วันที่ 1 | กรุงเทพ ฯ - จ.เชียงราย |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.00 น. | Big C Extra ลาดพร้าว ซอย 7 (คลิกดูแผนที่) ออกเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ VIP รุ่นใหม่ มุ่งหน้าสู่ จังหวัดน่าน |
19.30 น. | ล้อหมุน !! หากมาช้าเกินกว่านี้ ท่านจะตกทริป และไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น |
วันที่ 2 | จ.เชียงราย - ไร่ชาฉุยฟง - พิพิธภัณฑ์บ้านดํา - วัดห้วยปลากั้ง - วัดร่องเสือเต้น - วัดพระแก้ว |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.30 น. | เดินทางถึง จ.เชียงรายแวะให้คณะทำภาระกิจส่วนตัว บริการอาหารเช้า (1) ณ ร้านอาหาร |
07.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ไร่ชาฉุยฟง เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดีของบริษัท ฉุยฟงที จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงรายและเป็นสถานที่ถ่ายทำละครหลายเรื่อง อาทิเช่น เรื่องรักออกอากาศ เรื่องแววมยุรา ทางช่อง 3และเรื่องชิงนาง ทางช่อง 7 นอกจากนี้ยังมีโฆษณาต่างๆ ทั้งรายการทีวีหลายรายการที่มาถ่ายทำที่ ไร่ชาฉุยฟ่ง จึงทำให้ ไร่ชาฉุยฟ่ง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้นอิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ตัวจังหวัดเชียงราย |
เช้า | นำท่านชม พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สถานที่รวบรวมจิตรกรรม ปฏิมากรรม ของอ.ถวัลย์ ดัชนี พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมายทั้งทางด้านภาพเขียนและ ด้านปฏิมากรรมหลายชิ้น ลักษณะของบ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้านศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน อีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น นำท่านเดินทางไปยัง วัดห้วยปลากั้ง เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ที่สวยงาม วัดห้วยปลากั้ง ตั้งอยู่บนเขา และมีเนินเขารายรอบวัด สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ "พบโชคธรรมเจดีย์" ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงถึง 9 ชั้น รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดงมีรูปปั้นมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันไดล้อมรอบด้วยเจดีย์ เล็กๆ 12 ราศี วัดห้วยปลากั้งเป็นวัดซึ่งชาวบ้านนับถือและเชื่อกันว่าหากใครได้มาเยือนจะหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ภายในเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอมองค์ใหญ่ สาเหตุ ที่เจดีย์ 9 ชั้นนี้ มีชื่อว่า พบโชคธรรมเจดีย์ เนื่องด้วยวัดห้วยปลากั้งแห่งนี้เป็นวัดร้างมาตั้งแต่โบราณกาลไม่ทราบประวัติการสร้างแน่ชัด ต่อมาพระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส ได้บูรณะและก่อสร้างถาวรวัตถุขึ้นจำนวนมากจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงรายอีกครั้ง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (2) ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ วัดร่องเสือเต้น มีความโดดเด่นด้วยพระอุโบสถโทนสีฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม มีความวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก วัดร่องเสือเต้น ถือเป็นวัดเด่นแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย ด้านหน้าทางขึ้นพระอุโบสถมีงานปูนปั้นรูปพญานาคคู่ตัวใหญ่ศิลปะไทยประยุกต์ นอกจากนี้งานปูนปั้นโดยรอบพระอุโบสถ ก็ทำได้อย่างสวยงามในผลงานระดับพรีเมี่ยม ทำให้วัดร่องเสือเต้นแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมความงดงามกันเป็นจำนวนมาก นำท่านเดินทางสู่ วัดพระแก้ว เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของตัวเมืองเชียงราย วัดพระแก้ว เชียงรายแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ถูกค้นพบพระหยก หรือองค์พระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือถึงพุทธลักษณะอันงดงาม โดยตามประวัติกล่าวไว้ว่าในรัชสมัยของพญาสามฝั่งแกนกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ได้เกิดเหตุการณ์สายฟ้าฟาดผ่าลงมาที่เจดีย์ร้างองค์หนึ่งกลางเมืองเชียงรายเมื่อเจดีย์แตกร้าวทำให้พบองค์พระพุทธรูปปูนปั้นอยู่ภายในต่อมาเปลือกปูนกะเทาะออกได้สังเกตเห็นหยกเขียวอยู่ภายใน เมื่อกะเทาะปูนออกจนหมด ทำให้ค้นพบองค์พระพุทธรูปหยก ซึ่งเรียกนามต่อกันมาว่า “พระแก้วมรกต” จากนั้นได้เกิดเหตุการณ์เคลื่อนย้ายและช่วงชิงกันต่างๆ นานาเรื่องราวมากมาย จนสุดท้ายได้มาประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว กรุงเทพมหานครจวบจนกระทั่งปัจจุบัน จุดเด่นของวัดพระแก้วคือการได้เยี่ยมชม "โฮงหลวงแสงแก้ว" มีลักษณะเป็นอาคารทรงล้านนาประยุกต์ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญ เช่น พระพุทธสิหิงค์จำลอง รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาในรูปแบบที่ทันสมัย นับเป็นจุดที่น่าสนใจและต้องพลาดโดยเด็ดขาด เพราะที่นี่ได้รวบรวมของสำคัญ ของล้ำค่า และของโบราณทางพุทธศาสนาล้านนาเอาไว้มากมาย |
เย็น | บริการอาหารเย็น (3) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางกลับสู่ที่พัก เก็บสัมภาระ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่พักระดับมาตรฐาน ห้องละ 2-3 ท่าน (แอร์ + ทีวี + น้ำอุ่น) zzzzz ***ถนนคนเดินเชียงราย หรือ กาดเจียงฮายรำลึก จะมีทุกวันเสาร์ บริเวณถนนธนาลัยสุดสาย ใจกลางเมืองเชียงราย ถนนคนเดินที่นี่ถือว่าคึกคักสุดๆ เพราะเต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมด มีของตกแต่งบ้าน ของพื้นเมือง ของที่ระลึกวางขายมากมายยาวเหยียด และไฮไลท์ของที่นี่ไม่เหมือนใคร คือ จะมีลานไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวมาเต้นรำวงกัน ซึ่งเราจะเห็นคนเฒ่า คนแก่ มาเต้น ดูแล้วชวนให้นึกถึงวันวานเสียจริง เปิดตั้งแต่เวลา 16.00 น.-24.00น (เฉพาะวันเสาร์) |
วันที่ 3 | วัดร่องขุ่น - ไร่บุญรอด - งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 16 |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของที่พัก |
เช้า | นำท่านไปชมความงามของ วัดร่องขุ่น วัดที่มีความสวยงามโดดเด่น สร้างโดยจินตนาการของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่และงดงามมากแห่งหนึ่งให้ท่านได้สักการะพระพุทธรูปภายในพระอุโบสถ นำท่านเดินทางไปยัง ไร่บุญรอด ชมแปลงปลูกพืชหลากหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน ทั้งไม้ผล อาทิ พุทรา มะเฟือง สตอเบอร์รี่ มะเขือเทศ ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง กระท้อน พืชสวนมีชาพันธุ์อู่หลง มะนาว หม่อน ส่วนพื้นที่ราบจะปลูกพืชไร่ที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าว และพืชผัก เช่น บร็อกโคลี่ ฟาร์มเห็ดหอม และการทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม เป็นต้นรวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และพื้นที่จัดสวนดอกไม้ นานาพรรณ อิสระเก็บภาพประทับใจ ณ จุดต่างๆ (นั่งรถรางที่ทางไร่บุญรอดจัดไว้บริการโดยรถรางจะจอดเป็นจุดๆ พร้อมเจ้าหน้าที่ของทางไร่บุญรอดอธิบายข้อมูล) |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน (5) ณ ร้านอาหาร |
เย็น | หลังอาหารนำท่านเดินทางไปยังสวนตุง และ โคมนครเชียงราย ให้ท่านอิสระเที่ยวชม งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งามครั้งที่ 16 ชมการตกแต่งพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับไม้ดอกเมืองหนาวที่สวยงาม หลากหลายสายพันธุ์และการจัดทำประติมากรรมดอกไม้จากพันธุ์ไม้ดอกนานาพรรณซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานอาทิดอกทิวลิปดอกลิลลี่ฯลฯที่ได้ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วทั้งงาน และเพื่อเป็นการไม่รบกวนเวลาเที่ยวชม ให้ท่าน อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย ณ ร้านอาหารบริเวณสถานที่จัดงาน สมควรแก่เวลาเชิญท่านเดินทางกลับที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่พักระดับมาตรฐาน ห้องละ 2-3 ท่าน (แอร์ + ทีวี + น้ำอุ่น) |
วันที่ 4 | วัดแสงแก้วโพธิญาณ - วัดพระธาตุแม่เจดีย์ - เชียงใหม่ - พระธาตุดอยคำ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า (6) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหารเก็บสัมภาระ เช็คเอ้าท์ นำท่านเดินทางสู่ วัดแสงแก้วโพธิญาณ พุทธสถานที่สำคัญแห่งยุคที่เกิดขึ้นใหม่ในดินแดนล้านนาแห่งนี้ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านป่าตึงและพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาตั้งแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน ความหมายของชื่อ วัดแสงแก้วโพธิญาณคำว่า “แสงแก้ว” หมายถึงแสงอันสว่างไสวราวกับดวงแก้วที่เปล่งประกายออกจากดอกบัว และสัญลักษณ์ดอกบัวที่พบในนิมิตก็อุปมาได้ดั่ง “พระโพธิญาณ” อันเป็นความรู้แจ้งสูงสุด หรือ “ความรู้ในการตรัสรู้” นั่นเอง ส่วนคำว่า “โพธิญาณ” มาจากคำว่า โพธิ แปลว่า ตรัสรู้ และคำว่า ญาณ แปลว่า หยั่งรู้ คำว่า “โพธิญาณ” จึงแปลให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า “ความรู้ในการตรัสรู้” ซึ่งก็คือ “ตรัสรู้ความรู้ในสัจจธรรม” ผู้ที่ให้กำเนิดวัดแสงแก้วโพธิญาณ คือ "ครูบาอริยชาติ" ท่านเป็นผู้ที่มีมุมมองเกี่ยวกับธรรมะที่เป็นไปอย่างละเอียดลึกซึ้งมาก ซึ่งได้ถูกถ่ายทอดออกมาสู่ผลงานชิ้นสำคัญจนเกิดเป็นวัดแสงแก้วโพธิญาณแห่งนี้ นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่และวิจิตรงดงามของสิ่งก่อสร้างและศาสนวัตถุต่างๆ แล้ว ครูบาอริยชาติยังได้สอดแทรกนัยสำคัญอันเป็น “สัจธรรม” แห่งชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนาเอาไว้ในศิลปะต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้เพื่อเป็นพุทธานุสสติ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่มาเยี่ยมเยือนได้พึงระลึกไว้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ เมื่อพิจารณาในด้านโครงสร้างหรือรูปแบบในการก่อสร้างแล้ว จะเห็นว่าการออกแบบและตกแต่งวัดแห่งนี้ นอกจากแสดงออกถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวพุทธในดินแดนล้านนาอย่างชัดเจนแล้ว การแบ่งพื้นที่ใช้สอยตลอดจนแผนผังรูปแบบศาสนวัตถุและเสนาสนะต่างๆ ล้วนมีนัยที่สื่อความหมายในเชิงธรรมะและแฝงหลัก“พุทธธรรม” อันลึกซึ้งเอาไว้ในแทบทุกองค์ประกอบของผังวัด |
12.30 น. | บริการอาหารกลางวัน (7) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุแม่เจดีย์ สักการะพระธาตุ ชม “พิพิธภัณฑ์พระ” วัดพระธาตุแม่เจดีย์ ตั้งอยู่บนยอดดอยแม่เจดีย์ เป็นวัดเก่าแก่โบราณของอำเภอเวียงป่าเป้า เคยถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นเวลานานกว่า 974 ปี โดยสืบทราบว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1583 โดยพระเจ้าอโนมารธามังช่อ กษัตริย์พม่าต่อมาจึงมีพระสงฆ์พำนักและได้ขอพระราชทานวิสูงคามสีมา จนกระทั่งปีพ.ศ. 2531 ทางคณะสงฆ์พร้อมคณะกรรมการโดยมีพระไพบูลย์ พัฒนาภิรักษ์ได้นำพระสงฆ์สามเณรและญาติโยมร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมองค์พระเจดีย์ให้อยู่ในสภาพที่มั่นคง และได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก จึงได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นอีกเพิ่มหนึ่งองค์เพิ่มบรรจุองค์พระธาตุ วัดพระธาตุแม่เจดีย์ มีจุดเด่นเป็น “พิพิธภัณฑ์พระ” ที่ได้รับการจัดสร้างโดยท่านเจ้าอาวาส เพื่อรวบรวมพระเครื่อง พระบูชาหลากหลายรุ่นและวัตถุโบราณต่างๆ ที่ขุดได้จากกรุวัดน้อยซึ่งเป็นวัดร้าง อีกส่วนหนึ่งเป็นของสะสมของท่านพระครูและญาติโยมนำมาบริจาค เพื่อเก็บรักษาไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป นำท่านเดินทางสู่ ตัวเมืองเชียงใหม่ |
16.00 น. | ถึง ตัวเมืองเชียงใหม่ นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยคำ ขอพรพระทันใจ ชมวิวเมืองเชียงใหม วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญอีกวัดหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำยังมีลานชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ ที่สวยงามดั่งสวรรค์บนดินได้อีกจุดหนึ่งนอกจากที่ลานชมวิววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และนอกจากนี้ยามค่ำคืนเมื่อมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยคำจะเห็นองค์พระธาตุเหลืองอร่ามสว่างไสว งดงามยิ่งนัก |
18.30 น. | บริการอาหารค่ำ (8) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางกลับที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย ที่พักระดับมาตรฐาน ห้องละ 2-3 ท่าน (แอร์ + ทีวี + น้ำอุ่น) |
วันที่ 5 | ม่อนแจ่ม - วัดสันป่ายางหลวง - วัดพระธาตุหริภุญชัย - กาดทุ่งเกวียน - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
07.00 น. | บริการอาหารเช้า (9) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหาร เก็บสัมภาระเรียบร้อย Check Out นำท่านเดินทางสู่ ดอยม่อนแจ่ม โครงการหลวงหนองหอย ท่านจะได้สัมผัสธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โอบกอดด้วยกลิ่นไอหมอก ดอกไม้นานาชนิด ทิวเขาสลับซับซ้อนที่ม่อนแจ่ม ชมทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติบนดอยม่อนแจ่ม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จ.ลำพูน |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน (10) ณ ร้านอาหาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางไปวัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร สักการะพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก นำท่านเดินทางไปยัง วัดสันป่ายางหลวง เป็นวัดที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย วัดสันป่ายางหลวง ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงามโดยเฉพาะวิหารพระโขงเขียวมีการแกะสลักละลายปูนปั้นที่สร้างไว้ในพระวิหารอย่างละเอียดและวิจิตรสวยงามยิ่งแม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคา ด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง รวมทั้งเสาพระวิหารก็จะมีลายแกะสลักลงรักปิดทองไว้ แม้ถึงบ้านประตู-หน้าต่างทุกบาน วิหารพระโขงเขียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 เป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง พระนามเต็มของ พระเขียว คือ พระพุทธอัญญรัตน มหานทีศรีหริภุญชัย ซึ่งเหมือนพระพุทธศีศากยโคดม องค์ปัจจุบัน และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ด้านล่างพระโขงเขียว คือ พระพุทธเมตไตรจำลองมาจากพุทธคยาตอนที่พระพุทธเจ้าโคตรมะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำท่านออกเดินทางสู่ จ.ลำปาง เดินทางกลับ กรุงเทพฯ |
17.30 น. | บริการอาหารเย็น (11) ณ ร้านอาหาร |
24.00 น. | เดินทางถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel