ทัวร์ยุโรปใต้ โปรตุเกส สเปน 2567/2024 เที่ยวยุโรป

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE1026 : โปรแกรมทัวร์ยุโรปใต้ โปรตุเกส สเปน 9 วัน 6 คืน (QR)

Qatar Airways (QR)

CHAMARTIN THE ONE
GRAN HOTEL CORONA SOL
Hf Ipanema Park
PARADOR DE SEGOVIA
RADISSON BLU LISBON

🔹 แหลมโรก้า จุดตะวันตกโปรตุเกสและทวีปยุโรป
🔹 เข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนา หนึ่งในมรดกโลก
🔹 ล่องเรือชมความงามแม่น้ำดูว์โร เมืองปอร์โต้
🔹 เข้าชมพระราชวังหลวงของกษัตริย์ฮวนคาลอส
🔹 เข้าชมมหาวิหารแห่งโตเลโด้ที่ใหญ่ที่สุดในสเปน
🔹 PONTE 25 ABRIL สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป
🔹 ถ่ายรูปที่่ระลึกกับสะพานส่งน้ำโรมันเซโกเบีย

------------------------------

🍽 เมนูหมูหันสเปน, ข้าวผัดสเปนพร้อมโชว์ระบำฟลามิงโก้

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE000-00110-18 ก.พ. 68Qatar Airways (QR)99,999จองด่วน
DE000-00217-25 มี.ค. 68Qatar Airways (QR)99,999จองด่วน
DE000-00328 เม.ย.-06 พ.ค. 68Qatar Airways (QR)115,555จองด่วน
DE000-00405-13 พ.ค. 68Qatar Airways (QR)115,555จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ - ลิสบอน (โปรตุเกส)
16.00 น.คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q สายการบิน QATAR AIRWAYS เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้ การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
18.55 น.ออกเดินทางสู่ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยเที่ยวบินที่ QR 835 / QR 343 แวะเปลี่ยนเครื่อง ที่ สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
วันที่ 2ลิสบอน - แหลมโรก้า - หอคอยเบเล็ม - อนุสารีย์ดิสคัฟเวอรี่ (โปรตุเกส)
06.15 น.คณะเดินทางถึง ทำอากาศยานลิสบอน ปอร์เตลา กรุงลิสบอนเมืองหลวงเก่าแก่มีประวัติยาวนาน กว่า800 ปี ของประเทศโปรตุเกส เมืองที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งอยู่ในทวีปยุปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

เดินทางสู่ แหลมโรก้า (CAPO DA ROCA) ตะวันตกสุดของโปรตูเกสและของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเขตอุกยานแห่งชาติซินทรา ห่างจากลิสบอนเมืองหลวง ประมาณ45 กม. ตัวแหลมจะยื่นออกไปทางตะวันตกลุ่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชะง่อนผาสูงประมาณ 100เมตร เกิดจากการกัดเชาะของน้ำทะเล ซึ่งทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากตรงนี้ท่านจะได้ชมความงามของ มหาสมุทรแอตแลนติก อันยิ่งใหญ่ไพศาลเป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก
นำคณะเดินทางไปยัง กรุงลิสบอน
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)
บ่ายนำคณะเที่ยวชม กรุงลิสบอน ผ่านชมอดีตพระราชวังหลวง อายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิกและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี ชมเมืองวิหารเออโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.ศ. จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียก กันว่ามาบูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น World Heritage Site ภายในประกอบไปด้วยอาคารสำคัญต่างๆ

นำท่านชม หอคอยเบเล็ม (BELEM TOWER) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของวาสโกดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงามบันทึกภาพกับ อนุสาวรีย์ดีสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด (NATA DEPASTEIS) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกสต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด ที่มีต้นต่ำรับแก้อยู่ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยาโดยท่านท้าวทองกับม้า นำชมสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป ซึ่งสะพานนี้มีชื่อว่า PONTE25 ABRIL ( ซึ่งเมื่อวันที่ 25 APRIL ปี 1974 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย ) 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)
​ที่พัก ​RADISSON BLU LISBON หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
วันที่ 3กรุงลิสบอน - ชิงตรา - พระราชวังแห่งชาติเปนา- ปอร์โต้ (โปรตุเกส)
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3)
เช้านำท่านสู่ เมืองซิงตรา ดินแดนแห่งบรดกโลก เมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ของรรรมชาติที่สวยงามจนได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในส่วนของ ภูมิทัศน์วัฒนธรรรม เป็นแห่งแรกของยุโรปเมื่อปี ค.ศ.1995 ยังเป็นเมืองพักตากอากาศยอดนิยมสำหรับชาวโปรตุเกสและนักก่องเที่ยวทั่วโลกอีกอีกด้วย

นำท่านเข้าชม พระราชวังแห่งชาติเปนา (Pena Palace) หรือPala'cio Nacional da Pena หนึ่งในมรดกโลกแห่ง เมืองซิงตรา(Sintra) เดิมเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15แต่หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1755 โบสถ์แห่งนี้ก็พังทลายลงจนเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1838
กษัตริย์ Ferdinand Saxe-Coburg-Gotha ก็ได้ตัดสินใจสร้างพระราชวังขึ้นใหม่แทนที่โบสถ์หลังเดิม แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1854ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรแมนติก ทาด้วยสีเหลือง แดง น้ำเงิน ม่วงดูฉูดฉาด สดใส ล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดจากทั่วโลกสวยงามราวกับปราสาทในเทพนิยาย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)
บ่ายจากนั้นนำท่านสู่ ย่านเมืองเก่าซิงตรา (OLD CENTRE OF SINTRA) จุดศูนย์รวมตึกอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแกในเมือง รวมถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญต่างๆ โบสถ์ ร้านค้า และร้านอาหารต่ารต่างๆ

ออกเดินทางสู่ ปอร์โต้ (PORTO) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในโปรตุเกส และเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรปตั้งอยู่ในภาคเหนือของโปรตุเกสที่ปากของแม่น้ำแน้ำดูว์โร(Duero Hisz) เป็นเมืองท่าที่มีชื่อในด้านไวน์ปอร์โต้ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเมาชั้นดีของคนที่รักในการดื่ม เพราะมี Cave ไวน์ของแต่ละแบรนด์กระจายไปทั่ว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ปอร์โต้จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปีค.ศ. 1996 เมืองนี้แบ่งการท่องเที่ยวเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือโซนชายฝั่งทะเล ซึ่งสร้างชื่อ ตอบหน้าร้อนให้กับเมืองนี่ได้อย่างดี โซนเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์เก่า, สถานีรถไฟเก่าแก่, ตลาดตั้งเดิมและตึกรามบ้านช่องที่บอกถึงความเก่าได้อย่างดี และสำหรับโซนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นที่ที่ไรแบนติกมากคือที่ริมแม่น้ำที่ชื่อว่า THE RIBEIRA ซึ่งมีทิวทัศน์ทั้งในกลางคืนและกลางวัน ส่วนไซนที่สามที่มีแม่น้ำดูว์ไรผ่านกลาง คือ โซนเมืองใหม่ หรือ ย่าน VILA NOVA DE GALA โชนนี้จะเป็นโซนที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบในการดื่ม เพราะเป็นแหล่งผลิตไวน์ปอร์ไต้ของทุกยี่ห้อแล้วแต่เลือกสรรกันไป ซึ่งสองย่านนี้ถูกเชื่อมด้วยสะพานเหล็กที่สูงเฉียดฟ้า และแข็งแกร่งซึ่งคนที่สร้างสะพานแห่งนี้มีชื่อว่า GUSTAVEEIFFEL เป็นคนเดียวที่สร้างหอไอเฟลในปารีส
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
​ที่พัก ​HF IPANEMA PARK หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
วันที่ 4ปอร์โต - จัตุรัสอเลียโดส - สถานีรถไฟ SAO BENTO- ล่องเรือแม่น้ำดูว์โร - ซาลามังก้า (สเปน)
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6)

นำท่านชบความงามของ เมืองนรดกโลกปอร์โต้ โดยเริ่มจาก ย่านจัตุรัสอเลี่ยโดส หรือ (Praga dos Liberdade)เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองปอร์โต้ ที่ประกอบด้วยอาคารสวยงามที่เป็นที่ทำการของธนาคารและโรงแรม และศาลาว่าการเมือง (City Hall) จัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งรวมอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของปอร์ได้ชม สถานีรถไฟ SAO BENTO ซึ่งเป็นอาคารสถานีรถไฟโบราณภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีและลวดลายสีน้ำเงิน บอกเล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกสสวยงามมาก แวะถ่ายรูปกับโบสถ์หลักที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง โบสถ์ SE CATEDRAL อายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ JOAO ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกสเพื่อออกแสวงดินแดนใหม่ จนโปรตุเกสมีอาณานิคมมากมายทั่วโลก และโปรตุเกสคือประเทศตะวันตกประเทศแรกที่มาติดต่อกับไทยในปี พ.ศ. 2054 โบสถ์แห่งนี้สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำดูโร
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7)
บ่ายนำท่านลงเรือ ล่องชมความงามสองฟากฝั่งแม่น้ำดูว์โร ผ่านชบ Cais da Ribeira เรือบนไวน์โบราณ Rabelos ที่จอดเรียงรายให้ชื่นชมความเป็นมาของเมืองนี้และแม่น้ำดูว์ไร สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ที่ที่ที่รุ่งเรืองมากในสมัยที่เป็นท่าเรือโบราณและตลาดค้าขายมาตั้งแต่สองสามร้อยปีก่อน บริเวณนี่จึงได้รับขึ้นขึ้นทะเบียนเป็นมรดก

ออกเดินทางสู่ ซาลามังก้า เมืองหลักของจังหวัดซาลามังก้าในแคว้นคาสตีลและเลออง เมืองมีชื่อที่ได้ยินมานานแล้วโดยเฉพาะกิตติศัพย์ในเรื่องของความเก่าแก่และจดงาม เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่ค่อนข้างบีบนต์ขลังอีกเมืองหนึ่ง ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส ในอดีต เมืองซาลาลามังก้าเป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของการค้าขายเมื่อครั้งสมัยโรมันยังเรื่องอำนาจอยู่
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
​ที่พัก ​GRAN HOTEL CORONA SOL หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
วันที่ 5ซาลามังก้า - เซโกเบีย - คลองส่งน้ำไรมัน -ปราสาทแห่งเซโกเบีย - พิเศษกับ!!! เมนูหมูหัน (สเปน)
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9)

นำท่านสู่ พลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) ศูนย์กลางของเมืองเมืองสร้างโดยศิลปะสไตล์บาร็อก อันเป็นเอกลักษณ์ของความอู้ฟูในยุคศตวรรษที่ 16-18 ในฤดูร้อน พลาชา มายอร์ คือพื้นที่แห่งความบันเกิงของชาวสเปน หนึ่งในนั้นก็คือการสู้ว้วกระทิง จนในที่สุดก็เลิกจัดขึ้นที่พลาชาแห่งนี้ในกลางยุคปี ค.ศ.ศ. 1800 ปัจจุบัน
บริเวณนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของการทำกิจกรรม และการพบปะของผู้คนถ่ายรูปกับ มหาวิทยาลัยซาลามังกา (University of Salamanca)ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศลเปนยาวนถึง 700 กว่าปีนับว่ามีอายุเก่าแก่ไม่แพ้มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศอื่นๆในยุโรป อย่างไรก็ตามสถาปัตยกรรมสำคัญของซาลามังกาคือมหาวิหาร, พระราชวัง และตัวอาคารหลายแห่งของมหาวิทยาลัยยังคงมีสภาพสมบูรณ์ จนกระทั่งเมื่อปี คศ. 1988 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เขตเมืองเก่าของซาลามังกาเป็นมรดกโลก และในปี ค.ศ. 2002 ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมของยุโรปร่วมกับเมืองบรูจส์ของเบลเยี่ยม

นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารซาลามังกา ที่อยู่ในเขตเมืองเก่าเป็นส่วนหนึ่งของอาคารประวัติศาสตรีที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก มหาวิหารในเมืองที่สำคัญมี 2 แห่งคือมหาวิหารเก่าสร้างเมื่อศตวรรษที่ 12 ด้วยรูปแบบศิลปะโรมันและมหาวิหารใหม่ สร้างเมื่อศตรรษที่ 16 เป็นศิลปะแบบโกริคที่ดูทันสมัยขึ้น ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 200 ปีจึงแล้วเสร็จ

ถ่ายรูปที่ระลึกกับ บ้านหอย (HOUSE OF SHELL) ตั้งอยู่ระหว่างพลาซา มายอร์กับมหาวิหารใหม่ ตึกนี้มีชื่อตามเปลือกหอยที่ประดับบนกำแพงด้านนอก หอยที่ใช้ประดับนี้เป็นตราประทับของเจ้าของเก่าคืออัศวินชานติอาโก และที่นี่ก็คือบ้านของอัศวินผู้นี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 ปัจจุบันได้กลายเป็นหอสมุดสาธารณะ ซึ่งว่าไปก็น่าจะเป็นหอสมุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและอิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10)
บ่ายออกเดินทางสู่ เซโกเบีย เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเบียในแคว้นคาสตีลและเลออองของสเปน ตั้งอยู่บริเวณจดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมากับแม่น้ำกลาโมเรสที่เชิงเขากวาดาร์รามา โดยขณะที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวโรมันและชาวมัวร์ เมืองนี้มีชื่อเรียกว่า เชโกเบีย (Segovia) สับนิษฐานว่าชื่อเมืองมีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวเคลด์ว่า เซโกบรึกา (Segobriga) ซึ่งเกิดจากการประสมของคำว่า Sego แปลว่า "ชัยชนะ" และคำว่าBriga แปลว่า "เมือง"

นำท่าน ถ่ายรูปที่ระลึกกับ สะพานส่งน้ำโรมัน จากนั้นนำชมเขตเขตเมืองเก่าล้อบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15นำท่านถ่ายรูปที่ระลึกกับ มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเบีย(Segovia Cathedral) ที่มีชื่อเสียง ถ่ายรูปกับ ปราสาทแห่งเซโกเบีย หรือ ปราสาทอัลกาซาร์ (คำว่าอัลกาซาร์) ในภาษาอารบิก แปลว่า ปราสาท หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่า ปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกันจากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากของที่ระลึกกับร้านค้าต่างๆ ที่เรียงรายสองข้างทางกันตามอัธยาศัย
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) (เมนูหมูหันอันขึ้นขึ้นชื่อ)
​ที่พัก ​PARADOR DE SEGOVIA หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)
วันที่ 6โตเลโด้ - มหาวิหารโตเลโด้ - มาดริด (สเปน)
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 12)

นำคณะเดินทางต่อไปยัง โตเลโด้ เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งมีความหมายว่า "เมืองป้อมน้อย" ในอดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของสเปน และเคยถูกชาวโรมันเข้ายึดครองเมืองเมื่อ 2,200 ปีมาแล้ว ปัจจุบันอารยะธรรมของชนต่างชาติ ครั้งก่อนยังคงฝังแน่นคละกันอยู่ในชีวิตประจำวันของชาวเมือง ลักษณะผังเมืองโตเลโด้ เป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดขอของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบ ตัวเมืองรายล้อมด้วยเนินเขามากมาย ประดุจกำแพงรรรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่งโดยมีแม่น้ำทาโคเป็นเส้นทางคมนาคม นอกจากนี้เมืองโตเลโด้เป็นใจกลางของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และได้รับรองจากยูเนสโก้ประกาศให้เมืองโตเลโด้เป็นเมืองมรดกโลก
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13)
บ่ายนำคณะเที่ยวชม นครโตเลโต้ ซึ่งเป็นนครที่คงความงดงามและความเป็นมาในฐานะเมืองเก่าอันเปรียบ เป็นอนุสรณ์แห่งประวัติศาสตร์ ยังคงได้รับการยอมรับและบันทึกเอาไว้โดยองค์การสหประชาชาติว่าเป็น"เมืองมรดกโลก"

นำคณะเข้าชม มหาวิหารแห่งโตเลโด้ มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในสเปน เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1227 อันเป็นสมัลปะแบบโกริคกำลังแพร่หลายอยู่ในยุโรป และเสร็จสิ้นสนสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1493 ถือเป็นมหาวิหารสไตล์โกริคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาคริสต์ในประเทศสเปนอีกด้วย ชมห้องเก็บสมบัติของบิช็อบแห่งโตเลได้ที่เต็มไปด้วย มงกุฎและคฑาเพชร นำคณะเดินลัดเลาะตามตึกรามบ้านช่องเก่าแก่สมัยไรมัน ท่านจะประทับใจกับความงามและความเก่าแก่ของโตเลโด้ ซึ่งเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั้งเมือง นำชมโรงงานผลิตเครื่องถมของสเปน ดามาสกิโน่ที่สวยงาม ด้วยการนำทองและเงินมาตีเป็นเส้น และตอกลงบนโลหะสีดำเป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงของโตเลได้มาช้านาน

เดินทางสู่ กรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนมหานครอันกันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประกับจากเมืองโตเลโด้มาไว้ที่นี่ และประกาศให้มาดขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ จากนั้นระหว่างปี ค.ศ.1601 - 1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปที่ 3 ได้ย้ายไปที่เมืองโดลิด มาดริดก็ได้ความเป็นเมืองหลวงสืบมาจนถึงบัดนี้และได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกและสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) เมบูข้าวผัดสเปนอันเลื่องชื่อ พร้อมรับชมระจำฟลามิงโก้
​ที่พัก ​CHAMARTIN THE ONE หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)
วันที่ 7มาดริด - สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว - พลาซาร์มายอร์- ปูเอต้าเดซอล (สเปน)
เช้ารับประทานอาหารเข้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 15)

นำคณะเที่ยว ชมเมืองเก่าแก่ นับพันปีตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียนเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นำท่านคณะ ถ่ายรูปด้านหน้าสนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว เป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงในกรุงมาดริดของประเทศสเปน เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด เริ่มเปิดใช้สนามเมื่อ วันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 1944 เดิมมีชื่อว่าเอสตาดีโอชามาร์ติน (ESTADIOCHAMARTIN) ตามชื่อของสนามเดิมของสโมสรเปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 1947 เรอัลมาดริดได้ประกาศใช้ชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ เอสตาดีโอซานเตียโก เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 4 มกราคม 1955 เพื่อเกียรติแก่ประธานสโมสรคือ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16)
บ่ายนำคณะเที่ยวชมสถานที่สำคัญๆในกรุงมาดาดริด เริ่มต้นจาก ปลาซาเดอ เอส ปันญา อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ตอนกิโฮเต้และชันโซปันซาในสวนสาธารณะปลาซ่า มายอร์ จัตุรัสหลวง ศูนย์กลางเมืองอันเก่าแก่ ถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1620 จากนั้นนำคณะชมย่านเมืองเก่า พลาซ่าร์ มายอร์เป็นจตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเก่าอดีตใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและงานฉลองพิธีสำคัญ ๆ เป็นที่ประลองฝีมือของบรรดาอัศวิน และเคยเป็นแหล่งสู้รบอย่างดุเดือดระหว่างทหารของนโปเลียนกับชาวสเปน ปัจจุบันยังคงมีบรรยากาศ และความงามสมัยศตวรรษที่ 1

นำท่านเข้าสู่ ย่าน ปูเอต้า เดล ซอล หรือ ประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งบอกจากจะเป็นจุดบับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้วยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่ ถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนาสัญลักษณ์ของเมืองจากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยว WALKINGSTREET เลือกซื้อสินค้าต่างๆ
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พื้นเมือง (มื้อที่ 17)
​ที่พัก ​CHAMARTIN THE ONE หรือเทียบเก่า (คืนที่ 6)
วันที่ 8มาดริด - สนามสู้วัวกระทิง - พระราชวังหลวง -เอาท์เล็ท LAS ROZAS VILLAGE - กรุงเทพฯ
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 18)

นำท่านแวะถ่ายรูปที่ระลึกกับ สนามสู้วัวกระทิง Plaza de Toros ที่ชาวสเปนนิยมชมชอบการสู้วัว เนื่องด้วยเป็นวิถีโบราณแห่งการเอนเตอร์เทนที่เร้าใจมาช้านานจากนั้นเข้าชน พระราชวังหลวง ของกษัตริย์ฮวนคาลอส ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นๆ ในทวีปยุโรป เนื่องจากแนวความคิดเปรียบเทียบความใหญ่โตของพระราชวังแวร์ชายส์และความสวยงามของพระราชวังลูฟลูฟฝในฝรั่งเศส พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้างด้วยหินทั้งหลัง ในปี ค.ศ. 1738ในสโตล์บาร็อค โดยการ ผสมผลานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ มากมายถึง2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้นรวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆ อาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ ฯลฯ

จากนั้นชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดทั้งปีทำท่านเดินทางสู่ เอาก็เล็ก LAS ROZAS VILLAGE หนึ่งในเอาก็เล็กที่ดีที่สุดในมาดริดซึ่งขึ้นชื่อเรื่องส่วนลดของสินค้าแบรนด์ดังมากมาย
18.00 น.ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยาดริด-บาราขัส TAXREFUND พร้อมกับเช็คอินเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
21.30 น.เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ QR 152 /QR 828 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ สนามบินโดฮา ประเทศกาต้าร์ บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน
วันที่ 9สนามบินสุวรรณภูมิ
18.45 น.คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ99,999 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ23,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ115,555 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ26,000 บาท

เงื่อนไขในการจอง

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ ในกรณีมีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน จำนวนคนและมีค่าใช้จ่ายที่ทางสายการบินกำหนด (น้ำหนักกระเป๋าใบใหญ่ท่านละ 25 กิโลกรัม/กระเป๋าถือขึ้นเครื่องท่านละ 7 กิโลกรัม)
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง (กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถเกิน 12 ชั่วโมง/วัน)
  • ค่า Coach Tax และค่าภาษีผ่านเข้าเมืองต่างๆ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการพร้อมอาหารเช้าหรือเทียบเท่า (โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น, ราคาโรงแรมอาจมีการปรับขึ้นหลายเท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับช่วงงานเทศกาล งานแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลทำให้ต้องมีการเปลี่ยนย้ายเมือง โดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงความเหมาะสมและผลประโยชน์ของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ)
  • ค่าอาหารเลิศรสทุกมื้อที่ระบุตามรายการ
  • ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
  • ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบยื่นปกติ (ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าให้ ไม่ว่าวีซ่าจะผ่านหรือไม่)
  • ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลในวงเงิน 200,000 บาท กับ ACE Insurance Limited (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%  (เฉพาะค่าบริการ)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษในร้านอาหาร นอกเหนือจากที่บริษัทฯจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ 
  • ค่าน้ำหนักส่วนที่เกิน 25 กิโลกรัม  และมีจำนวนมากกว่า 1 ชิ้น (ระเบียบของสายการบิน) 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ 900 บาท ต่อท่าน
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรป 25 ยูโร ต่อท่าน

เงื่อนไขการจองและชำระเงิน

 - กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 50 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 60,000 บาท ยกเว้นวันคริสต์มาส, เทศกาลปีใหม่ และวันสงกรานต์ ท่านละ 80,000 บาท

 - ส่วนที่เหลือชำระทันทีหรือก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 15 วัน ไม่ว่าผลของวีซ่าจะออกหรือไม่ออกก็ตาม หากท่านไม่ชำระภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าท่านสละสิทธิ์ และยินยอมให้บริษัทฯ ทำการยกเลิก และยินยอมให้ยึดเงินมัดจำได้ทันที

 - ในกรณีเลื่อนการเดินทางกลับ ท่านจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการยื่นวีซ่า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่าง ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนตั๋วและเอกสารเพิ่มเติม เช่น

เอกสารประกัน, เอกสารโรงแรมที่อยู่ต่อ

 

เงื่อนไขการยกเลิกและคืนเงิน

 - การยกเลิกต้องแจ้งล่วงหน้า 50 วันก่อนเดินทาง มิฉะนั้นทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินงวดแรก (ท่านละ 60,000 บาท วันคริสต์มาส, เทศกาลปีใหม่ และวันสงกรานต์ ท่านละ 80,000 บาท)

 - กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 30 - 20 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของราคาทัวร์

 - กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 19 - 11 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 80 % ของราคาทัวร์

 - กรณียกเลิกกะทันหันก่อนการเดินทางไม่เกิน 10 วัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่ได้ชำระไปแล้วจำนวนมาก บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินทั้งหมด ไม่ว่ากรณีใดๆ

 - กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

ㆍ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา

ㆍ ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าดำเนินการ และค่าบริการ 5,500 บาท

ㆍ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วไม่สามารถ

REFUND ได้ เนื่องจากบริษัทจองตั๋วเป็นตั๋วกรุ๊ป ซึ่งตั๋วกรุ๊ปจะไม่สามารถREFUND คืนได้

ㆍ ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ค่าอาหาร ค่ารถบัสนำเที่ยว ค่าเข้าชม ทั้งหมดนี้ทางบริษัทได้ทำการจองล่วงหน้าไว้หมดแล้ว (ยุโรปไม่มีการถือเงินสดไปจ่าย

หน้างาน) ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ทางบริษัทจะต้องยึดค่าใช้จ่าย 100% ในทันที

หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น

 

เงื่อนไขการยื่นวีซ่า

 - กรณีที่วีซ่าออกเรียบร้อยแล้ว และท่านต้องการจะเอาพาสปอร์ตกลับคืนไปก่อนท่านจะต้องชำระค่าทัวร์เต็มจำนวนทุกกรณี

 - กรณีที่ไม่ยื่นวีซ่า / มีวีซ่าแล้ว คืนค่าวีซ่า 3,500 บาท

 - ทางบริษัทจะทำการยื่นวีซ่าของท่าน ก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สำรองที่นั่งครบ 10 ท่านและได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทจะต้องใช้เอกสารต่างๆ

ที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครื่องบิน, ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป,ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 10 ท่าน จึงจะสามารถยื่น

วีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง

 - ในการยื่นวีซ่า ท่านจะต้องเดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวันและเวลานัดหมายจากทางสถานทูต เพื่อมาสแกนลายนิ้วมือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอย

ดูแลและอำนวยความสะดวก หากท่านไม่สามารถไปยื่นวีซ่าในวันที่ทางศูนย์รับยื่นกำหนดได้ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม Premium หรือสำหรับการยื่นเดี่ยว เงื่อนไข

กรุณาสอบถามกับบริษัททัวร์อีกครั้ง

ㆍㆍค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ท่านต้องชำระกับทางศูนย์รับยื่นยื่นโดยตรง ㆍㆍ

 - เอกสารต่างๆ ที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กำหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กำหนด ท่านที่มีความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยว

ทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะจะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอำนวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน

 - ในการยื่นวีซ่าทางสถานทูตจะเก็บหนังสือเดินทาง ไว้จนกว่าจะได้รับอนุมัติผลวีซ่าไม่สามารถดึงหนังสือเดินทางออกมาใช้ได้ ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่า ไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดของสถานทูตอาจช้าหรือเร็วกว่ากำหนดขึ้นอยู่กับสถานทูต

ㆍㆍสถานทูตมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการยื่นเอกสารตลอดเวลาㆍㆍ

 - ในกรณีที่ทางบริษัทขอเอกสารเพิ่มเติมแต่ท่านไม่ส่งเอกสารตามที่ขอมาให้ทางบริษัท / เอกสารของท่านไม่น่าเชื่อถือ / มีการปลอมแปลงเอกสาร / มาไม่ทัน

เวลานัดหมายตามที่สถานทูตกำหนด(มาสาย) / ไม่รับโทรศัพท์สถานทูตการใช้คำพูดไม่สุภาพกับสถานทูต และส่งผลทำให้วีซ่าไม่ผ่านการพิจารณาจาก

สถานทูต ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินให้ท่าน

 - กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฏิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่บริษัทระบุใน รายการเดินทาง บริษัทของสงวนสิทธิ์

ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ

 - ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสำรองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ปคอนเฟิร์ม 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ

 

รายละเอียดที่ควรทราบเกี่ยวกับที่นั่งบนเครื่องบิน

 - การออกบัตรโดยสารของคณะเป็นแบบหมู่คณะ การจัดที่นั่งจะเป็นระบบ Random ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกัน เนื่องจากสายการบินขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินทุกกรณี ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน แต่ทางบริษัทจะพยายามให้มากที่สุด ให้ลูกค้าผู้เดินทางมาด้วยกันได้นั่งด้วยกันหรือใกล้กันให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้

 - หากท่านมีข้อจำกัดในการเดินทาง กรุณาติดต่อแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่สนามบิน เนื่องจากเป็นดุลพินิจระเบียบปฏิบัติของสายการบินทางบริษัทฯ ทัวร์ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงกฎระเบียบของสายการบินได้

 

รายละเอียดที่ควรทราบเกี่ยวกับห้องพัก

 - เนื่องจากการวางแผนผังห้องพักของแต่ละโรงแรมจะแตกต่างกัน เช่น ห้องพักแบบห้องเดี่ยว(Single) ห้องพักแบบห้องคู่ 2 ท่าน(Twin/Double)และห้องพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(Triple Room)

 - จึงอาจทำให้ห้องพักแต่ละประเภท อาจจะไม่ติดกัน หรืออยู่คนละชั้นกัน และบางโรงแรมอาจจะไม่มีห้องพักแบบ 3 ท่าน ซึ่งถ้าท่านต้องการเข้าพัก 3 ท่าน อาจจะต้องเป็น 1 เตียงใหญ่ กับ เตียงพับเสริม หรืออาจมีความจำเป็นต้องแยกห้องพักเป็นห้องคู่ 1 ห้อง (Twin/Double) และ ห้องเดี่ยว 1 ห้อง (Single)

 - กรุณาสอบถามเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม เพราะห้องพักแบบ 3 ท่าน มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้นไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บ

ค่าบริการเพิ่มตามจริงที่เกิดขึ้นจากนักท่องเที่ยว

กรณีเดินทางผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้เปิดห้องพักเป็น 2 ห้องโรงแรมในยุโรป ไม่อนุญาตให้เด็กอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไปเข้าพักแบบไม่มีเตียงเสริม

 

รายละเอียดที่ควรทราบเกี่ยวกับพนักงานยกกระเป๋า

ทางบริษัททัวร์ไม่มีบริการพนักงานยกกระเป๋า เข้า - ออก ที่โรงแรม เนื่องจากพนักงานโรงแรมในยุโรปมีจำนวนน้อย จะทำให้ท่านเสียเวลาในการรอกระเป้านาน

รายละเอียดที่ควรทราบเกี่ยวกับอาหาร

กรณีที่ท่านแพ้อาหารบางประเภท โปรดระบุมาให้ชัดเจนในขั้นตอนการจอง หรือแจ้งล่วงหน้าก่อนเดินทาง 2 สัปดาห์ การรีเควสอาหารพิเศษที่นอกเหนือจากรายการทัวร์กำหนด จะมีค่าใช้จ่ายอาหารพิเศษต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อชำระให้กับเมนูใหม่ที่ท่านต้องการ เช่น อาหารทะเล เป็นต้น

หมายเหตุ

1. กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจากการล่าช้า (ดีเลย์)ของทางสายการบิน การนัดหยุดงานหรือการก่ออราจลภัยธรรมชาติรถติด ทำให้ไม่สามารถ กิน-เที่ยว และพักโรงแรมได้ครบถ้วนตามโปรแกรมทัวร์ที่ระบุ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการที่ จะไม่คืนค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นโดยตรงจากทาง

สายการบิน และทางบริษัทฯ ไม่ได้รับค่าชดเชยใดๆ ทั้งสิ้นจากทางสายการบิน แต่ทางบริษัทฯ จะคงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าพึงจะได้รับอย่างเต็มความสามารถ

2. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธ์ ในการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการได้ตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า และสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวในกรณีที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย โดยจะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับท่าน

3. ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการบางอย่างตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสายการบิน สภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีคิวยาวจนทำให้โปรแกรมต่อไปเสียหาย แต่ยังคงจะรักษามาตราฐานการบริการ และประโยชน์ของลูกค้าทุกท่านไว้เหมือนเดิม

4. ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ในระหว่างการเดินทาง อาทิเช่น บนเครื่องบินรถบัส เรือ รถไฟ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ เช่น พาสปอร์ต, ของมีค่า, กระเป้าเงิน, กระเป้าเดินทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเกน (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)
1.  หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 2X1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2  รูป) 
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ 
4. สำเนาบัตรประชาชน 
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) 
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เดินทางกับใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว (พ่อและเม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)  (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น ใบปกครองบุตร (ปค.14) จากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น)  , หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น 
8. หลักฐานการทำงาน 
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ(สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน)
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า(สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัท เบอร์โทร และตราประทับบริษัทด้วย จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน)
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) 
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา  
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ   
9.  หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น) 
9.1  สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาไทย พร้อมตราประทับจากธนาคาร นำเล่มจริงมาแสดงวันที่ยื่นวีซ่า
- กรณีเงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
- ก่อนยื่นวีซ่า 7 วัน  รบกวนปรับสมุดบัญชี ให้มียอดล่าสุด 7 วัน ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า  และสำเนาหน้าที่ปรับสมุด + หน้าแรกที่มีชื่อบัญชี นำมายื่นเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า  หากนำสมุดไปปรับแล้วไม่มียอด รบกวนนำเงินเข้า หรือ นำเงินออก เผื่อจะได้มียอดในการปรับสมุด 
9.2 ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  (ขอเป็นภาษาอังกฤษ) ต้องมีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ได้คิวยื่นวีซ่า พร้อมทั้งต้องระบุ จำนวนเงินเป็นตัวเลขลงในหนังสือรับรองด้วย เช่นท่านได้คิวยื่นวีซ่าวันที่ 18 กันยายน หนังสือรับรองการเงินจากทางธนาคารที่ใช้ในการยื่นวีซ่า ต้องออกให้ ณ วันที่ 4 กันยายน หรือ หลังจากนั้นเท่านั้น  จดหมายรับรองจากธนาคารให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) โดยไม่ต้องระบุวัน และประเทศที่เดินทาง (ชื่อในหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE)  จะต้องถูกต้องและตรงตามหน้าพาสปอร์ต วันที่ขอหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคารให้นำสำเนาหน้าพาสปอร์ตไปด้วย เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการออกเอกสาร)
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10.  ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย, ลุง, ป้า, น้า, อา ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)
** กรณีพ่อหรือแม่ ใช้การเงินของลูกในการยื่นวีซ่า ต้องแนบสูติบัตรลูกมาด้วย **
- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
- เขียนจดหมาย decare เป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
- กรณีมีลูกด้วยกัน ให้ใช้ใบเกิดของลูก 
10.2 กรุณาแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากตามข้อกำหนดในข้อ 9 ที่จะใช้ยื่นวีซ่า 1 ชุดของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งใน หนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองค่าใช้จ่ายด้วย
11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 70ปีบริบูรณ์กรุณาแนบใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางได้เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
12. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่า ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่ 

*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า

วันที่มายื่นวีซ่ากรุณานำสมุดบัญชีธนาคารเล่มจริงมาด้วย (กรณีมีเล่มต่อจากสมุดเดิมรบกวนนำเล่มเก่ามาด้วย) เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา เช่น ทะเบียนบ้าน , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล , สูติบัตร , นำตัวจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย

***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****

กรมการกงสุลได้แจ้งเตือนว่า :
1.ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น
2. การขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “ หนังสือเดินทางชำรุด ” อาจถูกปฎิเสธเข้าประเทศต่างๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy