ศรีลังกา
เกาะรูปหยดน้ำในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้ จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการ เพราะมีมนตร์สเน่ห์เหลือล้นรอให้คนทั้งโลกได้ไปสัมผัส
โคลัมโบ พ้นนาวาลา แคนดี้ นูวาราเอลิยา มิริสซา กอลล์
วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - โคลอมโบ - พินนาวาลา - แคนดี้ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
05.00 น. | ต้อนรับท่านผู้มีเกียรติที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า 10 โรว์ W เคาน์เตอร์สายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารและสัมภาระของท่านก่อนขึ้นเครื่อง (ให้ท่านนำพาสปอร์ตเล่มปัจจุบันติดตัวไปด้วย) |
07.45 น. | ออกเดินทางโดย สายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ UL403 (บริการอาหารเช้าและเครื่องดื่มบนเครื่อง) ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 20 นาที เวลาที่ศรีลังกา ช้ากว่า เมืองไทย 1.30 ชั่วโมง |
09.35 น. | เดินทางถึง สนามบินนานาชาติบันดารานายเก (Bandaranaike) ประเทศศรีลังกา (Sri Lanka) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เป็นประเทศเกาะในมหาสมุทรอินเดียใกล้ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของอนุทวีปอินเดีย ชื่อในอดีตได้แก่ ลงกา ลังกาทวีป สิงหลทวีป และ ซีลอน ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้ในสมัยอาณานิคมจนถึง พ.ศ. 2517 และเป็นชื่อที่ยังคงใช้ในบางโอกาสปัจจุบันคือ ศรีลังกา เป็นประเทศที่มีความเจริญทางด้านศาสนาวัฒนธรรม และมีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยมาช้านาน ดังนั้นเราจึงสามารถพบเห็นศิลปะทางโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามากมาย หลังผ่านขั้นตอนสนามบินและศุลกากรแล้ว ให้ท่านได้แลกเงินรูปีศรีลังกาที่สนามบิน นำท่านชม ศูนย์เลี้ยงช้าง Pinnawala Elephant Orphanage เป็นศูนย์รับเลี้ยงช้าง แห่งเมืองรัมบูกาน่า ในสมัยก่อนผู้คนชาวอังกฤษชอบลักลอบเข้ามาทำร้ายช้างในเมืองนี้ เดิมชาวเมืองและคนในประเทศศรีลังกาเป็นคนรักช้างมากและไม่ชอบเห็นช้างถูกทำร้ายจนพิการ จึงได้นำช้าง 2 เชือกไปเลี้ยงไว้โดยการให้อาหารวันละห้ามื้อและดูแลเป็นอย่างดี เมื่อช้างทั้งสองเชือกเติบใหญ่จนสามารถดูแลตัวเองได้จึงปล่อยมันเข้าป่าไป แต่ช้าง 2 เชือกนั้นไม่ไปไหนและกลับมาหาชาวเมืองผู้เลี้ยงดูมันจากการที่เลี้ยงดีและไม่ขาดแคลนอาหาร เพราะสงสารว่าถ้ารับเลี้ยงช้าง 2 เชือกต่อไปอาจจะไม่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ชาวเมืองผู้เลี้ยงดูจึงออกค้นหาสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ จนมาพบกับ Pinnawala Elephant Orphanage แห่งนี้ ที่ๆ รวบรวมช้าง 2 เชือกและช้างตัวอื่นๆ ทั่วประเทศศรีลังกา ปัจจุบันที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถมาชมช้างได้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางไป แคนดี้ (Kandy) ตั้งอยู่บนยอดเขา สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 500 เมตร เป็นเมืองมรดกโลก เมืองนี้เคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนการยกดินแดนให้กับจักรวรรดิอังกฤษใน ค.ศ. 1815หลังจากที่ได้ต่อต้านชาวโปรตุเกส และชาวดัตช์มานานถึงสามศตวรรษ เมืองแคนดี้ เดิมเรียกว่า ‘ศิริวัฒนานคร’ หรือ ‘สิงหขันธนคร’ ชาวเมืองสิงหลเรียก ‘ขันธะ’ หมายถึงกองหินหรือภูเขา เมื่อต่างชาติเข้าครองเมือง ขันธะ จึงออกสำเนียงตามฝรั่งว่า แคนดิ หรือ แคนดี้นั่นเอง ชมตัวเมืองแคนดี้ ซึ่งมองเห็นทะเลสาบ และตัวเมืองแคนดี้อันสวยงามอยู่เบื้องล่าง เช่น พระราชวังเก่า, มหาวิทยาลัยเมืองแคนดี้ (Kandy University) อันเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดใน ศรีลังกาตั้งอยู่นอกตัวเมืองแคนดี้ มีสถานที่กว้างขวางตั้งอยู่ในบริเวณเนินเขาเตี้ย ๆ มีดอกไม้และไม้ยืนต้นเป็นธรรมชาติที่สวยงาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีการเรียนภาษาบาลีในระดับปริญญาเอกด้วย นำท่านชม ระบำพื้นเมืองศรีลังกา เป็นการผสมผสานกันระหว่างระบำพื้นเมืองแบบดั้งเดิมกับระบำร่วมสมัย ซึ่งหาชมทั่วๆ ไปได้ยาก ลีลาท่วงท่าของระบำสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณของความเป็นศรีลังกา อีกทั้งระบำศรีลังกายังแสดงถึงความเป็นศิลปะที่สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงยุคชนเผ่า ขณะเดียวกันก็ยังคงมีการสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันด้วย ลักษณะเอกลักษณ์เด่นของระบำศรีลังกา คือ จะโลดโผน ว่องไว มีการกระทืบเท้าและเร้าใจ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | Earls Regent Kandy หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน |
วันที่ 2 | แคนดี้ - นูวาราเอลิยา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม จากนั้นนำท่าน ชมสวนพฤกษศาสตร์ เพลาดินิยา (Peradeniya Botanical Garden) ซึ่งพระเจ้าวิกรมพาหุที่ 3 สร้างเป็นอุทยานหลวง เมื่อ พ.ศ.1914 มีพันธุ์ไม้มากกว่า 4,000 ชนิดบนเนื้อที่ 375 ไร่ นำท่านสู่ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth) กรุณาแต่งกายชุดขาวสุภาพ กราบนมัสการพระบรมสารีริกธาตุพระทันตธาตุเขี้ยวแก้ว (Sacred Tooth Relic Temple) อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประดิษฐานอยู่ ภายในผอบและผอบอยู่ในสถูปอีก 7 ชั้น เป็นทองคำทุก โดยปกติแล้วผู้ที่มาบูชาพระเขี้ยวแก้วจะถวายดอกไม้และบูชาอยู่เพียงชั้นนอกเท่านั้นทางบริษัทฯ จะทำเรื่องเพื่อขอเข้าสักการะในห้องด้านใน ที่เก็บพระสถูปทองคำที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วเป็นกรณีพิเศษ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวันที่ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นูวารา เอลิยา...หรือที่เรียกกันว่า “Little England” ที่นี่เคยเป็นเมืองตากอากาศของทหารอังกฤษในยุคอาณานิคม อาคารบ้านเรือนของเมืองนี้ออกแบบในสไตล์วิคตอเรีย สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้หนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | Araliya Red หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | นูวาราเอลิยา - เอลล่า – รถไฟเก้าโค้ง - มิริสซา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เช็คเอ้าท์ ออกเดินทางจากโรงแรม ไป เมืองเอลล่า (Ella เดินทางประมาณ 2:30 ชั่วโมง) แล้วต่อรถตุ๊กตุ๊กไปที่ จุดชมวิวสะพาน 9 โค้ง กลางหุบเขา เป็นจุดชมวิวรถไฟที่คลาสสิคที่สุด สวยที่สุดของศรีลังกา จากนั้นให้ท่านยืนโดยสารรถไฟจากสถานีดีโมดาร่า (Demodara station) ไปสถานีเอลล่า (Ella Station) ซึ่งเป็นช่วงรถไฟที่ผ่านวิวที่สวยที่สุด ใช้เวลาอยู่บนรถไฟประมาณ 15 นาที |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางไป มิริสซา (Mirrisa) เมืองที่อยู่ใต้สุดของประเทศศรีลังกา มีกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ Sea Safari ที่โด่งดังมากคือ การชมโลมาและวาฬสีน้ำเงิน (Whale Watching) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | Mandara Resort Mirrisa หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | มิริสซา - ล่องเรือดูวาฬ - กอลล์ - เบนโตต้า |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบกล่อง ระหว่างเดินทาง ไฮไลท์ของทริปนี้!! นำท่านไป ล่องเรือชมวาฬสีน้ำเงิน (Whale Watching) ใช้เวลาราว 2- 3 ชั่วโมง ในมหาสมุทรอินเดีย (แต่ก็ไม่สามารถคาดเดาการมาของวาฬได้) วาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวประมาณ 30 กว่าเมตร เมื่อโตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 100 - 200 ตัน นอกจากนี้ยังมีโอกาสจะสามารถพบโลมาได้อีกด้วย จากนั้น นำท่านเดินทางกลับที่พัก ให้ท่านได้อาบน้ำ แล้วเช็คเอ้าท์ |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางไป เมืองกอกกลา (Koggala) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เป็นเมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของศรีลังกา ใกล้กับเมืองกอลล์ เป็นจุดหมายปลายทางที่ ค่อนข้างเล็กและเงียบสงบ ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพอันงดงาม ชายหาดที่บริสุทธิ์ และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ชมวิธีชาวประมงดั้งเดิมแบบศรีลังกา “Stilt fishermen” หรือชาวประมงค้ำถ่อ ที่ไม่เหมือนใครในโลก ซึ่งจะหาปลาจากไม้ค้ำถ่อ โดยเป็นประเพณีเก่าแก่หลายศตวรรษและเป็นเอกลักษณ์แล้ว นำท่านถ่ายรูปมุมสุดชิค ณ Coconut Hill จุดถ่ายรูปยอดฮิตของเหล่าบล็อกเกอร์ที่มีทั้งหน้าผา ต้นมะพร้าวและทะเล จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลล์ (Galle) มรดกโลกที่เป็นเมืองชายทะเลอยู่ทางใต้ห่างจากกรุงโคลัมโบ 115 กิโลเมตร เป็นเมืองท่าที่สาคัญของศรีลังกา เคยเป็นศูนย์กลางการบริหารของอาณานิคมดัทช์ในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ถึงปลายศตวรรษที่ 18 ให้ท่านได้ นั่งรถสามล้อ ชมเขตมรดกโลกเมืองเก่าของเมืองกอลล์ (30 นาที) ที่มีบ้านเรือนแบบตะวันตกโบราณ แล้วแวะถ่ายรูปสวยๆ ชม The Dutch Fort หอนาฬิกา ประภาคารโบราณ ป้อมปืนใหญ่ ซึ่งถูกสร้างโดยชาวดัตส์ เมื่อศตวรรษที่ 17 และปัจจุบันหอนาฬิกาได้มีการบูรณะและซ่อมแซมให้ดูใหม่และทันสมัยขึ้น…เดินทางสู่ เบนโตต้า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม |
ที่พัก | The Palms Hotel, Beruwela หรือโรงแรมในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | เบนโตต้า - โคลอมโบ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โคลอมโบ (Colombo) เมืองพาณิชย์ที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ตึกระฟ้าตั้งตระหง่านขึ้นทัดเทียมกับสิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม ผสมผสานด้วยความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ นำท่านชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโคลัมโบ (Colombo National Museum) พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 1877 และอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ของสะสมของพิพิธภัณฑ์มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของศรีลังกา |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม เมืองโคลอมโบ ผ่านชมย่านการค้า สถานที่สำคัญต่างๆ หลังจากนั้น ก่อนเดินทางกลับ นำท่านไป ห้างโอเดลช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ ศูนย์รวมแฟชั่นชั้นนำของศรีลังกา แหล่งช้อปปิ้งสินค้าทันสมัยชื่อดังของโคลอมโบ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร...หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบิน |
วันที่ 6 | โคลอมโบ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
01.15 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินศรีลังกันแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ UL402 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 35 นาที |
06.20 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ (ขาเข้าชั้น 2) โดยสวัสดิภาพ |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel