การันตีพักโรงแรมวิวรัฐสภาสุดอลังการ
พัก St.Wolfgang หมู่บ้านริมทะเลสาบแสนสวย
ปราสาทนอยชวานสไตน์ มหาปราสาทแห่งยุคกลาง
สนามฟุตบอล อัลลิอันซ์ อารีน่า รังเหย้าของโคตรทีม บาเยิร์น มิวนิค
จัตุรัส Marienplatz
เยือนบ้านเกิดโมสาร์ท เมืองมรดกโลก Salzburg
พระราชวังและสวนมิราเบล (Mirabell Palace and Gardens)
หมู่บ้านมรดกโลกที่สวยที่สุดในโลก ฮัลล์สตัท Hallstatt
Cesky Krumrov เมืองเก่าแสนโรแมนติก
ล่องเรือผ่านแม่น้ำ Danube
ถ่ายภาพกับปราสาทยุโรป Bratistava
พิเศษ ‼️ ลิ้มลองเมนูประจำชาติทั้ง 5 ประเทศ
วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ • สนามบินดูไบ• มิวนิค |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
06.00 น. | พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 ROW T เคาน์เตอร์ สายการบินเอมิเรตต์ Emirate Airline (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการเช็คอินให้แก่ทุกท่าน |
09.30 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 375 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
13.15 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ (เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง) |
15.55 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ EK 51 |
19.35 น. | เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชม. และ 6 ชม. ในฤดูหนาว) |
ที่พัก | Mercure Hotel Muenchen Ost Messe หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 2 | มิวนิค (เยอรมนี) • สนามฟุตบอลอัลลิอันซ์ อารีน่า • ชวานเกา • ปราสาทนอยชวานสไตน์ • ฟุสเซ่น • มิวนิค • จัตุรัสมาเรียนพลาสท์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองชวานเกา (SCHWANGAU) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าของ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (NEUSCHWANSTEIN CASTLE) มหาปราสาทแห่งยุคกลาง ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของแคว้นบาวาเรียเลยที่เดียว โดยถูกสร้างขึ้นจากพระราชดำรัสของพระเจ้าลูทวิชที่ 2 ในปี 1864 ซึ่งปราสาทแห่งนี้นั้น โด่ดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ นิโอโกธิคผสม โรมาเนสส์ จนทำให้เป็นต้นแบบของปราสาทในเทพนิยายของดิสนีย์ที่เราเห็นกัน หากมีเวลาพาท่านนั่งรถ Shuttle Bus เพื่อพาชมวิวมุมสูงของตัวปราสาท ที่บริเวณ สะพานมาเรียน (Marienbrücke) *หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยหรือมีเหตุใดอาจทำให้เกิดความอันตราย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่พาท่านขึ้น โดยยึดเอาความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญ* |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำแวะถ่ายรูปที่ สนามฟุตบอล อัลลิอันซ์ อารีนา (Allianz Arena) รังเหย้าของทีมสโมสรฟุตบอลดังอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ทีมยักษ์ใหญ่จากบุนเดสลีกาสนามฟุตบอลแห่งนี้สามารถจุผู้ชมได้มากว่า 75,000 คน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศเยอรมัน ด้วยทุกสร้างกว่า 340 ล้านยูโร ด้วยรูปทรงเฉพาะ ชาวมิวนิคจึงมีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า Schlauchboot ซึ่งแปวว่าเรือยาง จากนั้น นำท่านเข้าสู่ตัว เมืองมิวนิค ให้ท่านได้อิสระที่บริเวณ จัตุรัสมารีนเพทส (Marienplatz) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร อิสระท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม และของฝากตามอัธยาศัย ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับเทศกาลคริสมาสต์เมืองมิวนิค ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 พ.ย. – 24 ธ.ค. 2567 อย่างเต็มอิ่ม |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนูพิเศษ ขาหมูเสิร์ฟพร้อมเบียร์เยอรมันขนานแท้ |
ที่พัก | Mercure Hotel Muenchen Ost Messe หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 3 | เมืองซาลบวร์ก • พระราชวังและสวนมิราเบล • จัตุรัสเรสซิเดนซ์ • บ้านเกิดโมซาร์ท • เซ็นท์วูฟกัง • เมืองฮัลล์สตัทท์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านสู่เมืองบ้านเกิดของคีตกวีเอกที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกนาม ว็อล์ฟกัง อมาเดอุส โมซาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) เมืองซาลบวร์ก (Salzburg) เมืองที่มีความหมายว่า ปราสาทเกลือ เนื่องด้วยสมัยก่อนนั้นเกลือถือเป็นวัตถุดิบล้ำค่า มีราคาเทียบเท่ากับทองคำ และที่นครแห่งนี้นั้นมีเหมืองเกลือขนาดใหญ่ ทำให้สภาพทางเศรษฐกิจในซาลบวร์กเฟื่องฟูมากที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านชมความงามของ พระราชวังและสวนมิราเบล (Mirabell Palace and Gardens) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1606 โดยเจ้าชายอาร์คบิชอป Wolf Dietrich ซึ่งรับสั่งให้สร้างพระราชวังขึ้นเพื่อ Salome Alt หญิงผู้เป็นที่รักของพระองค์ โดยคำว่ามิราเบล มาจากคำ 2 คำ คือ admirable ที่แปลว่าน่าชื่นชม และ คำว่า beautiful ที่แปลว่าสวย จึงมีความหมายโดยรวมว่า ความโสภาที่น่าอภิรมย์ ดั่งความโรแมนติกอันเป็นเหตุแห่งการสร้างพระราชวังแห่งนี้ ไฮไลท์ของพระราชวังแห่งนี้นั้นคือ ตัวสวนมิราเบล สวนที่ถูกจัดเป็นสไตล์บาโรค ที่ถูกรังสรรค์เพิ่มเติมจนแล้วเสร็จในปี 1690 เป็น 1 ในฉากถ่ายทำภาพยนต์เพลงชื่อก้องโลกอย่าง The Sound Of Music ที่ฉายในปี 1965 นำแสดงโดย จูลี่ แอนดรูว์ กับเพลงที่โด่งดังอย่าง “Do Re Mi” นำท่านเดินเล่นและแวะถ่ายรูปบริเวณ ถนนGetreidegasse ที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คือ บ้านเลขที่ 9 ซึ่งเป็นบ้านเกิดของโมซาร์ท ถัดไปนั้นเป็น จัตุรัสเรสซิเดนท์ (Residenzplatz) จัตุรัสที่รวมสถานที่สำคัญของเมือง ไม่ว่าจะเป็น อาสน์วิหารซาลบวร์ก พระราชวังเรสซิเดนท์ รวมไปถึง ประติมากรรม Sudliche Dombogen โดยจากตรงนี้ท่านจะสามารถเห็น ป้อมโฮเฮนซาลบวร์ก (Fortress Hohensalzburg) ได้อย่างชัดเจน หลังจากชมเมืองซาลบวร์กเสร็จสิ้นแล้ว ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับ เทศกาลคริสมาสต์เมืองซาลบวร์ก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 พ.ย. – 1 ม.ค. 2568 อย่างเต็มอิ่ม จากนั้นพาท่านเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านมรดกโลกที่ได้รับการขนานนามว่า เป็น หมู่บ้านมรกดกโลกที่สวยที่สุดในโลก ฮัลล์สตัท (Hallstatt) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองมรดกโลกที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาและทะเลสาบ ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย มีประชากรไม่ถึง 1,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกว่า 800,000 คนต่อปี ด้วยทัศนียภาพตระการตา ที่ธรรมชาติและมนุษย์ร่วมกันประกอบขึ้นทำให้ เป็นสถานที่ที่เป็น The Must ของยุโรปตะวันออกเลยทีเดียว ให้ท่านอิสระในการซึมซับบรรยากาศของเมืองมรดกโลก ก่อนพาท่านชม เมืองเซ็นท์ วูฟกัง (St.Wolfgang) อีกหนึ่งเมืองที่มีทะเลสาบที่สวย และยังเป็นเมืองตากอากาศที่เลื่องชื่อของประเทศอีกด้วย ให้ท่านได้ผ่อนคลายอริยบทกับธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่อยู่กันอย่างกลมกลืนและลงตัว (พีเรียดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป หากได้ที่พักที่ฮัลล์ตัทท์ ขอสงวนสิทธิ์พาท่านไปเมืองฮัลล์ตัทท์ โดยไม่แวะที่เมืองเซ้นท์วูฟกังเนื่องจากพระอาทิตย์ตกเร็วกว่าปกติ ท่านจะได้มีเวลาท่องเที่ยวอย่างเต็มที่) |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พร้อมเมนูปลาเทร้าช์ |
ที่พัก | SCALARAIA / Heritage Hotel Hallstatt / Romantikhotel Weissen Roessl หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 4 | เชสกี้ครุมลอฟ • ปราก • สะพานชาร์ล • ย่านเมืองเก่า • นาฬิกาดาราศาสตร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้น มุ่งหน้าสู่ สาธารณรัฐเช็ก เมืองเช้สกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) ไข่มุกแห่งโบฮิเมียน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เป็นอีกเมืองสวยที่พลาดไม่ได้ ด้วยเอกลักษณ์ที่บ้านเรือนมีหลังคาสีส้ม มีแม่น้ำวอลตาว่าพาดผ่านเป็นรูปคล้ายๆ หยดน้ำ ทำให้เกิดภูมิทัศน์ที่งดงาม พาท่านชม ปราสาทเช้สกี้ ครุมลอฟ ด้านนอก ปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งถือว่าใหญ่มากหากเทียบกับขนาดเมืองนอกจากนั้นเมืองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1992 อีกด้วย |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนูเป็ดโบฮีเมี่ยน |
บ่าย | จากนั้น นำท่านสู่เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กเมืองปราก (Prague) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.3 ชม.) ชมเสน่ห์ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของยุโรปตะวันออก ด้วยความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรม ยิ่งทำให้ปรากเป็นดั่งเมืองที่ถูกหยุดเวลาไว้นับตั้งแต่ยุคกลาง นำท่านชม สะพานชาร์ล (Charle Bridge) สะพานหลักสุดคลาสสิคที่โด่งดังที่สุดของเมืองเชื่อมฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ที่ถูกแบ่งด้วยแม่น้ำวอลตาว่าเข้าด้วยกัน สะพานแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในปี 1357 ใช้เวลาในการสร้างมากกว่า 100 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ เดิมทีชื่อว่า Stone Bridge หรือ Prague Bridgeและมาเปลี่ยนชื่อมาเป็นสะพานชาลส์ ในปีค.ศ. 1870 ตัวสะพานมีความยาว 621 เมตร และมีความกว้างเกือบ 10 เมตร เป็น 1 ในมุมถ่ายรูปที่ท่านต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ไกลกันจะพบกับ ย่านเมืองเก่า (Old Town Square) ที่มีไฮไลท์สำคัญของย่านนี้นั่นคือ การชมนาฬิกาดาราศาสตร์เมืองปราก ซึ่ง ถือเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังทำงานได้อยู่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1410 ในทุกๆ ต้นชั่วโมงนั้นจะมีตุ๊กตากลพระสาวกพระเยซูทั้ง 12 ท่านปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงระฆัง ตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 ในทุกวันบริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ติน Church of Our Lady before Týn ถือเป็นโบสถ์หลักของย่านเขตเมืองเก่า สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสในตอนต้น ก่อนมีการผสมรูปแบบกอธิคในอีก 3 ศตวรรษต่อมา ภายในโบสถ์มีไปป์ออร์แกนที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปราก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1673 ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับเทศกาลคริสมาสต์เมืองปราก ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 6 ม.ค. 2568 อย่างเต็มอิ่ม **สำหรับพีเรียด 24 พ.ย. – 1 ธ.ค. 67 อาจจะไม่ได้ชมเทศกาลคริสมาสต์ที่เมืองนี้** |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hotel Duo หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 5 | ปราก • ปราสาทปราก • โบสถ์เซ็นท์วีตัส • ถนน Golden Lane • ปราสาทบราทิสลาวา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านชม ปราสาทลำดับที่ 1 ของประเทศ ที่ ปราสาทปราก (Prague Castle) มหาปราสาที่สร้างมากว่า 1,200 ปี Guinness World Records ได้บันทึกไว้ว่า เป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ถึง 70,000 ตารางเมตร เคยเป็นที่ประทับของบรรพกษัตริย์ของชาวโบฮิเมียน ปัจจุบันใช้เป็นทำเนียบประธานาธิบดี สูงเด่นตระหง่านอยู่บนเขาทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำวอลตาว่าภายในบริเวณปราสาทนั้นมีสิ่งปลูกสร้างมากมายประหนึ่งเมืองๆ หนึ่ง อาทิ อาสน์วิหารนักบุญวีตัส (St. Vitus Cathedrals) โบสถ์คริสต์แห่งแรกของปราก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 870 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่นักบุญวีตัส ผู้สละชีวิตในช่วงยุคโรมันราวปี 303 ก่อนที่พระเจ้าคอนสแตนตินจะประกาศตนเป็นคริสศาสนิกชน โบสถ์ให้นี้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 600 ปี ภายในจะประดับด้วยกระจกสีและ Rose Window หน้าต่างที่ออกแบบให้เป็นรูปคล้ายกับดอกกุหลาบ จากนั้นไปชมอีก 1 จุดที่สวยไม่แพ้กัน นั่นคือ ถนนทองคำ (Golden Lane) โดยสาเหตที่ได้ชื่อว่าถนนทองคำนั้น เนื่องจากบริเวณนี้นั้นเป็นที่พำนักของเหล่าช่างทองที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ลักษณะของบ้านเรือนสีลูกกวาดสดใสและฉูดฉาดที่ท่านจะเห็นในปัจจุบันนั้น มาจากพระราชดำรัสของพระนางมาเรีย เทเรซ่า ที่โปรดบูรณะให้มีความสวยงาม |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บราติสลาวา ประเทศสโลวาเกียมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสโลวัก (Slovak Republic) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวาเกีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ที่เมืองหลวงให้ท่านแวะถ่ายรูปกับ ปราสาทบราทิสลาว่า (Bratislava Castle) ด้านนอก ปราสาทสำคัญของเมือง ในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ฮังการี และเป็นป้อมปราการด่านสำคัญที่ไว้สำหรับป้องกันข้าศึกที่จะมารุกรานอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี ด้วยความได้เปรียบทางด้านยุทธศาสตร์จากการที่ตัวปราสาทตั้งอยู่บนสูง จึงส่งผลให้ท่านจะได้ชมวิวที่สวยงดงามยามเย็นที่แม่น้ำดานูบทอดยาว ปัจจุบันถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับเทศกาลคริสมาสต์เมืองบราทิสลาว่า ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 อย่างเต็มอิ่ม |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | การันตีพัก Crowne Plaza Hotel Bratislava (พีเรียด 24-01 ธ.ค. 67 / 04-11 ธ.ค. 67) และ Park Inn Danube Bratislava (พีเรียด 05-12 ธ.ค. 67 / 08-15 ธ.ค. 67) (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 6 | Fashion Outlet Parndorf • ปูดาเปสต์ • จัตุรัสวีรบุรุษ • สะพานเชน • คาสเทิลฮัลล์ • มหาวิหารเซ็นท์สตีเฟ่น • ล่องเรือแม่น้ำดานูบพร้อมแชมเปญ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม จากนั้น นำท่านสู่ Fashion Outlet Parndorf พรีเมี่ยมเอ้าท์เลทที่ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมอย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ก็มีให้ได้เลือกสรร (เอ้าท์เลทปิดวันอาทิตย์ หากโปรแกรมตรงกับวันอาทิตย์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมเป็น PREMIUM OUTLET BUDAPEST แทน) |
กลางวัน | อิสระอาหารกลางวันเพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน |
บ่าย | จากนั้นนำท่านสู่ เมืองบูดาเปสต์ (Budapest) ประเทศฮังการี อีก 1เมืองงามที่ ถูกขนานนามว่าเป็นปารีสแห่งยุโรปตะวันออก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีมาอย่างยาวนาน หล่อหลอมศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นและผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่เดิมนั้น บูดาเปสต์แบ่งออกเปน 2 เมือง คือ เมืองบูดา (Buda) และเมืองเปสต์ (Pest) โดย มีบูดาเป็นเขตเมืองหลวง ต่อมาได้มีการขยายเมือง แต่บูดานั้นมีพื้นที่เขาเป็นส่วนมาก ทำให้ขยายเขตเมืองได้ยาก ผิดกับฝั่งเปสต์ ที่เป็นพื้นที่ราบกว้างขวาง ทำให้เกิดการรวมเมืองกัน นำท่านชม จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero Square) อันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของเหล่าบรรพชนหัวหน้าเผ่าแม็กยาร์ทั้ง 7 ที่ได้รวมกับสร้างอาณาจักรฮังการีภายใต้การนำของเจ้าชายอาปาร์ด ในปี 896 รวมไปถึงบุคคสำคัญและกษัตริย์ในอดีต ตรงกลางยังมีรูปปั้นเทพแกเบรียล (Gabriel) เทพของกรีกโบราณซึ่งเชื่อกันว่าเป็นอัครทูตสวรรค์ผู้นำสารจากพระเจ้าซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บน Millennium Monument ที่มีความสูงถึง 36 เมตร ผ่านชม สะพานเชน (Chain Bridge) 1 ใน 4 สะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำดานูบ ที่มีสัญลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นคือรูปปั้นสิงโต ผ่านชมความงามของกลุ่มอาคารบน คาลเทิล ฮิลล์ (Castle Hill) เนินเขาริมแม่น้ำดานูบอันเป็นที่ตั้งของ พระราชวังบูดา โบสถ์แมนทิอัส และ ป้อมชาวประมง เรียงกันไปตามแนวเขา ปราสาทบูดา (Buda Castle) ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในปี 1265 ในสมัยของพระเจ้าเบล่าที่ 4 ของราชวงศ์อาปาร์ด สำหรับตัวปราสาทที่ท่านจะเห็นนั้น จะเป็นการสร้างแบบบาโรก ระหว่างปี 1749 และ 1769 ถือเป็นพระราชวังหลวงของพระราชวงศ์ทั้งหมดของฮังการี ปัจจุบันได้ปรับปรุงเป็นหอศิลป์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ พาท่านชมบริเวณโดยรอบของ ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) และ โบสถ์แมนทิอัส Mantius Church) ตัวโบสถ์ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสส์สร้างตั้งแต่ในปี 1015 และได้รับการบูรณะด้วยศิลปะโกธิคในช่วงศตวรรษที่ 14 ถือเป็น 1 ใน 7 มหาศาสนสถาน ในยุคกลางของฮังการี ท่านจะได้ดื่มด่ำกับวิวของแม่น้ำดานูบและอาคารของฝั่งเปสต์ ที่มีไฮไลท์สำคัญ เด่นตระหง่านกว่าอาคารอื่นๆ นั่นคือ อาคารรัฐสภาของประเทศฮังการี (Hungarian Parliament) พิเศษ !!!! นำท่าน ล่องเรือดื่มด่ำบรรยากาศที่สวยงามของแม่น้ำดานูบ (DANUBE CRUISE) พร้อมกับเครื่องดื่มสุดพิเศษท่านละ 1 แก้ว (NON ALCOHOL) ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามและไม่ควรพลาด ท่านจะได้พบอาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบ |
ค่ำ | บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร เมนูกูลาร์ช อาหารท้องถิ่นที่ห้ามพลาด *เป็นซุปเนื้อ หรือ หมู กับมันฝรั่ง เติมรสชาติเอกลักษณ์พิเศษด้วยพริกปราปิก้า ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับ เทศกาลคริสมาสต์เมืองบราทิสลาว่า ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 พ.ย. – 1 ม.ค. 2568 อย่างเต็มอิ่ม |
ที่พัก | การันตีพัก Novotel Budapest Danube (โรงแรมที่นำเสนอเป็นโรงแรมเสนอเบื้องต้นเท่านั้น ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนเดินทาง ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนที่พัก ไปพักเมืองใกล้เคียงกรณีติดงานแฟร์หรือมีเทศกาล) |
วันที่ 7 | บูดาเปสต์ • เวียนนา • พระราชวังและสวนเชินน์บรุน • ถนนคาร์ทเนอร์ • สนามบินนานาชาติกรุงเวียนนา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านมุ่งหน้าสู่ กรุงเวียนนา (Vienna) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองหลวงของออสเตรีย และดนตรีคลาสสิค เป็นเมืองที่โมสาร์ทมาพำนักในยุคที่รุ่งเรืองของชีวิต พาท่านเข้าชม พระราชวังและสวนเชินน์บรุน (Palace and Gardens of Schonbrunn) พระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับส์บวร์ค สร้างแบบบาโรก คำว่าเชินน์บรุน นั้น มีความหมายว่า น้ำพุร้อนอันแสนสวยงาม โดยมีการริเริ่มสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1569 ตัวอาคารในปัจจุบันนั้นสร้างและต่อเติมในสมัยของพระนางมาเรีย เทเรซ่า โดยมีพระราชประสงค์ให้มีความยิ่งใหญ่และสวยงามทัดเทียมพระราชวังแวร์ซายน์ของราชวงศ์บูร์บง และด้วยพระองค์ทรงโปรดสีเหลืองมากจึงได้มีการใช้สีเหลืองโทนพิเศษตกแต่ง และต่อมาสีเหลืองโทนนี้นั้นจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าสีเหลืองเทเรซ่า |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น เมนู พิเศษ Sacher Cake เค้กสุดคลาสสิคของเวียนนา |
บ่าย | จากนั้น พาท่านสู่ ถนนคนเดินแห่งแรกๆ ของยุโรป ที่ ถนนคาร์ทเนอร์ (Kartner Street) ที่มีมาตั้งแต่ในสมัยโรมัน เป็น 1 ใน ถนนที่มุ่งสู่กรงโรมในสมัยนั้น เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ Strata Carinthianorum ก่อนจะถูกพัฒนามาเป็นถนนสายช้อปปิ้งในช่วงศตวรรษที่ 19 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้านเรือนส่วนมากถูกทำลายทางการก็ได้สร้างตึกรามบ้านช่องที่รูปแบบเดิม นอกจากนั้นยังมีศาสนสถานที่สำคัญบนถนนแห่งนี้อีกแห่งหนึ่ง คือ อาสนวิหารสเตฟาน (St. Stephen's Cathedral) โบสถ์เก่าแก่ที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1160 ตัวอาสนวิหารสร้างด้วยหินปูนมีความยาว 107 เมตร กว้าง 70 เมตร และ สูง 136.7 เมตร มีระฆังทั้งหมด 23 ใบ ใบใหญ่ที่สุดชื่อว่า ระฆังพุมเมริน ที่มีน้ำหนักถึง 20,130 กิโลกรัม ถือเป็นระฆังแบบแกว่งที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย และเป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากระฆังปีเตอร์ ของเยรมันเท่านั้น กล่าวกันว่าบิโทเฟ่นรู้ตัวว่าตนสูญเสียการได้ยิน เพราะว่าเมื่อหันมองไปบนอาสนวิหารแห่งนี้แล้วเห็นนกบินออกจากหอระฆังแต่กลับไม่ได้ยินเสียงระฆังเหมือน นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติกรุงเวียนนา เพื่อทำการเช็คอิน และทำคืนภาษี (TAX REFUND) |
21.55 น. | ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบิน เที่ยวบินที่ EK126 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง ** |
วันที่ 8 | สนามบินดูไบ • สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
06.35 น. | ถึง สนามบินนานาชาติดูไบ ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง |
09.30 น. | เดินทางสู่ อากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตต์ เที่ยวบินที่ EK 372 |
18.40 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม |
การจองทัวร์ :
• กรุณาจองทัวร์ล่วงหน้า ก่อนการเดินทาง พร้อมชำระมัดจำ 50,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 20 วัน มิฉะนั้นถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ (ช่วงเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์ กรุณาชำระก่อนเดินทาง 30 วัน)
กรณียกเลิก : (จอยกรุ๊ป)
• ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป บริษัทฯ จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ฯลฯ)
• ยกเลิกการเดินทาง 45 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% จากราคาขาย และหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น (ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง อาทิเช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ฯลฯ)
• ยกเลิกการเดินทาง 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
กรณียกเลิก : (ตัดกรุ๊ป)
• ยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางต้องทำก่อนการเดินทาง 60 วัน บริษัทฯจะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ยึดเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
• ยกเลิกการเดินทางภายใน 60 วัน ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ยึดเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
• ยกเลิกการเดินทางหลังชำระเต็มจำนวนทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
กรณีเจ็บป่วย :
• กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางได้ตามความเป็นจริง
• ในกรณีเจ็บป่วยกะทันหันก่อนล่วงหน้าเพียง 7 วันทำการ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี
***ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางและรายการทัวร์อย่างละเอียดทุกหน้าอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง***
** ก่อนตัดสินใจจองทัวร์ควรอ่านเงื่อนไขการเดินทางและรายการทัวร์อย่างละเอียดทุกหน้าอย่างถ่องแท้แล้วจึงมัดจำเพื่อประโยชน์ของท่านเอง ทางบริษัทฯจะถือว่า ท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของบริษัทฯที่ได้ระบุในรายการทัวร์ทั้งหมด**
เอกสารประกอบการขอวีซ่าทัวร์ (ใช้เวลาพิจารณาวีซ่า 15 วันทำการ และต้องมาแสดงตนที่สถานฑูต)
1. หนังสือเดินทางที่เหลืออายุใช้งานได้เกิน 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณาแนบมาด้วย ต้องมีหน้าว่างเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบันหน้าตรง 2x1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป (ใช้รูปสี พื้นฉากหลังสีขาวเท่านั้น อายุรูปไม่เกิน 6 เดือน เหมือนกันทั้ง 2 รูป) ไม่เห็นฟัน ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ หรือ บิ๊กอายในการถ่ายรูป / ห้ามใส่เครื่องประดับในการถ่ายรูป
3. สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาทะเบียนหย่า / สำเนาใบมรณะบัตร/ สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล/ เอกสารเพิ่มเติมกรณีอื่น ๆ
4. สำเนาบัตรประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์)
7. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์: เดินทางต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
7.1 เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น บิดามารดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่าอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับใครและระบุความสัมพันธ์ว่าเป็นอะไรกันอย่างชัดเจน **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (พ่อและแม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.2 เด็กเดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่ามารดาอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับบิดาและระบุชื่อบิดา **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (แม่ต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.3 เด็กเดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจากทางอำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) โดยเอกสารระบุว่าบิดาอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศกับมารดาและระบุชื่อมารดา **พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น** (พ่อต้องมาแสดงตัว ณ วันที่ยื่นวีซ่าด้วย)
7.4 กรณีพ่อและแม่หย่าร้าง หรือเสียชีวิต ต้องแนบใบหย่า หรือ ใบมรณะบัตร เพื่อเป็นการยืนยัน
7.5 ให้แนบสำเนาพาสปอร์ตของพ่อ และ แม่ (หากไม่มีให้แนบสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่)
7.6 เด็กอยู่ในความปกครองของบิดาหรือมารดาเพียงคนเดียว จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น สำเนาใบหย่า พร้อมทั้งบันทึกการหย่าซึ่งแสดงว่าเป็นผู้รับผิดชอบเด็ก เด็กอยู่ในความปกครองของผู้อื่น จะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น เช่น ใบปกครองบุตร (ปค.14) จากทาง อำเภอ/เขต (ตัวจริงเท่านั้น) , หนังสือรับรองบุตรบุญธรรม เป็นต้น พร้อมแนบหลักฐานของบิดาหรือมารดาหรือผู้ที่เด็กอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นั้น
**พร้อมแปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสาร+ประทับตราจากกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น**
8. หลักฐานการทำงาน
8.1 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ(สำเนาอายุไม่เกิน 3 เดือน)
8.2 กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า(สำเนา)
8.3 กรณีที่เป็นพนักงานบริษัทฯ : จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุชื่อ-นามสกุล , ตำแหน่ง , วัน/เดือน/ปีที่เริ่มทำงาน , เงินเดือน ในจดหมายต้องมีหัวกระดาษบริษัท เบอร์โทร และตราประทับบริษัทด้วย จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน)
8.4 กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูต) ไม่ต้องระบุวันลา และประเทศที่เดินทาง พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ใส่ปี เป็น ค.ศ. เท่านนั้น ห้ามใส่ปีเป็น พ.ศ.) (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน)
8.5 กรณีเกษียณอายุราชการ ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
8.6 กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษานั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ระบุชั้นปีที่ศึกษา พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น (ตัวจริงอายุไม่เกิน 1 เดือน) / พร้อมสำเนาบัตรนักเรียน นักศึกษา
8.7 กรณีเป็นแม่ค้า, ทำธุรกิจส่วนตัว, ทำอาชีพอิสระ ต้องพิมพ์จดหมายรับรองตัวเอง เป็นภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายสถานที่ทำงานมาด้วย รูปถ่ายอย่างน้อย 3-5 ใบ
9. หลักฐานการเงิน (บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น) สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ + ตราประทับจากธนาคาร + ลายเซ็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร นำเล่มจริงมาแสดงวันที่ยื่นวีซ่า
⦁ เงินฝากออมทรัพย์ (ยอดเงินในสมุดบัญชีธนาคาร ต้องมีไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อการยื่นวีซ่า 1 ท่าน และ ต้องมีการเข้าออกของเงินสม่ำเสมอ ห้ามทำการโอนเงินเข้าไปในครั้งเดียวเป็นยอดใหญ่ก่อนการยื่นวีซ่าเด็ดขาด!!)
⦁ ก่อนยื่นวีซ่า 7 วัน รบกวนปรับสมุดบัญชี ให้มียอดล่าสุด 7 วัน ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า และสำเนาหน้าที่ปรับสมุด + หน้าแรกที่มีชื่อบัญชี นำมายื่นเพิ่มเติมในวันที่ยื่นวีซ่า หากนำสมุดไปปรับแล้วไม่มียอด รบกวนนำเงินเข้า หรือ นำเงินออก เผื่อจะได้มียอดในการปรับสมุด
****** สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ******
10. ในกรณีที่มีผู้รับรองค่าใช้จ่าย ต้องมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
10.1 จดหมายจากผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น – หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของผู้เดินทางกับผู้รับรองค่าใช้จ่าย เช่น ทะเบียนบ้าน และต้องเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน (พ่อ, แม่ สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้บุตรได้ / สามี ภรรยา ที่จดทะเบียนสมรส รับรองให้กันและกันได้ / (ปู่, ย่า, ตา, ยาย ไม่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายให้หลานได้)
- กรณีเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ได้จดทะเบียน และรับรองค่าใช้จ่ายกัน ต้องใช้เอกสารดังนี้
⦁ เขียนจดหมายชี้แจงเป็นภาษาอังกฤษ มาว่าอยู่ด้วยกันแต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน
⦁ กรณีมีลูกด้วยกันให้ใช้ใบเกิดของลูก
10.2 สเตทเมนท์ (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งออกโดยธนาคาร ขอสเตทเม้นชื่อ-นามสกุลเป็นภาษาไทย พร้อมตราประทับจากธนาคาร บัญชีออมทรัพย์ของผู้รับรองค่าใช้จ่าย พร้อมหนังสือรับรองทางการเงินจากธนาคาร (BANK CERTIFICATE) เป็นภาษาอังกฤษ **ต้องเป็นบัญชีเดียวกันเท่านั้น**
11. ผู้สูงอายุที่มีอายุเกินกว่า 70 ปี บริบูรณ์กรุณาแนบใบรับรองแพทย์ว่าสามารถเดินทางได้เพื่อเป็นเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า
12. กรณีผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ จะต้องยื่นขอวีซ่าอิตาลี ณ ประเทศที่ท่านกำลังศึกษาอยู่
*** รายละเอียดเอกสารการยื่นขอวีซ่าที่ได้กล่าวมานี้ เป็นเพียงข้อเบื้องต้นที่ทางบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นจากประสบการณ์และระเบียบของสถานทูต ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามแต่สถานการณ์และคุณสมบัติของลูกค้า
วันที่มายื่นวีซ่ากรุณานำสมุดบัญชีธนาคารเล่มจริงมาด้วย (กรณีมีเล่มต่อจากสมุดเดิมรบกวนนำเล่มเก่ามาด้วย)
เอกสารทุกอย่างที่เป็นสำเนา เช่น ทะเบียนบ้าน , ทะเบียนสมรส , ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล , สูติบัตร , นำตัวจริงมาวันที่ยื่นวีซ่าด้วย
***** สำหรับคนที่จะใช้เล่มไปที่อื่นก่อน สถานทูตจะไม่ให้ดึงเล่มไม่ว่ากรณีใด ๆ *****
กรมการกงสุลได้แจ้งเตือนว่า :
1.ในหนังสือเดินทางต้องมีเพียงตราประทับของทางราชการเท่านั้น
2. การขีดเขียนหรือประทับเครื่องหมายอื่นใดในหนังสือเดินทาง ถือว่า “ หนังสือเดินทางชำรุด ” อาจถูกปฎิเสธเข้าประเทศต่างๆ หรือถูก Blacklist ห้ามเข้าประเทศนั้นอีก
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel