ทัวร์ยุโรปใต้ สเปน โปรตุเกส 2567/2024 เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE578 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปใต้ สเปน โปรตุเกส 9 วัน 7 คืน (QR)

DE578 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปใต้ สเปน โปรตุเกส 9 วัน 7 คืน (QR)
Qatar Airways (QR)

AXOR FERIA
BEATRIZ TOLEDO AUDITORIUM & SPA
EXE SALAMANCA
Hf Ipanema Park
MELIA CASTILLA
SANA METROPOLITAN
SERCOTEL GRAN HOTEL ZURBARAN

ปราสาทแห่งเซโกเบีย |  คลองส่งน้ำโรมัน |   ล่องเรือแม่น้ำดูว์โร | จัตุรัสอเลียโดส | สถานีรถไฟ Sao Bento |  หอคอยเบเล็ม | อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่  (โปรตุเกส) |  แหลมโรก้า | ชิงตรา | พระราชวังแห่งชาติเปนา | บาดาจอซ (สเปน) | มหาวิหารโตเลโด้  (สเปน)| สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว | พลาซาร์มายอร์ | ปูเอต้าเดซอล | สนามสู้วัวกระทิง | พระราชวังหลวง | เอาท์เล็ท LAS ROZAS VILLAGE

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ – แมดริด (สเปน)
06.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารขาออกชั้น 4 ประตูทางเข้าเบอร์ 6-8  เคาน์เตอร์ Q  สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ (QR) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง 
09.05 น. ออกเดินทางสู่ มาดริด โดยเที่ยวบินที่ QR 831 /QR 151 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
21.35 น. คณะเดินทางถึง สนามบินบาราคัส (BARAJAS) กรุงแมดดริด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว รถโค้ชปรับอากาศมาตรฐานยุโรป นำคณะเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก
ที่พักAXOR FERIA  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1 )
วันที่ 2เซโกเบีย – ปราสาทแห่งเซโกเบีย –  พิเศษกับ!!! เมนูหมูหัน – คลองส่งน้ำโรมัน – ซาลามังก้า   (สเปน)
เช้า    

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 1)

ออกเดินทางสู่ เซโกเบีย  (ประมาณ 93 กม.) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเบียในแคว้นคาสตีลและเลออองของสเปน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมากับแม่น้ำกลาโมเรสที่เชิงเขากวาดาร์รามา โดยขณะที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวโรมันและชาวมัวร์ เมืองนี้มีชื่อเรียกว่า เซโกเบีย (Segovia) สันนิษฐานว่าชื่อเมืองมีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวเคลต์ว่า เซโกบรีกา (Segobriga) ซึ่งเกิดจากการประสมของคำว่า Sego แปลว่า “ชัยชนะ”  และคำว่า Briga แปลว่า “เมือง”

นำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ สะพานส่งน้ำโรมัน จากนั้นนำชมเขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 แวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเบีย (Segovia Cathedral) ที่มีชื่อเสียง ถ่ายรูปกับ ปราสาทแห่งเซโกเบีย หรือ ปราสาทอัลกาซาร์ (คำว่าอัลกาซาร์) ในภาษาอารบิกแปลว่าปราสาท หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน

จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกับร้านค้าต่างๆ ที่เรียงรายสองข้างทางกันตามอัธยาศัย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) (เมนูหมูหันอันขึ้นชื่อ )
บ่าย

ออกเดินทางสู่ ซาลามังก้า (ประมาณ 170 กม.) เมืองหลักของจังหวัดซาลามังก้าในแคว้นคาสตีลและเลออง เมืองมีชื่อที่ได้ยินมานานแล้วโดยเฉพาะกิตติศัพย์ในเรื่องของความเก่าแก่และงดงาม เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีมนต์ขลังอีกเมืองหนึ่งทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส ในอดีตเมืองซาลามังก้า เป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการค้าขายเมื่อครั้งสมัยโรมันยังเรืองอำนาจอยู่

นำท่านสู่ พลาซา มายอร์ (PLAZA MAYOR) ศูนย์กลางของเมือง สร้างโดยศิลปะสไตล์บาร็อกอันเป็นเอกลักษณ์ของความอู้ฟู่ในยุคศตวรรษที่ 16-18 ในฤดูร้อน พลาซา มายอร์ คือพื้นที่แห่งความบันเทิงของชาวสเปน หนึ่งในนั้นก็คือการสู้วัวกระทิง จนในที่สุดก็เลิกจัดขึ้นที่พลาซาแห่งนี้ในกลางยุคปี ค.ศ. 1800 ปัจจุบันบริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการทำกิจกรรม และการพบปะของผู้คน  จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิทยาลัยซาลามังกา (UNIVERSITY OF  SALAMANCA) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสเปนยาวนานถึง 700 กว่าปี นับว่ามีอายุเก่าแก่ไม่แพ้มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอื่นๆ ในยุโรป อย่างไรก็ตามสถาปัตยกรรมสำคัญของซาลามังกาคือ มหาวิหาร, พระราชวัง และตัวอาคารหลายแห่งของมหาวิทยาลัยยังคงมีสภาพสมบูรณ์ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1988 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เขตเมืองเก่าของซาลามังกาเป็นมรดกโลก และในปี ค.ศ. 2002 ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรปร่วมกับเมืองบรูจส์ของเบลเยียม นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารซาลามังกา ที่อยู่ในเขตเมืองเก่าเป็นส่วนหนึ่งของอาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มหาวิหารในเมืองที่สำคัญมี 2 แห่งคือ มหาวิหารเก่าสร้างเมื่อศตวรรษที่ 12 ด้วยรูปแบบศิลปะโรมัน และมหาวิหารใหม่ สร้างเมื่อศตวรรษที่ 16 เป็นศิลปะแบบโกธิคที่ดูทันสมัยขึ้น ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 200 ปีจึงแล้วเสร็จ ถ่ายรูปที่ระลึกกับ บ้านหอย (HOUSE OF SHELL) ตั้งอยู่ระหว่างพลาซา มายอร์กับมหาวิหารใหม่ ตึกนี้มีชื่อตามเปลือกหอยที่ประดับบนกำแพงด้านนอก หอยที่ใช้ประดับนี้เป็นตราประทับของเจ้าของเก่าคืออัศวินซานติอาโก และที่นี่ก็คือบ้านของอัศวินผู้นี้ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้กลายเป็นหอสมุดสาธารณะ ซึ่งว่าไปก็น่าจะเป็นหอสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3)
ที่พักEXE SALAMANCA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2 )
วันที่ 3ปอร์โต –  ล่องเรือแม่น้ำดูว์โร – จัตุรัสอเลียโดส – สถานีรถไฟ Sao Bento   (โปรตุเกส)
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 4)

ออกเดินทางสู่ ปอร์โต้ (Porto) (ประมาณ 350 กม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในโปรตุเกส และเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป ตั้งอยู่ในภาคเหนือของโปรตุเกสที่ปากของแม่น้ำดูว์โร (Duero Hisz) เป็นเมืองท่าที่มีชื่อในด้านไวน์ปอร์โต้ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเมาชั้นดีของคนที่รักในการดื่ม เพราะมีCaveไวน์ของแต่ละแบรนด์กระจายไปทั่ว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ปอร์โต้จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1996 เมืองนี้แบ่งการท่องเที่ยวเป็นสามส่วนใหญ่ๆ  คือ โซนชายฝั่งทะเล ซึ่งสร้างชื่อตอนหน้าร้อนให้กับเมืองนี้ได้อย่างดี โซนเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์เก่า, สถานีรถไฟเก่าแก่, ตลาดดั้งเดิมและตึกรามบ้านช่องที่บอกถึงความเก่าได้อย่างดี และสำหรับโซนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นที่ที่โรแมนติกมากคือที่ริมแม่น้ำที่ชื่อว่า The Ribeira ซึ่งมีทิวทัศน์ทั้งในกลางคืนและกลางวัน ส่วนโซนที่สามที่มีแม่น้ำดูว์โรผ่านกลาง คือ โซนเมืองใหม่ หรือ ย่าน Vila Nova de Gala โซนนี้จะเป็นโซนที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบในการดื่ม เพราะเป็นแหล่งผลิตไวน์ปอร์โต้ของทุกยี่ห้อแล้วแต่เลือกสรรกันไป ซึ่งสองย่านนี้ถูกเชื่อมด้วยสะพานเหล็กที่สูงเฉียดฟ้า และแข็งแกร่งซึ่งคนที่สร้างสะพานแห่งนี้มีชื่อว่าGustaveEiffelเป็นคนเดียวที่สร้างหอไอเฟลในปารีส 

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
บ่าย

จากนั้นนำท่านลงเรือล่องชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำดูว์โร ผ่านชม Cais da Ribeira เรือขนไวน์โบราณ Rabelos ที่จอดเรียงรายให้ชื่นชมความเป็นมาของเมืองนี้และแม่น้ำดูว์โร  สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยที่เป็นท่าเรือโบราณและตลาดค้าขายมาตั้งแต่สองสามร้อยปีก่อน บริเวณนี้จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดก 

จากนั้นนำท่านชมความงามของ เมืองมรดกโลกปอร์โต้ โดยเริ่มจาก ย่านจัตุรัสอเลียโดส หรือ (Praça dos Liberdade) เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง (City Hall) จัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งรวมอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของปอร์โต้ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสอเลียโดสแห่งนี้

จากนั้นนำท่านชม สถานีรถไฟ Sao Bento ซึ่งเป็นอาคารสถานีรถไฟโบราณ ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีและลวดลายสีน้ำเงินบอกเล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกสสวยงามมาก จากนั้นแวะถ่ายรูปกับโบสถ์หลักที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง โบสถ์ Se Catedral อายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ Joao ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกสเพื่อออกแสวงดินแดนใหม่ จนโปรตุเกสมีอาณานิคมมากมายทั่วโลก และโปรตุเกสคือประเทศตะวันตกประเทศแรกที่มาติดต่อกับไทยในปี พ.ศ. 2054 โบสถ์แห่งนี้สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำ  ดูว์โร เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกจุดให้ท่านเก็บภาพประทับใจ 

จากนั้นนำท่านสู่ ย่าน Shopping Street หลักของเมืองที่ถนน Santa Catarina มีเวลาให้ท่านเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)
ที่พัก Hf Ipanema Park  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3 )
วันที่ 4กรุงลิสบอน – หอคอยเบเล็ม – อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่  (โปรตุเกส)
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 7)

นำคณะเดินทางไปยัง กรุงลิสบอน (ประมาณ 310 กม.) เมืองหลวงเก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ของประเทศโปรตุเกส เมืองที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
บ่าย

นำคณะเที่ยวชมกรุงลิสบอน ผ่านชม อดีตพระราชวังหลวง อายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิกและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ชม เมืองวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ. 1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (MANUELINE) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น WORLD HERITAGE SITE ภายในประกอบไปด้วยอาคารสำคัญต่างๆ 

นำท่านชม หอคอยเบเล็ม (BELEM TOWER) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของวาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม บันทึกภาพกับ อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิม ขนมทาร์ตคัสตาร์ด (NATA DE PASTEIS) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกสต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด ที่มีต้นตำรับแท้อยู่ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยาโดยท่านท้าวทองกีบม้า

จากนั้นนำชม สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป ซึ่งสะพานนี้มีชื่อว่า PONTE 25 ABRIL (ซึ่งเมื่อวันที่ 25 APRIL ปี 1974 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)
ที่พัก SANA METROPOLITAN หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)
วันที่ 5กรุงลิสบอน – แหลมโรก้า  – ชิงตรา – พระราชวังแห่งชาติเปนา  – บาดาจอซ (สเปน)
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 10)

ออกเดินทางสู่ แหลมโรก้า (Capo Da Roca) (ประมาณ 41 กม.) จุดตะวันตกสุดของโปรตุเกสและของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซินทรา ห่างจากลิสบอนเมืองหลวงประมาณ 45 กม. ตัวแหลมจะยื่นออกไปทางตะวันตกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชะง่อนผาสูงประมาณ 100 เมตรเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลซึ่งทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากตรงนี้ท่านจะได้ชมความงามของมหาสมุทรแอตแลนติกอันยิ่งใหญ่ไพศาลเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก 

ได้เวลานำท่านสู่ เมืองชิงตรา ดินแดนแห่ง มรดกโลก เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ของธรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในส่วนของ ภูมิทัศน์วัฒนธรรม เป็นแห่งแรกของยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 1995 แถมยังเป็นเมืองพักตากอากาศยอดนิยมสำหรับชาวโปรตุเกสและนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย นำท่านเข้าชม พระราชวังแห่งชาติเปนา (PENA PALACE) หรือ PALA'CIO NACIONAL DA PENA หนึ่งในมรดกโลกแห่ง เมืองซิงตรา (SINTRA) เดิมเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 แต่หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1755 โบสถ์แห่งนี้ก็พลังทลายลงจนเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1838 กษัตริย์ FERDINAND SAXE-COBURG-GOTHA ก็ได้ตัดสินใจสร้างพระราชวังขึ้นใหม่แทนที่โบสถ์หลังเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1854 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก  ทาด้วยสีเหลือง แดง น้ำเงิน ม่วง ดูฉูดฉาด สดใส ล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วโลก สวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยาย

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)
บ่าย

จากนั้นนำท่านสู่ย่านเก่าเมืองซิงตรา (OLD CENTRE OF SINTRA) จุดศูนย์รวมตึกอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเมือง รวมถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญๆ ต่างๆ โบสถ์ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ

ได้เวลานำคณะเดินทางสู่ บาดาจอซ (ประมาณ 250 กม.) เมืองหลวงของแคว้นเอ็กซ์เรามาดูราทางตอนใต้ ห่างจากชายแดนประเทศโปรตุเกสเพียง 6กิโลเมตร เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้น และมีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมที่พวกมัวร์ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลัง ภาพของเมืองที่มีปราสาทอัลกาซาบาบนเนินเขาโอรินาเซเหนือแม่น้ำกัวเดียน่าเป็นฉาก ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอาหรับได้อย่างชัดเจน

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)
ที่พัก SERCOTEL GRAN HOTEL ZURBARAN  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5) 
วันที่ 6บาราจอซ – โตเลโด้ – มหาวิหารโตเลโด้  (สเปน) 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 13)

นำคณะเดินทางต่อไปยัง โตเลโด้ (ประมาณ 367 กม.) เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งมีความหมายว่า “เมืองป้อมน้อย” ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน และเคยถูกชาวโรมันเข้ายึดครองเมืองเมื่อ 2,200 ปีมาแล้ว ปัจจุบันอารยะธรรมของชนต่างชาติครั้งก่อนยังคงฝังแน่นคละกันอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวเมือง ลักษณะผังเมืองโตเลโด้เป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองรายล้อมด้วยเนินเขามากมาย ประดุจกำแพงธรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่งโดยมีแม่น้ำทาโคเป็นเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้เมืองโตเลโด้เป็นใจกลางของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และได้รับรองจากยูเนสโก้ประกาศให้เมืองโตเลโด้เป็นเมืองมรดกโลก

กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14)
บ่าย

นำคณะเที่ยวชม นครโตเลโด้ ซึ่งเป็นนครที่คงความงดงามและความเป็นมาในฐานะเมืองเก่าอันเปรียบเป็นอนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์ ยังคงได้รับการยอมรับและบันทึกเอาไว้โดยองค์การสหประชาชาติว่าเป็น “เมืองมรดกโลก” 

จากนั้นนำคณะเข้าชม มหาวิหารแห่งโตเลโด้ มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในสเปน เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1227 อันเป็นสมัยที่ศิลปะแบบโกธิคกำลังแพร่หลายอยู่ในยุโรป และเสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1493 ถือเป็นมหาวิหารสไตส์โกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาคริสต์ในประเทศสเปนอีกด้วย ชมห้องเก็บสมบัติของบิช็อบแห่งโตเลโด้ที่เต็มไปด้วยมงกุฎและคฑาเพชร นำคณะเดินลัดเลาะตามตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สมัยโรมัน ท่านจะประทับใจกับความงดงามและความเก่าแก่ของโตเลโด้ ซึ่งเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั้งเมือง นำชมโรงงานผลิตเครื่องถมของสเปนดามาสกิโน่ที่สวยงามด้วยการนำทองและเงินมาตีเป็นเส้น และตอกลงบนโลหะสีดำเป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงของโตเลโด้มาช้านาน

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 15) 
ที่พัก BEATRIZ TOLEDO AUDITORIUM & SPA  หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)
วันที่ 7มาดริด – สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว – พลาซาร์มายอร์ – ปูเอต้าเดซอล 
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 16)

เดินทางสู่ กรุงแมดดริด (ประมาณ 73 กม.) เมืองหลวงของประเทศสเปนมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโตเลโด้มาไว้ที่นี่ และประกาศให้แมดดริดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ จากนั้นระหว่างปี ค.ศ. 1601-1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปที่ 3 ได้ย้ายไปที่เมืองวัลลาโดลิด แมดดริดก็ได้ความเป็นเมืองหลวงสืบมาจนถึงบัดนี้ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป นำคณะเที่ยวชมเมืองเก่าแก่นับพันปีตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียนเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านคณะ ถ่ายรูปด้านหน้า สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในกรุงมาดริดของประเทศสเปน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เริ่มเปิดใช้สนามเมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เดิมมีชื่อว่าเอสตาดีโอชามาร์ติน (Estadio Chamartín) ตามชื่อของสนามเดิมของสโมสร เปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 1947  เรอัลมาดริดได้ประกาศใช้ชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 1955 เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสโมสรคือ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17)
บ่าย

นำคณะเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ ในกรุงแมดริด เริ่มต้นจากปลาซา เดอ เอส ปันญา  อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฮเต้และซันโซปันซาในสวนสาธารณะปลาซ่า มายอร์จัตุรัสหลวง ศูนย์กลางเมืองอันเก่าแก่ ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1620

จากนั้นนำคณะชม ย่านเมืองเก่า พลาซ่าร์ มายอร์ เป็นจตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าอดีตใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและงานฉลองพิธีสำคัญ ๆ เป็นที่ประลองฝีมือของบรรดาอัศวิน และเคยเป็นแหล่งสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างทหารของนโปเลียนกับชาวสเปน ปัจจุบันยังคงมีบรรยากาศ และความงามสมัยศตวรรษที่ 1

นำท่านเข้าสู่ ย่าน ปูเอต้า เดล ซอล หรือ ประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย ถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมืองจากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยว WALKING STREET เลือกซื้อสินค้าต่างๆ

เย็นรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พื้นเมือง (มื้อที่ 18) เมนูข้าวผัดสเปนอันเลื่องชื่อ พร้อมรับชมระบำฟลามิงโก้
ที่พักMELIA CASTILLA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
วันที่ 8แมดริด – สนามสู้วัวกระทิง – พระราชวังหลวง – เอาท์เล็ท LAS ROZAS VILLAGE –   กรุงเทพฯ 
​เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 19)

นำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ สนามสู้วัวกระทิง PLAZA DE TOROS ที่ชาวสเปนนิยมชมชอบการสู้วัว เนื่องด้วยเป็นวิถีโบราณแห่งการเอนเตอร์เทนที่เร้าใจมาช้านาน

จากนั้นนำคณะเข้าชม พระราชวังหลวง ของกษัตริย์ฮวนคาลอส ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่น ๆในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ซายส์ และความสวยงามของพระราชวังลูฟว์ในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738 ในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่าง ๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ

จากนั้นชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดทั้งปี

จากนั้นทำท่านเดินทางสู่ เอาท์เล็ท LAS ROZAS VILLAGE หนึ่งในเอาท์เล็ทที่ดีที่สุดในมาดริดซึ่งขึ้นชื่อเรื่องส่วนลดของสินค้าเเบรนด์ดังมากมาย

18.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินบาราคัส TAXREFUND พร้อมกับเช็คอินเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
​23.05 น.  เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 152 /QR 832 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศกาต้าร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
วันที่ 9สนามบินสุวรรณภูมิ
​19.05 น. คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ  ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน (ECONOMY CLASS) ที่ระบุวันเดินทางไปและกลับพร้อมคณะ (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 30 กิโลกรัม / กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
  • ค่า COACH TAX และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
  • ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
  • ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  • ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบ SCHENGEN (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท กับ ACE INSURANCE LIMITED (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) เท่านั้น ท่านใดต้องการซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมโปรดติดต่อบริษัททัวร์
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีต้องการใบเสร็จเต็มรูปแบบ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ 
  • ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 30 กิโลกรัม  และมีจำนวนมากกว่า 2 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน) 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 20 ยูโรต่อท่าน
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป (ท่านละ 16 ยูโร)

***กรุณาพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ และเงื่อนไขการยกเลิกทัวร์ของบริษัท ก่อนท่านทำการจองทัวร์***

  • กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย  50 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 60,000 บาท 
  • ส่วนที่เหลือชำระทันทีหรือก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วันไม่ว่าผลของวีซ่าจะออกหรือไม่ออกก็ตาม มิฉะนั้นจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ
  • การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 50 วันก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินงวดแรก (ท่านละ60,000บาท) 
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 30-20 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 19 - 11 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 80 % ของราคาทัวร์
  • กรณียกเลิกกะทันหันก่อนการเดินทางไม่เกิน  10 วัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ได้ชำระไปแล้วจำนวนมาก บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ
  • ทางบริษัทจะทำการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 15 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทจะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครี่องบิน , ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ,ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 15 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
  • ในการยื่นวีซ่า ท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต เพื่อมาสแกรนลายนิ้วมือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอำนวยความสะดวก
  • เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
  • กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
    - ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้นแม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
    - ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าดำเนินการและ ค่าบริการ  4,500 บาท
    - ค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วไม่สามรถ REFUND ได้เนื่องจากบริษัทจองตั๋วเป็นตั๋วกรุ๊ปซึ่งตั๋วกรุ๊ปจะไม่สามรถ REFUND คืนได้ 
    - ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ทางโรงแรมจะต้องยึดค่าห้อง 100% ในทันที 
    หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
  • ในกรณีที่ทางบริษัทขอเอกสารเพิ่มเติมแต่ท่านไม่ส่งเอกสารตามที่ขอมาให้ทางบริษัท / เอกสารของท่านไม่น่าเชื่อถือ / มีการปลอมแปลงเอกสาร / มาไม่ทันเวลานัดหมายตามที่สถานทูตกำหนด (มาสาย) / ไม่รับโทรศัพท์สถานทูต / การใช้คำพูดไม่สุภาพกับสถานทูต และส่งผลทำให้วีซ่าไม่ผ่านการพิจารณาจากสถานฑูต ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินให้ท่าน
  • กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่บริษัทระบุใน รายการเดินทาง  บริษัทของสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ
  • ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ปคอนเฟิร์ม 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
  • กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์) ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่อจราจล ภัยธรรมชาติ   รถติด  ทำให้ไม่สามารถกิน-เที่ยวและพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทางสายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน
  • ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษา มาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม
  • ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ว่าบางส่วนหรือ ทั้งหมด อาทิเช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป๋าเงิน, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้น
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเกน (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)
1.  หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 2X1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2  รูป) 
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ 
4. สำเนาบัตรประชาชน 
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) 
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เดินทางกับใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว (พ่อและเม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)  (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น ใบปกครองบุตร (ปค.14) จากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น)  , หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น 
8. หลักฐานการทำงาน 
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ(สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน)
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า(สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัท เบอร์โทร และตราประทับบริษัทด้วย จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน)
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) 
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา  
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ   
9.  หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น) 
9.1  สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาไทย พร้อมตราประทับจากธนาคาร นำเล่มจริงมาแสดงวันที่ยื่นวีซ่า
- กรณีเงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
- ก่อนยื่นวีซ่า 7 วัน  รบกวนปรับสมุดบัญชี ให้มียอดล่าสุด 7 วัน ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า  และสำเนาหน้าที่ปรับสมุด + หน้าแรกที่มีชื่อบัญชี นำมายื่นเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า  หากนำสมุดไปปรับแล้วไม่มียอด รบกวนนำเงินเข้า หรือ นำเงินออก เผื่อจะได้มียอดในการปรับสมุด 
9.2 ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  (ขอเป็นภาษาอังกฤษ) ต้องมีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ได้คิวยื่นวีซ่า พร้อมทั้งต้องระบุ จำนวนเงินเป็นตัวเลขลงในหนังสือรับรองด้วย เช่นท่านได้คิวยื่นวีซ่าวันที่ 18 กันยายน หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคารที่ใช้ในการยื่นวีซ่า ต้องออกให้ ณ วันที่ 4 กันยายน หรือ หลังจากนั้นเท่านั้น  จดหมายรับรองจากธนาคารให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) โดยไม่ต้องระบุวัน และประเทศที่เดินทาง (ชื่อในหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  จะต้องถูกต้องและตรงตามหน้าพาสปอร์ต วันที่ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคารให้นำสำเนาหน้าพาสปอร์ตไปด้วย เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการออกเอกสาร)
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10.  ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า, อา ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)
** กรณีพ่อหรือแม่ ใช้การเงินของลูกในการยื่นวีซ่า ต้องแนบสูติบัตรลูกมาด้วย **
- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
- เขียนจดหมาย decare เป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
- กรณีมีลูกด้วยกัน ให้ใช้ใบเกิดของลูก 
10.2 กรุณาแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากตามข้อกำหนดในข้อ 9 ที่จะใช้ยื่นวีซ่า 1 ชุดของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งใน หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองค่าใช้จ่ายด้วย
11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 70ปีบริบูรณ์กรุณาแนบใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางได้เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
12. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่า ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ 

*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า

วันที่มายื่นวีซ่ากรุณานำสมุดบัญชีธนาคารเล่มจริงมาด้วย (กรณีมีเล่มต่อจากสมุดเดิมรบกวนนำเล่มเก่ามาด้วย) เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา เช่น ทะเบียนบ้าน , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล , สูติบัตร , นำตัวจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย

***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****

กรมการกงสุลได้แจ้งเตือนว่า :
1.ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น
2. การขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “ หนังสือเดินทางชำรุด ” อาจถูกปฎิเสธเข้าประเทศต่างๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก
  • ในกรณีเลื่อนการเดินทางกลับ ท่านจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการยื่นวีซ่า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่าง และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนตั๋ว และเอกสารเพิ่มเติม เช่นเอกสารประกัน,เอกสารโรงแรมที่อยู่ต่อ
  • บริษัทฯ ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงราคากรณีผู้ร่วม      เดินทางน้อยกว่า 15 ท่าน***

    สำหรับท่านที่เป็นมุสลิม ,  ทานมังสวิรัติ  , ไม่ทานหมู  , ไม่ทานเนื้อ , ไม่ทานไก่ , ไม่ทานปลา  โปรดแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์  

    ***หมายเหตุข้อสำคัญที่ท่านควรทราบ***
    1.)ในการยื่นวีซ่า ทางบริษัท จะทำการนัดหมายกับสถานทูตและสถานทูตจะเป็นผู้กำหนดวันและเวลาให้เข้าไปยื่นวีซ่า เป็นการยื่นวีซ่าแบบกรุ๊ปเท่านั้น(ปกติสถานทูตจะให้เข้าไปยื่นวีซ่า 15 วันก่อนเดินทาง)  ซึ่งอัตราค่าใช้จ่ายรวมอยู่ในรายการทัวร์แล้ว
    ***กรุณาพิจารณารายละเอียดของโปรแกรมทัวร์และเงื่อนไขต่างๆของบริษัท เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำงวดแรกแล้ว ทางบริษัทถือว่าท่านได้รับทราบและยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ***


    Address

    53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

    จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

    Contact Us

    Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

    Social Network

    Facebook : @DoubleEnjoyTravel
    Line : @DoubleEnjoy
    Instagram : @DoubleEnjoy
    Youtube : Double Enjoy Travel

     

    Add line DoubleEnjoy