มิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - เวโรน่า - บ้านของจูเลียต - เวนิส (อิตาลี)
เกาะเวนิส - สะพานถอนลมหายใจ - จัตุรัสซานมาร์โค - อินส์บรุค - วังหลังคาทองคำ (ออสเตรีย)
ฮัลล์ทัทท์ - มิวนิค - จัตุรัสมาเรียนพลาส - โฮเฮนชวานเกา - ปราสาทนอยชวานสไตน์ - ฟุสเซ่น (เยอรมัน)
เบิร์น - บ่อหมี - หอนาฬิกาเบิร์น - บ้านไอซไตน์ - อินเทอร์ลาเค่น (สวิตเซอร์แลนด์)
พิชิตยอดเขาจุงเฟรา - สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป - ลานหิมะ - ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี - ลูเซิร์น - อนุสาวรีย์สิงโต - สะพานไม้คาเปล ( สวิตเซอร์แลนด์ )
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE214-005 | 06-14 ธ.ค. 67 | Qatar Airways (QR) | 125,555 | จองด่วน |
DE214-006 | 25 ธ.ค. 67-02 ม.ค. 68 | Qatar Airways (QR) | 128,555 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - มิลาน (อิตาลี) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
17.00 น. | คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS (QR) สังเกตุป้าย กราเซีย กรุ๊ป เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง |
20:05 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่QR 831 / QR 117 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน |
วันที่ 2 | มิลาน – มหาวิหารแห่งมิลาน – เวโรน่า – บ้านของจูเลียต – เวนิส (อิตาลี) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
06.35 น. | เดินทางถึง สนามบินมิลาน เมืองทางเหนือของประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่น หลังผ่านพิธีการด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ใจกลางเมืองมิลาน นำท่าน ถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งมิลาน (Duomo di Milano) เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองมิลาน และเป็นวิหารหินอ่อนสถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งใช้เวลาสร้างนานถึง 500 ปี ลักษณะเด่นของวิหารที่นอกเหนือจากความวิจิตรงดงามแล้ว ยังประดับประดาไปด้วยรูปปั้นนับกว่า 3000 รูป ที่สวยงามไม่แพ้กัน จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังบริเวณอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 ซึ่งเป็นห้างหรือศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเวโรน่า (VERONA) เมืองที่โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของวิลเลี่ยม เชกส์เปียร์ ชื่อโรมิโอและจูเลียต นำท่านชม ย่านเมืองเก่า ที่ยังคงสภาพบ้านเรือนแบบโบราณ นําท่านสู่ จตุรัสเออร์เบ ที่รายล้อมไปด้วยคฤหาสน์, วังเก่าของตระกูลที่เคยปกครองเวโรน่า ระหว่างทาง ผ่านชม ความยิ่งใหญ่ภายนอกของ โรมัน อารีน่า สนามกีฬากลางแจ้งแบบโบราณในสมัยโรมัน เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึก และสินค้าแบรนด์เนมที่มีให้ท่านได้เลือกอย่างมากมายตามอัธยาศัยบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า นำท่านชม อดีตบ้านของจูเลียต ปัจจุบันหน้าบ้านจูเลียตคือ ร้านArmani ชม ระเบียงหินอ่อนเล็ก ๆ ที่จูเลียตเคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอมาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 27 ถนนแคปเปลโล (Cappello) ในเมืองเวโรน่า (Verona) บริเวณบ้านมีรูปปั้นจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ปั้นโดย N.Costantini ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของจูเลียต นอกจากนี้ภายในบริเวณกําแพงบ้านจูเลียตยังมีการเขียนแสดงความรักกันมากมายจนแทบไม่เห็นสีกําแพงเดิม และยังมีบริการโทรศัพท์สําหรับคนที่ไม่ได้มากับคนรักให้ได้เซย์ฮัลโหลหากันว่าโทรมาจากบ้านจูเลียตแห่งนี้ ได้เวลานัดหมายนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (VENICE) เมืองบนเกาะเจ้าของฉายา ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติกและยังเป็นบ้านเกิดของนักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่มาร์โคโปโล |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) |
ที่พัก | Voco Venice Mestre หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 1) |
วันที่ 3 | เกาะเวนิส – สะพานถอนลมหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค – อินส์บรุค –วังหลังคาทองคำ (ออสเตรีย) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3) นำท่านล่องเรือสู่ เกาะเวนิส – เมรเตร้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิส ระหว่างทางท่านจะได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองเมสเตร้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) (อาหารพื้นเมือง พิซซ่าต้นตำรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินส์บรุค ประเทศออสเตรีย เป็นเมืองหลวงของรัฐทิโรล ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำอินน์กลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พระนางมาเรีย เทเรเซียผู้ยิ่งใหญ่หรือแม้แต่นโปเลียน โบนาปาร์ต ระหว่างทางพักผ่อนตามอัธยาศัยเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสองข้างทาง จากนั้นนำท่านชม ความร่มรื่นของสวนสาธารณะฮอฟการ์เด้น ถ่ายรูปกับ วังหลังคาทองคำ เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอินส์บรุคซึ่งตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นโดยจักรพรรดิ Friedrich ที่ 4 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 สำหรับเป็นที่ประทับของผู้ปกครองแคว้นทิโรล ต่อมาจักรพรรดิ Maximilian ทรงปรับเปลี่ยนโกลเด้นรูฟให้เป็นสไตล์โกธิคผสมบารอก และได้ทรงตกแต่งส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น เพื่อใช้เป็นที่ทอดพระเนตรเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นบริเวณจัตุรัสด้านหน้าที่ประทับ ปัจจุบันโกลเด้นรูฟกลายเป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ เสาสูงอนาซอล จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้งเครื่องแก้วคริสตัลซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังสุดของออสเตรีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5) |
ที่พัก | Hotel Grauer Bär หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 2) |
วันที่ 4 | ฮัลล์ทัทท์ - มิวนิค - จัตุรัสมาเรียนพลาส (เยอรมัน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6) จากนั้นท่านเดินทางสู่ เมืองฮัลล์ทัทท์ เมืองที่ได้ชื่อว่าตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ฮัลล์ทัทท์เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบฮัลล์ทัทท์ (Lake Hallstatt) หรือ ฮัลล์ชตัทท์เทอร์ซี (Hallstatter See) ทะเลสาบในเขตภูมิภาคซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรีย อิสระให้ท่านเดินชมบรรยากาศเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ ที่มีเสน่ห์คือความเงียบสงบสวยงาม จุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยของเมืองริมทะเลสาบสีน้ำเงินแห่งนี้ก็คือ เทือกเขาสูงตระหง่านล้อมรอบทะเลสาบอันนิ่งสงบเอาไว้อย่างนุ่มนวล |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) พิเศษกับเมนูปลาเทร้าย่างเกลือ |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ใจกลางนครมิวนิค เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป เมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์ นำท่านชม จัตุรัสมาเรียนพาซ ย่านใจกลางเมืองเก่าของมิวนิค ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่าที่งดงามด้วยศิลปะโกธิค และวิหารแม่พระโบสถ์ใหญ่ที่มีโดมเป็นรูปทรงคล้ายหัวหอมใหญ่ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า ณ ย่านถนนคนเดินซึ่งจะมีห้างสรรพสินค้ามากมายหลายแห่ง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8) |
ที่พัก | ACHAT Hotel Munchen Sud หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 3) |
วันที่ 5 | โฮเฮนชวานเกา - ปราสาทนอยชวานสไตน์ - ฟุสเซ่น (เยอรมัน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9) นำท่านเดินทางสู่ เมืองโฮเฮนชวานเกา เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย เดินทางผ่านเส้นทางที่มีทิวทัศน์อันสุดแสนโรแมนติค ท่ามกลางธรรมชาติของเขาสูง เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสองปราสาทสวยงาม คือปราสาทโฺฮเฮนขวานเกา ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าแม็กซิมิเลี่ยนที่ 2 ( พระราชบิดาของพระเจ้าลุควิกที่ 2 ) และปราสาทนอยชวานชไตน์ เป็นปราสาทซึ่งสร้างตามพระจินตนาการส่วนพระองค์ของพระเจ้าลุควิกที่ 2 บริเวณใกล้กันกับปราสาทจะมีทะเลสาบสวยงามที่มีชื่อว่าทะเลสาบแอลป์ |
เที่ยง | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10) พิเศษกับเมนูขาหมูเยอรมัน+เบียร์ |
บ่าย | นำท่านเดินทางขึ้นปราสาทชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) โดยรถบัสเล็ก ( หากช่วงที่หิมะตกหนักรถบัสจะหยุดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เนื่องด้วยเพื่อความปลอดภัยทางบริษัทฯ จะนำคณะเดินขึ้น – ลงปราสาท เนื่องจากเวลาหิมะตกทางจะลื่นและอันตราย ) นำเข้าชม ต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว พระเจ้าลุดวิกทรงเป็นบุคคลที่มีลักษณะนิสัยที่ลึกลับเป็นปริศนา (eccentric) และเป็นผู้ที่สิ้นพระชนม์ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างมีเงื่อนงำ สุขภาพจิตของพระองค์ในบั้นปลายอาจจะไม่ปกติแต่ก็ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่เป็นที่ยืนยันได้แน่นอน แต่สิ่งที่ทรงทิ้งไว้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังคืองานทางสถาปัตยกรรมที่ทรงก่อสร้างรวมทั้งวังและปราสาทใหญ่โตที่ทั้งหรูหราโอ่อ่าและเต็มไปด้วยจินตนาการราวเทพนิยายหลายแห่ง รวมทั้งปราสาทนอยชวานชไตน์ซึ่งเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีและนักเขียนดนตรีโอเปร่าคนสำคัญของเยอรมนีชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม โดยการออกแบบของ คริสเตียน แยงค์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น เป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐบาวาเรียประเทศเยอรมนีในเขตออสทัลล์กอย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ทุกฤดู นำท่านชมย่านเมืองเก่าซึ่งมีความสวยงามตึงตาที่ท่านมิอาจลืมได้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำที่ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) |
ที่พัก | Luitpoldpark-Hotel หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 4) |
วันที่ 6 | เบิร์น – หอนาฬิกาเบิร์น – บ้านไอซไตน์ – อินเทอร์ลาเค่น (สวิตเซอร์แลนด์) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 12) นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น เมืองหลวงอันเก่าแก่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ Unesco จากนั้นนำคณะเดินทางเข้าสู่ย่าน มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีค เป็นเขตที่ปลอดมลพิษไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่านจึงเหมาะกับการเดินเที่ยว นำชมอาคารเก่า อายุ 200 – 300 ปี ชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆของเมืองนี้ เดินทางเข้าสู่ ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชม นาฬิกาไซ้ท์กล็อคเค่นอายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา ชม มหาวิหารเซนต์วินเซนต์รัทฮาวน์ และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป ให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเมืองพร้อมชมอดีตบ้านพักของไอสไตน์ ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) |
บ่าย | นำท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปี ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารพื้นเมือง ให้ท่านได้ลิ้มลองเมนูฟองดูว์แบบต้นตำหรับ ที่ขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ ทั้ง 3 ชนิด เริ่มต้นจากชีส // เนื้อสัตว์ และ ช็อคโกแลต (มื้อที่ 14) |
พักที่ | Lindner Grand Hotel Beau Rivage หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 5) |
วันที่ 7 | พิชิตยอดเขาจุงเฟรา – สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป – ลานหิมะ – ถ้ำน้ำแข็ง 1,000 ปี – ลูเซิร์น – อนุสาวรีย์สิงโต – สะพานไม้คาเปล ( สวิตเซอร์แลนด์ ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15) ออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศมุ่งหน้าขึ้นสู่หมู่ บ้านกรินเดลวาลด์กรุน เพื่อนำท่านขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนน ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์แบบสวิสเซอร์แลนด์ขนานแท้ ที่มีทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ หรือใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ล่วง บ้านหลังน้อยใหญ่ปลูกแบบน่ารักๆทรงสวิสชาเลต์ ฝูงวัวพื้นเมืองที่กระจัดกระจายแทะเล็มหญ้าอยู่ทั่วบริเวณ ลำธารน้ำธรรมชาติเล็กๆที่ใสสะอาดและฉากหลังที่มีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านขาวโพลน ซึ่งจะทำให้คณะได้รับความประทับใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมนำคณะเปลี่ยนบรรยากาศโดยการ นั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์ แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไชเด็ก รถไฟที่จะนำท่านเดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯได้ขุดเจาะไว้ที่ความสูงถึง 3,464 เมตร จนกระทั่งถึง สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป Top of Europe บนยอดเขาจุงเฟรา ซึ่งมีความสูง 4,158 เมตร (13,642 ฟุต) จุดสูงสุดคือลานน้ำแข็งขนาดใหญ่เรียกว่า Sphinx นักท่องเที่ยวหลายๆคนบอกว่าที่นี่สวยงามดุจดินแดนแห่งสวรรค์ เพราะยอดเขาแห่งนี้ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายภาพความประทับใจตามอัธยาศัยกับแบบจุใจ ไม่มีเร่งรีบ จากนั้นนำท่าน ชม ถํ้านํ้าแข็ง 1,000 ปี ที่สร้างโดยการเจาะธารน้ำแข็งเข้าไปถึง 30 เมตร ชมน้ำแข็งแกะสลักรูปร่างต่าง จากนั้นชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสหิมะที่ ลานพลาโต Plateau และไม่ควรพลาดการส่งโปสการ์ดจากที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกพร้อมซื้อของที่ระลึกต่างๆตามอัธยาศัย นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจ เดินทางสู่ ยุงค์ ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เหมือนมาไม่ถึง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงเฟรา (มื้อที่ 16) |
บ่าย | จากนั้นนำท่านลงจากยอดเขาจุงเฟราไปยังสถานีรถไฟ ไอเกอร์เกลทเชอร์ เพื่อนำท่านขึ้นกระเช้า The V-Cableways (กระเช้าใหม่ล่าสุด) ลงมายังเมืองกลินเดอร์วาวล์ จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ นำท่านชม สะพานไม้ชาเปล สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น สะพานไม้ที่เก่าแก่มีอายุหลายร้อยปี นําท่านชม อนุสาวรีย์สิงโต สัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์และกล้าหาญของชาวสวิสเซอร์แลนด์ ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศสระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในคราวปฏิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส แกะสลักอยู่บนหน้าผาหิน ให้ท่านชื่นชมบรรยากาศกลางเมืองน่ารักเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งที่มีร้านตัวแทนจำหน่าย นาฬิกาสวิสฯ อาทิ ROLEX,PANERAI, OMEGA, IWC, PATEK PHILLIP เป็นต้น หรือเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) (อาหารไทย) |
พักที่ | Radisson Blu Lucerne หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 6) |
วันที่ 8 | ลูเซิร์น - ซาร์ฟเฮาเซ่น - น้ำตกไรน์ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18) ออกเดินทางเข้าสู่ ซาฟเฮาส์เซ่น เมืองชายแดนเยอรมัน-สวิสฯ (ประมาณ 100 กม. ใช้ระยะเวลา ประมาณ 1 ชม.) นำคณะชมความสวยงามของ น้ำตกไรน์ ซึ่งเกิดจากแม่น้ำไรน์สายน้ำนานาชาติที่สำคัญที่สุดในยุโรป แม่น้ำแห่งนี้เกิดขึ้นจากการละลายของหิมะจากเทือกเขาแอลป์เริ่มจากเป็นลำธารเล็ก ๆ ผ่านลิคเท่นสไตน์เข้าสู่ทะเลสาบคอนสะแต้นที่กั้นพรหมแดนระหว่างสวิตเซอร์แลนด์กับเยอรมนี สัมผัสความตระการตาของสายน้ำตก พร้อมบันทึกภาพอันน่าประทับใจไว้เป็นที่ระลึก ได้เวลานัดหมายนำคณะออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติซูริกเพื่อทำการเช็คอินและทำ TAXREFUND |
15.55 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ เที่ยวบินที่ QR 096 / QR 836 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน |
วันที่ 9 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
12.40 น. | คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความสวัสดี |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 125,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 28,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 128,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 32,000 บาท |
ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบ Schengen ไม่รวมค่าธรรมเนียม การแปลเอกสารจากศูนย์แปล
เอกสารประกอบการขอวีซ่าทัวร์ (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)
1. หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง กว้าง 3.5 ซม. สูง 4.5 ซม. (รูปหน้าใหญ่) จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2 รูป) และกรุณาเขียนชื่อ-นามสกุลตัวบรรจงไว้ด้านหลังรูป ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ หรือ บิ๊กอายในการถ่ายรูป / ห้ามใส่เครื่องประดับในการถ่ายรูป
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ
4. สำเนาบัตรประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์)
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เดินทางกับใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว (พ่อและเม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา) (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น
8. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน เป็นภาษาอังกฤษ) ฉบับจริงเท่านั้น**จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ ( สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน )
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า ( สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัทและตราประทับบริษัทด้วย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ( ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา ( ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน )
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ
9. หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น)
9.1 หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น) สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ + ตราประทับจากธนาคาร + ลายเซ็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร นำเล่มจริงมาแสดงวันที่ยื่นวีซ่า
⦁ กรณีเงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
⦁ ก่อนยื่นวีซ่า 7 วัน รบกวนปรับสมุดบัญชี ให้มียอดล่าสุด 7 วัน ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า และสำเนามายื่นเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า หากนำสมุดไปปรับแล้วไม่มียอด รบกวนนำเงินเข้า หรือ นำเงินออก เผื่อจะได้มียอดในการปรับสมุด
⦁ สำหรับท่านที่ทำงาน กรณีไม่ได้ใช้บัญชีเงินเดือนยื่นวีซ่า ต้องแนบสเตทเมน์บัญชีเงินเดือนมาด้วย
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10. ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
⦁ เขียนจดหมาย decare เป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
⦁ กรณีมีลูกด้วยกัน ให้ใช้ใบเกิดของลูก
⦁ กรณีไม่มีลูกด้วยกัน ให้ใช้ทะเบียนบ้านทั้งของสามีและภรรยา โดยทะเบียนบ้านของทั้งสองต้องอยู่บ้านเดียวกัน
10.2 กรุณาแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากตามข้อกำหนดในข้อ 9 ที่จะใช้ยื่นวีซ่า 1 ชุดของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งใน หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองค่าใช้จ่ายด้วย(ขอเป็นภาษาอังกฤษ)ต้องมีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ได้คิวยื่นวีซ่า พร้อมทั้งต้องระบุ จำนวนเงินเป็นตัวเลขลงในหนังสือรับรองด้วย เช่นท่านได้คิวยื่นวีซ่าวันที่ 18 กันยายน 2557 หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคารที่ใช้ในการยื่นวีซ่า ต้องออกให้ ณ วันที่ 4 กันยายน 2557 หรือ หลังจากนั้นเท่านั้น จดหมายรับรองจากธนาคารให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) โดยไม่ต้องระบุวัน และประเทศที่เดินทาง (ชื่อในหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) จะต้องถูกต้องและตรงตามหน้าพาสปอร์ต วันที่ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคารให้นำสำเนาหน้าพาสปอร์ตไปด้วย เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการออกเอกสาร)
11. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่า ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่
*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า
***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****
กรมการกงสุลได้แจ้งเตือนว่า :
1.ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น
2. การขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “ หนังสือเดินทางชำรุด ” อาจถูกปฎิเสธเข้าประเทศต่างๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก
บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงราคากรณีผู้ร่วม เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน***
สำหรับท่านที่เป็นมุสลิม , ทานมังสวิรัติ , ไม่ทานหมู , ไม่ทานเนื้อ , ไม่ทานไก่ , ไม่ทานปลา โปรดแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
*** หมายเหตุข้อสำคัญที่ท่านควรทราบ ***
1.)ในการยื่นวีซ่า ทางบริษัท จะทำการนัดหมายกับสถานทูตและสถานทูตจะเป็นผู้กำหนดวันและเวลาให้เข้าไปยื่นวีซ่า เป็นการยื่นวีซ่าแบบกรุ๊ปเท่านั้น(ปกติสถานทูตจะให้เข้าไปยื่นวีซ่า 15 วันก่อนเดินทาง) ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในรายการทัวร์แล้ว
*** กรุณาพิจารณารายละเอียดของโปรแกรมทัวร์และเงื่อนไขต่างๆของบริษัท เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำงวดแรกแล้ว ทางบริษัทถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ***
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel