ทัวร์ยุโรป อิตาลี โดโลไมต์ ชิงกัว เตเร่
มิลาน | มหาวิหารแห่งมิลาน | ซีมิโอเน่ | เวโรน่า | บ้านโรมิโอ&จูเลียต | หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา | เมืองออร์ติเซ่ | โบลซาโน | ทะเลสาบมิซูรินา | ทะเลสาบเบรียส | กอร์ตีนาดัมเปซโซ | เวนิส เมรเตร้ | เกาะเวนิส | ฟลอเรนซ์ | ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ | รูปแกะสลักเดวิด | ฟลอเรนซ์ | เลวานโต | หมู่บ้านชิงเคว่ เตเร่ | ลาสปีเซีย | ปิซ่า | เซียน่า | เปียซซ่า เดล คัมโป | มหาวิหารเซียน่า | โรม | นครวาติกัน | วิหารแพนเธออน | น้ำพุทรวี่ | บันไดสเปน
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE000-001 | 16-24 มี.ค. 68 | Qatar Airways (QR) | 111,555 | จองด่วน |
DE000-002 | 29 มี.ค.-06 เม.ย. 68 | Qatar Airways (QR) | 111,555 | จองด่วน |
DE000-003 | 24-30 พ.ค. 68 | Qatar Airways (QR) | 115,555 | จองด่วน |
DE000-004 | 11-19 ต.ค. 68 | Qatar Airways (QR) | 115,555 | จองด่วน |
DE000-005 | 23-31 ต.ค. 68 | Qatar Airways (QR) | 115,555 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - มิลาน (อิตาลี) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
16.30 น. | คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 8 เคาน์เตอร์ Q สายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ QR เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง |
18.55 น. | ออกเดินทางสู่ มิลาน โดย สายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ สายการบินระดับ 5 ดาว ด้วยเกี่ยวบินที่ QR835 / QR123 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินโดฮา ประเทศการ์ต้า บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน |
วันที่ 2 | มิลาน - มหาวิหารแห่งมิลาน - ซีมิโอเน่ - เวโรน่า - บ้านโรมิโอ&จูเลียต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
06.55 น. | เดินทางถึง สนามบินมาลเพนซ่ามิลาน หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว รถโค้ขปรับอากาศมาตรฐานยุโรปนำท่านเดินทางสูใจกลางเมือง นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่า ดูโอโผ่ ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง แทบจะมีดโอโม่ทุกเมืองที่สำคัญๆเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของคนในเมือง ดูโอโน่ที่เมืองนี้สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกรีคเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับ 2 รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกัน มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ1386 แต่มาแล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้นคือในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเล่นว่า มหาวิหารเม่น มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่าง ๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูปยอดที่สูงที่สุดประดับด้วยรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตร หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์มีชื่อเรียกว่า มาดอนนิน้ำ ด้านหน้ามหาวิหารจะเป็นลานกว้าง เรียกว่า ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม เป็นศูนย์กลางเป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย ด้านข้างของอัตรัสหน้าดูโอโม่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า แกลเลอเรีย วิตโตรีโอ เอมาบูเอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองบิลาน ให้ท่านอิสระในการช้อบปิ้งภายในห้างเป็นโดมแก้ว มีห้าง ร้านต่าง ๆ มากมาย คล้ายกับอีกแห่งที่เมืองเนเปิลส์ ทะลุออกมาอีกด้านจะเจอโรงอุปรากรชื่อก้องโลก ลา สถาล่า แห่งเมืองมิลาน สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ1776-1778 ด้านหน้าลานสกาล่า เรียกว่า ปีอาซซ่า เดลลา สถาล่า มีรูปของศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งของโลก คือลีโอนาร์โด ดาวินชี่ จากนั้นเดินทางสู่ ซึมิโอเน่ (SIRMIONE) เมืองที่มีลักษณะเป็นเกาะจิ่วริมทะเลสาบการ์ดา (GARDA) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบจึงทำให้ดูคล้ายดั่งเมืองลอยน้ำ บอกจากนี้ยังนี้ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะปรากฎหลักฐานเช่น กำแพงเมือง ปราสาก ถนนและสวนสารารารณะโบราณตั้งอยู่ที่นี่ โดยมีฉายายาว่าเป็น "ไข่มุกแห่งคาบสมุทรเซอร์มิโอเน่" และยังได้รับการขนานมามว่าเป็น "เวนิสสอง" ด้วยลักษณะบ้านเรือนอยู่ท่ามกลางแหล่งน้ำ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามกว้างไกล ในอดีตจึงเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งปัจจุบันก็ยันก็ยังคงได้รับความนิยมนี้อยู่ นำท่านเดินเล่นชมบรรยากาลที่น่ารักในเมืองเก่า ซื้อของที่ระลึกและที่พลาดไม่ได้คือการทานไอศครีม (GELATO) ที่เลิศรสของเมืองนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1) |
บ่าย | เดินทางสู่ เวโรนำ เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับสองในแคว้นเวเนโต้ รองจากเวนิส เวโรน่าได้รับสมญานามว่า "LITTLE ROMAN"เพราะยังคงสภาพสิ่งก่อสร้างจากสมัยโรมันไว้อย่างสมบูรณ์ และที่ทำให้เมืองเวโรน่าเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปนั้น เป็นเพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ ในบทละครเรื่องโรมิโอกับจูเลียตของเช็คสเปียร์ล้วนเกิดขึ้นในเมืองหนึ่งของ อิตาลีที่ชื่อว่าเวโรน่า นำท่านชม บ้านโรมิโอ&จูเลียต ระเบียงหินอ่อนเล็ก ๆ ที่ สมมติเป็นฉากที่จูเลียต เคยยืนอยู่โดยมีโรมิโอมาคอยเฝ้าขอความรักอยู่ด้านล่าง ซึ่งหน้าบ้านจูเลียตปัจจุบันคือร้าน ARMANI ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของรูปปั้นจูเลียต นอกจากนี้ภายในบริเวณกำ แพงบ้านจูเลียตยังมีการเขียนแสดงความรักกันมากมายจนแทบไม่เห็นสีกำแพงเดิม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) |
ที่พัก | Best Western Plus Hotel Expo หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 3 | หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา - เมืองออร์ติเซ่ - โบลซาโน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (บื้อที่ 3) เดินทางไปยัง หมู่บ้านซานตา แมดดาเลนา (Santa Maddalena) เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใต้เงาของเทือกเขาโดโลไมท์ ในบริหุบเขา ฟูเน่ (Val di Funes ) ของอิตาลีที่นี่ประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 370 คนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก แต่วัวของหมู่บ้านนี้กลับยิ่งใหญ่อลังการมาก ๆ ชนิดที่เรียกว่าใครได้ไปยลด้วยตาตัวเองต้องอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนั้น จุดหมายของนักเดินทางเพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของ โบส์ถ St. Johann หรือ San Giovanni ในภาษาอิตาเลียนโบสถ์จิ๋ว ที่มีฉากหลังเป็นทิวสนสวย ที่เปลี่ยนสีไปตามฤดูกาลและเขาหินทะมึน เป็นภาพที่ลงตัวและทำให้ใครๆที่มาหมู่บ้านนี้ประทับใจได้ไม่ยาก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4) อาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานแห่งชาติโดโลโลไมต์ที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบและ มีบ้านหลังเล็กที่เรียงรายลงตัว ในทัศมียภาพน่ารัก พาท่านเดินเล่นชม เสน่ห์ของหมู่บ้านนี้ รวมถึงไฮไลต์สำคัญนั่นคือพาท่าน ขึ้นกระเช้า เพื่อชมวิว แซสโชลุงโก (Sassolungo) เขาหินทะมีบรูปร่างแปลกตา ในจุดพาโนรามา 360 องศา ถ่ายรูปอิสระได้สวยจนจุใจเลยทีเดียว หมายเหตุ : กระเช้าชนวิวที่เมือง ORTISEI จะปิดปรังปรุงตั้งแต่วันที่ 7 เมย - 9 พค. 2568 ทางบริษัทจะเปลี่ยนให้ท่านขึ้นกระเช้าชมวิวที่เมือง Cortina D'Ampezzo unu จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (BOLZANO) เป็นเมืองหลวงของภูมิภาคที่โรลใต้ (South Tyrol) ซึ่งล้อบรอบด้วยแม่น้ำ ที่นี่แม่น้ำTalvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adigeเนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขา Dolomites ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง ชม เมืองเก่า วิหาร โบสถ์ Chiesa dei Domenicani และอนุสาวรีย์ที่จัตุรัส กลางเมือง Piazza delle Erbe แถบถนนคนเดิน Piazza Walther |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาคาร (มื้อที่ 5) อาหารจีน |
ที่พัก | Four Points Sheraton Bolzano Bozen หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 2) |
วันที่ 4 | ทะเลสาบมิซูรินา - ทะเลสาบเบรียส - กอร์ตีนาดัมเปซโซ - เวนิส เมรเตร้ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6) เดินทางสู่ ทะเลสาบมิซูรินา (Misurina Lake) ทะเลสาบขนาดใหญ่ตอนเหนือของเมืองคอร์ตินา (Cortina) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามแห่งหนึ่งใน เทือกเขาโดโลไมท์ ในวันที่ลมสงบน้ำในทะเลสาบมิซูรินา จะนิ่งเป็นเหมือนกระจกบานใหญ่เป็นเงา สะ ท้อนแลนด์มาร์คโดดเด่นคือ ตึกเหลืองซึ่งเป็นศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยระ บบทางเดินหายใจ ซึ่งมีเบื้องหลังเป็น เทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ล้อมรอบด้วยทิวสนสีเขียวขจีในช่วงฤดูร้อน สะท้อนทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจนอิสระให้ท่านชมทะเลสาบมิซูรินา และบันทึกภาพอันสวยงามน่าประทับใจ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) อาหารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสามเบรียส (Lake Braies) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ในแถบโดโลไมท์ตะวันออก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes-Sennes-Prags Nature Park ที่ความสูง1,469 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามน้ำในทะเลสาบใสสะอาดสีTurqouise (ฟ้าเขียว)โดยมีภูเขา Seekofel เป็นฉากหลังที่ริมทะเลสาบมีโรงแรมเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1899 ชื่อ HotelLago di Braies ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่2 ที่นี่เคยใช้เป็นที่พักของตัวประกัน139 คนซึ่งล้วนเป็นบุคคลสำคัญจาก 17 ประเทศในยุโรปหลังจากได้รับการปล่อยตัวจากค่ายกักกันของนาซี อิสระให้ท่านเดินเล่นและมันที่ภาพบรรยากาสโดยรอบ จากนั้นเดินทางสู่ที่ เมืองกอร์ตีนาดัมเปซโซ (CORTINAD'AMPEZZO) เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางด้านตะวันออกของโดโลไมท์ เคยใช้เป็นสถานที่ในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในปี ค.ศ.1956 มีภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเมืองนี้ในอดีตหลายเรื่อง เช่น THE PINK PANTHER(1963), เวนส์บอนด์ 007 ตอน FOR YOUR EYES ONLY (1981) และ CLIFFHANGER (1993) ให้ท่านเดินเล่นเพลิดเพลินชมบรรยากาสเมืองอันน่ารักเงียบสงบบบบนสายหลัก ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศและซื้อของที่ระลึก ตามอัธยาศัยจนกระทั่งได้เวลานัดหมาย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส เมืองหลวงแห่งแคว้นเวเนโต้ เจ้าของฉายาราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก เวนิส หรือ เวเนเซีย จุดหมายปลางทางสุดโรแมนติก แห่งแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็ก ๆ จำนวน 118 เกาะ เข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยความสวยงาม และความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้เวนิสเป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมายตั้งแต่เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่างราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริกและ ที่สำคัญองค์การยูเนสโกยกให้เวนิสเป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8) อาหาหารจีน |
ที่พัก | LH Hotel Sirio Venice หรือระดับเดียวกัน (คืนที่ 3) |
วันที่ 5 | เกาะเวนิส - ฟลอเรนซ์ - ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ - รูปแกะสลักเดวิด |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 9) นำท่านเดินทางไปยัง ทำเรือ ตรอนเชโต้ จากนั้นลงเรือเหมาลำส่วนตัวเดินทางสู่ เกาะเวนิส (ระยะเวลาในการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที) เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก "เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน" เป็นเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เรือจอดเทียบท่าที่ ทำเรือซานมาร์โก (เซนต์มาร์ก) จากนั้นนำท่านเดินเท้าไปยัง จัตุรัสซานมาร์โก อันเป็นศูนย์กลางของนครเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง พระราชวังดอจ กับ เรือนจำโบราณ อันเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครอนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคนั้นอีกด้วย ชม โบสถ์เซนต์มาร์ก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแชนไทน์สำหรับนักก่องเที่ยวนั่งพักผ่อนหย่อนใจกับร้านกาแพชื่อดังหรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าของเวนิสตามร้านต่าง ๆ ๆ อาทิเช่น เครื่องแก้วบูราโน่ ต้นตำรับของการเป้าแก้วของชาวบูราไม่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละขึ้นมีรูปแบบและคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักก่องเที่ยวทั่วโลก ถึงเวลานัดหมายคณะพร้อมกันกันที่จุดนัดหมาย นำท่านลงเรือเดินทางเดินทางกลับสู่ทำเรือตรอนเชโต้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ฟลอเรนซ์ เมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน ที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับปรับประวัติศาสตร์ของยุโรปเพราะเป็นแหล่งกำเนิดศีลปะ วัฒนรรรมเรอเนสซองส์ และเป็นเมืองที่ไม่อนุญาตให้รถโค้ชเข้าไปในในเมืองเก่า น้ำชมมหาวิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร่ หรือ ดูโอโม่แห่งฟลอเรนซ์ เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากด้วยการใช้หินอ่อนสีชมพู ขาวและเขียวในการก่อสร้าง ข้างๆ มหาวิหารมีหอระฆังสูง ออกแบบตกแต่งด้วยหินอ่อนสามสีเช่นเดียวกับมหาวิหาร จัตุรัสเดลลา ซินญอเรีย บริเวณนี้ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองมาก่อน และเดินเป็นที่ตั้ง รูปแกะสลักเดวิด ของแก้ผลงานของไมเคิลแองโอโลอันลือชื่อ แต่ในปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิพิธภัณฑ์ศิลปะอะคาเดมีอีกด้านหนึ่งของอัตุรัส เป็นที่ตั้งของพิพิพิธภัณฑ์อุฟฟิชี ที่นี่คือสถานที่เก็บงานฝีมือศิลปินเอกอิตาเลียนในสกุลช่างฟลอเรนซ์ที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) |
ที่พัก | Best Western Plus CHC Florence หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4) |
วันที่ 6 | ฟลอเรนซ์ - เลวานโต - หมู่บ้านซิงเคว่ เตเร่ - ลาสปีเซีย - ปิซ่า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรงแรม (มื้อที่ 12) จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังเมือง ลาสเปเซีย (LA SPEZIA) เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสวยงามของภูมิภาคลีกูเลีย ที่สำคัญเมืองนี้เป็นท่าเรือและศูนย์กลางการเดินเรือมาตั้งแต่ตั้งแต่สมัยอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ ด้วยพื้นที่ริบฝั่งทะเลที่เป็นอ่าวเหมาะสำหรับหลบพายุในช่วงที่คลื่นลมแรง ปัจจุบันเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ทำให้มีวิลล่าสวย ๆ ตั้งเรียงรายริมทะเล พร้อมกันนี้ยังเป็นเมืองที่ปลูกต้นมะกอกคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีก็ว่าได้ จากนั้นนำท่านเปลี่ยนการเดินทางด้วยรถไฟ สู่เส้นทางการก่องเกี่ยวอันสุดแสนโรแมนติก เดินทางเข้าไปยัง ชิงเคว เตเร่ (CINQUE TERRE) ซึ่งหมายถึงดินแดนทั้งห้าประกอบด้วยหมู่บ้านชาวประมงที่สร้างอยู่บนหน้าผาริมฝั่งทะเล โดยบ้านเรือนต่าง ๆ จงใจทาสีที่ฉูดฉาดสวยงามแปลกตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้เรือที่ออกไปหาปลานั้นสามารถมองเห็นบ้านของตัวเองจากทะเลไกล โดยหมู่บ้านเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองเก่าแก่ซึ่งก่อตั้งมากว่า 1,300 ปีที่แล้ว ชิงเคว เตเร่ ตั้งอยู่ในแคว้นลิกูเรีย (LIGURIA) ซึ่งถือว่าเป็นแคว้นที่เป็นรีเวียร่าของประเทศอิตาลีเลยก็ว่าได้ จากนั้นนำท่านชมความงามของหมู่บ้านมานาโรลำ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยและขึ้นชื่อ ให้ท่านบันทึกภาพความประทับใจ ณ จุดชมวิวของหมู่บ้าน ซึ่งสามารถมองเห้นหมู่อาคารที่มีสีมีสีสันหลากหลายเฉดสีตัดกับสีฟ้าของทะเลสวยงามและน่าประกับใจยิ่งนัก อิสระให้ท่านได้เดินชมความสวยงามพร้อมเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) |
บ่าย | จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านริโอแมกจินยอเร หมู่บ้านสวยอีกหมู่บ้านหนึ่งของ ชิงเคว เตเร่ ตั้งอยู่ในโตรกของหน้าผาอาคารคารบ้านเรือนต่างๆ ที่มีสีสันหลากหลายเฉดสี่สวยงามและขึ้นชื่อในเรื่องไวน์ จากนั้นบ้านเดินทางกลับสู่ เมืองลาสปีเซีย เพื่อชมความสวยงามของเมือง นำท่านเดินเล่นริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่เต็มไปด้วยเรือประมง เรือขนส่ง และเรือส่วนตัวที่เรียงรายซึ่งเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนัก จนได้เวลานัดหมาย ออกเดินทางสู่ เมืองปีซ่า นำท่านนั่งรถบัสท้องถิ่นประจำเมืองเข้าสู่ ศูนย์กลางของเมืองที่ จัตุรัสแคมโป สถานที่ตั้งของอาคารแบ็บติสตรีทรงกลม, มหาวิหารประจำเมือง สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสก์ และ หอระฆัง ที่เอนเอียงเพราะความผิดพลาดในการก่อสร้าง จนทำให้ได้ชื่อว่า หอเอนปิซ่า และนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกชิ้นหนึ่งของโลก อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย หอเอนเมืองปิซ่าตั้งอยู่ที่เมืองปิซ่าในจัตุรัสเปียซซาเดล ดูโอโม หอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลึก เป็นหอกรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) หอเอนเมืองปีซ่าถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยหอเอนเมืองปีซ่ายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางอีกด้วย เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1173 สร้างเสร็จเมื่อปี 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างหยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่มทำให้ยุบตัว ต่อมาในปี ค.ศ.1272 โดย GIOVANNI DI SIMONE สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้สมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะอักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกและสร้างเสร็จ 7 ชั้น ในปี ค.ศ.1319 แต่หอระฆังถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1372 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 177 ปี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14) |
ที่พัก | Best Western Plus CHC Florence หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5) |
วันที่ 7 | เซี่ยน่า - เปียซซ่า เดล คัมโป - มหาวิหารเซียน่า - โรม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15) นำท่านสู่ เมืองเซียน่า หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า ซิเอน่าเป็นเมืองที่มีความสวยงามเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อีก เมืองของแคว้นทัสคานีเมืองนี้ในอดีตเป็นเมืองค้าขาย แข่งกับฟลอเรนซ์จนถึงขั้นมีการทำสงครามกันอยู่บ่อยครั้ง นำท่านเที่ยวชมย่าน เมืองเก่าเซียน่า และให้ท่านได้ถ่ายรูปสถานที่สำคัญ เริ่มจาก เปียซซ่า เดล คัม โป ซึ่งเป็นลานกว้างรูปทรงคล้ายเปลือกหอยและเป็นที่ตั้งศาลาว่าการ จัสตุรัสแห่งนี้มีการจัดแข่งม้า PALIO ทุกปี เป็นการแข่งม้งม้าที่จัดขึ้นปีละสองครั้งในวันที่ 2 กรกฎาคม และ 16 สิงหาคม โดยรอบๆจัตุรัสจะเป็นร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านอาหารมากมาย จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซียน่า จากด้านนอก มหาวิหารแห่งนี้ออกแบบและสร้างเป็นครั้งแรกระหว่างปี ค.ศ. 1215 ถึง ค.ศ. 1263 บนฐานของโบสถ์หลังเดิม แผมผังอาสนวิหารเป็นหอแปดเหลี่ยมสร้างเพิ่มโดยจัน โลเรนโช แบร์นีนี ภายบอกและภายในตกแต่งด้วยแถบหินอ่อนขาวสลับเขียวดำยกเว้นด้านหน้าที่แทรกด้วยหินอ่อนสีชมพูแก่เกือบแดงสีขาวดำเป็นสีสัญลัญลักษณ์ของเมืองเซียนาซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นสีของม้าของเซเนียสและอาสเคียสผู้ก่อตั้งเมือง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 16) |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซิโอ มีทั้งความเก่าและความใหม่แทรกอยู่ด้วยกันแทบจะแยกไม่ออกโรมเป็นศูนย์กลางของความเจริญในยุคโบราณ และอาณาจักรโรมันได้แผ่ขยายออกไปทุกทิศทุกทางชนิดที่มีคำกล่าวว่า "ดนนทุกสายมุ่งสู่ กรุงโรม" จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภาพคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ " ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม " รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรมถึงเวลานัดหมาย นำท่านนั่งรถผ่านชบร่องร่องรอยของศูนย์ กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่ โรมันฟอรั่ม เข้าสู่ จัตุรัสเวเนเซีย ชมระเบียงปาลาสโซ่ ที่กล่าวสุนทรพจน์ของบุสโสลินี และ อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 หรือพระบิดาของชาวอิตาลี |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 17) |
ที่พัก | IH Hotel Roma Z3 หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6) |
วันที่ 8 | นครวาติกัน - วิหารแพนเธออน - น้ำพุเทรวี่ - บันไดสเปน - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18) หลังอาหารเช้านำท่านชม นครวาตีกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาศาสนาคริสต์นิกายโรมันคากอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก "เพียต้า" ผลงามของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นีนี่และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าค์บ้านคู่เมืองของอิตาลีชมร่องรองรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมันฟอรั่ม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัส นาโวน่า จัตุรัสที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก เรียกได้ว่ามีความยอดเยี่ยมที่สุดของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในอดีตเป็นสนามกีฬาโรมันที่ใช้ต่อสู้ประลองอาวุธกันของผู้เข้าแข่งขันที่จำลองมาจากการต่อสู่ทางทะเล จัตุรัส บาโวน่าเป็นอัตุรัสที่ได้ชื่อว่าเป็นอัตรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดและสะสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ในกรุงโรมที่เปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ จากนั้น นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้น โดยจักรพรรดิมาร์คุส วิบซานิอุส อะกริบปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ์ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิฮาเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLO พระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์MARS อังคาร MERCURY พุร JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมาวิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครจสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ษตวรรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันแครอริค อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา นำท่านชม น้ำพุเตรวี่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโรมออกแบบก่อสร้างด้วยหินอ่อนตามสไตล์บารอกที่งดงามอลังการด้วยฝีมือของ นิโคลา ซัลเวีย ว่ากันว่าถ้ามาโรมแล้วไม้ได้เห็นน้ำพุเกรวี่ก็เท่ากับมาไม่ถึงโรม และเมื่อไปถึงแล้วก็ต้องโยนเหรียญไว้เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นเคล็ดว่าจะได้กลับมาเยือนโรมอีก สมควรแก่เวลานำท่านเดินเล่นที่ ยำนบันไดสเปนแหล่งช๊อปปิ้งชื่อดังของกรุงโรม จัตุรัสแห่งนี้ถูกเรียกชื่อตามสถานทูตสเปน ซึ่งตั้งอยู่ ณ บริเวณนั้น บริเวณแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยอิสระ สถาปนิกชาวอิตาเลียบ ชื่อ FRANCESCO DE SANCTIS เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1723 แล้วเสร็จในปี ศ.ศ.1725 สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งชุมชมกันของหนุ่มสาวผู้คนชอบที่จะมานั่งเรียงรายบบบบันไดแห่งนี้ |
กลางวัน / ค่ำ | อาหารกลางวันและอาหารค่ำ เพื่อความสะดวกในการช๊อปปิ้งหรือเที่ยวชมความสวยงามของกรุงโรม |
17.00 น. | น่าท่านเดินทางสู่ สนามบินลีโอนาร์โด้ ดาวินชื่..เพื่อทำการเช็คอิน และทำ TAX REFUND |
22.05 น. | คณะอำลากรุงโรมประเทศอิตาลีออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร ด้วยเที่ยวบิน QR 114 / QR 828 แวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า |
วันที่ 9 | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
18.45 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรรณภูมิ ด้วยความสวัสดีภาพ...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 111,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 24,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 111,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 24,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 115,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 26,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 115,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 26,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 115,555 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 26,000 บาท |
***หมายเหตุข้อสำคัญที่ท่านควรทราบ***
เงื่อนไขการจองและชำระเงิน
ในกรณีเลื่อนการเดินทางกลับ ท่านจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนทำการยื่นวีซ่า ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่าง ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลื่อนตั๋วและเอกสารเพิ่มเติม เช่นเอกสารประกัน, เอกสารโรงแรมที่อยู่ต่อ
เงื่อนไขการยกเลิกและคืนเงิน
กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
ㆍ ทางสถานทูตจะไม่คืนค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น แม้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านการพิจารณา
ㆍ ค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าดำเนินการ และค่าบริการ 5,500 บาท
ㆍ ค่าตั๋วเครื่องบินที่ออกมาจริง ณ วันยื่นวีซ่า ซึ่งตั๋วเป็นเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่า หากท่านไม่ผ่านการพิจารณา ตั๋วเครื่องบินถ้าออกตั๋วมาแล้วไม่สามารถREFUND ได้ เนื่องจากบริษัทจองตั๋วเป็นตั๋วกรุ๊ป ซึ่งตั๋วกรุ๊ปจะไม่สามรถREFUND คืนได้
ㆍ ค่าห้องพักในทวีปยุโรป ค่าอาหาร ค่ารถบัสนำเที่ยว ค่าเข้าชม ทั้งหมดนี้ทางบริษัทได้ทำการจองล่วงหน้าไว้หมดแล้ว (ยุโรปไม่มีการถือเงินสดไปจ่าย
หน้างาน) ถ้าคณะออกเดินทางได้ และท่านไม่ผ่านการพิจารณาวีซ่า ทางบริษัทจะต้องยึดค่าใช้จ่าย 100% ในทันที
หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
เงื่อนไขการยื่นวีซ่า
**ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ทำนต้องซ่าระกับทางศูนย์รับยื่นยื่นโดยตรง**
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : ทัวร์ต่างประเทศ 081-873-6566
Hotline : ทัวร์ในประเทศ 061-519-6494
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel