Double Enjoy ภูมิใจเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว
"เหนือสุดในสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง"
เชียงราย - ไร่ชาฉุยฟง - พิพิธภัณฑ์บ้านดํา - วัดห้วยปลากั้ง - วัดร่องเสือเต้น - วัดร่องขุ่น -
ไร่บุญรอด - วัดแสงแก้วโพธิญาณ - เชียงใหม่ - พระธาตุดอยคำ - ม่อนแจ่ม -
วัดสันป่ายางหลวง - วัดพระธาตุหริภุญชัย 4 วัน 2 คืน
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - เชียงราย |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
19.30 น. | จุดนัดพบ : Big C Extra ลาดพร้าว ซอย 7 (คลิกดูแผนที่) ออกเดินทางด้วย รถตู้ปรับอากาศ VIP รุ่นใหม่ มุ่งหน้าสู่ จ.เชียงราย |
20.00 น. | ล้อหมุน !! หากมาช้าเกินกว่านี้ ท่านจะตกทริป และไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ได้ทั้งสิ้น |
วันที่ 2 | จ.เชียงราย - ไร่ชาฉุยฟง - พิพิธภัณฑ์บ้านดํา - วัดห้วยปลากั้ง - วัดร่องเสือเต้น |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
06.30 น. | เดินทางถึง จ.เชียงราย แวะให้ทุกท่านทำภารกิจส่วนตัว บริการอาหารเช้า (1) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่ ไร่ชาฉุยฟง เป็นแหล่งปลูกชาชั้นดี ของ บริษัท ฉุยฟงที จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตใบชารายใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงราย และเป็นสถานที่ถ่ายทำละครหลายเรื่อง อาทิเช่น เรื่องรักออกอากาศ เรื่องแววมยุรา ทางช่อง 3 และเรื่องชิงนาง ทางช่อง 7 นอกจากนี้ยังมีโฆษณาต่างๆ ทั้งรายการทีวีหลายรายการที่มาถ่ายทำที่ ไร่ชาฉุยฟ่ง จึงทำให้ ไร่ชาฉุยฟ่ง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น อิสระเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ตัวจังหวัดเชียงราย |
10.00 น. | นำท่านชม พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สถานที่รวบรวมจิตรกรรม ปฏิมากรรม ของ อ.ถวัลย์ ดัชนี พิพิธภัณฑ์บ้านดำ สร้างขึ้นโดย อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ที่มีฝีมือทางด้าน จิตรกรรม ปฏิมากรรม ได้สร้างงานด้านศิลปะไว้มากมาย ทั้งทางด้านภาพเขียน และ ด้านปฏิมากรรม หลายชิ้น ลักษณะ ของบ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้าน ศิลปะแบบล้านนา ทุกหลังทาด้วยสีดำ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “บ้านดำ” และยังเป็นสีที่ อ. ถวัลย์โปรดปราน อีกด้วย ในบ้านแต่ละหลังจะประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีลวดลายงดงาม นอกจากไม้แกะสลักแล้วยังประดับด้วยเขาสัตว์ เช่น เขาควาย เขากวาง และยังมีกระดูกสัตว์ เช่น กระดูกช้าง เป็นต้น |
11.00 น. | นำท่านเดินทางไปยัง วัดห้วยปลากั้ง เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ที่สวยงาม วัดห้วยปลากั้ง ตั้งอยู่บนเขา และมีเนินเขารายรอบวัด สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ "พบโชคธรรมเจดีย์" ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงถึง 9 ชั้น รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา หลังคาสีแดงมีรูปปั้นมังกรทอดยาวทั้งสองข้างบันได ล้อมรอบด้วยเจดีย์ เล็กๆ 12 ราศี วัดห้วยปลากั้งเป็นวัดซึ่งชาวบ้านนับถือและเชื่อกันว่าหากใครได้มาเยือนจะหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ภายในเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปและพระอรหันต์ต่างๆ ภายในเจดีย์เป็นที่ประดิษฐาน เจ้าแม่กวนอิมแกะสลักจากไม้จันหอมองค์ใหญ่ สาเหตุ ที่เจดีย์ 9 ชั้นนี้ มีชื่อว่า พบโชคธรรมเจดีย์ เนื่องด้วยวัดห้วยปลากั้งแห่งนี้เป็นวัดร้างมาตั้งแต่โบราณกาล ไม่ทราบประวัติการสร้าง แน่ชัด ต่อมาพระอาจารย์พบโชค ติสสะวังโส ได้บูรณะและก่อสร้างถาวรวัตถุขึ้นจำนวนมากจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจ ของชาวเชียงรายอีกครั้ง |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน (2) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางสู่ วัดร่องเสือเต้น มีความโดดเด่นด้วย พระอุโบสถโทนสีฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงาม มีความวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก วัดร่องเสือเต้น ถือเป็นวัดเด่นแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงราย ด้านหน้าทางขึ้นพระอุโบสถมีงานปูนปั้นรูปพญานาคคู่ตัวใหญ่ศิลปะไทยประยุกต์ นอกจากนี้งานปูนปั้นโดยรอบพระอุโบสถ ก็ทำได้อย่างสวยงามในผลงานระดับพรีเมี่ยม ทำให้วัดร่องเสือเต้นแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมความงดงามกันเป็นจำนวนมาก ศิลปะที่ใช้ก่อสร้างวัดร่องเสือเต้น เรียกว่าเป็นศิลปะประยุกต์ ซึ่ง "สล่านก" ช่างผู้ดำเนินการสร้าง ได้ศึกษาร่ำเรียนมาตั้งแต่อยู่กับอาจารย์เฉลิมชัย และเคยเข้าไปทำงานที่วัดร่องขุ่น โดยจะสังเกตเห็นได้จากลวดลายต่างๆ ที่พลิ้วไหวนั้น ล้วนแต่เรียนรู้มาจากผลงานของอาจารย์ แต่ของอาจารย์เฉลิมชัยจะใช้โทนสีขาวและมีการใช้กระจก แต่ของสล่านกดัดแปลงมาเป็นการใช้โทนสีฟ้าแทน เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ เอ็มเรสซิเด้นท์โฮเทล หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน เก็บสัมภาระ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
18.30 น. | บริการอาหารเย็น (3) ณ ร้านอาหาร ***ถนนคนเดินเชียงราย หรือ กาดเจียงฮายรำลึก จะมีทุกวันเสาร์ บริเวณถนนธนาลัยสุดสาย ใจกลางเมืองเชียงราย ถนนคนเดินที่นี่ถือว่าคึกคักสุดๆ เพราะเต็มไปด้วยสินค้าแฮนด์เมด มีของตกแต่งบ้าน ของพื้นเมือง ของที่ระลึกวางขายมากมายยาวเหยียด และไฮไลท์ของที่นี่ไม่เหมือนใคร คือ จะมีลานไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวมาเต้นรำวงกัน ซึ่งเราจะเห็นคนเฒ่า คนแก่ มาเต้น ดูแล้วชวนให้นึกถึงวันวานเสียจริง เปิดตั้งแต่เวลา 16.00 น.-24.00น (เฉพาะวันเสาร์) |
วันที่ 3 | วัดร่องขุ่น - ไร่บุญรอด - วัดแสงแก้วโพธิญาณ - เชียงใหม่ - พระธาตุดอยคำ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
06.30 น. | บริการอาหารเช้า (4) ณ ห้องอาหารของที่พัก |
08.00 น. | นำท่านไปชมความงามของ วัดร่องขุ่น วัดที่มีความสวยงามโดดเด่น สร้างโดย จินตนาการของ อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดัง จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงาม มากแห่งหนึ่ง ให้ท่านได้สักการะพระพุทธรูปภายใน พระอุโบสถ นำท่านเดินทางไปยัง ไร่บุญรอด ชมแปลงปลูกพืชหลากหลายชนิดตามความเหมาะสมกับสภาพดิน ทั้งไม้ผล อาทิ พุทรา มะเฟือง สตอเบอร์รี่ มะเขือเทศ ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง กระท้อน พืชสวนมีชาพันธุ์อู่หลง มะนาว หม่อน ส่วนพื้นที่ราบจะปลูกพืชไร่ที่มีชื่อเสียง เช่น ข้าวบาร์เลย์ และข้าว และพืชผัก เช่น บร็อกโคลี่ ฟาร์มเห็ดหอม และการทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงวัวนม เป็นต้นรวมทั้งแปลงเกษตรผสมผสาน และพื้นที่จัดสวนดอกไม้ นานาพรรณ อิสระเก็บภาพประทับใจ ณ จุดต่างๆ (นั่งรถรางที่ทางไร่บุญรอดจัดไว้บริการโดยรถรางจะจอดเป็นจุดๆ พร้อมเจ้าหน้าที่ของทางไร่บุญรอดอธิบายข้อมูล) |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน (5) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางสู่ วัดแสงแก้วโพธิญาณ พุทธสถานที่สำคัญแห่งยุคที่เกิดขึ้นใหม่ในดินแดนล้านนาแห่งนี้ วัดแสงแก้วโพธิญาณ เป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านป่าตึงและพุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาตั้งแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน ความหมายของชื่อ วัดแสงแก้วโพธิญาณคำว่า “แสงแก้ว” หมายถึงแสงอันสว่างไสวราวกับดวงแก้วที่เปล่งประกายออกจากดอกบัว และสัญลักษณ์ดอกบัวที่พบในนิมิตก็อุปมาได้ดั่ง “พระโพธิญาณ” อันเป็นความรู้แจ้งสูงสุด หรือ “ความรู้ในการตรัสรู้” นั่นเอง ส่วนคำว่า “โพธิญาณ” มาจากคำว่า โพธิ แปลว่า ตรัสรู้ และคำว่า ญาณ แปลว่า หยั่งรู้ คำว่า “โพธิญาณ” จึงแปลให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า “ความรู้ในการตรัสรู้” ซึ่งก็คือ “ตรัสรู้ความรู้ในสัจจธรรม” ผู้ที่ให้กำเนิดวัดแสงแก้วโพธิญาณ คือ "ครูบาอริยชาติ" ท่านเป็นผู้ที่มีมุมมองเกี่ยวกับธรรมะที่เป็นไปอย่างละเอียดลึกซึ้งมาก ซึ่งได้ถูกถ่ายทอดออกมาสู่ผลงานชิ้นสำคัญจนเกิดเป็นวัดแสงแก้วโพธิญาณแห่งนี้ นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่และวิจิตรงดงามของสิ่งก่อสร้างและศาสนวัตถุต่างๆ แล้ว ครูบาอริยชาติยังได้สอดแทรกนัยสำคัญอันเป็น “สัจธรรม” แห่งชีวิตตามหลักพระพุทธศาสนาเอาไว้ในศิลปะต่างๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้เพือเป็นพุทธานุสสติ หรือเป็นสิ่งเตือนใจให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่มาเยี่ยมเยือนได้พึงระลึกไว้นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ เมื่อพิจารณาในด้านโครงสร้างหรือรูปแบบในการก่อสร้างแล้ว จะเห็นว่าการออกแบบและตกแต่งวัดแห่งนี้ นอกจากแสดงออกถึงความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวพุทธในดินแดนล้านนาอย่างชัดเจนแล้ว การแบ่งพื้นที่ใช้สอยตลอดจนแผนผังรูปแบบศาสนวัตถุและเสนาสนะต่างๆ ล้วนมีนัยที่สื่อความหมายในเชิงธรรมะและแฝงหลัก“พุทธธรรม” อันลึกซึ้งเอาไว้ในแทบทุกองค์ประกอบของผังวัด นำท่านเดินทางสู่ ตัวเมืองเชียงใหม่ |
16.00 น. | เดินทางถึง ตัวเมืองเชียงใหม่ นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยคำ ขอพรพระทันใจ ชมวิวเมืองเชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญอีกวัดหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำยังมีลานชมวิว ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองเชียงใหม่ ที่สวยงามดั่งสวรรค์บนดินได้อีกจุดหนึ่ง นอกจากที่ลานชมวิววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และนอกจากนี้ยามค่ำคืนเมื่อมองขึ้นไปบนพระธาตุดอยคำจะเห็นองค์พระธาตุเหลืองอร่ามสว่างไสว งดงามยิ่งนัก นำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรมเอส48 หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน เก็บสัมภาระ อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
18.30 น. | บริการอาหารค่ำ (6) ณ ร้านอาหาร นำชม ตลาดไนท์บาซ่าร์ / ถนนคนเดิน เลือกซื้อสินค้า และพักผ่อนตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับที่พัก อิสระพักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่ 4 | ม่อนแจ่ม - พระธาตุดอยสุเทพ - วัดสันป่ายางหลวง - วัดพระธาตุหริภุญชัย - กาดทุ่งเกวียน - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
06.00 น. | บริการอาหารเช้า (7) ณ ห้องอาหารของที่พัก หลังอาหาร เก็บสัมภาระเรียบร้อย Check Out นำท่านเดินทางสู่ ดอยม่อนแจ่ม ท่านจะได้สัมผัสธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ โอบกอดด้วยกลิ่นไอหมอก ดอกไม้นานาชนิด ทิวเขาสลับซับซ้อนที่ม่อนแจ่ม ชมทัศนียภาพที่สวยงามของธรรมชาติบนดอยม่อนแจ่ม จากนั้นเดินทางไป พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุดอยสุเทพ เป็นวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดในเชียงใหม่ ซึ่งมีความโดดเด่นเริ่มตั้งแต่ทางขึ้นพระธาตุเป็นบรรไดนาค 7 เศียร ก่อปูน ภายในวัดจะพบเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูง ย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยม ปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ซึ่งก่อสร้างตามศิลปะล้านนา อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวของเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน |
12.00 น. | บริการอาหารกลางวัน (8) ณ ร้านอาหาร นำท่านเดินทางไป วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร สักการะพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีระกา วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งอดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก นำท่านเดินทางไปยัง วัดสันป่ายางหลวง เป็นวัดที่ติด 1 ใน 5 วัดที่สวยที่สุดในประเทศไทย วัดสันป่ายางหลวง ภายในวัดมีการแกะสลักลวดลายปูนปั้นไว้อย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะวิหารพระโขงเขียว มีการแกะสลักละลายปูนปั้นที่สร้างไว้ในพระวิหารอย่างละเอียดและวิจิตรสวยงามยิ่งแม้กระทั่งมุมหน้าจั่ว เชิงเพดานหลังคาด้านหน้า ด้านข้าง และ ด้านหลัง รวมทั้งเสาพระวิหารก็จะมีลายแกะสลักลงรักปิดทองไว้ แม้ถึงบ้านประตู-หน้าต่าง ทุกบาน วิหารพระโขงเขียว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2548 เป็นที่ประดิษฐานพระหยกเขียวซึ่งนำมาจากแม่น้ำโขง พระนามเต็มของ พระเขียว คือ พระพุทธอัญญรัตน มหานทีศรีหริภุญชัย ซึ่งเหมือนพระพุทธศีศากยโคดม องค์ปัจจุบัน และมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ด้านล่างพระโขงเขียว คือ พระพุทธเมตไตรจำลองมาจากพุทธคยาตอนที่พระพุทธเจ้าโคตรมะบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำท่านออกเดินทางสู่ จ.ลำปาง แวะซื้อของฝาก ณ กาดทุ่งเกวียน นำท่านเดินทางกลับ กรุงเทพฯ |
18.00 น. | บริการอาหารเย็น (9) ณ ร้านอาหาร หลังอาหารออกเดินทางกลับ ถึง กรุงเทพฯ ราวๆ ตี 2 โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
**หมายเหตุ: | โปรแกรมและราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทางบริษัทจะถือผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel