ทัวร์ยุโรป อิตาลี โดโลไมท์ สวิตเซอร์แลนด์
มิลาน (อิตาลี) | เบอร์กาโม | เซอร์มิโอเน่ | เวนิส | อุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ (อิตาลี) | ปาสโซ คอร์ติน่า ดอมปาซโว่ ดิ จาว | ยอดเขา Ra Gusela | ทะเลสาบมิซูรีน่า | ทะเลสาบเบรียส | บริกเซ่น | ออร์ติเซ่ | ทะเลสาบ Carezza | เมืองโบซาโน่ วาลด์ เด ฟุเน่ | โบสถ์ Santa Maddalena | โบสถ์ San Giovanni | ทิราโน่ | นั่งรถไฟสาย เบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรส | เซนต์โมริตส์ | ดาวอส | แรพเพอร์ชวิล | ซูริค
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE945-004 | 29 ม.ค.-06 ก.พ. 68 | Thai Airways (TG) | 139,900 | จองด่วน |
DE945-005 | 12-20 ก.พ. 68 | Thai Airways (TG) | 139,900 | จองด่วน |
DE945-006 | 06-14 มี.ค. 68 | Thai Airways (TG) | 139,900 | จองด่วน |
DE945-007 | 21-29 มี.ค. 68 | Thai Airways (TG) | 139,900 | จองด่วน |
DE945-002 | 08-16 เม.ย. 68 | Thai Airways (TG) | 149,900 | จองด่วน |
DE945-003 | 13-21 เม.ย. 68 | Thai Airways (TG) | 149,900 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
21.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | มิลาน (อิตาลี) - เบอร์กาโม - เซอร์มิโอเน่ - เวนิส |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
00.35 น. | ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (บินตรง) โดย สายการบินไทย เที่ยวบิน TG 924 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.35 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และ สายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่เมืองมิวนิค |
07.10 น. | เดินทางถึง สนามบินมัลเพนซา (MXP) ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์กาโม (Bergamo) (ระยะทาง 62 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง) หนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy) ซึ่งในอดีตเคยเป็นถิ่นฐานของชนเผ่าเซลติกส์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในเมืองของอิตาลีเพียงไม่กี่แห่งที่รอดพ้นจากภัยพินาศครั้งใหญ่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นำท่านชม จัตุรัสเวคเคีย (Piazza Vecchia) ตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่า ซึ่งล้อมรอบไปด้วยกลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรมยุคกลางอันมีเสน่ห์ นำท่านเข้าชมวิหารซานตามาเรีย (Santa Maria Maggiore) วิหารยุคกลางศตวรรษที่ 11 ศูนย์รวมจิตใจของชาวเมือง ซึ่งสร้างเคียงคู่กับ วิหารคอลเลโอนี (Cappella Del Colleoni) ซึ่งโดดเด่นด้วยหอโดมแต่งแต้มไปด้วยหินอ่อนหลากสีสัน จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูเมืองเบอร์กาโม (Bergamo City Gate) อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของเมืองเบอร์กาโม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์มิโอเน (Sirmione) ) (ระยะทาง 86 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชม.) ตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมืองเล็กๆที่มากด้วยเสน่ห์ของอิตาลี เมืองที่ถูกล้อมรอบด้วยมหาสมุทรเป็นดั่งเมืองลอยน้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เพราะยังมีซากปรักหักพังของโบราณสถานหลายร้อยปีก่อนตั้งอยู่ที่นี่ โดยมีฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งคาบสมุทรเซอร์มิโอ” และยังเป็นดั่งดั่งเมืองเวนิสสอง เนื่องด้วยบ้านเมืองในเซอร์มิโอเนยังอยู่ท่ามกลางแหล่งน้ำและด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ดา (Garda) ที่มีความสวยงาม อดีตเคยเป็นเมืองที่มีผู้คนที่มีฐานะในยุคสมัยโรมันใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และปัจจุบันก็เป็นเมืองพักผ่อนริมทะเลสาบที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านสปา เพราะมีน้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณที่ช่วยในการรักษาเยียวยา เต็มไปด้วยแร่ธาตุที่บำรุงผิวพรรณและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นำท่านเดินเล่นในเบริเววณเมืองเก่า ถ่ายรูปกับ ปราสาทเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 500 ปี "THE SCALLGER OF SIRMIONE" ถูกสร้างขึ้นในปี 1277 และเมืองนี้เคยอยู่ในการปกครองของตระกูล SCALIGER จากนั้นนำท่านล่องเรือชมรอบเมือง เพื่อชมความงดงามเมืองตากอากาศแห่งนี้ ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวนิส (ระยะทาง 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.50 ชม) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Four Points by Sheraton Venice Mestre**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เวนิส - ปาซโว่ ดิ จาว - คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่าน นั่งเรือสู่เกาะเวนิส (Venice Isle) เมืองเวนิส ได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” (Queen of the Adriatic) เมืองแห่งสายน้ำ (City of water) เมืองแห่งสะพาน (City of bridges) เมืองแห่งแสงสว่าง (City of light) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองริมฝั่งสู่เกาะเวนิสซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับ จตุรัสเซนต์มาร์โคและพระราชวังดอจจ์ ศูนย์กลางของเกาะเวนิส ผ่านชมและแวะถ่ายรูปบริเวณสะพานถอนหายใจ (Ponte Dei Sospiri) ที่เชื่อมระหว่างพระราชวังโบราณกับเรือนจำโบราณ ซึ่งมีตำนานเล่ากล่าวถึงนักรักคาสโนว่าที่เคยถูกคุมขังในคุกแห่งนี้ จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์มาร์โค (San Marco Basilica) ซึ่งเป็นอาคารที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ อาหรับ โรมันเนสก์ เรอเนซองส์ เข้าไว้ด้วยกัน ในมหาวิหารนี้เชื่อว่าเป็นที่บรรจุศพของนักบุญเซนต์มาร์ก อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปโดยรอบบริเวณจตุรัสเซนต์มาร์โค หรือจะ เลือกชอปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่มีมากมายรายล้อมรอบจตุรัส ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Chanel, Louis Vuitton, Hermes, Tods, Prada และอื่นๆ อิสระให้ท่านได้ชอปปิ้งหรือเดินเล่น ณ เกาะเวนิสตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลาทางหัวหน้าทัวร์จะนัดท่านเจอ ณ จุดนัดพบ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางนั่งเรือกลับสู่ฝั่ง เวนิส เมสเตร้ จากนั้น นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่อุทยานแห่งชาติในเขตเทือกเขาโดโลไมท์ (Dolomites) เขตทิโรล ของประเทศอิตาลี เป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวของอิตาลี ที่องค์กรยูเนสโกรับรองให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ (Unesco) โดโลไมท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ที่พาดผ่านตอนเหนือของประเทศอิตาลี หรืออิตาเลี่ยนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์มียอดเขาที่มีลักษณะประหลาด เป็นกรวยสูงตระหง่าน ยอดแหลมชันราวซี่ฟันเลื่อยหรือฟันปลาไม่เหมือนยอดเขาอื่นใด ความโดดเด่นของ โดโลไมท์(Dolomites) คือ ยอดเขาสูง เป็นเขาหินปูนผนังแนวตั้งสีเทาขาว ภูเขาแต่ละลูกมีรูปร่างที่แตกต่างแปลกตา และให้สีสันที่แตกต่างกันยามเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ในยามพระอาทิตย์ ขึ้น-ตก เกิดเห็นยอดเขาเป็นสีชมพูจางๆ ที่ชาวอิตาลีเรียกความมหัศจรรย์นี้ว่า "Enrosadira" หมายถึง turn into pink บางส่วนเห็นเป็นสีส้มผสมแดง สีน้ำตาล ตัดกับสีของท้องฟ้าในช่วงเวลาที่ต่างกัน นำท่านแวะถ่ายรูป ปาซโว่ ดิ จาว Passo di Giau (ระยะทาง 166 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) นำท่าน ถ่ายรูปกับ Ra Gusela ภูเขารูปทรงพีระมิด เหนือทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (Cortina D’Ampezzo) (ระยะทาง 30 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองศูนย์กลางด้านตะวันออกของโดโลไมท์ เมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ เมืองนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,219 เมตร เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูงและบรรดาหนุ่มสาว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองเลือกซื้อของที่ระลึกหรือเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Faloria Mountain Spa Resort/ Ambra Cortina Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่– ทะเลสาบมิซูริน่า - ทะเลสาบเบรียส - บริกเซ่น - ออร์ติเซ่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบ มิซูลิน่า (Misurina Lake) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในคาดอร์ (Cadore) แห่ง อิตาลี โดยอยู่ในระดับความสูง 1,754 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะของทะเลสาบมิซูรีน่ามีความยาว 2.6 กิโลเมตร และ มีความลึกที่สุดอยู่ที่ 5 กิโลเมตร ทะเลสาบมิซูรีน่ามีธรรมชาติอันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ทั้งผืนน้ำที่สะท้อนกับหุบเขา ขนาดใหญ่เป็นดั่งภาพพื้นหลังให้วิวทิวทัศน์สมบูรณ์ของหุบเขาโดโลไมท์ที่มีความงดงามดุจในเทพนิยาย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบ (Lake Antorno) ทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิซูริน่าเพียง 2 กม. มีฉากหลังเป็นยอดเขา Tre Cime เป็นจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน ให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส (Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) (ระยะทาง 37 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ในเขตอุทยานแห่งชาติ Fanes Sennes Braies เขตป่าสงวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเทือกเขาโดโลไมท์ ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unseco) อีกด้วย ให้ท่านเก็บถ่ายภาพความงดงามของทะเลสาบ เชื่อกันว่าที่นี่เป็นประตูสู่ดินแดนใต้พิภพตามตำนาน ทุกๆร้อยปีในคืนพระจันทร์เต็มดวงเจ้าหญิงในตำนานจะออกมาจากเนินเขา Sass Dia Porta ภาษาลาตินหมายถึง “ประตูบนภูเขา” ทรงพายเรือรอบๆทะเลสาบ พร้อมส่งเสียงแตรที่ดังกึกก้องไปทั่ว เทือกเขาโดโลไมท์บ้างก็ว่า ครั้งหนึ่งเคยมีถ้ำตรงเนินเขาก่อนจะมีหินถล่มปิดปากถ้ำ เหมือนจะฝังเจ้าหญิงไว้ขัดขวางไม่ให้คืนความรุ่งโรจน์แก่อาณาจักรของพระองค์ตลอดกาล ทะเลสาบ Braies ตั้งอยู่ริมขอบทางทิศเหนือของอุทยานมีทางเดินอย่างดีเป็นวงกลมรอบทะเลสาบ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ชุมชนวาลด์ เด ฟุเน่ (Val di funes) (ระยะทาง 41 กม. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) มหัศจรรย์ของดินแดนแห่งธรรมชาติกับยอดเขาแปลกตาอีกแห่งในโดโลไมท์ เป็นหมู่บ้านมรดกโลกของอิตาลี รายล้อมด้วยเทือกเขาสูง เป็นชุมชนเล็กๆทางภาคตะวันตกของอุทยานโดโลไมท์ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน โดยมีชื่อเสียงจากการมีวิวทิวทัศน์ที่สวยในเขต South Tyrol นำท่านถ่ายภาพกับโบสถ์ Santa Maddalena โบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองที่มีอายุกว่า 600 ปี โปสถ์ที่นิยมมาถ่ายภาพมากที่สุด ด้วย วิวทิวทัศน์ที่งดงาม มีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles (การเดินขึ้นไปถ่ายภาพความประทับใจ ท่านจะต้องเดินขึ้นเนินประมาณ 30 นาที ) อิสระให้ท่าถ่ายภาพตามอัธยาศัย นำท่านถ่ายภาพกับโบสถ์ San Giovanni โบสถ์เล็กๆ กลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มีฉากหลังเป็นเทือกเขา Odles ที่สวยงาม ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองออร์ติเซ่ (Ortisei) (ระยะทาง 33 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Genziana Ortisei Hotel/ Parkhotel Laurin / Hotel Greif **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 5 | ออร์ติเซ่ - ทะเลสาบ Carezza - เมืองโบซาโน่ -วาลด์ เด ฟุเน่ - โบสถ์ Santa Maddalena - โบสถ์ San Giovanni ออร์ติเซ่ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม ทะเลสาบ Carezza Lake หรืออีกชื่อคือ “Lec de ergobando” ทะเลสาบที่ได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวว่า Rainbow Lake ทะเลสาบสายรุ้ง (ระยะทาง 54 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตน้ำ ในทะเลสาบมีหลายเฉดสีตั้งแต่ เขียว,เทอร์ควอยซ์,ฟ้าและน้ำเงิน ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้ถูกเรียกว่า ทะเลสาบสายรุ้ง มีทิวทัศน์ที่งดงาม อันมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Latemar ตั้งอยู่สูง 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีความกว้างประมาณ 140 เมตร ยาว 300 เมตร น้ำในทะเลสาบมีความลึกตั้งเเต่ 6-22 เมตร ชื่นชมกับวิวทะเลสาบสีเขียวทองที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเขาสูงปลายแหลม สะท้อนสีสันหลากหลายของธรรมชาติ นำท่านเดินทางสู่เมืองโบลซาโน (Bolzano) (ระยะทาง 42 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำ เมืองหลวงของภูมิภาคไทโรลใต้ (South Tyrol) ที่นี่แม่น้ำ Talvera จะไหลลงไปในแม่น้ำ Israco และมารวมกันเป็นแม่น้ำ Adige เนินเขาที่เป็นป่า ทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและเทือกเขา Dolomites ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายภาพกับ มหาวิหารโบลซาโน (Duomo Bolzano) มหาวิหารใจกลาง Piazza Walther และสร้างขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 4 ในปีต่อ ๆ มามหาวิหารก็มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเข้ามาและได้รับการบูรณะ จุดเด่นของอาคารแบบกอธิคแห่งนี้คือหลังคากระเบื้องที่สวยงามหลังคานี้มีรูปแบบเพชรสีเขียวสีขาว และสีเหลือง โดดเด่นเหนืออาคารที่อยู่โดยรอบ นำท่านเดินสำรวจเมืองเก่า เดินเล่นชมจัตุรัสกลางของ Bolzano คือ Piazza Walther (Waltherplatz) ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งที่มีการจัดตลาดและเทศกาลต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งโบสถ์สำคัญของเมืองอีกด้วย อิสระให้ทานเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบ (Lake Antorno) ทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากทะเลสาบมิซูริน่าเพียง 2 กม. มีฉากหลังเป็นยอดเขา Tre Cime เป็นจุดถ่ายภาพที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน ให้ท่านเก็บภาพประทับใจตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบ มิซูลิน่า (Misurina Lake) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ทะเลสาบธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในคาดอร์ (Cadore) แห่ง อิตาลี โดยอยู่ในระดับความสูง 1,754 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะของทะเลสาบมิซูรีน่ามีความยาว 2.6 กิโลเมตร และ มีความลึกที่สุดอยู่ที่ 5 กิโลเมตร ทะเลสาบมิซูรีน่ามีธรรมชาติอันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ทั้งผืนน้ำที่สะท้อนกับหุบเขา ขนาดใหญ่เป็นดั่งภาพพื้นหลังให้วิวทิวทัศน์สมบูรณ์ของหุบเขาโดโลไมท์ที่มีความงดงามดุจในเทพนิยาย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (ระยะทาง 15 กม.ใช้ เวลา 25 นาที ) เมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน For Your Eye Only ได้รับการขนานนามว่าเป็น ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมท์ เมืองนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,219 เมตร เป็นสถานที่ตากอากาศตลอดปีของชนชั้นสูงและบรรดาหนุ่มสาว อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองเลือกซื้อของที่ระลึกหรือเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Genziana Ortisei Hotel/ Parkhotel Laurin / Hotel Greif **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 6 | ออร์ติเซ่ - ทิราโน่ - นั่งรถไฟสาย เบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรส - เซนต์โมริตส์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิราโน่ (Tirano) (ระยะทาง 200 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.) เมืองชายแดนเล็กๆ ระหว่างประเทศอิตาลีกับ สวิตเซอร์แลนด์ เมืองทิราโน่ เป็นเมืองชนบททั่วไปที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยรสชาติและวัฒนธรรมอันวิจิตรงดงาม ตลอดจนไวน์และอาหารรสเลิศ เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองเนื่องจากมีกำแพงที่สร้างขึ้นโดยลุดวิจ สฟอร์ซา หรือที่รู้จักกันในชื่อ อิล โมโร ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 เพื่อปกป้องเมือง ประตูเมืองทั้งสามแห่งยังคงมีอยู่ ได้แก่ ประตูบอร์มินา ประตูพอสเคียวินา (เพิ่งได้รับการบูรณะใหม่) และประตูมิลานีเซ เมือง Tirano เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในฐานะจุดเริ่มต้นของรถไฟสีแดง Bernina ที่โด่งดัง เมืองนี้มีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ตามธรรมชาติในใจกลางเทือกเขาแอลป์ระหว่างอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นจุดตัดที่มีความสำคัญอย่างมากตลอดหลายศตวรรษ ในสมัยโบราณมีชาวอีทรัสคัน ทิร์เรเนียน กอล และต่อมาก็มีชาวโรมันอาศัยอยู่ ซึ่งเชื่อกันว่าเมืองนี้มีชื่อตามชื่อปัจจุบัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านสัมผัสบรรยากาศ นั่งรถไฟสาย เบอร์นีน่า เอ็กซ์เพรส (Bernina Express) จากสถานี เมืองทิราโน่ มุ่งหน้าสู่สถานีปลายทาง St. Moritz ซึ่งเป็นรถไฟสายที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1910 สัมผัสประสบการณ์การเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง ผ่านสะพานกว่า 196 สะพาน และอุโมงค์กว่า 55 อุโมงค์ ไต่ระดับเป็นขั้นๆสู่ความสูงกว่า 2,253 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ชมความงามของ สะพานวงกลมบรูซิโอ ยาว 110 เมตร ลักษณะเป็นสะพานหิน 9 ซุ้มโค้ง คล้ายกับสะพานส่งน้ำโรมัน และสะพานลันด์วัสเซอร์ ตีวงโค้งลดระดับลงมาจากเชิงเข่าสู่พื้นราบ ชมความงามของขุนเขา สลับทุ่งหญ้า และหุบเขาสวิสแอลป์อันสวยงาม ซึ่งเส้นทางรถไฟสายนี้ได้รับการประกาศเป็นหนึ่งในมรดกโลกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อปี ค.ศ.2008 (หากรถไฟเบอร์นีน่าเอ็กซ์เพรสไม่สามารถรองรับคณะเดินทางได้ บริษัทจะจัดรถไฟ REGIONAL TRAIN ทดแทน) เดินทาง เมืองเซนต์โมริตส์ (St. Moritz) เมืองที่อยู่ในหุบเขา Engadine ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1,775 เมตรเหนือน้ำทะเล เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับเซนต์โมริตส์ (Lake St. Moritz) ซึ่งจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกตในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจัตุรัสพลาซาดาสโกวล่า (Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Reine Victoria St. Moritz / / Hilton Hotel Davos **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เซนต์โมริตส์ - ดาวอส – แรพเพอร์ชวิล - ซูริค |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมือง เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) ตั้งอยู่เขตรอบแม่น้ำ Landwasser ซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ระหว่าง ภูเขา Plessur และ ภูเขา Albula ที่ความสูง 1,560 เมตร (5,120 ฟุต) ซึ่งเป็นเมืองที่สูงที่สุดในยุโรป และเมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้เมืองนี้ยังโด่งดัง เรื่องของอากาศที่ดี สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การรักษา และฟื้นตัวจากโรคปอด เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยในธนบัตรที่ระลึกฉบับละ 20 บาท ที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดพิมพ์ขึ้นโดย ได้เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 เมื่อสมัยยังทรงพระเยาว์ ซึ่งทรงฉาย ณ โรงแรมเซโฮฟ (Seehof hotel) ซึ่งอยู่ที่เมืองดาวอส (Davos) มาเป็นภาพประธาน นำท่านแวะถ่ายรูปกับโรงแรมเซโฮฟ จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองแรพเพอร์ชวิล (Rapperswil) หรือชื่อเต็มคือ Rapperswil-Jona (ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชั่วโมง) นำท่านเที่ยวชมเมืองรัพเพอร์ชวิล โยนา เมืองที่ได้ชื่อว่า “เมืองแห่งดอกกุหลาบ” ที่นี่มีการปลูกดอกกุหลาบในสวนสวยกว่า 3 แห่ง ในช่วงเดือนมิถุนายน – ตุลาคมของทุกปี ทำให้เมืองนี้มีความโดดเด่นเพราะช่วงดังกล่าวจะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นอีกเมืองเก่าแก่ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 จะเห็นได้จากอาคาร ปราสาท และ สถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงเหลืออยู่ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมภายในเมืองเก่าแห่งรัพเพอร์ชวิลจากนั้นนำท่านเดินเล่นและถ่ายรูปกับสะพานไม้โบราณ (Holzbrucke Rapperswil-Hurden) ที่สร้างเชื่อมระหว่างเมืองรัพเพอร์ชวิล และเมืองบาร์เดน เหนือทะเลสาบ ซูริค นับเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่และควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich) (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasse ซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Courtyard by Marriott Zurich Nord **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | ซูริค |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม อิสระทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย |
10.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน ซูริค เพื่อให้ท่านมีเวลาดำเนินการเรื่องทำคืนภาษี (TAX Refund) |
13.15 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.40 ชม.) |
วันที่ 9 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
06.05 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 139,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 20,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 139,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 20,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 139,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 20,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 139,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 20,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 149,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 24,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 149,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ | 4,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 24,000 บาท |
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel