เฉินตู - หย่าอัน - ไห่โหลวโกว - หลูติ้ง - ตันปา - ปาเหม่ย - ทุ่งหญ้าถ่ากง - วัดถ่ากง - ซินตูเฉียว
อุทยานมู่เก๋อฉั้ว - คังติ้ง - ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก - ถนนโบราณควนไจ่เซียงจื่อ
ไห่โหลวโกว ... อุทยานธารน้ำแข็ง
ตันปา ... อาณาจักรพันป้อม
ซินตูเฉียว ... สรวงสวรรค์ของช่างภาพ
อุทยานธรรมชาติมู่เก๋อฉั้ว ... ดินแดนสวรรค์แห่งทะเลสาบบนดิน
คังติ้ง ... ประตูจากเสฉวนสู่ทิเบต
** พักโรงแรมระดับ 4 ดาว พร้อมมัคคุเทศก์ที่ชำนาญงานคอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง **
เมนูพิเศษ :: อาหารสมุนไพรยาจีน
พิเศษ :: มีช่างภาพ + ไม่เข้าร้านรัฐบาล + รวมทิปไกด์และคนขับ
ของแถม :: หมวกแก๊ป
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) - เฉินตู - หย่าอัน |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
08.00 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน |
10.05 น. | ออกเดินทางสู่ นครเฉินตู โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG 618 |
14.00 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานซวงหลิง นครเฉินตู นครเฉินตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวนและมีประชากรหนาแน่นที่สุดของประเทศจีน ที่มีภูมิประเทศรายรอบไปด้วยเทือกเขา และมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยมีฤดูร้อนที่อบอุ่นฤดูหนาวที่ไม่หนาวนัก และมีปริมาณความชื้นสูง มีพื้นที่ประมาณ 218,920 ตารางไมล์ (567,000 ตารางกิโลเมตร) ประชากรส่วนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อชาติต่างๆ ได้แก่ชาวยี่, ธิเบต, เมี้ยว, หุย และเซี่ยง ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ส่วนใหญ่มีถิ่นฐานอยู่ในเขตปกครองตนเองของมณฑลเฉิงตู และยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางทั้งทางอากาศและทางรถไฟรวมไปถึงการเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจ, วัฒนธรรมและการปกครอง อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความเป็น “เมืองจีน” อย่างที่ผู้คนได้จินตนาการไว้ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่เมือง หย่าอัน (ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชม.) เมืองหย่าอัน ตั้งอยู่ทางภาคกลางของมณฑลเสฉวน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 120 กิโลเมตร มีภูเขาที่สวยงาม มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงาม เป็นพื้นที่ที่มีอากาศสะอาดสดชื่น ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,800 มิลลิเมตรต่อปี จนได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งฝน” เพราะเป็นเขตที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดของมณฑลเสฉวน เป็นเมืองท่องเที่ยวดีเด่นของจีน และเป็น 1 ใน 10 เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของจีน ประจำปี 2006 อีกด้วย นอกจากนี้เมืองหย่าอันยังเป็นที่นิยมสำหรับการท่องเที่ยวแบบพักผ่อนตากอากาศ ในชนบท และการขับรถเที่ยวเองของมณฑลเสฉวน และยังเป็นสถานที่ค้นพบหมีแพนด้าตัวแรกของโลก ถือเป็นต้นแบบการเพาะพันธุ์หมีแพนด้าของโลกในปี 2006 ถิ่นกำเนิดและแหล่งที่อยู่ของหมีแพนด้าในมณฑลเสฉวน ซึ่งมีเมืองหย่าอันเป็นศูนย์กลาง ต่อมาเมืองแห่งนี้ได้ถูกบันทึกอยู่ในบัญชีรายชื่อมรดกโลกทางธรรมชาติ นอกจากนี้เมืองหย่าอันยังเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมชาและการปลูกชาของโลก อีกทั้งยังเป็นเขตเพาะปลูกและบำรุงรักษาต้นชาโดยใช้แรงงานคนที่เก่าแก่ที่สุดของโลกด้วย ดังคำขวัญประจำเมืองที่ว่า “บ้านหมีแพนด้า แหล่งชาของโลก ศูนย์กลางเสฉวนตะวันตก หย่าอันแห่งมนต์เสน่ห์” พัก HONGZHU HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 2 | หย่าอัน - อุทยานไห่โหลวโกว |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ตำบลโม๋ซี (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง) ตำบลโม๋ซี ตำบลเล็กๆ ที่ยังคงรักษารูปแบบวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในท้องถิ่นนี้เอาไว้จนถึงปัจจุบัน และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจคือ เมื่อ ค.ศ.1935 ตำบลโม๋ซีเคยเป็นที่จัดตั้งกองทัพแดงภายใต้การนำของเหมาเจ๋อตุงและจูเต๋อเพื่อต่อสู้กับกองทัพก๊กมิ่นตั๋ง และเป็นตำบลที่ตั้งของ อุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว โดยเส้นทางจะเลาะเลียบภูเขา ลำธาร และน้ำตกที่สวยงาม ระหว่างเส้นทางจะต้องเดินทางลอดผ่านอุโมงค์ เอ้อร์หลังซาน อุโมงค์ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศจีน มีความยาวถึง 4,176 เมตร อุโมงค์นี้เชื่อมระหว่างหย่าอันกับเขตชนกลุ่มน้อยเผ่าจ้างทิเบต วิวทิวทัศน์เมื่อก่อนและหลังจากผ่านอุโมงค์ไปแล้วจะต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยก่อนที่จะลอดอุโมงค์จะพบกับบรรยากาศที่มีหมอกปกคลุม และอากาศเย็น แต่พอลอดอุโมงค์ผ่านพ้นไปก็พบกับท้องฟ้าที่แจ่มใสแดดส่องทั่วถึงเสมือนเราหลุดไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง เป็นที่น่าอัศจรรย์เสมือนแบ่งแยกภูมิประเทศออกจากกัน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร นำท่านเดินทางเข้าสู่ เขตอุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว นำท่านเปลี่ยนนั่งรถภายในอุทยานเพื่อไป ขึ้นกระเช้าสู่ ธารน้ำแข็งไห่โหลโกว ชมวิวของป่าสน ภูเขาสูงที่สวยงาม อุทยานธารน้ำแข็งไห่โหลวโกว เป็นธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สะสมตัวมานับพันปี เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดภูเขากงก่า ซึ่งจัดเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในมณฑลเสฉวน สูงถึง 7,556 เมตร ได้รับสมญานามเป็นราชาแห่งภูเขาเลยทีเดียว หิมะที่ละลายจะไหลเป็นธารยาว 14.7 กิโลเมตร สูง 3 ชั้น ชั้นสูงที่สุดอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 6,750 เมตร แต่เราจะขึ้นไปที่ความสูง 2,850 เมตร โดยมียอดเขากงก่า ซึ่งมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีเป็นฉากหลังดูตระการตายิ่งนัก ธารน้ำแข็งแห่งนี้นับเป็นธารน้ำแข็งที่มีระดับต่ำสุดของเอเชีย มีอายุเพียง 1,600 ปี และมีความยาวถึง 1,080 เมตร กว้าง 1,100 เมตร คงตัวอยู่ในละติจูดที่ต่ำมาก คือ ประมาณสองพันกว่าเมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนที่มาของชื่อธารน้ำแข็งนั้นมาจากเสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องสูงภายในบริเวณนี้ คำว่า “ไห่โหลว” แปลว่า หอยสังข์ ส่วน “โกว” แปลว่า หุบเขา ซึ่งมีเสียงคล้ายการเป่าหอยสังข์นั่นเอง นอกจากธารน้ำแข็งแล้ว ที่นี่ยังมีผืนน้ำตกที่เป็นน้ำแข็งใหญ่โตมหึมาหลายแห่ง ชายขอบของธารน้ำแข็งบางส่วนล้ำเข้าไปจรดแนวชายป่า เกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงาม |
ค่ำ | นำท่าน Check In เข้าที่พัก พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม พัก HAILUOGOU LONG MARCH HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 3 | ไห่โหลวโกว - หลูติ้ง - ตันปา - หมู่บ้านโบราณเจียจู |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองตันปา เมืองตันปา หุบเขาแห่งสาวงาม ตั้งอยู่ริมโตรกผาสูงตระหง่าน ด้านหนึ่งคือแม่น้ำต้าตูที่เชี่ยวกราก อีกด้านคือภูผาสูง เป็นเมืองที่มีพื้นที่หลากหลายรูปแบบ ตัวเมืองตันปาถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญมากเมืองหนึ่งเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ตันปาในอดีตเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญมากของแคว้นคามทิเบต มีสมญาว่า “อาณาจักรพันป้อม” ระหว่างทางแวะชม สะพานหลูติ้ง สะพานหลูติ้ง เป็นสะพานแขวนเก่าแก่ สมัยจักรพรรดิคังซี ราชวงศ์ชิง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1705 โดยมีความยาว 103 เมตร และกว้าง 2.8 เมตร ใช้โซ่เหล็ก 13 เส้น ขึงระหว่างสองฝั่ง พื้นสะพานปูด้วยไม้กระดาน สะพานแห่งนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคใกล้ของจีน เมื่อกองทัพแดงสู้รบกับกองทัพของรัฐบาลเจียงไคเช็คในปี 1935 และได้สร้างวีรกรรมพลีชีพในการแย่งยึดสะพานนี้มาจากกองทัพก๊กมิ่นตั๋ง |
บ่าย | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบราณเจียจู ลักษณะบ้านสวยโดดเด่นกว่าหมู่บ้านอื่นในตันปา ตรงที่ใช้สีสัน สีขาว สีแดง สีดำ คาดบนตัวบ้านที่ก่อด้วยหินแผ่นเล็กๆ เรียงซ้อนกัน มุมของหลังคามียอดแหลมไว้สำหรับวางหินสีขาว ซึ่งถือเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ |
ค่ำ | นำท่าน Check In เข้าที่พัก พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม พัก LANFENG HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 4 | ตันปา - ปาเหม่ย - ทุ่งหญ้าถ่ากง - วัดถ่ากง - ซินตูเฉียว |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ ซินตูเฉียว ระหว่างทางผ่าน ตำบลปาเหม่ย เมืองเล็กๆ ระหว่างทาง ที่มีความสวยงามแปลกตา จากนั้นท่านจะ ผ่าน ทุ่งหญ้าถ่ากง นำท่านแวะ วัดถ่ากง วัดพุทธนิกายมหายานแบบทิเบต ภายในวัดมีองค์พระศรีศากยมุนี เช่นเดียวกับที่วัดตาเจา ในเมืองลาซา และมีเจดีย์ทอง ที่สร้างจากทองคำหนักกว่า 100 กิโลกรัม มองออกไปเบื้องหลังของเจดีย์ทองคือยอดเขายาลา ถ่ากง มีความหมายตามภาษาทิเบตว่า “ดินแดนอันเป็นที่สิงสถิตย์แห่งองค์พระโพธิสัตว์” ซึ่งทุ่งหญ้าแห่งนี้อยู่ที่ความสูง 3,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล |
บ่าย | เดินทางถึง เมืองซินตูเฉียว รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมืองซินตูเฉียว ซึ่งได้รับการขนานนามว่า สรวงสวรรค์ของช่างภาพ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองคังติ้งไปทางทิศตะวันตก ระยะทางประมาณ 83 กิโลเมตร ปัจจุบันซินตูเฉียวได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ช่างภาพทั้งมืออาชีพ และมือสมัครเล่น ใฝ่ฝันที่จะไปเยือนสักครั้งหนึ่ง ให้ท่านอิสระเดินเล่น ถ่ายภาพกับบรรยากาศของเมืองที่ขึ้นชื่อ เรื่องความงดงามด้านวิวทิวทัศน์ให้เต็มอิ่ม |
เย็น | นำท่าน Check In เข้าที่พัก พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม พัก PHOTOGRAPHY PARADISE HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 5 | ซินตูเฉียว - อุทยานมู่เก๋อฉั่ว - คังติ้ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางมุ่งหน้าสู่ เมืองคังติ้ง คังติ้ง เป็นชื่อที่ชาวฮั่นตั้งขึ้น แปลว่า “สถานที่แห่งความมั่นคง” เป็นเสมือนประตูจากเสฉวนสู่ทิเบต ซึ่งใครที่มาถึงเมืองนี้ถือว่า ได้มาสุดโลกของจีนและกำลังจะก้าวสู่โลกทิเบต โดยในยุคสมัยราชวงศ์ชิงเคยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวฮั่นกับชนชาติส่วนน้อยอื่นๆ ปัจจุบันมีชนชาติต่างๆ อาศัยอยู่มากที่สุด ได้แก่ ชนชาติทิเบต รองลงมาคือชาวฮั่น ชนชาติหุย หลี มองโกล แม้ว จ้วง คังติ้งตั้งอยู่ในหุบเขา มีสภาพภูมิประเทศสลับซับซ้อน ทั้งภูเขาหิมะ เทือกเขา ทะเลสาบ ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่และเห็นเป็นระลอกคลื่น เมืองคังติ้งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งธรรมชาติที่มีโอโซนบริสุทธิ์ บรรยากาศโรแมนติกจนเกิดเพลงพื้นเมืองเก่าแก่ที่คนจีนร้องเป็นกันทุกคน ชื่อเพลง "คังติ้งฉิงเกอ" (Kang Ding Love Song) บรรยายถึง เมฆหมอกบนท้องฟ้า เหล่าอาชาบนทุ่งหญ้า และมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ก่อเกิดความรักของคนหนุ่มสาว |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ อุทยานมู่เก๋อฉั่ว ขึ้นรถอุทยานเพื่อชมตามจุดต่างๆ เริ่มต้นไต่ระดับจากความสูง 2,800 เมตร วิ่งตามเส้นทางขึ้นไปจนถึงจุดที่ความสูง 3,780 เมตร มีน้ำตกน้อยใหญ่สลับกับโขดหินรูปร่างแปลกตา ระยะทาง 18 กิโลเมตร ชม ทะเลสาบมู่เก๋อฉั่ว เป็นทะเลสาบที่ตั้งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,780 เมตร กินเนื้อที่ประมาณ 40 ตารางกิโลเมตร จากนั้นนำท่านนั่งรถอุทยานไต่ระดับลงมาสู่บริเวณ ทะเลสาบ 7 สี ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของอุทยานมู่เก๋อฉั่ว ชมความมหัศจรรย์ของทะเลสาบ 7 สี ซึ่งจิ่วจ้ายโกวมีทะเลสาบแค่ 5 สี แต่ที่นี่มีถึง 7 สีในสายน้ำเดียว เป็นทะเลสาบที่น่าอัศจรรย์ใจมาก ความงามเหนือคำบรรยายล้อมรอบด้วยป่าสนอัลไพน์ ทุ่งดอกอะซาเลีย สีสันแปรเปลี่ยนไปตามเวลา ให้ท่านถ่ายรูปและชื่นชมทิวทัศน์รอบทะเลสาบเก็บเป็นความประทับใจ แล้วนำท่านไปสัมผัสความอลังการของ บ่อน้ำแร่สมุนไพร หรือที่รู้จักกันในนามชื่อ ทะเลเดือดสมุนไพร ซึ่งอุดมไปด้วยแร่กำมะถัน ให้ท่านได้ แช่เท้า 30 นาที (นั่งแช่แค่หัวเข้า) ช่วยให้ผ่อนคลายและรักษาโรคได้ โดยเชื่อกันว่าบ่อน้ำแร่นี้เกิดจากเทพเจ้าสร้างขึ้นมาประทานเพื่อเป็นของขวัญแก่มวลมนุษย์ อุทยานมู่เก๋อฉั่ว อยู่ห่างจากเมืองคังติ้งประมาณ 21 กิโลเมตร ถือเป็นอุทยานที่มีทิวทัศน์สวยงามโรแมนติก เสมือนกับได้เดินเข้าไปในวิมานแห่งเซียนความสวยงามที่ไม่แพ้อุทยานจิ่วจ้ายโกว เนื่องจากเป็นเขตที่มีรอยต่อระหว่างเขตอุณหภูมิร้อน-อบอุ่น จึงทำให้มู่เก๋อฌั่วรายล้อมด้วยเทือกเขา ป่าไม้ดึกดำบรรพ์ ทุ่งหญ้า ทะเสาบนับสิบแห่ง บนพื้นที่กว่า 350 ตารางกิโลเมตร และสถานที่แห่งนี้ยังมีกุหลาบ 1,000 ปีที่มีมากถึง 100,000 ต้น มีทั้งหมด 68 สายพันธุ์ที่อยู่ในบริเวณอุทยานแห่งนี้ โดยในช่วงเดือนเมษายน-เดือนกันยายน จะเริ่มออกดอกสะพรั่งรายล้อมหุบเขา ไล่จากระดับความสูง 2,800 เมตรขึ้นไป ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบันนี้ มู่เก๋อฉั่ว เป็นภาษาทิเบต แปลว่า ทะเลสาบคนป่า ซึ่งได้รับสมญานามว่า ดินแดนสวรรค์แห่งทะเลสาบบนพื้นพิภพ เคยมีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าจะไปดินแดนที่เรียกว่า สวรรค์บนดิน ก็ต้องไป “อุทยานธรรมชาติมู่เก๋อฌั่ว” สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองคังติ้ง |
ค่ำ | นำท่าน Check in เข้าที่พัก พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรม พัก LAM-ZE LIN-KA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาว |
วันที่ 6 | คังติ้ง - หย่าอัน - เฉินตู - ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า - โชว์เปลี่ยนหน้ากาก |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองหย่าอัน (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหาร นำท่านมุ่งหน้าสู่ นครเฉิงตู (ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) นำท่านชม ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า (นั่งรถกอล์ฟ) ที่หาชมได้ยาก และเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศจีน ชมความน่ารักพร้อมสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าหมีแพนด้า ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า อยู่บนเนื้อที่ 600,000 ตารางเมตร ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์ รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้าซึ่งเป็นสัตว์อนุรักษ์ของประเทศจีน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร นำท่านชม โชว์เปลี่ยนหน้ากาก ที่ใช้ศิลปะพร้อมความสามารถในการเปลี่ยนหน้ากากแต่ละฉากภายในเสี้ยววินาที โดยที่ไม่สามารถจับตาได้ทัน เป็นการแสดงที่สงวนและสืบทอดกันมาภายในตระกูล หลายชั่วอายุคน ไม่ถ่ายทอดให้บุคคลภายนอกทั่วไป |
วันที่ 7 | ถนนโบราณควนไจ่เซียงจื่อ - อาหารสมุนไพรยาจีน - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านชม ถนนโบราณควนไจ่เซียงจื่อ อิสระช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย ถนนโบราณควนไจ่เซียงจื่อ มีอายุกว่าพันปีเป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และมีประชากรอาศัยอยู่ เมืองนี้กำลังพัฒนาที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ได้รับขนานนามว่าเมืองโบราณคู่รักโรแมนติค เป็นแหล่งนัดพบของหนุ่มสาว สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งเติมเต็มความรักยามค่ำคืนของหนุ่มสาว |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ลิ้มรสอาหารพิเศษ ... สมุนไพรจีน นำท่านเดินทางสู่ สนามบินซวงหลิง เมืองนครเฉินตู เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
15.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG 619 |
17.20 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
ค่าธรรมเนียมการยื่นวีซ่าหนังสือเดินทางคนต่างชาติในกรณีที่ทางบริษัทสามารถขอวีซ่าให้ได้
หมายเหตุ : ทางบริษัทฯ สามารถขอวีซ่าให้ได้ เฉพาะชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย และมีใบอนุญาติการทำงานในประเทศไทยเท่านั้น หากไม่ได้ทำงานในประเทศไทย ผู้เดินทางต้องไปดำเนินการขอวีซ่าเข้าประเทศจีนด้วยตนเอง
สถานทูตจีน ไม่รับเล่มของท่านเพื่อยื่นขอวีซ่าในกรณีดังนี้
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel