วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ - เฮลซิงกิ - วิลนีอุส (ลิทัวเนีย) |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
06.00 น. | พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 8 เคาน์เตอร์ S สายการบินฟินน์แอร์ เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้ความสะดวก ในการเช็คบัตรโดยสารและสัมภาระ |
08.55 น. | นำท่านออกเดินทางสู่ กรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย โดยสายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY090 |
15.05 น. | เดินทางถึง สนามบินกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง |
16.20 น. | ออกเดินทางต่อโดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY133 |
17.35 น. | เดินทางถึง สนามบินกรุงวิลนีอุส (Vilnius) ประเทศลิทัวเนีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ ตัวเมือง |
พักที่ | Best Western Santakos Hotel หรือระดับใกล้เคียง |
วันที่ 2 | วิลนีอุส - ปราสาททราไก - ช้อปปิ้ง - ดินเนอร์พร้อมเครื่องดื่มชมโชว์พื้นเมือง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทราไก (Trakai) (69 กม.) อดีตเมืองหลวงเก่าของราชรัฐลิทัวเนียจาก 1864-1323 ก่อนที่จะย้ายไปยังวิลนีอุส นำท่านเข้าชม ปราสาททราไก หรือปราสาทที่ใครหลายๆคนเรียกว่า Little Marienburg ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ในทะเลสาบเกลฟ สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่14 เป็นปราสาทที่ท่านแกรนด์ดุ๊ก วีเทาทัสประสงค์ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ก่อนที่จะกลายเป็นคุกในช่วงศตวรรษที่ 17 มีตำนานที่เล่าต่อๆกันมาถึง เรื่องราวความรัก โศกนาฏกรรม และได้รับคำโจษจันว่าเป็นปราสาทผีสิง โดยอีกด้านหนึ่งของปราสาทเป็นที่ตั้งของโบสถ์และสำนักสงฆ์ในนิกายเบเนดิกทีน ชมความงดงามทัศนียภาพโดยรอบทะเลสาบกับตัวปราสาทที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ชม ความงามของทะเลสาบเกลฟ (Lake Galve) อยู่กลางเมืองทราไก มีเกาะแก่ง ประมาณ 21 เกาะ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านชม เมืองวิลนีอุส (Vilnius) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายเนริสและวิลเนเลเล สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1323 โดยเมืองวิลนีอุสมีชื่อเสียงทางด้านงานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปตั้งแต่ยุคโกธิค เรเนซองค์ บาร็อค และ คลาสสิค ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1994 ชม โบสถ์เซนต์แอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในวิลนีอุส ถ่ายรูปกับ Gate of Dawn หรือกำแพงเมืองจากศตวรรษที่ 16 ชมย่านเมืองเก่าที่ถือว่าเป็นเขตเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุดในเขตยุโรปกลาง และถ่ายรูปกับความงดงามของอาคารเก่าแก่เมื่อครั้งสมัยศตวรรษที่ 15-16 ถ่ายรูปกับกลุ่มอาคารเมืองเก่าและวิหารต่าง ๆ Orthodox Church of the Holy Spirit, Church of St.Anne, Church of St.Francis and Bernardine, Vilnius University และ Gediminas Tower เป็นต้น |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำมื้อพิเศษ ณ ภัตตาคาร Belmontas พร้อมชมโชว์พื้นเมือง ที่รับวัฒนธรรมผสมผสานระหว่าง รัสเซีย สแกนดิเนเวีย และยุโรปเข้าด้วยกัน |
พักที่ | Best Western Santakos Hotel หรือระดับใกล้เคียง |
วันที่ 3 | เคานัส - ซัวเลย์ (ลิทัวเนีย) - ฟิลส์รันดาเล (ลัตเวีย) - ริก้า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรมที่พัก นำท่านเดินทางสู่ เมืองเคานัส (Kaunas) เคานัสเคยเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของประเทศลิทัวเนีย ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตั้งอยู่ตรงที่บรรจบกันของแม่น้ำเนริส และแม่น้ำเนมาน (99 กม.)ชมเมืองเคานัส เมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศลิทัวเนีย รองจากวินิอุส ชมอาคาร City Hall ที่ทำการศาลาว่าการ, ปราสาทเคานัส Kaunas Castle ปราสาทหินที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เพื่อป้องการกันการโจมทางด้านศาสนา ชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำทั้งสองสายที่มาบรรจบกันที่เมืองนี้คือแม่น้ำเนริสและแม่น้ำเนมานจากบนปราสาท ชม Holy Cross Church ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่แบบเรอแนสซองส์ และ วิหารเคานัส Kaunas Cathdral Basilica ที่มีการสร้างแบบผสมผสานตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซัวเลย์ (Siauliai) (177 กม.) เมืองที่มีความเก่าแก่ในอดีตเคยถูกเผาในยุคสงครามถึง 7 ครั้งด้วยกันปัจจุบันทางการได้ฟื้นฟูจนกลายมาเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านชม สุสานไม้กางเขน (Hill of Crosses in Siauliai) สถานที่อันแสดงถึงความเชื่อของผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีมายาวนานนับตั้งแต่ช่วงยุคสงคราม สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสุสานไม้กางเขนนับแสนชิ้น แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนนำมาทิ้งอย่างต่อเนื่อง ให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปและชมวิวบนยอดเขาแบบพาโนรามา นําท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองฟิลส์รันดาเล (Pilsrundale) (82 กม.) ประเทศลัตเวีย นำท่านชม พระราชวังรันดาเล (Rundale Palace) หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมสไตล์บาร๊อค ในประเทศลัตเวีย ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของท่านดยุค Ernst Johann Biron และ Russian Empress Anna Ioannovna ซึ่งเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของลัตเวีย สร้างในศตวรรษที่ 18 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองริก้า (Riga) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย (81 กม.) |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | Opera Hotel & Spa หรือระดับใกล้เคียง |
วันที่ 4 | ริก้า(ลัตเวีย) - ชมเมือง - อุทยานแห่งชาติกัวจา - ถ้ำกัทแมน(ถ้ำแห่งความรัก) - ปราสาททูไรดา - พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติกัวจา (Gauja National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในลัตเวียโดยมีความหลากหลายทางชีวภาพที่หลากหลายความหลากหลายของภูมิประเทศทัศนียภาพอันงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ นำท่านเข้าชม ถ้ำกัทแมน (Gutman’s Cave) เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบอลติคที่วัดความลึก 19 เมตรสูง 12 เมตร ไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยตำนาน เรื่องราวความรักของหญิงสาวไมจา (Maija) ผู้แสนสวยถึงขนาดได้รับการขนานนามว่ากุหลาบแห่ทูไรดา (Turaida Rose) ที่มีต่อกับคนทำสวนของปราสาททูไรดา เธอซื่อสัตย์ต่อคนรัก แต่ต้องด้วยชีวิตของเธอ ตามตำนานว่าน้ำตาของเธอกลายเป็นกระแสน้ำของแม่น้ำกัวจา ด้านหน้าถ้ำยังมีร่องรอยแกะสลักเรื่องราวควารักของหนุ่มสาว และคู่รักที่เดินทางมาขอพร ณ ถ้ำแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ บริเวณตัวปราสาททูไรดา (Turaida Castle) ชมอาคารต่างๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ตัวอาคารสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1214 เอกลักษณ์คือใช้อิฐแดงทั้งหมด ตัวอาคารได้ผ่านการบูรณะและอนุรักษณ์ ทำให้เห็นสภาพก่อนหน้าของปราสาท ได้อย่างชัดเจนขึ้น |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเข้าชม ภายในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง (Ethnographic open-air museum of Latvia) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งอันเก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบจุกลา (Jugla Lake) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับพิพิธภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันทั่วโลก เนื่องจากมีการเก็บรวบรวมผลงานก่อนสงครามและทำให้วัตถุนิทรรศการหลายแห่งอยู่ในสภาพดีมากมีอาคารประวัติศาสตร์ 118 แห่งจากทั้ง 4 จังหวัดของประเทศลัตเวีย - Kurzeme, Vidzeme, Zemgale และ Latgale ที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ อาคารเหล่านี้มีช่วงอายุและส่วนใหญ่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 17 จนถึงช่วงทศวรรษที่ 1930 นำท่านชม ย่านเมืองเก่ากรุงริก้า เมืองที่มีส่วนผสมของอิทธิพลแบบลัตเวียน รัสเซียน และเยอรมัน ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันงดงาม ผ่านชมร่องรอยกำแพงเมืองโบราณ อาคารแบบอาร์ตนูโว ที่ สร้างในยุคกลาง อายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ผ่านชม ปราสาทริก้า ซึ่งปัจจุบันได้ใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี นำท่านชม โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Cathedral) ที่งดงามเป็นโบสถ์กอธิคที่สำคัญ และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองริก้า ชม ป้อมดินปืน The Powder Tower สร้างขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.17 ชม อนุสาวรีย์อิสรภาพ ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองริก้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละชีพในสงครามเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียระหว่างปี ค.ศ.1918 ถึงปี 1940 ชมโบสถ์เซนต์จาคอบ เป็นโบสถ์คาทอลิกที่โดดเด่นที่สุดในย่านเมืองเก่า ชม โบสถ์ประจำเมืองริก้า Riga Cathedral อยู่ริมจัตุรัส สร้างเมื่อปี ค.ศ.1211 |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | Opera Hotel & Spa หรือระดับใกล้เคียง |
วันที่ 5 | ริก้า (ลัตเวีย) - แปร์นู - ทาลลินน์(เอสโตเนีย) - ชมเมืองเก่า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองแปร์นู (Parnu) (180 ก.ม.) ประเทศเอสโตเนีย เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศในช่วงฤดูร้อนทีมี่ชื่อเสียงที่สุดในฝั่งตะวันตกริมทะเลบอลติก ผ่านชมความสวยงามของเมืองท่านจะได้เห็นบ้านไม้แบบ Wooden House ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเอสโตเนีย ชมความสวยงามของ หาดแปร์นู Parnu Beach ที่ในช่วงฤดูร้อน จะมีชาวเมืองมากมายมาพักผ่อนกันที่หาดแห่งนี้ อิสระท่านเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ กรุงทาลลินน์ (Tallinn) เมืองหลวงของประเทศเอสโทเนีย (130 ก.ม.) ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของอ่าวฟินแลนด์ ทาลลินน์ ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง ในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามในช่วงยุคกลาง จักรวรรดิซาร์แห่งรัสเซีย สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ยาโรสลาวิทซ์ เนฟสกี้ นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า Old Town ของเมืองทาลลินน์ ที่โอบล้อมด้วยกำแพงเมืองและป้อมปราการในยุคกลางให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอัศวิน ชม เขตเมืองเก่าทูมเปีย (Toompea) ในเขตอัพเพอร์ทาวน์ ชมและ ถ่ายรูปภายนอกปราสาททูมเปีย (Toompea Castle) ซึ่งปัจจุบัน คือรัฐสภาแห่งเอสโตเนียชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามา ที่มีสีสันสดใสราวกับภาพวาดที่มีโบสถ์เซนต์โอลาฟโดดเด่นเป็นสง่า นำท่านชมภายนอก โบสถ์อเล็กซานเดอร์เนฟสเก้ (Alexander Nevsky Cathedral) โบสถ์ใหญ่ที่มียอดโดมใหญ่ที่สุดในเมืองทาลลินน์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนออร์โธด็อกซ์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1900 ในช่วงที่เอสโตเนียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
พักที่ | Strand Spa and Conference Hotel หรือระดับใกล้เคียง |
วันที่ 6 | ทาลลินน์ - พระราชวังแคทเดอริก - นั่งเรือเฟอร์รี่ชมวิว เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) - ปอร์วู - ชมเมือง |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเข้าชม พระราชวังแคทเดอริก (KADRIORG PALACE) เป็นพระราชวังสไตล์บาร๊อค สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ 1 แห่งรัสเซีย เพื่อเป็นที่ประทับของพระราชินีแคทเธอรีน โดยพระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Niccolo Michetti สถาปนิกชาวอิตาลีในปี ค.ศ. 1930 แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานทางศิลปะของประเทศ นอกจากนี้ท่านจะได้ชมความงดงามของสวนบริเวณโดยรอบพระราชวังเก่าแห่งนี้ด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ถนนคนเดิน Walking street อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคา |
บ่าย | นำท่านสู่ ท่าเรือเพื่อล่องเรือข้ามจากกรุงทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย สู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ท่องทะเลบอลติกที่งดงาม เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ 2 ฝั่งของเอสโตเนีย และฟินแลนด์ เรือเฟอร์รี่จะเดินทางผ่านบริเวณหมู่เกาะเล็กๆ ของประเทศฟินแลนด์ ที่เรียกรวมๆ ว่า Archipelago ชมบรรยากาศหมู่บ้านชาวประมง และบ้านพักากอากาศของชาวฟินน์ เข้าสู่ท่าเรือกรุงเฮลซิงกิเป็นเมืองหลวงใหญ่ของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เดินทางต่อสู่ เมืองปอร์วู (Porvu) นำท่านเข้าสู่ เขตเมืองเก่า (The Old Town) ซึ่งยังมีกลิ่นอายของชุมชนแบบพื้นบ้าน บ้านไม้หลากสีสวยงามที่ปลูกเรียงรายริมแม่น้ำ ชมโบสถ์ใหญ่ในเมือง (Porvoon tuomiokirkko) เป็นลูเทอรันที่เก่าแก่ที่สุด เดินเล่นตามอัธยาศัยที่ถนนคนเดิน WALKING STREET ในเขตเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนมพื้นบ้านต้นตำรับ จากนั้นเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | Holiday Inn Hotel / หรือระดับเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เฮลซิงกิ - ชมเมือง - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม กรุงเฮลซิงกิเมืองหลวงของฟินแลนด์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบ ผสมผสานระหว่างสวีดิชและรัสเซีย เจ้าของสมญานาม “ธิดาสาวแห่งทะเล บอลติก” นำท่านเข้าชม “โบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ” Templiaukkio Church ที่สร้างขึ้นโดย การขุดเจาะในซอกหินแกรนิตขนาดมหึมาที่มีรูปร่างคล้ายจานบิน จากนั้นเยี่ยมชมมหาวิหารอุซเปนสกี้ Uspensky ของศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ที่งดงามด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย จากนั้นชม “จัตุรัสรัฐสภา” Senate Square ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์และมหาวิหารใหญ่นิกายรูเธอรัน ชม “อนุสาวรีย์ซิเบลิอุซ” Sibelius คีตกวีเอกชาวฟินน์ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดียที่สวนสาธารณะเวลล์ เดินเล่นย่าน “ตลาดนัดริมทะเล” Market Square ที่มีชื่อเสียงนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว แหล่งขายปลานานาชนิด อาหารผลไม้ และดอกไม้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิ ทำเนียบระธานาธิบดี, ศาลากลางและโบสถ์ |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม ย่านถนนเอสปลานาดิ Esplanadi ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ฟินนิชผสมสวีดิช เรียงรายไปด้วยสินค้าดีไซน์ชื่อดัง อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ในย่านถนนคนเดิน หรือห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ที่เต็มไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมราคาพิเศษ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
..........น. | ได้เวลาพอสมควร เดินทางสู่ สนามบินเฮลซิงกิ |
23.55 น. | ออกเดินทางจากเฮลซิงกิ บินตรงกลับสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY 089 |
วันที่ 8 | สนามบินสุวรรณภูมิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
14.00 | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel