10 วัน 8 คืน ออโรล่า ไอซ์แลนด์ รอบเกาะ
ไอซ์แลนด์ แดนมหัศจรรย์ของพลังธรรมชาติ
เยือนดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือ เที่ยวครบเมืองสวยรอบเกาะไอซ์แลนด์
เรคยาวิก | บอร์กาเนส | ฮูซาเฟล | ภูเขาเคริ์กจูเฟล | อาคูเรย์รี่ | ล่องเรือชมปลาวาฬ | ทะเลสาบมายด์วัทท์ | น้ำตกโกดาฟอสส์ | โจกุลซาลอน | ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) | วิคค์ | ขับสโนว์โมบิลธารน้ำแข็งแลงโจกุล สโกการ์ฟอสส์ | โกลเด้นเซอร์เคิลซิงเควลลีร์ | น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ | แช่น้ำแร่บลูลากูน | เรคยาวิก
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE284-001 | 09-18 ต.ค. 67 | Finnair (AY) | 189,900 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร – เฮลซิงกิ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
04.30 น | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินฟินน์ แอร์ (AY) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
07.15 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยเที่ยวบิน AY142 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.20 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการ อาหารเช้า และ อาหารกลางวัน ระหว่างเที่ยวบินสู่เฮลซิงกิ |
15.35 น. | เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ นำท่านผ่านพิธีการทางศุลกากร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Sokos Hotel Flamingo **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เฮลซิงกิ – เคฟลาวิค – บอร์กาเนส – ฮูซาเฟล– ภูเขาเคิร์กจูเฟล – สติกกิชโฮมอร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า แบบกล่อง |
04.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเฮลซิงกิ |
07.10 น. | ออกเดินสู่สนามบินเคฟลาวิค ประเทศไอซ์แลนด์ โดยเที่ยวบิน AY991 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.50 ชม.) |
08.00 น. | เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิค ประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) (ระยะทาง 117 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ นำท่านแวะชมน้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Spring) บ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำไหลเร็วที่สุดในยุโรป เร็วถึง 180 ลิตร/วินาที |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hruanfossar Waterfall) (ระยะทาง 36 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที) ซึ่งในภาษาไอซ์แลนดิก Hruan แปลว่า ลาวา เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากลำธารความยาวกว่า 900 เมตรซึ่งพาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ประทุขึ้นมาจากภูเขาไฟใต้พิภพซึ่งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งแลงโจกุลกลาเซียร์ (Lungjokull Glacier) และในฤดูที่หนาวจัด น้ำตกแห่งนี้จะแข็งเป็นน้ำแข็ง มีความสวยงามเป็นอย่างมาก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ (ระยะทาง 155 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชม.) เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั้งในไอซ์แลนด์และต่างประเทศ โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะมีโอกาสได้เพลิดเพลินไปกับความงามของธรรมชาติ อันแสนเงียบสงบ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกของอ่าวแคบๆในเขตเมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ ไม่พลาดไปชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก เดินทางสู่เมือง Stykkishólmur (ระยะทาง 39 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Fosshótel Stykkishólmur **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | สติกกิชโฮมอร์ – Varmahild – น้ำตกโกดาฟอสส์ - อาร์คูเรย์รี่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมือง Varmahild (ระยะทาง 259 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) หมู่บ้านเล็กๆ ใน Skagafjörður ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ ผู้คนประมาณ 140 คนอาศัยอยู่บนเนินลาดด้านตะวันออกของเนินเขาที่มีชื่อเมืองนี้ Varmahlíð จุดแวะพักยอดนิยมของนักท่องเที่ยว |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมน้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss Waterfall) (ระยะทาง 129 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) หรือที่รู้จักในนาม น้ำตกของพระเจ้า “The Waterfalls of Gods” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไอซ์แลนด์ โดยน้ำตกมีความสูงประมาณ 12 เมตร และมีความกว้างมากกว่า 30 เมตร น้ำตกถูกค้นพบโดยนักบุญชาวคริสต์ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟคลาฟฟา (Krafla Volcano) นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์อีกด้วย บ้านเรือนถูกปลูกสร้างจากไม้ทาสีสันสดใสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ บ้างก็ปลูกบนเนินลาดชันซึ่งมีภูมิศาสตร์อยู่ติดภูเขาแต่จัดตั้งเป็นระเบียบอย่างลงตัว ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของไอซ์แลนด์ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าไม่มีต้นไม้สูง มีผืนหญ้าและต้นมอสหลากสีสุดสายตา สวยงามมาก เมืองอาคูเรย์รี่มีแม่น้ำโครสซาเนสบอร์เกียร์ (Krossanesborgir) เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมืองไหลผ่าน นำท่านชมบ้านเรือนที่จัดแผนผังเมืองเมืองอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม นำท่านชม โบสถ์อาคูเรย์รี่ เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง เป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถานปนิก Gudjon Samuelsson สร้างปี 1940 หน้าต่างกระจกสีกลางเหนือแท่นบูชาสวยงามมาก ภาพแกะสลักนูนบนระเบียงโดยประติมากรแสดงการบัพติสมา จากนั้นนำท่านสู่ถนนคนเดิน เกเรอโตรกาตา (Gerartogata) อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งบน ถนนสายช้อปปิ้งของเมืองอาคูเรย์รี่ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Hotel Kea by Keahotels **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | อาร์คูเรย์รี่ – ฮูซาวิก - ล่องเรือชมวาฬ – น้ำตกเดทติฟอสส์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมือง ฮูซาวิก (ระยะทาง 76 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) เมืองแห่งธรรมชาติ และการชมวาฬ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวาฬของประเทศไอซ์แลนด์ (The Whale watching capital of Iceland) เมืองประมงเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีบ้านเรือนน่ารักเหมือนฉากละคร ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็ก มีชั้นเดียว รูปแบบบ้านจะแตกต่างกันตามสไตล์ และมีลักษณะเด่น คือ หลังคาสารพัดสี นอกจากนี้ยังเป็นเมือง ที่มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ ทำให้ฮูซาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูวาฬ และยังถูกยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป (The Whale watching capital of Europe) อีกด้วย ฉายาเหล่านี้คือสิ่งที่การันตีถึงความมีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องของการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของวาฬหลายชนิด ทั้งวาฬหลังค่อม (Humpback Whales) และวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whales) ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาหาอาหารอันอุดมสมบูรณ์บริเวณรอบๆ อ่าวของเมืองฮูซาวิกแห่งนี้มาช้านาน นำท่าน ล่องเรือชมปลาวาฬ กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูปลาวาฬแบบธรรมชาติโดยนั่งเรือกู๊ดโบ๊ต หรือเรือไม้ซึ่งออกแบบให้โต้คลื่นลมได้อย่างนิ่มนวล ปลาวาฬที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำแถบนี้จะมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงค์ หรือ ในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์ เรียกว่า มิงคี (Minke) , วาฬหลังค่อม (Humpback) และวาฬเพชรฆาต (Killer Whale) การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (บนเรือมีชุดกันหนาวบริการ) (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทฯ เรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาปมายด์วัทท์ (Myvatn Lake) (ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) ทะเลสาบสีฟ้ากินพื้นที่ราว 37 ตารางกิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของไอซ์แลนด์ เป็นแอ่งเกิดจากรอยแยกคราฟล่าฟอล์ทที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟรอบๆในอดีตกาล อยู่ในหมู่บ้านเรย์คยาห์โล และยังเป็นแหล่งอุทยานนกน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จนรัฐบาลประกาศให้เป็นเขตสงวนอนุรักษ์นกเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกเดทติฟอสส์ Dettifoss (ระยะทาง 66 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ซึ่งถือว่า เป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดเป็นอันดับสองในยุโรปรองจากน้ำตกไรน์ ที่คงความเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีการแต่งเติมสิ่งก่อสร้างใดๆ บริเวณน้ำตกตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull ตื่นตาตื่นใจกับความกว้างของชั้นน้ำตก และความทรงพลังของน้ำตกที่ไหลลงกระทบชะง่อนหินอันเป็นภาพที่สวยเกินคำบรรยาย และสามารถมองเห็นละอองน้ำที่กระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้านับหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ Eglisstadir (ระยะทาง 160 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองทางตะวันออกของไอซ์แลนด์บนฝั่งแม่น้ำ Lagarfljót เป็นส่วนหนึ่งของเทศบาลMúlaþing และการตั้งถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดของภาคตะวันออกโดยมีประชากร 2,522 คน เมืองที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ตะวันออกและเป็นศูนย์กลางการบริการ การคมนาคม และการบริหารหลัก เมืองนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงที่เศรษฐกิจเฟื่องฟูในภูมิภาคตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2008 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ KárahnjúkarและโรงงานถลุงอะลูมิเนียมของAlcoa ใน Reyðarfjörður การเติบโตได้ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่การล่มสลายของธนาคารในปี 2008 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Breiodalsvik Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | Eglisstadir –โจกุลซาลอน - เดินในถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) – ไดมอนด์บีช - วิคค์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง (ระยะทางประมาณ 255 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ซึ่งรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งมากขึ้นๆ ในทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์ก หรือ ภูเขาน้ำแข็งก้อนโตๆ เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำของทะเลสาบ ยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงาม น่าประทับใจยิ่ง นับได้ว่าเป็นภาพธรรมชาติที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก พร้อมนำท่านชมและถ่ายรูปภูเขาน้ำแข็งในระยะใกล้ นำท่านเข้าชมความสวยงามของประติมากรรมทางธรรมชาติภายใน ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) แห่งวัทนาโจกุล อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามทางธรรมชาติของถ้ำน้ำแข็งที่เรียกได้ว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์และจะเข้าชมได้ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น นำท่านถ่ายรูปที่ ไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ชายหาดทรายดำที่ชื่อว่า เปรียดาร์แมร์คูร์ซานดูร์ (Breiðamerkursandur) หาดทรายดำที่ทอดยาวนี้ มักจะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่โปร่งแสง เหมือนเป็นประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็กที่เปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ มองดูเหมือนเพชรที่ส่องประกาย โดยนำแข็งที่อยู่บริเวณหาดนี้ เป็นน้ำแข็งที่ไหลออกมาจาก ภูเขาน้ำแข็งที่แตกและไหลลงสู่ โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ละลายอย่างช้าๆ และถูกพัดออกไปในทะเล ที่ก้อนน้ำแข็งเหล่านี้จะถูกซัดโดยคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ก่อนที่จะถูกซัดขึ้นไปบนหาด นี่เป็นเหตุผลที่เปรียดาร์แมร์คูร์ซานดูร์ได้ถูกเรียกอีกชื่อว่า ไดมอนด์บีช เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ และอิ่มเอมกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวิก (Vik) (ระยะทาง 210 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Dyrholaey Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | วิคค์ – หาดทรายดำ – สโกการ์ – น้ำตกเซลล์จาลันฟอสส์ – โกลเดนเซอร์เคิล – ซิงเควลลีร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านแวะชม หาดทรายสีดำ (Black Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก จากนั้นนำท่านออกเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางด้านใต้ (South Shore) ของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วย ทัศนียภาพสองข้างแต่งแต้มไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ของชาวนาและฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 18 ครั้งและครั้งล่าสุดในปี 2000 นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์สโกการ์ (Skogar Folk Museum) พิพิธภัณฑ์โบราณกลางแจ้ง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 สถานที่ซึ่งรวบรวมคอลเลคชั่นโบราณแสดงความเป็นมาและชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของชาวนอร์ดิค จากนั้นนำท่านแวะชม น้ำตกสโกก้าฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls) ความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งแผ่กระจายมาจากหน้าผาสูง แรงกระแทกของปลายสายน้ำเกิดเป็นละอองฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้หญ้าตระกูลมอสและเฟิร์นเติบโตปกคลุมหินที่เรียงรายริมลำธารเบื้องล่างอย่างสวยงาม โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา,โตรกผาและหุบเหวเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าประทับใจกับผู้ที่มาเยือนไอซ์แลนด์ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalansfoss Waterfalls) น้ำตกที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์และถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ ซึ่งบริเวณด้านหลังม่านน้ำตกสามารถเดินลอดไปหลังม่านน้ำตกได้ น้ำตกแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซลย่าลันด์ซ่า (Seljalandsá) โดยแม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull Glacier) ซึ่งภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้ปะทุขึ้นในปี ค.ศ. 2010 และก่อให้เกิดความเสียหายสนามบินทั่วยุโรปมาแล้ว จากนั้น นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของประทศไอซ์แลนด์ ใน เส้นทางวงกลมทองคำ หรือ (Golden Circle) สัมผัสทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสลับกับทุ่งลาวา ฝูงสัตว์นานาชนิดทั้ง แกะ วัว ม้า ที่เลี้ยงและหากินตามธรรมชาติ นำท่านเข้าชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง นำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) (ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Selfoss Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | น้ำตกกูลฟอสส์ - ขับรถสโนว์โมบิล แลงโจกุล – น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ – เรคยาวิค - โบสถ์ฮัลลกรีมสคิร์คยาฮอฟดิเฮา – ฮาร์ปา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ กูลฟอสส์ (Gullfoss) (ระยะทางประมาณ 71 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เพื่อชมความงามของ น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน 3 สถานที่ในเส้นทาง “วงแหวนทองคำ” สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาด ชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร นำท่านสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการนั่งรถจิ๊ปสู่ทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ ให้ท่านได้ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งแลงโจกุล (Langjökull Glacier) บนดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่อยู่สูงที่สุดของโลก ซึ่งมีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (ทัวร์มีบริการชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาที พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิก (Reykjavík) (ระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) นำท่านชมเมืองเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองหลวงแห่งไอซ์แลนด์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมือง โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะเป็น ศาสนสถานเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 รวมเวลาก่อสร้างกว่า 38 ปี 1786 นำท่านเที่ยวชม ฮอฟดิ เฮ้าส์ (Höfði House) สถานที่สำคัญในปี 1986 ใช้เป็นที่ประชุมสุดยอดเรคยาวิกสถานที่ที่ประธานาธิบดีเรย์แกน (Reagan) และเลขากอร์บาชอฟ (Gorbachev) ได้พบกันเพื่อหารือเรื่องการป้องกันขีปนาวุธระหว่างประเทศระหว่างช่วงสงครามเย็น จากนั้นเที่ยวชม ฮาร์ปา (Harpa) ศูนย์การประชุม และแสดงคอนเสิร์ตของไอซ์แลนด์ อาคารที่โดดเด่นที่สุดในเมืองหลวง ด้วยความสำเร็จของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ กับซุ้มกระจกที่ประกอบเป็นหน้าต่างในรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด ที่นี่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับพื้นที่หินบะซอลต์ตามธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ถ่ายรูปประติมากรรม The Sun Voyager การเดินทางของพระอาทิตย์ รูปปั้นที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเรคยาวิก อนุสรณ์การฉลองการครบรอบ 200 ปีของเมืองเรคยาวิกอย่างเป็นทางการ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Grand Hotel Reykjavik **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | เพอร์ลัน – เคฟลาวิก - เฮลซิงกิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม เพอร์ลัน (Perlan) หรือ The Pearl เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองโดยสถาปนิกชื่อดัง อิงกิ มูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบ อาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวงตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม,พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินดาวิก สู่ บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือ ทะเลสาบสีฟ้า (ระยะทางประมาณ 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวกว่า 95% ต่างไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ อิสระให้ท่านแช่น้ำแร่ธรรมชาติผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย (มีบริการผ้าขนหนูให้ท่าน กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยสำหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน ***) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านสู่สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) |
17.40 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเฮลซิงกิ โดยเที่ยวบิน AY994 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.25 ชั่วโมง) |
00.05 น. | เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก |
ที่พัก | Sokos Hotel Flamingo **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | เฮลซิงกิ - โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ - มหาวิหารเฮลซิงกิ - เซเนท สแควร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชมเมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองหลวงของฟินแลนด์ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารอุสเปนสกี้ (Uspenski Church) เป็นมหาวิหารของศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ รัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1862 – ค.ศ. 1868 นำท่านเข้าชมโบสถ์เทมเปลิโอคิโอ" (Temppeliaukio Church) หรือที่รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 แล้วเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป นำท่านชม อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย เป็นอนุสาวรีย์ที่ นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่จนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงกิก็ว่าได้ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างเป็นจำนวนมาก นำท่านเที่ยวชม เซเนท สแควร์ (Senate Square) เป็นจตุรัสกลางเมืองที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ๆ และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจตุรัสมี อนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
11.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ |
13.45 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร (บินตรง) โดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY141 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.40 ชม.) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ |
วันที่ 10 | กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 10 | |
05.25 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 189,900 บาท |
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ | 179,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 38,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 33,000 บาท |
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel