โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก ออสเตรีย เชก สโลวัก ฮังการี เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE926 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก อันซีน ยูเนสโก อดีตรัฐโบฮีเมีย มอเรเวีย (ฮังการี, สโลวาเกีย, เช็ก และ ออสเตรีย) 10 วัน 7 คืน (OS)

DE926 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก อันซีน ยูเนสโก อดีตรัฐโบฮีเมีย มอเรเวีย (ฮังการี, สโลวาเกีย, เช็ก และ ออสเตรีย) 10 วัน 7 คืน (OS)
Austrian Airlines (OS)

Calimbra Wellness Hotel
Expo Hotel Budapest
Hotel Artaban
Hotel Spirito by Spiwalk
Hotel Yasmin Kosice
NH Collection Olomouc Hotel
Wellness and Spa Hotel Kaskady

โปรแกรมทัวร์ยุโรปตะวันออก อันซีน ยูเนสโก อดีตรัฐโบฮีเมีย มอเรเวีย (ฮังการี, สโลวาเกีย, เช็ก และ ออสเตรีย) 

เวียนนา | เยอร์ | บูดาเปสต์ | ฮอลโลโก | เอ็กเกอร์ | มิสโคล์ก | โบลดอคโก | โคเซตซ์ | สปิส | โดฟซินสกา ไอซ์ เคฟ | บันสกา บิสตริกา | บันสกา สติอาฟนิชา | โบจ์ไนซ์ | ชิมานี | เตรนซีน | ออลอโมตซ์ | ลิโทมิช | เตลช์

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร
20.30 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส  อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4  สนามบินสุวรรณภูมิ 
23.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส โดยเที่ยวบิน OS 26 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง) โดยสายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
วันที่ 2เวียนนา – เยอร์ - บูดาเปสต์ (ฮังการี) – เข้าชมอาคารรัฐสภา – บูดา คาสเซิล ฮิลล์ 
05.30 น.เดินทางถึงสนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 

นำท่านเดินทางสู่เมืองเยอร์ (Gyor) (ระยะทาง 106 ก.ม. ใช้เวลา 1.15 ช.ม.) เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี ซึ่ง เป็นเมืองหลวงของเทศมณฑลเยอร์-โมซง-โซพรอน และภูมิภาคทรานส์ดานูเบียตะวันตก ตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญสายหนึ่งของยุโรปกลาง กึ่งกลางระหว่างบูดาเปสต์และเวียนนา เยอร์เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ Széchenyi István และคณะบัลเล่ต์แห่งเยอร์ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล ซึ่งจัดแสดงในโรงละครแห่งชาติฮังการี

นำท่านถ่ายรูปศาลาว่าการเมืองเยอร์ สถานที่สำคัญของเมืองแห่งนี้เป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 มีหอคอยสูง 59 เมตรและหลังคาสีเขียวที่โดดเด่น ที่ด้านนอกศาลากลาง มีสัญลักษณ์ตราแผ่นดินของเยอร์ขนาดใหญ่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน

จากนั้นนำท่านชมเมืองเก่าเยอร์ และชมจัตุรัสเซแชนยิ (Széchenyi Sqaure) จตุรัสกลางเมืองเยอร์ เป็นจัตุรัสสไตล์บาโรกที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารเก่าแก่ โรงแรม ร้านอาหารที่มีที่นั่งหน้าร้าน และร้านค้าที่น่าสนใจ อิสระให้ท่านเดินเล่นรอบๆ จัตุรัส 
 
ได้เวลานำท่านเดินสู่นครบูดาเปสต์ (Budapest) (ระยะทาง 120 ก.ม. ใช้เวลา 1.30 ช.ม.)  นครหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งโดยมีแม่น้ำดานูบ (Danube River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของทวีปยุโรป คั่นกลางแยกเป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ อันได้แก่เมือง “บูดา” และ “เปสต์” อันเป็นที่มาของคำว่า “บูดาเปสต์”
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเข้าชมอาคารรัฐสภาฮังการี  เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรียนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอกอทิคที่ดูคลาสสิกด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร

ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ แมทธิอัส (Matthias Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ได้รับผลกระทบจากการปกครองในแต่ละยุคแต่ละสมัย อาทิ ถูกดัดแปลงให้เป็นมัสยิดเมื่อครั้งถูกยึดครองด้วยชาวเติร์ก ซึ่งมีหลังคาสลับสีอันสวยงามของ สถาปัตยกรรมแบบนีโอ โบสถ์นี้เคยใช้จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทธิอัส ซึ่งพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ในสมัยของพระองค์ถือว่าเป็นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอย่างแท้จริง สิ่งก่อสร้างที่งดงามเกิดขึ้นมากในเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ ซึ่งโบสถ์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเรียบร้อยแล้ว

นำท่านถ่ายรูปกับ จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero’s Square) มีอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญของประเทศฮังการีเป็นจำนวนมาก ความยิ่งใหญ่และสง่างามของมันคือตัวชี้วัดความภาคภูมิใจของชาวฮังการีทุกคนที่มีต่อประเทศ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย

ได้เวลานำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้าสู่ เนินบูดา คาสเซิล (Buda Castle Hill) สำหรับปราสาทบูดานั้น ตั้งอยู่ในฝั่งบูดา ของกรุงบูดาเปสต์ และเป็นที่ตั้งของแกเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ที่สวยงาม จากเนินบูดาฮิลล์แห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นความสวยงามของอาคารบ้านเรือนฝั่งเปสต์ได้อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมและเก็บภาพตามอัธยาศัย 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Expo Hotel Budapest **** หรือเทียบเท่า 
วันที่ 3บูดาเปสต์ – ฮอลโลโก – เอ็กเกอร์ 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองฮอลโลโก (Holloko) (ระยะทาง 97 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 ครอบคลุมหมู่บ้านเก่าแก่, ปราสาทโบราณและบริเวณใกล้เคียง

นำท่านเข้าชมปราสาทฮอลโลโก (Holloko Castle) ปราสาทหินโบราณที่สร้างบนเนินหินใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากหมู่บ้าน ปราสาทแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณช่วงศตวรรษที่ 11 และถูกทำลายเสียหายอย่างหนักจากสงครามฮังกาเรียน-เติร์กในปี 1711 และได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่และเปิดให้เข้าชมได้ในปี 1996 โดยใช้เวลาบูรณะกว่า 30 ปี นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทโบราณมรดกโลกแห่งเมืองฮอลโลโก

สมควรแก่เวลานำท่านชมหมู่บ้านโบราณ (Old Village Museum) ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ยังคงดำเนินชีวิตและแต่งกายแบบชาวฮังกาเรียนโบราณ ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมและประเพณีโบราณอันดีงามของชาวฮังกาเรียน โดยหมู่บ้านนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้รับการยกย่องให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
​บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็กเกอร์ (Eger) (ระยะทาง 87 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง)

นำท่านเข้าชม ปราสาทเอ็กเกอร์ (Eger Castle) ปราสาทโบราณเดิมสร้างขึ้นในปี 1241 เพื่อต่อต้านการรุกรานของชาวมองโกล และได้ถูกทำลายลง หลังจากนั้นบิชอปแห่งเอ็กเกอร์ ได้ทำการสร้างปราสาทขึ้นใหม่บนเนินเข้าสูง ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะในศิลปะแบบกอทิคเมื่อปี 1470 และยังใช้เป็นป้อมปราการในการต่อต้านการรุกรานของชาวเติร์กในปี 1552 อีกด้วย นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทโบราณแห่งเมืองเอ็กเกอร์ 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโดโบ (Dobo square) จัตุรัสใจกลางเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเอ็กเกอร์ในอดีต อาคารบ้านเรือนโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพความสวยงามของเมืองเอ็กเกอร์

ได้เวลานำท่านเข้าชม มหาวิหารเซ็นต์จอห์น (Basilica of St. John the Apostle) ซึ่งเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสามของฮังการี สร้างในศิลปะแบบนีโอคลาสสิกในปี 1830

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองมิสโคล์ก
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Calimbra Wellness Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 4โบลดอคโก – โคเซตซ์ (สโลวาเกีย) 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมืองโบลดอคโค (Boldogko) (ระยะทาง 127 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมปราสาทโบลดอคโค (Boldogko Castle) เป็นป้อมปราสาทโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่13 ป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกล เป็นป้อมปราการที่ใช้ป้องกันเมืองและเส้นทางการเดินทางสู่เมืองโคเซตซ์ (Kosice) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศสโลวาเกีย ป้อมแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี 2002 ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ทางการทหาร, เครื่องทรมานและคุมขังนักโทษ ตลอดจนธงและ สัญลักษณ์ตราต่างๆ

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองโคเซตซ์ (Kosice) เมืองชายแดนของประเทศสโลวาเกีย (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที)
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเข้าชม โบสถ์เซ็นต์อลิซาเบธ (St. Elisabeth’s Cathedral) เป็นโบสถ์แบบกอทิคสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 ในเมืองโคเซตซ์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสโลวาเกียและเป็นหนึ่งในวิหารแบบกอทิคทางตะวันออกสุดของทวีปยุโรป

ได้เวลานำท่านชม ส่วนศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองโคเซตซ์ (Kosice Historical Center) อันประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมและพระราชวังเดิม เรียกได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับพระราชวังจาคาโบฟ (Jakabov Palace) และพระราชวังอองดราซซี่ (Andrassy Palace) ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นศูนย์ราชการของเมืองโคเซตซ์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอคอยประจำเมือง (St. Urbans Tower) 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Hotel Yasmin Kosice **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5โคเซตซ์ – ปราสาทสปิส – ถ้ำโดฟซินสกา ไอซ์ เคฟ – บันสกาบิสตริกา 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่ปราสาทสปิส (Spis Castle) สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 และเป็นหนึ่ง ในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสโลวาเกียและแม้แต่ในยุโรป ในปี 1993 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เนื่องจากมีพระราชวังโรมัน เหลือเพียงพระราชวังไม่กี่แห่งที่สร้างขึ้นในลักษณะนี้ในยุโรป ปราสาทเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมป้อมปราการยุคกลาง และด้วยเหตุนี้ ปราสาทแห่งนี้จึงยังคงไม่มีใครพิชิตได้ แม้ว่าจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากผู้รุกรานชาวตาตาร์ในปี 1241 นำท่านชมความสวยงามของป้อมปราสาทนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ถ้ำซิลิกา ไอซ์ เคฟ (Dobsinska Ice Cave) (ระยะทาง 61 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่ถ้ำที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกของประเทศสโลวาเกีย ถ้ำแห่งนี้เดิมเป็นบริเวณกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าน้ำแข็งซึ่งเหมือนหินงอกหินย้อยมีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่สมัยยุคสำริด (Bronze Age) ตัวถ้ำมีความยาวประมาณ 1,100 เมตรลึกประมาณ 110 เมตร (หมายเหตุ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเดิน หรือปัญหาหัวเข่า ไม่แนะนำให้ลงเดินภายในถ้ำ และท่านควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย)
 
นำท่านเดินทางสู่เมืองบันสกาบิสตริกา (Banska Bystrica) (ระยะทาง 100 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) นำท่านชมทาวน์ คาสเซิล คอมเพล็กซ์ (Town Castle Complex) ซึ่งเป็นศูนย์รวมความเจริญรุ่งเรืองในอดีตและหมู่อาคารบ้านเรือน โบสถ์โบราณที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาประจำเมือง (Clock Tower), โบสถ์ประจำเมือง (Old Church) และจัตุรัสอิสรภาพ (Slovak Uprising Square) 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก Wellness and Spa Hotel Kaskady **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6บิสตริกา –บันสกา สติอาฟนิชา – ปราสาทเทพนิยายโบจ์ไนซ์ – หมู่บ้านโบราณชิมานี  
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่เมืองบันสกา สติอาฟนิชา (Banská Štiavnica) (ระยะทาง 43 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) ซึ่งตั้งอยู่กลางเทือกเขา Štiavnica ทางตอนกลางของสโลวาเกีย และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ในศตวรรษที่ 18 และ 19 เมืองนี้เป็นศูนย์กลางที่ร่ำรวยที่สุดและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในรัชสมัยราชวงศ์ฮับส์บูร์กปกครอง เนื่องจากกลายเป็นศูนย์กลางด้านการขุด ทองคำและเงิน นำท่านเข้าชมปราสาทเก่า (Old Castle) หรือ Stary Zamok ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์หลักของเมือง เดิมเป็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งสร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 และได้บูรณะเป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 16

จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทใหม่ (New Castle) ซึ่งได้รับการบูรณะเป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 16 เช่นเดียวกับปราสาทใหม่ โดยทำหน้าที่เป็น watch tower ในช่วงการรุกรานของชาวเติร์ก 
 
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองโบจ์ไนซ์ (Bojnice) (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ช.ม.)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเข้าชม ปราสาทโบจ์ไนซ์ (Bojnice Castle) เป็นปราสาทจากยุคกลางสุดโรแมนติก แรกเริ่มสร้างด้วยไม้และค่อยเปลี่ยนเป็นหิน แล้วภายหลังมีการสร้างและปรับปรุงอีกหลายครั้ง จึงมีบางส่วนที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคและเรอเนซองส์แบบดั้งเดิมจากศตวรรษที่ 12 รอบ ๆ ปราสาทล้อมรอบด้วยสวนที่มีพืชพันธุ์หลายชนิด รวมทั้งสวนสัตว์โบจ์ไนซ์ก็อยู่ที่สวนนี้ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวาเกีย และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราสาทที่สวยที่สุดในสโลวาเกีย” อีกด้วย

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบราณชิมานี (Cicmany) (ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลา 45 นาที) หมู่บ้านโบราณเล็ก ๆ ที่มีบ้านไม้ลวดลายสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวสโลวาเกียเมื่อ 150 ปีที่แล้ว นำท่านชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหมู่บ้านชิมานี หมู่บ้านเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวสโลวาเกีย 
 
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเตรนซีน (Trencin) (ระยะทาง 56 ก.ม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองทางทิศตะวันตกของสโลวาเกีย บนฝั่งแม่น้ำวาก ใกล้กับชายแดนสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศ
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พัก Hotel Spirito by Spiwalk **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7ปราสาทเตรนซีน – ออลอโมตซ์ 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเที่ยวชมเมืองเตรนซีน (Trencin) ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองของสโลวเกีย และยังคงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 นำท่านเข้าชมปราสาทเตรนซีน (Trencin Castle) ปราสาทแห่งนี้ได้ปกป้องเส้นทางการค้าที่เชื่อมต่อภูมิภาคอูเกรียตอนเหนือและเมืองเหมืองแร่ในสโลวาเกียตอนกลางกับโบฮีเมีย โมราเวีย ซิลีเซีย และโปแลนด์ ประวัติความเป็นมาของปราสาทมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 11 โดยประกอบด้วยหอคอยที่อยู่อาศัยและหอกลม ซึ่งยังคงพบเห็นได้ในลานด้านบน และเป็นจุดชมวิวเมืองเตรนซีนได้ดีอีกแห่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย
 
นำท่านเดินทางสู่เมืองออลอโมตซ์ (Olomouc) (ระยะทาง 147 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ช.ม.) เป็นเมืองทางตะวันออกของเช็ก บนฝั่งแม่น้ำโมราวา เป็นเมืองหลวงของเขตออลอโมตซ์ ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ คาดการว่าเมืองนี้ถือกำเนิดมาจากป้อมของชาวโรมัน ตกเป็นของฮังการีใน ค.ศ. 1478 และเป็นเมืองหลวงของแคว้นมอเรเวียจนถึง ค.ศ. 1640 สวีเดนเข้าทำลายใน ค.ศ. 1642 ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นที่มั่นของออสเตรีย 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเที่ยวชมใน เขตเมืองเก่า (Old Town) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารโบราณและอาคารสำคัญต่างๆในอดีต นำท่านชมเสาอนุสรณ์แห่งคริสต์ศาสนาเมืองออลอโมตซ์ (Olomouc) หนึ่งในเสาเมืองอันเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์เลื่องลือ รองจากกรุงปราก เป็นสถานที่ประดิษฐานเสาศูนย์รวมแห่งจิตใจของชาวเช็กมานานกว่าสามร้อยปี ในปี ค.ศ.2000 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องให้ “เสาพระตรีเอกภาพ” เป็นมรดกโลก (World Heritage Site) ในฐานะที่เป็นตัวอย่างของการแสดงออกทางสุนทรียศิลป์แบบบาโรกที่งดงาม และยิ่งใหญ่ของทวีปยุโรป

ได้เวลานำท่านเข้าชม ปราสาทโบโซฟ (Bouzov Castle) เป็นป้อมปราสาทต้นศตวรรษที่ 14 ที่กล่าวถึงครั้งแรกในปี 1317 ซึ่งสร้างขึ้นบนเนินเขาระหว่างหมู่บ้าน Hvozdek และเมือง Bouzov ปราสาทนี้เคยถูกใช้ในภาพยนตร์โปรดักชั่นหลายเรื่องรวมไปถึง Arabela, Fantaghirò และ Before the fall นำท่านเข้าชมความสวยงามและความโดดเด่นของปราสาทที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ปราสาทที่ควรค่าแห่งการมาเยือนในสาธารณรัฐเช็ก ได้เวลานำท่านเข้าชม Basilica of Visitation of the Blessed Virgin Marry เป็นมหาวิหารที่สร้างบนเนินเขาในช่วงศตวรรษ 17-18
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก NH Collection Olomouc Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 8ออลอโมตซ์ – ลิโทมิช – เตลช์ 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม 

นำท่านเดินทางสู่เมืองลิโทมิช (Litomysl) (ระยะทาง 100 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมปราสาทลิโทมิช (Litomysl Castle) เป็นปราสาทยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและได้รับการยกย่องจากองค์การUNESCO ในปี 1999 เป็นปราสาทสร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 ในศิลปะแบบเรอเนซองส์ และได้รับการต่อเติมในศิลปะแบบบาโรคในสมัยศตวรรษที่ 18 นำท่านเข้าชมความสวยงามที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองเก่าลิโทมิช (Old Town) นำท่านเยือนจัตุรัสประจำเมือง และโบสถ์แห่งซาร์ส (Tvar Church) อิสระให้ท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองเตลช์ (Telc) (ระยะทาง 158 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพื้นที่ของเมืองเตลช์จะล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้ง 3 ด้าน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก UNESCO World Heritage บ้านในนี้มีเพียง 71 หลัง ก่อสร้างด้วยอิฐปูน แต่งเติมสีสันสดใส ซึ่งแต่เดิมสร้างด้วยไม้แต่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อสร้างใหม่จึงก่อด้วยหิน-ปูนแทน ในสไตล์เรอเนซองส์

นำท่านเข้าชม ปราสาทเตลช์ (Telc Chateau) สร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 15 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ ซึ่งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นมาในสถาปัตยกรรมแบบกอทิก แต่ต่อมาถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์โดยขุนนาง Oldrich III แห่งครอบครัว Zacharis of Hradec ซึ่งเป็นครอบครัวที่ปกครองเมืองนี้ต่อจาก King John of Luxembourg

ได้เวลานำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old town) ซึ่งมีหมู่อาคารโบราณสีพาสเทล ที่สวยงามและควรค่าแก่การไปเยือน 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พัก Hotel Artaban/ Hotel Telc**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 9เตลช์ – เวียนนา
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 153 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นครหลวงแห่งดนตรีที่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติคอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นนครที่มีความทันสมัยแต่แฝงเร้นอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิกอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่ทางตอนกลางของสหภาพยุโรป เชื่อมต่ออารยธรรมระหว่างยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตก

นำท่านชมความงามของวิหารเซนต์ สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) วิหารศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเวียนนา สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองเก่า จัดเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา

อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งบนถนนคาร์ทเนอร์ (Kartnerstrasse) ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย ชม วิหารเซนต์สตีฟาน ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุง เวียนนา มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ อาทิเช่น เครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน และของที่ระลึกต่างๆ
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ ปาร์นดอร์ฟ (Outlet Parndorf) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองหลวงของสองประเทศออสเตรียและสโลวาเกีย เป็น outlet แห่งแรกที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของ ประเทศออสเตรีย ที่มีร้านค้า มากกว่า 120 ร้านสินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆจากทุกมุมโลก ให้เลือกมากมายอย่างจุใจ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย 
19.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินเวียนนา
23.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน OS 25 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ช.ม.)
วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
14.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

เงื่อนไขในการจอง

  • สำหรับห้องพักแบบ 3 เตียง มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้ท่าน เปิดห้องพัก เป็น 2 ห้องจะสะดวกกับท่านมากกว่า
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 23 ก.ก., กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. 
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน OS (กระเป๋าเดินทาง น้ำหนัก ไม่เกิน 23 ก.ก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาท
    ค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าภาษีในประเทศ
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และทิปต่างๆ
  • ค่าวีซ่าเชงเก้น
  • น้ำดื่มท่านละ 1 ขวดต่อท่านต่อวัน
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านต้องจัดการกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

*ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด
  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)
  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) 
***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 

10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้ทั้ง Bank guarantee และ สำเนาบัญชี เล่มเดียวกัน)
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน นับขึ้นไปจากเดือนที่จะยื่นวีซ่า มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน และยอดแสดงในบัญชีต้องไม่ก้าวข้ามเดือน (ปรับสมุดและสำเนา 15 วันก่อนยื่นวีซ่า)

************* ข้อ 1 และ ข้อ 2 ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มเดียวกันเท่านั้น **************

หมายเหตุ : หากสมุดบัญชีแสดงยอดรวมที่มีการกระโดดข้ามเดือน (ยอดไม่ต่อเนื่อง) เช่นจากเดือน 1 ข้ามไปเป็นยอดของ เดือน 3 (เดือน 2 ไม่มี) ท่านต้องไปขอ Bank statement จากทางธนาคารแทนการถ่ายสำเนาสมุดบัญชี

- บัญชีฝากประจำ (Fixed) สามารถแนบประกอบได้ แต่ท่านต้องแนบบัญชีออมทรัพย์ (Saving) มาด้วย
หากต้องการใช้บัญชีฝากประจำ ต้องเตรียมดังนี้
- หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee) ของบัญชีฝากประจำ (Fixed account) ออกโดยธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 

หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 
 (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy