มองโกเลีย ... ดินแดนลึกลับ ตั้งอยู่ระหว่างเพื่อนบ้านใหญ่อย่างจีนและรัสเซีย หนึ่งในประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล
มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 18 ของโลก ประชากรครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองหลวงอูลานบาตอร์
1 ใน 3 เป็นชนเผ่าเร่ร่อนพื้นเมืองแบบดั้งเดิมเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ยาวนาน
บางท่านคงใดคุ้นเคยกับชื่อขุนศึกนักรบผู้ยิ่งใหญ่ชาวมองโกเลียนาม "เตมูจิน"หรือที่รู้จักกันในนาม "เจงกีสข่าน"
ผู้ที่รวบรวมชนเผ่าเร่ร่อนในทุ่งหญ้าให้เป็นหนึ่งเดียว และแผ่ขยายอำนาจจนทำให้จักรวรรดิมองโกล
เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ การเรียนรู้ชีวิตครอบครัวคนท้องถิ่น
ชื่นชมกับวัฒนธรรมที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก สัมผัสประสบการณ์การต้อนรับอย่างอบอุ่น
และรับประทานอาหารในแบบที่คุณไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ถือเป็นประสบการณ์คุ้มค่าในชีวิต
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE000-001 | 22 ก.พ.-01 มี.ค. 68 | MIAT Mongolian Airlines (OM) | 69,900 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - อูลานบาตาร์ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
12.15 น. | คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ห้องผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ Q เจ้าหน้าที่ของทางบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกและให้การต้อนรับทุกท่าน (ให้ท่านนำพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันติดตัวมาด้วย) |
15.15 น. | นำท่านออกเดินทางโดย มองโกเลียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OM701 นำท่านเหินฟ้าสู่ เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) จากกรุงเทพฯ ถึง กรุงอูลานบาตาร์ ใช้เวลาเดินทาง 6:10 ชั่วโมง (เวลาที่ มองโกเลีย เร็วกว่า กรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง) |
22.25 น. | นำทุกท่านเดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอูลานบาตาร์ใหม่ (Chinggis Khaan International Airport; UBN) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก กรุงอูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในมองโกเลีย ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Tuul ที่ระดับความสูง 4,430 เมตร เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมอุตสาหกรรม และการเงิน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางเครือข่ายการขนส่งของมองโกเลียที่เชื่อมด้วยระบบรางทั้งทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรียในรัสเซียกับทางรถไฟสายของจีน ถือว่าเป็นเมืองหลวงที่หนาวที่สุดในโลก มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ -1.3°C เมืองนี้มีฤดูร้อนที่สั้นและอบอุ่น ในขณะที่ฤดูหนาวจะหนาวและแห้งมาก อุณหภูมิในเดือนมกราคมจะต่ำถึง -36 ถึง -40 °C |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ |
ที่พัก | Holiday Inn Hotel หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ - หินเต่า – ครอบครัวชนเผ่าเร่ร่อน– ชี่ม้า – สุนัขลากเลื่อน – เกมส์แบบมองโกเลียดั้งเดิม - แต่งกายชุดมองโกเลียถ่ายรูป |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำชม อุทยานแห่งชาติกอร์ไกเทเรลจ์ (Gorkhi Terelj National Park) อยู่ห่างจากกรุงอูลานบาตอร์ 60 กิโลเมตรทางตะวันออก มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติ เดินป่าที่มีลำธารของแม่น้ำทูอูล (Tuul River) ไหลผ่าน ภายในอุทยานเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกมากกว่า 250 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น กวางมูซ, หมีสีน้ำตาล และเพียงพอน (Weasel) แวะถ่ายรูปกับ หินเต่า (Turttle Rock) หินที่มีรูปทรงคล้ายเต่าสวยดูโดดเด่นแปลกตา สูงประมาณ 24 เมตร เกิดจากการก่อตัวเป็นรูปร่างโดยการสรรสร้างผลงานทางศิลปะชิ้นเอกของธรรมชาติ เยี่ยม ครอบครัวชนเผ่าเร่ร่อนแห่งทุ่งหญ้ามองโกเลีย (local nomadic family) สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ที่หมุนเวียนเปลี่ยนถิ่นฐานไปตามลมฟ้าอากาศ โดยพวกเขาจะย้ายตำแหน่งของชุมชนไปยังพื้นที่ที่เหมาะสมกว่าไปเรื่อยๆ เพื่อหาแหล่งอาหารและน้ำที่สมบูรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ครอบครัวจะอาศัยอยู่ในกระโจม หรือ เกอร์ (Ger) ที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ซึ่งมักบุผนังด้วยหนังสัตว์ทำโครงสร้างด้วยไม้ นำท่าน ขี่ม้ามองโกเลีย (Mongolian Horse) เป็นม้าขนาดเล็กและมีหัวขนาดใหญ่ เดินไม่กระโดกกระเดก เป็นพาหนะซึ่งถูกใช้ในชนเผ่าเร่ร่อนในเอเชียกลาง มาตั้งแต่เมื่อ 4,000 ปีก่อน โดยการขี่ม้าถือเป็นหนึ่งในสามของทักษะของผู้ชายมองโกเลีย นอกเหนือจากมวยปล้ำและการยิงธนู เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวมองโกเลีย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร - Course menu at the camp |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปยัง สุนัขลากเลื่อน (dog-sledding) สุนัขสุดน่ารัก อดทนต่อความหนาวเย็นได้ดี เปิดประสบการณ์การนั่งบนรถลากเลื่อนที่ผูกติดกับฝูงสุนัขลากบนแม่น้ำน้ำน้ำแข็ง (Frozen River) ชมความสวยงามของป่าและริมฝั่งแม่น้ำตูล ท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็น ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร...เดินทางกลับมายังเทเรลจ์ สตาร์ รีสอร์ท (Terelj Star Resort) เล่นเกมส์สไตล์มองโกเลียแบบดั้งเดิม และ ถ่ายรูปกับชุดเสื้อผ้าแบบมอลโกเลียแบบดั้งเดิม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม – บาร์บีคิวเนื้อแกะสไตล์มองโกเลียขนานแท้ “khorkhog” |
ที่พัก | พักที่แคมป์นักท่องเที่ยว (Tourist camp) - พักในเกอร์ เปิดประสบการ์ณ์พักแบบคนท้องถิ่น “เกอร์”(Ger) … กระโจมทรงกลมขนาดใหญ่มีหลังคาเป็นโดมตั้งอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติกระจายอยู่ตามทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ในประเทศมองโกเลีย มีลักษณะทรงกลมทำจากโครงไม้ คลุมด้วยชนวนที่ทำด้วยหนังสัตว์ ให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว และให้ความเย็นในฤดูร้อน ส่วนใหญ่มีประตูบานเดียวทำจากไม้บางแห่งมีการทาสีและวาดลวดลาย ประตูส่วนใหญ่ของเกอร์จะหันไปทางทิศใต้ซึ่งสามารถรับแสงแดดได้มากที่สุด ไม่มีหน้าต่างมีโครงตาข่ายและเสาไม้ยึดเป็นโครงสร้างกำแพงเป็นวงกลม ตรงกลางหลังคากระโจมยึดด้วยเสาขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นที่ตั้งของเตา ด้านบนมีช่องรูช่วยระบายควันที่ออกจากเตา มีปล่องไฟโผล่ขึ้นด้านบน เตาจะทำหน้าที่เป็นแหล่งความร้อนเพื่อประกอบอาหาร |
วันที่ 3 | คอมเพล็กซ์อนุสาวรีย์ชิงกิสข่าน - วัดกานดาน - ตลาดดันจินการาฟ - เส้นทางรถไฟสายทรานส์มองโกเลีย |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในแคมป์นักท่องเที่ยว นำท่านสู่ คอมเพล็กซ์อนุสาวรีย์ชิงกิสข่าน (Chinggis Khaan Statue complex) ชมพระบรมรูปทรงม้าเจงกิสข่าน เป็นอนุสาวรีย์เจงกีสข่านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย และเป็นอนุเสวรีย์ขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย อนุเสวรีย์นี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของชิงกิสข่าน รูปปั้นนี้หุ้มด้วยสแตนเลส สูง 40 เมตร ชมภายในฐานของอนุเสาวรีย์ฯ เป็นอาคารสองชั้นที่ตั้งของหอศิลป์, พิพิธภัณฑ์, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก และห้องประชุม ภายในห้องโถงใหญ่ชั้นหนึ่ง มีการจัดแสดงรองเท้าบูท และอาวุธที่มีขนาดใหญ่ รวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเจงกีสข่านส่วนบริเวณชั้นสองเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการถาวร เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มองโกเลียโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวมองโกเลีย รวมไปถึงวัฒนธรรมประเพณี และการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม เมื่อเดินไปตามบันได/ขึ้นลิฟท์เพื่อไปสู่ชั้นดาดฟ้าซึ่งบนหัวของม้า (ประมาณอกท่านเจงกิสข่าน) จะมองเห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามาที่ตระกาลตาสุดลูกหูลูกตา หรือจะมาเซลฟี่กับท่านเจงกิสข่านเป็นที่ระลึกได้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร - บุฟเฟ่ต์นานาชาติ |
บ่าย | ชม วัดกานดาน (Gandan Monastery) เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในมองโกเลีย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงอูลานบาตาร์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1835 โดยพระเจ้ามองโกลองค์ที่ 5 เพื่อเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาในมองโกเลีย มีสถาปัตยกรรมแบบทิเบต นำสักการะ พระพุทธรูปพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ที่สูงที่สุดในโลก สูง 26 เมตรภายในวิหารหลัก และพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ และพระพุทธรูปอื่นๆอีกมากมาย เพื่อความเป็นสิริมงคล เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ที่ ตลาดดันจินการาฟ (Dunjingarav) หรือ ตลาดมืดอื่นที่คล้ายกัน เป็นตลาดพื้นเมืองที่มีมีสินค้าราคาถูก คุณภาพใช้งานได้ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องกันหนาวและเครื่องประดับ โดยอย่างยิ่ง มีพวกอุปกรณ์กันหนาวมีให้เลือกเยอะมากๆ นำเดินทางไปสถานีรถไฟกลาง |
18.40 น. | ออกเดินทางโดยขบวนรถไฟสู่ เมืองเอร์เดเนต (Erdenet city) เป็นส่วนหนึ่งของ “ทรานส์มองโกเลีย” (Trans Mongolia) เส้นทางรถไฟที่เรียกได้ว่าดังที่สุดในโลก ชมวิวอันหลากหลายของมองโกเลียได้อย่างจุใจและเต็มตา อาทิ ภูเขา ทุ่งหญ้าสีทองหรือเขียวขจี หมู่เกอร์ที่พักเป็นเอกลักษณ์ ชาวมองโกเลียที่นั่งอยู่บนหลังม้า ไม่ว่าจะนั่งหรือนอนชมวิวก็รู้สึกอบอุ่นได้ด้วยฮีทเตอร์ อุ่นกายสบายใจเมื่อทอดสายตาออกไปที่หน้าต่าง ชมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เห็นแสงเดือนนับดาวในตู้นอนบนขบวนรถไฟในบรรยากาศสุดโรแมนติก หนึ่งห้องจะมี 4 เตียง ประกอบด้วย เตียงล่าง 2 เตียง เตียงบน 2 เตียง ให้ท่านพักเพียงห้องละ 2 คน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำบนรถไฟ – อาหารกล่อง |
ที่พัก | พักในขบวนรถไฟ เดินทางไปยัง เอร์เดเนต |
วันที่ 4 | เอร์เดเนต - ทะเลสาบฮุฟสกุล - หินกวาง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | ตื่นยามเช้าชมแสงแรกแห่งวันใหม่ กับวิวสุดฟินของสองข้างทางบนเส้นทางรถไฟ ขบวนรถไฟนำท่านมาถึง เมืองเอร์เดเนต เมืองเอร์เดเนต เป็นเมืองหลักของจังหวัดออร์คอน (Orkhon) และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศมองโกเลีย เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศในหุบเขาระหว่างแม่น้ำเซเลงกาและแม่น้ำออร์คอน อยู่ห่างจากเมืองหลวงอูลานบาตาร์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 241 กิโลเมตร รับประทานอาหารเช้า - อาหารกล่อง นำชม ทะเลสาบฮุฟสกุล (Khuvsgul lake) ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย และเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่มีความลึกเป็นอันดับ 2 ของเอเชียตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมองโกเลีย ติดกับพรมแดนสาธารณรัฐบูเรียเตีย ประเทศรัสเซียบ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของยูเนสโกในปีค.ศ. 2005 มีทัศนียภาพที่สวยงามจนได้รับขนานนามว่า “ไข่มุกสีฟ้าแห่งมองโกเลีย” น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ยังมีอุณหภูมิค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปีและใสมาก จนมองเห็นปลาที่อยู่ใต้น้ำได้อย่างชัดเจน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาพันธุ์ เช่น ปลานิล ปลาคาร์พ ปลาเทร้าต์ ปลาเฮอร์ริง และปลาแซลมอน รวมถึงนกน้ำและสัตว์ป่าอีกมากมายหลายชนิด เช่น กวางเรนเดียร์ กวางมูส แพะไอเบ็กซ์ และจามรี ช่วงฤดูร้อน ท่านสามารถล่องเรือชมความสวยงามของทะเลสาบและธรรมชาติ หรือเดินชมป่าสน ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี เยี่ยมชมหมู่บ้านของชนพื้นเมืองมองโกเลียได้ ช่วงฤดูหนาว ทะเลสาบจะกลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่ เพื่อเล่นสกี เล่นสโนว์บอร์ด สร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้มาเยือน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในเมืองโมรอน - อาหารเกาหลี |
บ่าย | นำชม หินกวาง (Deer Stones) อารยธรรมโบราณในยุคสำริด (bronze age) มีอายุประมาณ 1,200 ถึง 600 ปีก่อนคริสตศักราช มักจะตั้งอยู่ภายในบริเวณที่ซับซ้อนต่างๆ เช่น khirgisüürs (เนินฝังศพที่ตกแต่งอย่างประณีต) แท่นบูชาบูชายัญ การฝังศพมนุษย์และซากม้า และองค์ประกอบอื่นๆ แต่ก็ไม่พบว่ามีซากศพของมนุษย์อยู่ข้างใต้หรือรอบๆ นักวิชาการบางท่านเสนอว่าหินแกะสลักเพื่อเป็นเกียรติหรือเป็นตัวแทนของบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว บนหน้าหินมีการแสดงภาพหลายภาพ เช่น กวาง กวางเอลก์ ม้า ใบหน้าคน และดวงอาทิตย์ อนุสาวรีย์หินกวางและแหล่งยุคสำริดที่เกี่ยวข้องได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 2023 นำท่านช๊อปปิ้งที่ ตลาดพื้นเมือง มีสินค้ามากมายให้ท่านได้เพลิดเพลินจนลืมเวลา อาทิ หมวกมองโกล (Mongolian Hat) เสื้อผ้าแบบดั้งเดิม เสื้อผ้าแคชเมียร์ทำจากขนแพะภูเขา รองเท้าบูท เครื่องประดับ ของที่ระลึกต่างๆ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | 50*100 hotel หรือในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | ค่ายผู้นำริมทะเลสาบฮุฟสกุล - หมู่บ้านคาทกาล – ขี่ม้าลากเลื่อน - แคมป์ริมทะเลสาบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางออกเดินทางจาก ค่ายผู้นำ (Capitan camp) ริมทะเลสาบฮุฟสกุล เดินทางสู่ หมู่บ้านคาทกาล (Khatgal Village) ริมฝั่งทะเลสาบฮุฟสกุล เยี่ยมชมท่าเรือ และวิถีชีวิตพื้นเมืองของชาวเรือ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารพื้นเมืองในหมู่บ้านคาทกาล |
บ่าย | เปิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสนุกสนานกับการ ขี่ม้าลากเลื่อน (Horse-sledding) บนส่วนหนึ่งของทะเลสาบน้ำแข็งในหมู่บ้านคาทกาล นานถึง 1 ชั่วโมง อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ท่านไม่ควรพลาด โดยม้าลากเลื่อนสามารถนั่งได้ 3 ท่าน (1 ท่านคนขับ 2 ท่านผู้โดยสาร) *ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการแข็งตัวของทะเลสาบซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ บริษัทขอสวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความเหมาะสมโดยถือประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เดินทางไปยัง แคมป์ริมทะเลสาบ ให้เวลาท่านได้เพลิดเพลินอย่างอิสระกับความสวยงามของธรรมชาติยามเย็น ในดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะตามอัธยาศัย |
บ่าย | เปิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจและสนุกสนานกับการ ขี่ม้าลากเลื่อน (Horse-sledding) บนส่วนหนึ่งของทะเลสาบน้ำแข็งในหมู่บ้านคาทกาล นานถึง 1 ชั่วโมง อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ท่านไม่ควรพลาด โดยม้าลากเลื่อนสามารถนั่งได้ 3 ท่าน (1 ท่านคนขับ 2 ท่านผู้โดยสาร) *ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการแข็งตัวของทะเลสาบซึ่งเป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ บริษัทขอสวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนกิจกรรมตามความเหมาะสมโดยถือประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เดินทางไปยัง แคมป์ริมทะเลสาบ ให้เวลาท่านได้เพลิดเพลินอย่างอิสระกับความสวยงามของธรรมชาติยามเย็น ในดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่แคมป์ |
ที่พัก | แคมป์นักท่องเที่ยว (Tourist camp) - พักในเกอร์ |
วันที่ 6 | มูรูน - เอร์เดเนต - อูลานบาตาร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เดินทางสู่ เมืองมูรูน (Murun) ศูนย์กลางการปกครองของเขตการปกครองจังหวัดฮุฟสกุล (Khuvsgul Aimag) ตั้งแต่ปี 1933 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารในเมืองมูรูน |
บ่าย | เดินทางสู่ เมืองเอร์เดเนต |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่ชนเผ่าเร่ร่อนสมัยใหม่ในเมืองเอร์เดเนต |
20.40 น. | นั่งรถไฟกลับไปยัง กรุงอูลานบาตาร์ |
ที่พัก | พักในขบวนรถไฟ เดินทางไปยังกรุงอูลานบาตาร์ |
วันที่ 7 | อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน - สวนพุทธะ - ช้อปปิ้ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | เดินทางมาถึง กรุงอูลานบาตาร์ รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม หรือ คาเฟ่ท้องถิ่น ชม อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน (Zaisan Memorial Hill) เป็นอนุสรณ์สถานลักษณะวงกลม ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาบอกด์ข่าน (Bogd Khan Mountain) ทางตอนใต้ของกรุงอูลานบาตอร์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2512 เพื่อระลึกถึงทหารพันธมิตร มองโกเลีย และโซเวียต ที่ถูกสังหารในสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นสัญลักษณ์ของความเสียสละและความกล้าหาญของวีรชนทหารพันธมิตรที่ต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศมองโกเลีย อนุสรณ์สถานแห่งนี้สูง 40 เมตร ประกอบด้วยรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของทหารโซเวียตที่กำลังถือธงโซเวียตและมองโกเลียยืนอยู่ด้านบนของเสาหินแกรนิต เบื้องล่างมีรูปปั้นทหารมองโกเลียและโซเวียตอีกจำนวนหนึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงหินแกรนิตประดับลวดลาย ภายในมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองในมองโกเลีย มีภาพความสัมพนัธ์อันดีระหว่างโซเวียตกับมองโกเลีย เมื่อขึ้นไปทางด้านบนของอนุสรณ์สถานจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองอูลานบาตอร์และแม่น้ำทูอูล (Tuul River) ได้ และ สวนพุทธะ (Buddha Park) มีพระพุทธปฏิมากรของพระโคตมพุทธเจ้า (The Gautama buddha) ความสูงเมื่อรวมฐาน 23 เมตร สร้างในปี 2006 ด้วยเงินบริจาคของชาวเกาหลีใต้ โดยพระพุทธรูปนี้หันหน้าไปทางกรุงอูลานบาตาร์เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ฐานพระพุทธรูปเป็นที่ตั้งของอาคารศูนย์ศาสนาและวัฒนธรรม ด้านข้างของพระพุทธรูปมีกลองและระฆังขนาดใหญ่ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร - หม้อไฟ หรือ อาหารเกาหลี |
บ่าย | ชม จตุรัสซุคบาตาร์ (Sukhbaatar Square) เป็นจัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ ใจกลางเมืองอูลานบาตาร์ ตั้งชื่อตามวีรบุรุษการปฏิวัติมองโกเลีย ดัมดิน ซุคบาตาร์ หลังเสียชีวิตในปี 1923 จตุรัสแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1 กม. กว้างประมาณ 500 เมตร กลางจตุรัสมีรูปปั้นของดัมดิน ซุคบาตาร์ ขี่ม้า ล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญต่างๆ ของรัฐบาลมองโกเลีย เช่น รัฐสภา ศาลฎีกา กระทรวงต่าง ๆ พิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์และรูปปั้นสำคัญๆ มากมาย ชม พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกเลีย (National Museum of Mongolia) เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของประเทศมองโกเลีย ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของจตุรัสซุคบาตาร์ จัดตั้งขึ้นในวาระครบรอบ 800 ปีของการก่อตั้งประเทศ ชาวมองโกลเรียกกันทั่วไปว่า Saaral Ordon หมายถึงพระราชวังสีเทา (Gray Palace) จากความเก่าของสีภายนอกของอาคารที่เคยเป็นสีขาวในอดีต บริเวณด้านหน้าเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึง สามข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิมองโกล (Monument of the Three Great Khan of the Mongol Empire) ได้แก่ เจงกีสข่าน โอเกเดย์ข่าน และ กุบไลข่าน ตัวอาคารมีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสาน ระหว่างยุโรปและตะวันออก ได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึง ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม, ประเพณี และศิลปะการออกแบบที่เชื่อมโยงกับศิลปะของมองโกเลียได้อย่างงดงาม อาคารนี้จึงกลายเป็นต้นแบบของอาคาร ในหน่วยงานรัฐบาล และหน่วยงานระดับสูงอื่นๆ ของประเทศมองโกเลีย ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการถาวรและฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในภาษามองโกเลียและภาษาอังกฤษ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ที่มีมายาวนานกว่า 2,200 ปี นำท่าน ช้อปปิ้ง ร้านแคชเมียร์และของที่ระลึก ผลิตภัณฑ์แคชเมียร์ของมองโกเลียถือได้ว่าคุณภาพดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังผลิตภัณฑ์ของชาวมองโกเลียขนานแท้ อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมความงามจากท้องถิ่น วอดก้านมม้า ขวดยานัตถ์ (snuff bottle) งานหัตถกรรม ผลิตภัณฑ์สักหลาดที่ทำจากขนสัตว์ เช่น พรม รองเท้า หมวก กระเป๋า ของเล่น และอื่นๆอีกมากมายให้ท่านหาซื้อไปเป็นของฝากของที่ระลึก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร - อาหารจีน |
ที่พัก | พักที่ Holiday Inn Hotel หรือในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | อูลานบาตาร์ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าใน - อาหารกล่อง หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว นำท่านเดินทางออกจากโรงแรม มุ่งหน้าสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับ |
08.45 น. | นำเหินฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินมองโกเลียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OM7012 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) จาก อูลานบาตาร์ ถึง กรุงเทพฯใช้เวลาบินประมาณ 6:30 ชั่วโมง |
14.15 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ (ขาเข้า ชั้น 2) โดยสวัสดิภาพ |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 69,900 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 15,000 บาท |
****กรณีการรักษาพยาบาทต่อเนื่องในประเทศไทยผู้เอาประก้นภัยต้องขอรับการรักษาพยาบาทในประเทศไทยภายใน 24 ชั่งโมงนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย และ รับการรักษาต่อเนื่องไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่ได้รับการรักษาครั้งแรกในประเทศไทย
****กรณีที่ผู้เอาประกันได้รับการรักษาพยาบาทที่ต่างประเทศผู้เอาประกันมีกำหนดเวลา 7วันนับจากวันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทยที่จะรับการรักษาต่อเนื่องในประเทศไทย
หมายเหตุ : คุ้มครองผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 75-85 ปี จ่ายเบี้ย 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel