วิลนิอุส – หอคอยเกดิมินัส – มหาวิหารวิลนีอุส - ปราสาททราไก – เนินเขาสามไม้กางเขน
เนินไม้กางเขน - บอสก้า – พระราชวังรุนดาเล่ – ริก้า - ซิกุลด้า – ปราสาทซิกุลด้า – ปราสาททูไรด้า
อนุสาวรีย์อิสรภาพ – โดมสแควร์ – โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ – พาร์นู – ศาลาว่าการเมืองพาร์นู
ทานลินน์ – พระราชวังแคทเดอริค – พิพิธภัณฑ์ศิลปะแคทเดอริค
เคานาส– จัตุรัสศาลากลางของทาลลินน์ - จุดชมวิวโคห์ตุตซา
วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
20.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.05 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.10 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบิน มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 2 | อิสตันบูล – วิลนิอุส – ซูปิส – หอคอยเกดิมินัส - มหาวิหารวิลนีอุส |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.15 น. | เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล (IST) แวะเปลี่ยนเครื่อง |
07.50 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินวิลนิอุส (VNO) ประเทศลิทัวเนีย โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1407 สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 2.50 ช.ม.) |
10.40 น. | เดินทางถึง สนามบินวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมเมืองวิลนิอุส (Vilnius) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย เมืองใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำวิลเนีย และแม่น้ำเนริ โดยวิลนิอุสมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ มีโบสถ์และวิหารมากมาย จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกใน ค.ศ. 1994 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง นำท่านเดินทางชม ประตูเมืองในวิลนีอุส (Gate of Down) เป็นประตูเมืองในวิลนีอุส หลวงของลิทัวเนีย และเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุด เป็นสถานที่แสวงบุญคาทอลิกที่สำคัญในลิทัวเนีย จากนั้นนำท่านเดินทางชมเมืองซูปิส (Uzupis Town) ย่าน Užupis ที่มีบรรยากาศแบบโบฮีเมียนนั้นมีศิลปะบนกำแพงและประติมากรรมต่างๆ เช่น นางฟ้าที่ทำจากทองเหลือง ประติมากรรมนางเงือกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และรัฐธรรมนูญที่ติดอยู่บนกำแพง โดยเป็นฉบับล้อเลียนของ “Republic of Užupis” ที่ตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอของศิลปินและร้านเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ คาเฟ่สุดฮิป รวมถึงร้านอาหารนานาชาติที่ตั้งอยู่เรียงรายตามตรอกซอกซอยแคบๆ และสุสาน Bernardine Cemetery อันร่มรื่นที่สร้างขึ้นตังแต่ปี 1810 และมีหลุมศพของคนท้องถิ่นผู้มีชื่อเสียงมากมาย นำท่านเดินทางเข้าชมหอคอยเกดิมินัส (Gediminas' Tower) เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของปราสาทตอนบนบนยอดเขาเกดิมินาส ในเมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย เดิมป้อมปราการไม้แห่งแรกสร้างโดย Gediminas แกรนด์ดุ๊กแห่งลิทัวเนีย (ประมาณ ค.ศ. 1275–1341) ปราสาทอิฐหลังแรกสร้างเสร็จในปี 1409 โดย Grand Duke Vytautas หอคอยสามชั้นแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1933 โดยสถาปนิกชาวโปแลนด์ Jan Borowski ซากปราสาทเก่าบางส่วนได้รับการบูรณะใหม่โดยได้รับคำแนะนำจากการวิจัยทางโบราณคดี นำท่านเดินทางเข้าชมมหาวิหารวิลนีอุส (Vilnius Cathedral) เป็นอาสนวิหารคาทอลิกหลักในลิทัวเนีย ตั้งอยู่ในเมืองเก่าวิลนีอุส ไม่ไกลจาก Cathedral Square โบสถ์แห่งนี้อุทิศให้กับนักบุญคริสเตียน Stanislaus และ Ladislaus และเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตฝ่ายวิญญาณคาทอลิกในลิทัวเนีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม |
ที่พัก | Radisson Blu Hotel Lietuva **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 3 | วิลนิอุส - ทราไก – ปราสาททราไก – พิพิธภัณฑ์อาชีพและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ - เนินเขาสามไม้กางเขน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองทราไก (Trakai) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) นำท่านเข้าชม ปราสาททราไก (Trakai Castle) ปราสาทสวยบนเกาะในทะเลสาบเกรฟ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ท่านแกรนด์ดุ๊ก วีเทาทัส ประสงค์ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ก่อนที่จะกลายเป็นคุกในช่วงศตวรรษที่ 17 อีกด้านหนึ่งเป็นโบสถ์และสำนักสงฆ์ในนิกายเบเนดิกทีน ถึงแม้ว่าตัวปราสาทจะตั้งอยู่บนเกาะ แต่การเดินทางมายังตัวปราสาทนั้นค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีสะพานเชื่อมติดต่อกันระหว่างชายฝั่งกับปราสาท นอกจากท่านจะได้ชมความงดงามของตัวปราสาทแล้วท่านยังจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบเกรฟที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดเช่นกัน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงาม หรือจะเลือกจิบชา กาแฟริมทะเลสาบตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองวิลนีอุส (ระยะทาง 33 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) จากนั้นนำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์อาชีพและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ (Museum of Occupations and Freedom Fights) ตั้งอยู่ในเมืองวิลนีอุส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 อุทิศให้กับการแสดงสิ่งประดิษฐ์และบันทึกจากช่วง 50 ปีของการยึดครองลิทัวเนียของสหภาพโซเวียต นำท่านเดินทางชมเนินเขาสามไม้กางเขน (Hill of Three Crosses) ประกอบด้วยไม้กางเขนคอนกรีตเสริมเหล็กสีขาว 3 อันที่มองเห็นได้จากระยะไกล ขึ้นไปบนเนินเขาแล้ว ท่านจะได้เห็นภาพพาโนรามาอันกว้างใหญ่ของเมืองเก่าวิลนีอุส อนุสาวรีย์สูง 12 เมตรแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ประจำชาติ แต่ตัวไม้กางเขนมักจะถูกส่องสว่างเป็นสีต่างๆ เพื่อรำลึกถึงกิจกรรมพิเศษสำหรับลิทัวเนีย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ห้างสรรพสินค้าแอคโครโปลิส (Akropolis Shopping Center) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ประจำเมืองวิลนิอุส อิสระให้ท่านช้อปปิ้งซื้อของฝากหรือสินค้าแบรนด์เนม อาทิเช่น GEOX, GUESS, H&M, MANGO, PULLS&BEAR, ZARA และแบรนด์ท้องถิ่น อื่นๆมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Radisson Blu Hotel Lietuva **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 4 | วิลนิอุส - โชว์เล่ย์ (ลิทัวเนีย) - เนินไม้กางเขน – บอสก้า (ลัตเวีย) – พระราชวังรุนดาเล่ – ริก้า (ลัตเวีย) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโชว์เล่ย์ (Siauliai) (ระยะทาง 218 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) เมืองที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของลิทัวเนีย โดยเมืองชัวเลย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1236 ซึ่งในอดีตตัวเมืองถูกเผาทำลายมากถึง 7 ครั้ง แต่ในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูดูแลจนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง และยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านเดินทางชมเนินไม้กางเขน (Hill of Crosses) สถานที่สำคัญทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ที่คริสต์ศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือ โดยสุสานแห่งนี้กำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ซึ่งในอดีตไม้กางเขนจะถูกนำมาวางที่สุสานแห่งนี้ เวลาที่มีการต่อสู้กับผู้บุกรุก หรือเวลาที่มีการเรียกร้องอิสรภาพให้กับชาวลิทัวเนีย ซึ่งในปัจจุบันภายในสุสานแห่งนี้มีไม้กางเกงเขนจำนวนมากกว่าหนึ่งแสนอัน ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันออกไป ทำให้สุสานไม้กางเขนแห่งนี้มีลักษณะเหมือนกับเนินเขาไม้กางเขน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบอสก้า (Bauska) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ทางตอนใต้ของลัตเวีย เมืองนี้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่บนชายฝั่งของแม่น้ำสองสาย ส่วนหนึ่งของเมืองอยู่บนหุบเขา ส่วนหนึ่งอยู่บนเนินเขา Bauska มีเขตประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างใหญ่ เช่นเดียวกับอุทยานธรรมชาติที่สวยงามรอบๆ ปราสาท Bauska และป้อมเนินเขา ซึ่งมีแม่น้ำทั้งสองสายไหลเข้าหากัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังรุนดาเล่ (Rundale Palace) หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมสไตล์บาร๊อค ออกแบบโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของท่านดยุค Ernst Johann Biron และ Russian Empress Anna Ioannovna ปัจจุบันได้เปิดให้บริการเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งภายในยังคงการตกแต่งแบบโบราณ รวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งคฤหาสถ์ไว้อย่างวิจิตรและประณีต นอกจากนี้ท่านจะยังได้ชมสวนสไตล์ฝรั่งเศส ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามอันเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ (ช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน ขึ้นกับฤดูกาลในช่วงของเวลาเดินทาง) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงริก้า (Riga) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย ตั้งอยู่บนอ่าวริกาตรงปากแม่น้ำ Daugava ซึ่งบรรจบกับทะเลบอลติก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Radisson Blu Daugava Hotel, Riga **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 5 | ริก้า – ซิกุลด้า – ปราสาทซิกุลด้า – ปราสาททูไรด้า – อนุสาวรีย์อิสรภาพ – โดมสแควร์ - โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองซิกุลด้า (Sigulda) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กๆซึ่งมีประชากรไม่ถึงสองหมื่นคนและไม่ห่างไกลจากนครริก้า มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความสดใสงดงามของต้นเชอรี่ยามผลิใบในฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโปรดปรานของชาวลัตเวียในยามฤดูหิมะ นำท่านเข้าชมปราสาทซิกุลด้า (Sigulda Castle) คฤหาสน์สไตล์โกธิค สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1878 เพื่อใช้เป็นบ้านพักอาศัยของตระกูล Kropotkin และถูกผลัดเปลี่ยนเจ้าของมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งถูกใช้เป็นสถานที่ทำการของสภาปกครองแคว้นซิกุลด้าในปี ค.ศ.1993 ได้เวลานำท่านเข้าชมปราสาททูไรด้า (Turaida Castle) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1214 โดยอาร์คบิช็อปแห่งริก้า เป็นปราสาทก่ออิฐแบบโกธิค ซึ่งถูกสร้างต่อเติมและบูรณะมาหลายสมัยจนเป็นลักษณะของป้อมปราสาทที่สวยงาม แต่ในปี ค.ศ.1776 ปราสาทได้เสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์ไฟไหม้ และไม่ได้รับการบูรณะจนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้รับการซ่อมแซมและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองริก้า (Riga)(ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นําท่านเดินทางชมย่านเมืองเก่าแห่งเมืองริก้า (Riga) นำท่านเดินทางชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ (Freedom Monument) ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองริก้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละชีพในสงครามเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียระหว่างปี ค.ศ. 1918 – 1940 โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศอิสรภาพ และเสรีภาพของลัตเวีย มีความสูงถึง 42 เมตรด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวถือดาว 3 ดวงเชื่อมติดกัน ซึ่งสื่อความหมายถึงการรวมกันของภูมิภาคทั้ง 3 ของประเทศลัตเวีย นำท่านชมเขตเมืองเก่าของเมืองริก้า นำท่านเดินทางชมโดมสแควร์ (Dome Square) มีโบสถ์ประจำเมืองริก้า อยู่ริมจัตุรัส สร้างเมื่อปี 1211 ข้างในมี ออร์แกนขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์แห่งนี้มาซ่อมแซมอีกครั้ง แล้วเสร็จตอนปี 1999 เพื่อให้ทันฉลองพร้อมกับรัสเซียที่ครบรอบก่อตั้งกรุงมอสโกมา 850 ปี นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Church) ที่มีลิฟท์บริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวเมืองริก้าแบบพาโนรามา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Radisson Blu Daugava Hotel, Riga **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 6 | พาร์นู (เอสโตเนีย) – ศาลาว่าการเมืองพาร์นู - ทานลินน์ – พระราชวังแคทเดอริค - พิพิธภัณฑ์ศิลปะแคทเดอริค |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาร์นู (Parnu) (ระยะทาง 183 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย มีรีสอร์ต โรงแรม ร้านอาหาร และชายหาดหลายแห่ง ตั้งเป็นเมืองราวปี 1251 และได้ถูกโปแลนด์เข้ายึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1561 ต่อจากนั้นสวีเดนได้ยึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1629 และรัสเซียเข้ายึดครองระหว่าง ค.ศ. 1710-1918 เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน เมืองพาร์นูจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นำท่านเดินทางชม บ้านไม้ (Wooden House) สไตล์อาร์ตนูโว และแบบแอสโทเนียนดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกลายเป็นต้นแบบบ้านเรือนที่นำไปสร้างในสไตน์บอลติค นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมืองพาร์นู (Parnu City Hall) จากนั้นนำท่านเดินเล่นภายในตัวเมืองพาร์นู บริเวณพาร์นูเมนสตรีท (Parnu Main Street) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองทาลลินน์ (Tallinn) (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) เมืองหลวงและเมืองท่าหลักของประเทศเอสโตเนีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลบอลติกทางด้านเหนือของประเทศ ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามในช่วงยุคกลางรวมทั้งบริเวณเชิงเขาในเมืองยังคงมีกำแพงเมืองโบราณหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเมืองยังเต็มไปด้วยสวนสาธารณะที่มีหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้ดูสดใส นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังแคทเดอริค (Kadriorg Palace) พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยซาร์ปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียในศตวรรษที่ 18 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของจักรพรรดิแคทเธอรีน ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาเลียนชื่อ NICCOLO MICHETTI จากกรุงโรม ในปี 1930 พระราชวังแห่งนี้ได้กลางเป็นสำนักงานใหญ่แห่งรัฐของประเทศเอสโตเนีย เป็นพระราชวังที่ออกแบบในสไตล์แบบบาร็อค ล้อมรอบด้วยสวนอันงดงาม ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแคทเดอริค (Kadriorg Art Museum) ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะต่างประเทศตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึง 20[1] อาคารของพิพิธภัณฑ์สาขา Kumu ซึ่งจัดแสดงศิลปะเอสโตเนียตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นไป ตั้งอยู่ใกล้ๆ ในสวนสาธารณะ Kadriorg |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Park Inn by Radisson Meriton Conference & Spa Hotel Tallinn **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | จัตุรัสศาลากลางของทาลลินน์ - จุดชมวิวโคห์ตุตซา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมจัตุรัสศาลากลางของทาลลินน์ (Tallinn Town Hall Square) ย่านศูนย์กลางของเมืองที่ได้รับการรับรอง จากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997 เป็นตลาดยุคกลางและสถานที่พบปะอันทันสมัย และเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตในเมืองมาแปดศตวรรษ ด้วยศาลาว่าการที่อยู่ด้านหลัง และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านชายฝั่งทะเลบอลติก นำท่านเดินทางสู่จุดชมวิวโคห์ตุตซา (Kohtuotsa Viewing Platform) ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของทาลลินน์ ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเนิน Toompea ให้ทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมเหนือหลังคาสีแดงและยอดแหลมสูงตระหง่านของเมืองเก่า รวมถึงอาคารสูงระยิบระยับในส่วนใหม่ของเมือง เบื้องหลังคืออ่าวฟินแลนด์ ท่าเรือ และเขตพิริตา รับประกันทิวทัศน์อันน่าจดจำตลอดทั้งปี ในทุกสภาพอากาศ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้ง อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือสินค้าแบรนด์เนมต่างๆที่ ย่านถนนวิรู (Viru Street) ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ |
16.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินทาลลินน์ (TLL) |
19.30 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1424 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.40 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลาย กับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบิน มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
23.10 น. | เดินทางถึงสนามบิน สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
วันที่ 8 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
01.35 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.50 ชม.) |
15.25 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา จะต้องเห็นคิ้วและใบหู ชัดเจน (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) ***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
10. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement เท่านั้น!!!)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ย้อนหลัง 6 เดือน ใช้เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ที่ออกโดยทางธนาคาร และธนาคารต้องประทับตรารับรองทุกหน้า ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วนตามตัวสะกดในพาสปอร์ต มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า และ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
************* ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น **************
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) **สามารถแนบประกอบได้ (ไม่สามารถใช้เป็นบัญชีหลักในการยื่นได้)
ท่านต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ (Saving) เป็นหลักในการยื่น
หากใช้บัญชีฝากประจำในการแนบประกอบ ต้องเตรียมดังนี้
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
**กรณีรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) จะต้องสะกดชื่อให้ถูกตามพาสปอร์ต
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2
(สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel