร..เมืองที่สวยที่สุดแห่งภูฏาน เมืองพาโร เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงหลักหมื่นพาโรเมืองเล็กๆ ที่มากด้วยอารยธรรม ผู้คนน่ารัก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะอยู่ในที่ราบสูง 

นำท่านเดินเล่น ช้อปปิ้งสิ้นค้าตัวเมืองพาโร มีร้านค้าประมาณร้อยแห่งบนถนนเส้นเดียวที่ผ่านตัวเมือง สินค้าที่น่าสนใจสำหรับนักช็อปปิ้งชาวไทย คือ ผ้าทังก้า เครืองเงิน รูปปั้นพระพุทธ หน้ากาก เครื่องประดับตกแต่ง นอกจากร้านขายของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ก็เป็นร้านขายของชำซะส่วนใหญ่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ดูแล้วคลาสิคดี ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม น้ำขวด นำเข้ามาจากประเทศอินเดีย และเครื่องใช้ต่างๆในครัวมาจากไทย ราคาไม่แพง
ค่ำรับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรมในเมืองทิมพู อิสระผ่อนตามอัธยาศัย
ที่พักJANKA RESORT, PARO หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
วันที่ 4 ::พาโร - กรุงเทพฯ
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม 

 จากนั้นเดินทางสู่ Tachong Lhakhang Old Bridge หรือที่รู้จักกันในนาม สะพานแขวนโซ่เหล็ก 600 ปี สะพานนี้เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างวัด Tachong Lhakhang กับหุบเขาตั้งอยู่บนแม่น้ำพาโรชู สะพานนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1400 โดยใช้โซ่เหล็กนำมาร้อยต่อกัน สร้างโดยโยคีลามาท่านหนึ่งชื่อว่า ทังตง กยัลโพ(Thangtong Gyalpo) ว่ากันว่าท่านได้สร้างสะพานแขวนโซ่เหล็กอีก 58 แห่ง รอบๆทิเบตและภูฏาน การสร้างสะพานี้เกิดจากการที่ท่านได้เดินทางมายังที่แห่งนี้ในปี 1433 ในขณะที่นั่งทำสมาธิอยู่ที่แม่น้ำพาโรนั้น ได้เกิดภาพนิมิตรของม้า ทำให้ท่านได้สร้างวัด Tachog Lhakgang และสะพานแขวนโซ่เหล็กนี้ขึ้นมาในปี 1969 สะพานนี้ได้ถูกทำลายโดยอุทกภัยทำให้เสียหาย และถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ตามเดิมในปี 2005

นำท่านไปชม วัดคีชู ลาคาง (Kyichu Lhakhang) และถือเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ของภูฏาน วัดหลักของ Jowo Lhakhang มีรากฐานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7วัดนี้เป็นหนึ่งในอาราม 108 แห่งที่ก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว Songstsen Gampo แห่งทิเบต อาราม 12 แห่งจาก 108 แห่งสร้างขึ้นเพื่อตรึงปีศาจที่ปกคลุมทิเบตและเทือกเขาหิมาลัยซึ่งป้องกันการแพร่กระจายของพระพุทธศาสนา ดั้งเดิม Kyichu Lhakhang ดั้งเดิมมีขนาดเล็ก แต่หลังจากนักบุญชาวพุทธมาเยี่ยมหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วัดได้ขยายทั้งความยิ่งใหญ่และขนาด ในศตวรรษที่ 8 เชื่อกันว่า Guru Padmasambhava ได้ไปเยี่ยมชมวัด และซ่อนสมบัติมากมายไว้ในวัด ปราชญ์ Padmasambhava ได้ซ่อนTers ทางจิตวิญญาณจำนวนมาก ( สมบัติล้ำค่า ) ในทิเบต ภูฏาน และส่วนอื่น ๆ ของภูมิภาคหิมาลัย สมบัติเหล่านี้ถูกค้นพบในบางเวลา สถานที่ และภายใต้สถานการณ์อันเป็นมงคลโดยTertons (ผู้เปิดเผย  สมบัติ )สมบัติประกอบด้วยคำสอน รูปปั้น หรือพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตในเวลาที่ค้นพบ และยังอยู่ในพระอุปถัมภ์ของพระราชชนนีโดยท่านจะมาทำบุญและวิปัสสนาที่วัดนี้เป็นประจำภายในวัดประดิษฐานพระพุทธรูปที่งดงามในรูปทิเบต
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ได้เวลาอันสมควรท่านออกท่านเดินทางไปยังสนามบินแห่งชาติพาโร
16.20 น.ออกเดินทางสู่ กรุงเทพ โดย สายการบิน Druk Air เที่ยวบินที่ KB152
20.30 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ  

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ59,900 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ4,500 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ59,900 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ4,500 บาท

เงื่อนไขในการจอง

  • ยืนยันทริป : มัดจำเป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท/ท่าน ส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางชัดเจนส่งทางเมลหรือไลน์
  • ส่วนที่เหลือ : ชำระทั้งหมดก่อนเดินทางภายใน 25 วัน และส่งมอบเอกสารการเตรียมการยื่นขอวีซ่าตามที่กำหนด 
  • เนื่องจากเป็นกฎของสายการบินหากวางเงินมัดจำที่นั่งแล้วเสมือนออกตั๋วไม่สามารถ Refund ได้ทุกกรณี
  • ในกรณีที่ท่านโอนเงินจากต่างจังหวัด ราคาทัวร์ดังกล่าวไม่รวมค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการของธนาคาร
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-พาโร-กรุงเทพฯ ชั้นประหยัดและภาษีสนามบินภูฏาน (สายการบินภูฏาน แอร์ไลน์ หรือ ดรุ๊กแอร์) 
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง และค่าประกันภัยสายการบิน 
  • ค่าวีซ่าภูฏานและค่าภาษีท่องเที่ยวรัฐบาลภูฏาน
  • ค่าที่พักโรงแรมระดับมาตรฐานและผ่านการรับรองจากรัฐบาลภูฏาน (พักห้องละ 2-3 ท่าน)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุและสุขภาพแบบบุคคล (Asia Plus Basic ) 
    -วงเงินคุ้มครอง 1,000,000 บาท /คน
    -ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
    -ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท 
    -ค่ารักษาพยาบาทครั้งแรกในประเทศไทย 100,000 บาท
    ****กรณีการรักษาพยาบาทต่อเนื่องในประเทศไทยผู้เอาประก้นภัยต้องขอรับการรักษาพยาบาทในประเทศไทยภายใน 24 ชั่งโมงนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย และ รับการรักษาต่อเนื่องไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่ได้รับการรักษาครั้งแรกในประเทศไทย
    ****กรณีที่ผู้เอาประกันได้รับการรักษาพยาบาทที่ต่างประเทศผู้เอาประกันมีกำหนดเวลา 7วันนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยที่จะรับการรักษาต่อเนื่องในประเทศไทย

    หมายเหตุ : คุ้มครองผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 75-85 ปี จ่ายเบี้ย 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย  วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
  • ค่าขี้ม้าขึ้นวัดตั๊กซัง 20-25 เหรียญ
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน(ถ้ามี)
  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทางและค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าว
  • ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทย
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการ
  • ค่าน้ำหนักเกินพิกัด 30 กิโลกรัม ต่อท่าน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการเช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ วันละ 30USD/วัน/ท่านรวม5วัน 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน
  • ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบิน ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
    การให้ทิปตามธรรมเนียมทางบริษัทฯมิได้มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของท่านเพื่อเป็นกำลังใจให้กับไกด์ และคนขับรถ
1) หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท
2) ยกเลิก 30-45 วัน ก่อนการเดินทางต้องชำระค่าบริหารท่านละ  2,000 บาท+ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง
3) ยกเลิก 15 - 29 วัน ก่อนการเดินทาง ต้องชำระ 50% ของราคาทัวร์
4) ยกเลิกน้อยกว่า 1 - 14 วัน ก่อนการเดินทาง ต้องชำระ 100% ของราคาทัวร์

หลังจากการจองทัวร์และชำระเงินมัดจำแล้ว ทางบริษัทฯ ถือว่าท่านได้ยอมรับในข้อตกลงและเงื่อนไข ที่บริษัทได้ระบุไว้ข้างต้นทุกประการ
  • โรงแรมที่ภูฏานส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากรัฐบาลภูฏาน 
  • ภูฏานมีอากาศเย็นตลอดปี โรงแรมในภูฏานจึงไม่มีแอร์ มีแต่ฮีตเตอร์ ในห้องพัก 
  • รายการอาหารในภูฏานมีไม่หลากหลายดังนั้นอาหารส่วนใหญ่จึงเหมือนกันจึงควรเตรียมอาหารสำรองไปด้วยเพื่อช่วยลดความเบื่อหน่ายในรสชาติของอาหาร
  • การชำระค่าทัวร์ต้องชำระค่าทัวร์ก่อนเดินทาง20วันก่อนเดินทางเพื่อทางรัฐบาลภูฏานจะออกเอกสารวีซ่าให้
  • ราคาดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน และการปรับค่าโดยสารของสายการบิน
  • เนื่องจากการวางแปลนห้องพักของแต่ละโรงแรมแตกต่างกัน จึงอาจทำให้ห้องพักแบบห้องเดี่ยว (Single) และห้องคู่(Twin/Double) และห้องพักแบบ 3 ท่าน/3 เตียง (Triple Room) ห้องพักอาจจะไม่ติดกัน

1) บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
2) บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด
3) รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สารองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
4) หากท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
5) บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
6) ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
7) กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดาเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ
8) หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
9) เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจาคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

1.หนังสือที่มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันเดินทาง 
2.รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรง จำนวน 1 รูป 
เอกสารประกอบการขอวีซ่า ประเทศภูฏาน ส่งมอบให้บริษัทภายใน 10-15 วัน เพื่อส่งขอยื่นเป็นวีซ่ากรุ๊ป

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy