ขอนำท่านเดินทางไปยังประเทศภูฏาน เที่ยวครบไฮไลท์ โดยสายการบิน Bhutan Airline
เยี่ยมชมเมืองทั้ง 3 เมืองหลัก พาโร-ทิมพู-พูนาคา เข้าชมวัดถ้ำเสือซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญที่ชาวภูฏานเลื่อมใสศรัทธากันมากที่สุด
เยี่ยมชมสถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน
นำท่านสักการะหลวงพ่อสัจธรรมซึ่งเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน
เข้าชมป้อมปราการ “ทิมพู ซอง” ซึ่งอยู่ติดกับที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีโปรแกรมจัดโดยผู้ชำนานประเทศภูฏานโดยเฉพาะ!!
**ฟรี ผ้าขาวต้อนรับตามธรรมเนียมของคนภูฏาน พิเศษโรงระบำพื้นบ้านและระบำหน้ากากจัดแสดงแบบส่วนตัว
บริการพิเศษใส่ชุดประจำชาติเดินเที่ยว ไม่ใช่ใส่ถ่ายรูปแล้วถอด ไม่เปลี่ยนโรงแรมบ่อย ไม่ต้องแพ็คของทุกวันเหมือนที่อื่น
โรงแรมได้มาตฐานรับรองโดยรัฐบาลภูฏานและยังอยู่ใจกลางเมืองสามารถเดินเที่ยวได้ทุกวัน
ราคารวมค่าขี่ม้าขึ้นเขาทักซัง รวมค่าวีซ่าคนละ US $40 และค่า Loyalty Fee เข้าประเทศภูฏานวันละ US $65 แล้ว
หากเวลาเหลือเราพาเที่ยวเพิ่มไม่มีลด แต่ขึ้นอยู่กับความเห็นลูกทัวร์เป็นสำคัญ
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ - พาโร - พาโรริงปุงซอง - ตาซอง - ด่านชูซอม - ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน - โรงเรียนสอนงานศิลปะ - ทิมพูซอง |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 :: | |
04.00 น. | คณะเดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก สายการบิน ภูฏานแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ B3701 ออกเดินทางเวลา 6:30 เค้าเตอร์ K ประตู 5 พบกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯให้การต้อนรับพร้อมบริการกระเป๋าเข้าเช็คอิน พร้อมหัวหน้าทัวร์คอยให้บริการ |
06.30 น. | ออกเดินทางสู่ ประเททศภูฎาน เดินทางสู่ เมืองพาโร เมืองหน้าด่านสำคัญก่อนเดินทางสู่ดินแดนอื่น ๆในประเทศภูฏาน โดยสายการบิน ภูฏานแอร์ไลน์ (มีอาหารบริการบนเครื่อง) เครื่องจะทำการลงจอดที่ประเทศอินเดียเพื่อทำความสะอาดและเติมน้ำมันเป็นเวลา 45 นาทีโดยไม่ต้องลงจากเครื่องบินและเดินทางต่อไปยังประเทศภูฎาน |
09.55 น. | เดินทางถึง สนามบินพาโร (เวลาท้องถิ่นที่ปะเทศภูฏานช้ากว่าประทศไทย 1 ชม.) |
เช้า | เดินทางสู่ตัวเมือง พาโร เยี่ยมชม พิพิธภัณท์สถานแห่งชาติ หรือ ตาซอง (National Museum of Bhutan , Ta Dzong) พิพิธภัณฑ์ มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยเป็นสถานที่เก็บรวบรวม ภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ สัตว์ป่าแถบเทือกเขาหิมาลัย ตลอดจน ดวงตราไปรษณีย์ แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำให้ตัวอาคารเสียหายอย่างหนักและเป็นอันตรายต่อการเข้าชมภายในตัวอาคาร นักท่องเที่ยวสามารถชมอาคารภายนอกได้และรัฐบาลภูฏานได้สร้างอาคารหลังใหม่เพื่อจัดแสดงแทน โดยที่อาคารหลังใหม่มี 2 ชั้นและจัดแสดงเพียง 4 ห้องเท่านั้น จากจุดนี้ท่านสามารถเห็นวิวสวยๆของสนามบินพาโรและตัวเมืองได้อย่างชัดเจน จากนั้นพาท่านเดินทางต่อเพื่อเยี่ยมชม พาโรริงปุงซอง (Paro Ringpung Dzong) พาโรริงปุงซอง (Paro Ringpung Dzong) ป้อมปราการยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองพาโร ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1645 ในสมัยของท่าน Shabdrung Ngwang Namgyel ผู้เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รวมประเทศภูฎานให้เป็นหนึ่งเดียวในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 17 ตั้งตระหง่านโดนเด่นอยู่ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งตอนนี้สถานที่นี้มีไว้สำหรับส่วนบริหาร ศูนย์กลางทางการปกครองของเมืองพาโร และเป็นที่ตั้งของพระอารามหลวง มีพระสงฆ์จำวัดกว่า 200 รูป จากนั้นพาท่านแวะพัก ณ จุดชมวิว Paro airport bird's eye view point ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นสนามบินพาโรได้ทั้งสนามบิน ออกเดินทางสู่เมืองเมืองหลวงของประเทศภูฏาน เมืองทิมพู (Thimphu) ระยะทางห่างจากเมืองพาโรประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ในระหว่างการเดินทางสู่เมืองเมืองทิมพู ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพอันสวยงาม โดยมีภูเขาล้อมรอบอีกทั้งท่านยังจะได้เห็นสภาพการอยู่อาศัยของคนพื้นเมืองอีกทั้งยังจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศภูฏานตลอดระยะทาง ระหว่างทางเราจะแวะถ่ายรูป ณ จุดชมวิว ด่านชูซอม ซึ่งเป็นหน้าด่านก่อนเข้าเมืองทิมพู และเป็นบริเวณที่แม่น้ำจากพาโรและทิมพูมาบรรจบกัน ทิมพูเป็นเมืองที่อยู่ในระดับความสูง 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดของเอเชียและไม่มีสัญญาณไฟจราจร ผู้คนที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดีและมักจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ชุดผู้ชายจะเรียกว่า โค (Kho) ส่วนชุดของผู้หญิงจะเรียกว่า คีร่า (Kira) เราจะนำท่านไปยังโรงแรมเพื่อ Check-in และเก็บสัมภาระ |
เที่ยง | พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Gakyil ***โรงแรมระดับ 3 ดาวหรือเทียบเท่า (ท่านสามารถเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืนได้สบายเพราะโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง) |
วันที่ 2 :: | ทิมพู - ปูนาคา - ดอร์ ชูลา - วัดชิมิลาคัง - ปูนาคาซอง - ทิมพู |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 :: | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู ออกเดินทางสู่เมือง Punakha พูนาคา ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เนื่องจากถนนระหว่างการเดินทางนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงและทางจะเป็นเขาคดไปมา ระหว่างทางท่านสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสูงสลับกับแม่น้ำลําธารน้อยใหญ่ (โปรดเตรียมเสื้อหนาวมาด้วย เพราะจุดที่เราจะผ่านจะอยู่สูงกว่าเมืองทิมพูอยู่ราว ๆ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเมื่อถึงเมืองพูนาคาอากาศจะอบอุ่นกว่าเมืองทิมพู เนื่องจากเมืองพูนาคาจะอยู่ที่ระดับความสูงที่ 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเล) แวะพักยังจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้อยู่ที่ 3,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล (เป็นจุดที่สูงที่สุดของเมืองทิมพูและพูนาคา) ซึ่งเรียกว่า ดอร์ ชูลา (Dorchula Plass) และพาท่านชม สถูป “ดรุค วังเกล” (Druk Wangle Chorten) 108 องค์ (สถูปแห่งความเป็นสิริมงคล และสันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์) ณ จุดนี้เราจะแวะพักถ่ายรูปและดื่มชา เข้าห้องน้ำ และออกเดินทางต่อไปยังเมืองพูนาคา ดรุค วังเกล สร้างขึ้นมาเพื่อถวายแกพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน จุดนี้เป็นจุดที่สามารถยืนชมเทือกเขาหิมาลัยได้แบบกระจ่างตาที่สุด โดยเฉพาะในวันที่อากาศสดใสและฟ้าเปิด รวมถึง ยอดเขากังคาพูนซัม(Gangkhar Puensum) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศภูฏานซึ่งอยู่ในระดับความสูงที่ 7,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล |
เที่ยง | พักรับประทานอาหารกลางวัน - ภัตตาคาร ที่ เมืองพูนาคา จากร้านอาหารเราจะพาท่านเดินผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ มีทุ่งนาล้อมรอบ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อดูวิถีชีวิตของคนที่นี่และทุ่งนาขั้นบันได พาท่านเดินไปยัง วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) วัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1499 โดยพระงาหวัง ชอคเยล โดย ชาวภูฏานนิยมมาไหว้ขอพรในเรื่องครอบครัว อาทิ ขอลูก ขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก ขอพรให้ลูกหรือมาให้พระตั้งชื่อให้ลูก นอกจากนี้ยังเชื่อว่า สามารถขอพรให้ลูกเกิดมาหน้าตาดีได้ในขณะที่ตั้งครรภ์ ชื่อที่เป็นที่นิยมที่หากมาตั้งชื่อที่วัดนี้คือ คินเลย์ (ชื่อสถานที่) และ ชิมิ (ชื่อวัด) นำท่านเที่ยวชม พูนาคาซอง (Punakha Dzong) พูนาคาซอง (Punakha Dzong) ป้อมปราการประจำเมืองปูนาคา ปัจจุบันเป็นพระราชวังฤดูหนาวของพระสังฆราช ป้อมปราการแห่งถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1637 และถูกทําลายหลายครั้ง จากไฟไหม้และภัยธรรมชาติแต่ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง ป้อมปราการแห่งนี้สวยงามมากเพราะอยู่ตรงกลางระหว่าง แม่น้ำโพ (Po Chu)ซึ่งหมายถึงแม่น้ำพ่อ และแม่น้ำโม (Mo Chu) หมายถึงแม่น้ำแม่ไหลมาบรรจบกัน หลังจากนั้นนำท่านชม สะพานเหล็กที่ยาวที่สุดในภูฏาน พาดผ่านแม่น้ำ แม่น้ำพ่อ และแม่น้ำโม (Mo Chu) ซึ่งประชาชนใช้สัญจรเพื่อข้ามข้ามมายังพูนาคา ซอง เดินทางกลับสู่เมือง ทิมพู (Thimphu) |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Gakyil ***หรือเทียบเท่า (ท่านสามารถเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืนได้สบายเพราะโรงแรมอยู่ใจกลางเมือง) |
วันที่ 3 :: | ทิมพู - เมมโมเรียลโชเตน - หลวงพ่อสัจธรรม - ซิมโทกาซอง - วัดชังกังคา - สถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน - ตลาดทิมพู |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 :: | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู หลังอาหารเช้า เราจะให้ลูกค้าทุกท่าน แต่งชุดประจำชาติของประเทศภูฏาน ชุดผู้ชายจะเรียกว่า โค (Kho) ส่วนชุดของผู้หญิงจะเรียกว่า คีร่า (Kira) จะมีเจ้าหน้าที่ของโรงแรมและทางไกด์ท้องถิ่นมาช่วยแต่งตัวให้ เราจะใส่ชุดประจำชาติตั้งแต่เช้าเพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่และถ่ายรูปจะได้สวยงาม (ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะใส่หรือไม่ เราไม่ได้บังคับ) เมมโมเรียลโชเตน (Memorial Chorten) มหาสถูปประดิษฐ์ฐานพระบรมอัฐิของอดีตกษัติริย์ จิกมี่ ดอร์จี วังชุก พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองประเทศภูฏานในช่วง ค.ศ. 1952-1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า "พระบิดาแห่งภูฏานนยุคใหม่" สถานที่แห่งนี้ท่านจะเห็นคนเฒ่าคนแก่จำนวนหนึ่งมานั่งนับลูกปัดและเดินวนรอบสถูป จากนั้นพาท่านขึ้นเขาไป สักการะหลวงพ่อสัจธรรม Buddha Dordenma statue (Buddha Point)พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่สุดของภูฏาน หล่อสัมฤทธิ์ ประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงเขาในเมืองทิมพู ทําหน้าที่ปกปักรักษาชาวเมืองทิมพู จากจุดนี้ท่านจะได้เห็นเมืองทิมพูได้โดยรอบ จากนั้นนำท่านชม ซิมโทกาซอง (Samtokha Dzong) เป็นหนึ่งในป้อมปราการเก่าแก่ที่สุดของประเทศ สร้างในปี ค.ศ. 1629 โดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล เป็นต้อนแบบของป้อมปราการหลายแห่งในประเทศภูฏาน |
เที่ยง | พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ที่เมืองทิมพู นำท่านชม วัดชันกังคา (Changangkha Lhakhang Temple) วัดชันกังคา (Changangkha Lhakhang Temple) เป็นวัดที่อยู่บนสันเขาเหนือเมืองทิมพู กำแพงสีขาวของวัดเป็นจุดเด่นที่มองเห็นได้แต่ไกล พระลามะจากทิเบตเป็นผู้สร้างวัดขึ้นในศตวรรษที่ 12 ในสมัยก่อน วัดทำหน้าที่เป็นทั้งอารามและป้อมปราการที่มีไว้สำหรับป้องกันการบุกรุกของข้าศึกศัตรูที่มารุกรานภูฏาน ลานอเนกประสงค์ของวัดเป็นจุดชมวิวทิมพูได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้ววัดซันกังคา ยังมีความสำคัญต่อชาวภูฏานเนื่องจากเมื่อครอบครัวไหนมีเด็กแรกเกิดต้องการตั้งชื่อลูกจะมาขอชื่อกับวัดซันกังคาแห่งนี้ จากนั้นพาท่านชม “ทาคิน” ในสถานอนุรักษ์สัตว์ประจําชาติของภูฏาน (Takin Preservation Center) ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน ปัจจุบันหาดูได้ยากมากเนื่องจากเป็นสัตย์ที่อยู่ในป่าลึกและมีอยู่ที่เฉพาะบนภูเขาในแทบเทือกเขาหิมาลัย เดินทางสู่ เมืองพาโร ใช้เวลาประมาณ 1:30 ชั่วโมง |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร หลังรับประทานอาหารเย็นจะมีการแสดงพื้นบ้านและระบำหน้ากากซึ่งเป็นการแสดงที่สำคัญในประเทศภูฏาน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที |
ที่พัก | Kichu Resort หรือ Drukchen หรือ โรงแรม Tashi Namgay เมืองพาโร |
วันที่ 4 :: | ทิมพู - วัดทักซัง - คิชูลาคัง - พาโร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 :: | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า – โรงแรม Gakyil เมืองทิมพู เดินทางสู่ เมืองพาโร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง นำท่านเดินทางขึ้นสู่ หมู่บ้านซัทซัม เพื่อขึ้นสู่เขาทักซังเพื่อไปยัง วัดทักซัง (Taktshang Goemba Monastery) ชื่อทักซังมีความหมายว่ารังเสือหรือ (Tiger Nest) ท่านสามารถเลือกว่าจะ ขี่ม้า หรือจะ เดิน ขึ้นไปก็ได้ (ลูกค้าหลายท่านจะถามว่าจะเดินไหวไหม ต้องตอบเลยว่าทริปเราไม่รีบร้อนในการเดินขึ้นเพื่อที่แสวงบุญบนหุบเขาอันศักดิ์สิทธิ์นี้ เดินเรื่อย ๆชมบรรยากาศอันสวยงามบนเทือกเขา พักได้ตลอดทาง การขี่ม้าจะช่วยให้เดินขึ้นง่ายขึ้นมากเพราะว่าเมื่อถึงจุดจอดม้าจะเดินอีกไม่นานมาก หากลูกค้าท่านไดไม่สะดวกที่จะขึ้นเขาทักซังเราสามารถพาท่านไปเดินเที่ยวในเมืองพาโรแทนได้) วัดทักซัง เป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูฏาน โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1962 จุดเด่นอยู่ที่ตัววัดนั้นตั้งอยู่ริมผาซึ่งมีความสูงกว่า 900 เมตร ในเขตพาโร ด้วยความสูงเทียมฟ้าเช่นนี้เอง ทำให้วัดนั้นอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกสีขาวที่ล้อมรอบวัด อีกทั้งยังสามารถชมวิวสวย ๆ ด้านล่างได้อย่างชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หมู่มวลดอกไม้ต่างพากันชูช่อสวยงาม ด้านประวัติความเป็นมานั้น มีตำนานเล่าว่า ก่อนพื้นที่บริเวณนี้จะถูกสร้างเป็นวัดนั้นมี คุรุรินโปเซ (Guru Rinpoche) ซึ่งสามารถจำแลงกายเป็นเสือได้มาอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ครั้นจะเทศนาสั่งสอนผู้คนท่านจะกลายร่างเป็นมนุษย์เช่นเดิม และเมื่อคำสอนได้ผล ผู้คนต่างพากันเสื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงทำให้สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาจึงได้มีการสร้างวิหารขึ้นเพื่อแสดงถึงความนิยมด้านพระพุทธศาสนา และเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานทำให้ตัววิหารชำรุดทรุดโทรม จนท้ายที่สุดในปี ค.ศ. 1962 จึงมีการสร้างวัดทักซังหรือวัดรังเสือขึ้นมา และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1998 จากเหตุเพลิงไหม้ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวันที่ภัตตาคารเมืองพาโร หรือ ถ้าล่วงเวลาอาจจะทางอาหารที่ Café ระหว่างทางลงจากเขาทักซัง นำท่านเที่ยวชม คิชู ลาคัง (Kyichu Lhakhang) หรือ วัดคิชู วัดคิชูcเป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขา พระเจ้าซองต์เซน กัมโป กษัตริย์ทิเบต ทรงสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 659 โดยที่ในเวลานั้นพื้นที่ของวัดยังเป็นของทิเบต ตำนานการสร้างวัดแห่งนี้น่าสนใจมาก เล่าสืบต่อกันมาว่า มีนางยักษ์ตนหนึ่งที่มีร่างกายใหญ่โตได้เข้ามาเหยียดแขนเหยียดขานอนทับอยู่บนพื้นที่ของทิเบตและเทือกเขาหิมาลัย เพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้คนที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาพุทธเข้ามายังพื้นที่นี้ พระเจ้าซองต์เซน กัมโป จึงทรงดำริสร้างวัดพุทธ 108 แห่ง ภายในวันเดียว เพื่อตรึงร่างนางยักษ์เอาไว้ โดยวัดคิชูในเมืองพาโรนั้นเป็น 1 ใน 108 แห่งดังกล่าว และเป็นพื้นที่ส่วนที่เท้าซ้ายของนางมารเหยียบอยู่ ส่วนอีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเท้าขวาของยักษ์ **กรณีที่มีเวลาเหลือ เราจะนำท่านมาอาบ น้ำร้อน Hot Stone Bath ถือเป็นออนเซนที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูฏาน สมุนไพรและแร่ธาตุต่างๆที่ดีต่อสุขภาพจะอยู่ในหิน ชาวภูฏานจะนำมาเผาไฟจนระอุและใส่ลงในน้ำสมุนไพรเอกลักษณ์ของชาวภูฏาน การแช่ออนเซนจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สมุนไพรซึมเข้าสู่ร่างกาย ออนเซนจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายอีกทั้งยังช่วยไม่ให้ปวดขาในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย หากท่านใดเป็นความดัน กรุณาแจ้งทีมงาน เนื่องจากการแช่น้ำร้อนนานเพราะการแช่น้ำร้อนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาจมีผลให้หน้ามืด หรือเป็นลมได้ หรือหากท่านไดไม่อยากลงแช่สามารถเดินเล่นในบริเวณนั้นได้ (กรุณาเตรียมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสำหรับใส่แช่ออนเซนไปด้วย) |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Kichu Resort หรือ Drukchen หรือ โรงแรม Tashi Namgay เมืองพาโร |
วันที่ 5 :: | พาโร - กรุงเทพ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 :: | |
เช้า | เดินทางกลับสู่ กรุงเทพ – สนามบินสุวรรณภูมิ |
10:15 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ B3700 (บริการอาหารบนเครื่อง) |
16:05 น. | ถึง กรุงเทพ โดยความปลอดภัยและประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel