ทัวร์ออสเตรเลีย แทสมาเนีย ตามล่าแสงใต้ เที่ยวออสเตรเลีย

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE1027 : ทัวร์ออสเตรเลีย แทสมาเนีย ตามล่าแสงใต้ (Aurora Australis ฤดูกาลล่าแสงใต้แห่งแทสมาเนีย) 10 วัน 7 คืน (TG)

Thai Airways (TG)


ทัวร์ออสเตรเลีย แทสมาเนีย ตามล่าแสงใต้
Aurora Australis ฤดูกาลล่าแสงใต้แห่งแทสมาเนีย

เมลเบิร์น | พอร์ตอาเธอร์ | เกาะแทสมัน | อุทยานแห่งชาติแทสมัน | แหล่งประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เธอร์ | สวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล | อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์ | อ่าวไวน์กลาสเบย์ | ประภาคารเคปตูร์วิลล์ | เมืองบิเชโน | ชมเพนกวินนางฟ้า | เซนต์เฮเลนส์ | เบย์ออฟไฟร์ | ชมไร่องุ่น | เมืองลอนเซสตัน | อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน | ทะเลสาบโดฟ | เมืองเชฟฟิลด์ | ขึ้นเรือข้ามฟากสู่เมลเบิร์น | สวนฟิซรอย | บ้านกัปตันคุ๊ก | โบสถ์เซนต์แพทริค | ตลาดควีนวิกตอเรีย

กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาสถานะ
DE000-00112-21 เม.ย. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00201-10 พ.ค. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00322-31 พ.ค. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00413-22 มิ.ย. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00511-20 ก.ค. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00611-20 ส.ค. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน
DE000-00719-28 ก.ย. 68Thai Airways (TG)189,900จองด่วน

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร
16.30 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน D (แถว D) ประตูทางเข้าที่ 1- 4 อาคารผู้โดยสาร สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
19.40 น.ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่ สนามบินเมลเบิร์น (MEL)โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465  สายการบิน บริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 8.50 ชม.)
วันที่ 2เมลเบิร์น
07.30 น.เดินทางถึงสนามบินเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
09.00 น. นำท่านเช็คอินเคาน์เตอร์ สายการบินรีเจอนัล เอ็กซ์เพรส แอร์ไลน์
เที่ยงอิสระให้ท่านรับประทานอาหารกลางวัน ภายในสนามบิน
12.00 น.ออกเดินทางจากสนามบินเมลเบิร์น สู่ สนามบินโฮบาร์ต สายการบินรีเจอนัล เอ็กซ์เพรส แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบิน... (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชม.)
13.20 น.เดินทางถึงสนามบินโฮบาร์ต
บ่ายนำท่านเดินทางชมเมืองโฮบาร์ต (Hobart) เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนีย ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดลำดับที่ 2 รองลงมาจากซิดนีย์ จากการก่อตั้งเมืองในออสเตรเลียเมื่อปี ค.ศ.1803 เมืองโฮบาร์ตตั้งอยู่คร่อมสองฝั่งของ ปากแม่น้ำเดอร์เวนท์ (Derwent River) โดยมี ภูเขาเวลลิงตัน (Mt. Wellington) เป็นฉากหลัง ทั้งนี้โฮบาร์ตอุดมไปด้วยมรดกจากยุคอาณานิคม ความงามของธรรมชาติ และบรรยากาศของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงของบาร์และร้านอาหารในเมืองยามค่ำคืน

นำท่านเดินทางสู่ อลิซาเบธสตรีท (Elizabeth St Mall) ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ธนาคาร และที่ทำการไปรษณีย์หลักบนถนนอลิซาเบธ

นำท่านเดินทางแวะชมซาลาแมนกาเพลส (Salamanca Place) ชุมชนเล็กๆของชาวแทสมาเนีย ที่เรียงรายไปด้วย ตึกเก่าและอาคารโบราณในยุคอาณานิคมอังกฤษ

นำท่านเดินทางลัดเลาะเข้าสู่ย่านแบตเตอรี่พ้อยน์ท (Battery Point) ซึ่งเป็นเขตชุมชนโบราณสมัยอาณานิคมยุคต้นๆที่ได้รับการรักษาสภาพไว้เป็นอย่างดี

นำท่านเดินทางผ่านชมหมู่อาคารโบราณที่สง่างาม เช่น Arthur Circus Cottages, โบสถ์เซนต์ และพิพิธภัณฑ์ Van Diemen's Land Folk Museum อาคารสมัยจอร์เจียนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ซึ่งได้รับการจัดแต่งภูมิทัศน์ไว้อย่างงดงาม 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูกุ้งมังกร)
ที่พักHotel Grand Chancellor Hobart Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1)
วันที่ 3พอร์ตอาเธอร์ - ล่องเรือสู่เกาะแทสมัน - แหล่งประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เธอร์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ พอร์ตอาเธอร์ (Port Arthur) (ระยะทาง 92 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม.) อดีตเมืองคุกแห่งคาบสมุทรแทสมันที่มีฉลามชุกชุม เหมาะสำหรับจองจำนักโทษในอดีตอย่างยิ่ง

นำท่านขึ้นเรือและผจญภัยสู่เกาะแทสมัน (Tasman Island) เกาะที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะแทสมัน และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแทสมัน อุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยหินและหน้าผาอันสวยงาม และอยู่ห่างจากโฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนียไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรู้จักกันดีถึงหน้าผาริมทะเลที่สูงลิบและหินที่มีรูปทรงขนาดใหญ่สวยงามแปลกตา ท่านจะได้ชมความงามของแทสมันอาร์ก (Tasman Arch) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีความโดดเด่นทางด้านลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติแทสมัน หน้าผารูปทรงแปลกซึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการกระทำของคลื่นทะเลซัดเข้ากระแทกนานนับศตวรรษ แรงดันมหาศาลของคลื่นประกอบกับบีบอัดอากาศที่เกิดจากการกระแทกหน้าผา ได้ส่งผลให้เกิดรอยแตกแยกจนกลายเป็นลักษณะภูมิประเทศที่แสนมหัศจรรย์ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก

นำท่านผ่านชมโบลว์โฮล (Blow Hole) หน้าผาชั้นหินทรายที่ถูกแรงคลื่นจากทะเลซัดจนทะลุเป็นโพรงใต้น้ำ พอคลื่นจากทะเลซัดเข้าหาโพรงจะเกิดมวลน้ำพวยพุ่งขึ้นสูงราวกับน้ำพุ และเดวิลคิทเช่น (Devil Kitchen) หน้าผารูปทรงแปลกตาจนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของสัตว์นานาชนิด อาทิ แมวน้ำ, ปลาโลมา และนกชนิดต่างๆ เป็นต้น ***การออกเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีที่มีพายุหรือลมแรง ไม่สามารถออกเรือได้ บริษัทฯจะคืนค่าล่องเรือให้ในราคากรุ๊ปทัวร์ที่จองเอาไว้ และสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย***

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเข้าชมแหล่งประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เธอร์ (Port Arthur Historical Site) ซึ่งมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการเรียนรู้ชีวิตนักโทษในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งเคยถูกใช้จองจำนักโทษอุกฉกรรจ์กว่า 1,000 ชีวิตช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ผ่านชมโรงนอน ห้องพักนักโทษ ห้องสมุด โบสถ์  ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักHotel Grand Chancellor Hobart Hotel  **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) 
วันที่ 4สวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล – อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์ – อ่าวไวน์กลาสเบย์ 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางเข้าชมสวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล (Tasmanian Devil Conservation Park) (ระยะทาง 81 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) ชมความน่ารักของสัตว์เจ้าถิ่นของเกาะแทสมาเนียอย่างใกล้ชิด แทสมาเนียนเดวิลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1941 ถึงแม้ว่าแทสมาเนียนเดวิลจะสามารถตกลูกคราวละประมาณ 30 ตัว แต่จะมีเพียงประมาณ 4 ตัวเท่านั้นที่มีชีวิตรอด โดยแทสมาเนียนเดวิลตัวเมียสามารถมีลูกในกระเป๋าหน้าท้องได้สูงสุดถึง 6 ตัว ในระยะเวลานาน 3 เดือน  นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่าแทสมาเนียนเดวิลได้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Seafood Menu)
บ่ายนำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์ (Freycinet National Park) (ระยะทาง 190 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.) ซึ่งตั้งชื่อตามนักเดินทางชาวฝรั่งเศส ชมทิวทัศน์อันงดงาม ณ จุดชมวิวเหนือ อ่าวไวน์กลาสเบย์ (Wineglass Bay) ที่เทือกเขาสีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาวมาบรรจบกัน

อิสระให้ท่านเดินเล่นพร้อมเก็บภาพความประทับใจ ระหว่างทางท่านสามารถได้พบกับนกทะเลชนิดต่างๆ ดอกไม้ป่าของแทสมาเนียนานาชนิด และน้ำใสแจ๋วในแอ่งหินอย่างใกล้ชิด

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักFreycinet Lodge **** หรือเทียบเท่า 

***หมายเหตุ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร ทางหัวหน้าทัวร์จะนัดหมายเวลา ในการออกล่าหาแสงใต้ (Aurora Australias) ซึ่งแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ***
*****ในการชมแสงใต้ ทางบริษัทไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะเห็นหรือไม่เห็นแสงใต้ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทางหัวหน้าทัวร์จะพยายามหาจุดชมแสงใต้ที่เห็นได้ชัดที่สุดให้ท่าน ช่วงเวลาที่จะเห็นได้ชัดคือ 23.00 น. – 03.00 น. *****
วันที่ 5ประภาคารเคปตูร์วิลล์ – เมืองสวอนซี – เมืองบิเชโน - ชมเพนกวินนางฟ้า
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ประภาคารเคปตูร์วิลล์ (Cape Tourville Light House) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Freycinet บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐแทสเมเนีย มีทางเดินระยะสั้นไม่ไกล ไปยังประภาคาร Cape Tourville ด้วยทิวทัศน์ชายฝั่งอันน่าทึ่งและการได้ชมประภาคารอย่างใกล้ชิด อุทยานแห่งชาติ Freycinet ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทร Freycinet และมองเห็นทะเลแทสมัน ที่อุทยานแห่งชาติ Freycinet ท่านสามารถเห็นยอดเขาหินแกรนิตสีชมพูอันน่าทึ่ง อ่าวอันเงียบสงบ หาดทรายสีขาว และอ่าวไวน์กลาสอันเป็นเอกลักษณ์

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสวอนซี (Swansea) (ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองในใจกลางชายฝั่งตะวันออกของรัฐแทสเมเนีย บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอ่าว Great Oyster และมองเห็นอุทยานแห่งชาติ Freycinet เป็นเขตเทศบาลแห่งแรกในออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นหลังจากโฮบาร์ตและซิดนีย์ ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2021 สวอนซีมีประชากร 997 คน เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1821 และเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีในปี 2021

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น 
บ่ายนำท่านเดินทางสู่เมืองบิเชโน (Bicheno) สถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับชาวแทสเมเนีย เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ อันเงียบสงบบนชายฝั่งตะวันออกของแทสมาเนีย ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดสีขาวละเอียดที่สวยงาม ซึ่งเรียงรายไปด้วยหินแกรนิตอันโดดเด่นที่มีไลเคนสีส้มขึ้นปกคลุม ชีวิตสัตว์ป่าที่น่าค้นหา และอาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่น บิเชโนเป็นเมืองชายหาดบรรยากาศสบายที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองเหมาะเป็นที่พักตากอากาศ

ในเวลาพลบค่ำ นำท่านเดินทางไปชม เพนกวินนางฟ้า (Fairy Penguins) ที่อาศัยอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ทะเลของเมืองบิเชโน เพนกวินเหล่านี้จะขึ้นจากทะเลไปยังโพรงของพวกมัน นกเพนกวินตัวน้อยกลับมาหลังจากค่ำจากการกินอาหารในมหาสมุทร การได้เห็นเพนกวินน้อยน่ารักเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นประสบการณ์พิเศษอย่างแท้จริงของผู้ได้ชม เพนกวินจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ และรู้สึกปลอดภัย ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องไม่ใช้เสียงหรือรบกวนพวกมัน ในช่วงฤดูหนาวเพนกวินจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโพรงของพวกมัน สร้างรังและปรับปรุงให้ดีขึ้น และหยุดพักจากความเครียดตลอดเวลา

หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก นกเพนกวินตัวน้อยกลับมาหลังจากค่ำจากการกินอาหารในมหาสมุทร

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักDiamond Island Resort, Restaurant & Bar and Penguin Show **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6เซนต์เฮเลนส์ - เบย์ออฟไฟร์ – หุบเขาทามาร์ –ชมไร่องุ่น - เมืองลอนเซสตัน
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซนต์เฮเลน(St.Helens) (ระยะทาง 74 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) หนึ่งในเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของเกาะแทสมาเนีย นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการจัดการแข่งขันตกปลาประจำเมืองอีกด้วย นำท่านเดินทางชมเบย์ออฟไฟร์ (Bay of Fire) ตั้งชื่อโดยกัปตันโทเบียส เมื่อปี ค.ศ.1773 เมื่อเขาพบเห็นการก่อกองไฟที่ชายหาดโดยชนพื้นเมืองชาวอะบอริจิน ชายหาดนี้มีชื่อเสียงขึ้นชื่อด้วยความขาวของหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส และหินแกรนิตสีน้ำตาล ซึ่งสีน้ำตาลเหล่านี้เกิดจากการเกาะตัวของไลเคน

นำท่านเดินทางแวะถ่ายรูปกับอนุสรณ์ไม้แกะสลักแด่ผู้ล่วงลับ (Legerwood Carved Memorial Tree) (ระยะทาง 82 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ในชุมชนเล็กๆของเมืองเลเกอร์วู้ด (Legerwood) ซึ่งรูปแกะสลักไม้ต่างๆนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1

นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านลาเวนเดอร์ไบรด์สโตว์ (Bridestowe Lavender Estate) (ระยะทาง 47 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ก่อตั้งขึ้นโดยนักปรุงน้ำหอมตระกูลเดนนี่ ชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานเมื่อปี ค.ศ.1921 จากการบริหารงานรุ่นสู่รุ่น ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในฟาร์มผลิตลาเวนเดอร์ชื่อดัง และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ผู้คนหลั่งไหลแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อนอย่างไม่ขาดสายในแต่ละปี แต่แล้วก็ถูกขายกิจการตกทอดแก่ครอบครัวเรเวนเมื่อปี ค.ศ.2007 อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในหมู่บ้าน และถ่ายรูปกับทัศนียภาพของเมืองนี้ 

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่หุบเขาทามาร์ (Tamar Valley) (ระยะทาง 59 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) Tamar Valley เป็นหุบเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย วิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองลอนเซสตันทางตอนเหนือไปยังชายฝั่งด้านใดด้านหนึ่งของแม่น้ำทามาร์ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องไร่องุ่นและโรงเก็บไวน์ นำท่านเดินทางชมไร่องุ่น (Moores Hill Estate) ท่านจะได้ลองชิมไวน์ที่ไร่องุ่นแห่งนี้ ไวน์ดังกล่าวผลิตในสถานที่ที่โรงไวน์พลังงานแสงอาทิตย์ 100% แห่งแรกของรัฐแทสเมเนีย ผลิตไวน์หลากหลายชนิดจาก Sparkling, Riesling, Pinot Gris, Chardonnay, Pinot Noir, Cabernet Sauvignon และ Merlot อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อไวน์เพื่อเป็นของฝาก

นำท่านเดินทางสู่เมืองลอนเซสตัน (Launceston) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของเกาะแทสมาเนียที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงามมาก มีวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง วิถีชีวิตผู้คนสงบ เรียบ ง่าย ตั้งอยู่ต้นแม่น้ำทามาร์ แม่น้ำสายสำคัญของเมืองนี้ และยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของออสเตรเลีย นับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองแห่งเกาะแทสมาเนีย รองจากเมืองโฮบาร์ต ถูกตั้งรกรากโดยชาวยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ.1806 และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พักHotel Grand Chancellor Launceston **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7เมืองลอนเซสตัน - โบสถ์อัครสาวก – ประตูผลิตภัณฑ์นมแอชโกรฟ - อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน
เช้า

รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางชมเมืองลอนเซสตัน (Launceston) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแบบโกธิก โบสถ์ประจำเมือง อาคารรัฐสภา โรงเบียร์เก่าใจกลางเมือง หรือที่ทำการไปรษณีย์เก่าแก่ที่มีหอนาฬิกาบอกเวลาอยู่บนหอคอย จากนั้นชมดอกไม้หลากสีสันใน ซิตี้ปาร์ค สวนพฤกษศาสตร์ของเมืองนี้ ซึ่งมีดอกวิสทีเลีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เลื้อยที่สวยและหอมที่สุดในโลกในสวนแห่งนี้

นำท่านเดินทางชมโบสถ์อัครสาวก (The Church of the Apostles) เป็นโบสถ์คาทอลิกในเมืองลอนเซสตัน รัฐแทสเมเนีย สังกัดอัครสังฆมณฑลโฮบาร์ต โบสถ์สไตล์ฟื้นฟูกอทิกที่มีโดเลอไรต์แบบชนบทและแต่งด้วยฟรีสโตน มีหลังคาหินชนวนมีไม้กางเขนหินอยู่ที่ปลายจั่ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในปี 1886 ได้รับการออกแบบโดย Alexander North

นำท่านเดินทางเข้าชมประตูผลิตภัณฑ์นมแอชโกรฟ  (Ashgrove Dairy Door) (ระยะทาง 64 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ในบนเส้นทางท่องเที่ยวรอยู่ห่างจาก Devonport ไปทางตะวันออก 25 นาที และอยู่ห่างจาก Launceston ไปทางตะวันตก 40 นาที มีทุกสิ่งสำหรับผู้รักชีสทุกคน เพลิดเพลินกับอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันด้วยเมนูอาหารจากทุ่งหญ้าแสนอร่อย รวมถึงขนมปังปิ้งชีสดีลักซ์ 5 ชิ้นและเจลาโต้ที่ทำสดใหม่ ชมการทำงานของผู้ผลิตชีส และเรียนรู้เกี่ยวกับปรัชญาการทำชีสอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ashgrove ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารรสเลิศ เช่น นมที่ได้รับรางวัล ชีสชนิดพิเศษ ของขบเคี้ยวชีสแฟนซี และผลิตผลแทสเมเนียแสนอร่อย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน (Cradle Mountain) (ระยะทาง 88 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain-Lake St Clair ที่ระดับความสูง 1,545 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 6 ในรัฐแทสเมเนีย อุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain เป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพอันโดดเด่นและมีเส้นทางเดินให้เลือกหลากหลาย เป็นพื้นที่ที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
ที่พักCradle Mountain Hotel  **** หรือเทียบเท่า  

***อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร ทางหัวหน้าทัวร์จะนัดหมายเวลา ในการออกล่าหาแสงใต้ (Aurora Australias) ซึ่งแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ***
*****ในการชมแสงใต้ ทางบริษัทไม่สามารถรับกระกันได้ว่า จะเห็นหรือไม่เห็นแสงใต้ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทางหัวหน้าทัวร์จะพยายามหาจุดชมแสงใต้ที่เห็นได้ชัดที่สุดให้ท่าน ช่วงเวลาที่จะเห็นได้ชัดคือ 23.00 น. – 03.00 น. *****
วันที่ 8อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน - ทะเลสาบโดฟ - เมืองเชฟฟิลด์ - ขึ้นเรือข้ามฟากสู่เมลเบิร์น
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน(Cradle Mountain) ชมความงามของยอดเขา Cradle Mountain ที่สูงตระหง่านขณะเดินไปตามทางเดินไม้เพื่อลัดเลาะตามริมน้ำใสบริสุทธิ์ของทะเลสาบที่เกิดจากหิมะที่จับตัวกันเป็นนํ้าแข็งแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัมกับทะเลสาบโดฟ (Dove Lake) ล้อมรอบด้วยเส้นทางเดินและเส้นทางธรรมชาติสั้นๆ หลายจุดที่กระจายออกไปถึงจุดชมวิวต่างๆ ลองเดินขึ้นไปที่แนวชายฝั่งของทะเลสาบ Dove และชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เส้นทางเดินรอบทะเลสาบส่วนใหญ่เป็นทางเดินไม้และท่านสามารถเดินไปทางใดก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นนำท่านชมชมโรงเรืออันเก่าแก่ที่อยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือ โรงเรือแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1940 นอกป่า King Billy pine ซึ่ง ปัจจุบันไม่มีคนอยู่อาศัยและเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ แวะถ่ายภาพโรงเรือที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวโดยมี Cradle Mountain และผืนป่าโดยรอบเป็นฉากหลัง เส้นทางเดินรอบทะเลสาบ Dove มีระยะทางยาว 5.7 กิโลเมตรต่อเที่ยวและใช้เวลาเดินทั้งสิ้นราว 2 ชั่วโมง

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่เมืองเชฟฟิลด์ (Sheffield) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) เมืองขนาดเล็กทางตอนเหนือของแทสมาเนีย เป็นที่รู้จักในฐานะ เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนัง (Town of Murals) โดยท่านจะเพลิดเพลินไปกับภาพวาดที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างบรรจงบนกำแพงและอาคารต่างๆ ทั่วทั้งเมือง พร้อมฟังเล่าเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะในขณะที่ท่านเดินเล่นผ่านแกลเลอรี่ศิลปะกลางแจ้ง

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือดาเวนพอร์ท (Devanport) เพื่อเช็คอินลงเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากสู่เมืองเมลเบิร์น

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารในเรือ Spirit of Tasmania
ที่พักห้องพักบนเรือ SPIRIT OF TASMANIA มีหน้าต่างทุกห้อง และมีห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำส่วนตัว
วันที่ 9เมืองเมลเบิร์น – จตุรัสเฟดเดอเรชั่น สแควร์ – โบสถ์เซนต์แพทริค – ตลาดควีนวิกตอเรีย
เช้า

รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ

เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองเมลเบิร์น (Melbourne)

นำท่านเดินทางสู่เมืองเมลเบิร์น (Melbourne) เมืองที่มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนที่ใด ในบรรยากาศนครแห่งความทันสมัย แต่ยังคงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ผสมผสานกลมกลืนทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม มีภัตตาคารชั้นดี แหล่งช้อปปิ้งชั้นยอด และรถรางอันมีชื่อ ที่ทำให้เมืองเมลเบิร์น ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการคมนาคมสาธารณะในเมืองที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้เมืองเมลเบิร์นยังได้รับผลโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกสามปีติดต่อกัน โดย EIU เมื่อ ค.ศ.2012-2014

นำท่านเดินทางผ่านชมย่านจตุรัสเฟดเดอเรชั่น สแควร์ (Federation Square) อีกหนึ่งจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเมลเบิร์น และยังเป็นจุดเชื่อมศูนย์กลางเมืองกับแม่น้ำยาร์ร่า นำท่านเดินทางผ่านชมสวนฟิซรอย (Fitzroy Garden) สวนสาธารณะในกลางนครเมลเบิร์น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1848 และครอบคลุมพื้นที่สีเขียวอาณาเขตกว่า 64 เอเคอร์ นับเป็นหนึ่งในกว่าสิบสวนสาธารณะที่ทำให้เมลเบิร์นได้รับสมญานามว่า เป็นเมืองแห่งสวนสาธารณะ นำท่านเดินทางแวะถ่ายรูปกับบ้านกัปตันคุ๊ก (Captain Cook Cottage) หรือชื่อเต็ม กัปตัน เจมส์ คุ๊ก ยอดนักเดินเรือชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเดินเรือสำรวจบนคาบสมุทรแปซิฟิกและค้นพบเกาะฮาวาย ประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศออสเตรเลีย

เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย

นำท่านเดินทางถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์แพทริค (St.Patrick Cathedral) โบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์โกธิก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1858 มียอดหอคอยสวยงามสูงกว่า 105 เมตร นอกจากนี้ พระสันตะปาปาโป๊ปจอห์นปอลที่สอง เคยเสด็จมาเยือนโบสถ์แห่งนี้เมื่อปี ค.ศ.1986

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria Market) ตลาดใจกลางเมืองบนพื้นที่กว่า 17 เอเคอร์ ซึ่งนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ (Southern Hemisphere) ภายในตลาดแบ่งเป็นโซนอย่างชัดเจน ทั้งตลาดผลไม้ตามฤดูกาลนานาชนิด ซึ่งมีทั้งผลไม้ท้องถิ่นและแบบนำเข้าจากต่างประเทศ ตลาดเนื้อและปลา ซึ่งพ่อค้านำมาขายแบบสดๆเกือบทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้านเบเกอรี่ ร้านขายสินค้าพื้นเมือง ของฝากต่างๆมากมาย อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย (***ตลาดปิดทำการในวันจันทร์และวันพุธ หากตรงกับวันดังกล่าว ทางทัวร์จะนำท่านเที่ยวชมสถานที่อื่นแทน***)

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูกุ้งมังกรและเป๋าฮื้อ)
19.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เมลเบิร์น (MEL) เพื่อเช็คอิน
23.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 462 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9.35 ชม.) สายการบิน บริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน
วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
06.00 น.เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ (Bon Voyage)

อัตราค่าบริการ

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ189,900 บาท
เด็กอายุ 02-11 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ท่านละ179,900 บาท
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ22,000 บาท
กรณีมีวีซ่าแล้ว หักคืนท่านละ4,000 บาท
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ40,000 บาท

เงื่อนไขในการจอง

  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน TG/JQ (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 20 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ค่าประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท  (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • ค่าวีซ่าออสเตรเลีย
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และ ค่าทิปต่างๆ
  • น้ำดื่มวันละ 2 ขวด/วัน
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (คิดจากค่าบริการ)
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรม แนะนำให้ท่านดูแลกระเป๋าเดินทางด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการสูญหาย
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์-แฟกซ์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นมัดจำตั๋วเครื่องบิน, วีซ่าและค่าดำเนินการ (ถ้ามี), ค่าโรงแรม, ค่าตั๋วรถไฟ โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือน ก่อนการเดินทาง)
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วันก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50% + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • แจ้งยกเลิกเดินทาง 0-14 วันก่อนการเดินทาง ยึดค่าทัวร์ 100%
  • ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก   วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

  • *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

 ตั๋วเครื่องบิน

  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  •  ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน

1. หนังสือเดินทาง (Passport) ซึ่งมีอายุมากกว่า 6 เดือน และ มีหน้าว่างสำหรับติดวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าคู่
2. สำเนาหนังสือเดินทาง พร้อมหน้าที่แสดงรายละเอียดของผู้สมัครและหน้าที่แสดงประวัติการเดินทางทั้งหมด
3. รูปถ่ายสี 2 รูป เขียนชื่อผู้ขอยื่นวีซ่าเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้านหลังรูป

  • รูปถ่าย อายุไม่เกิน 6 เดือน
  • ขนาด 4.5 x 3.5 ซม.
  • ขนาดจากคางถึงขอบผมด้านบนไม่เกิน 3 ซม.
  • ภาพสี พื้นหลังเรียบ
  • หน้าตรง และใบหน้าชัดเจน

4. สำเนาทะเบียนบ้าน
5. สำเนาบัตรประชาชน
6. สำเนาทะเบียนสมรส
7. สำเนาสูติบัตร หากอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ** ถ้าเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเดินทางโดยลำพัง หรือไม่ได้เดินทางพร้อมกับบิดาและมารดา จะต้องมีหนังสือแสดงความยินยอมจากบิดาและมารดาอนุญาตให้บุตรเดินทางได้**
8. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
หนังสือรับรองการทำงาน ต้องระบุวันที่จะเดินทางด้วย จดหมายการทำงานต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือนนับจากวันยื่นวีซ่า
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 
9. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement เท่านั้น)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ย้อนหลัง 6 เดือน เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) เท่านั้น ที่ออกโดยทางธนาคาร
***** ระบุชื่อเจ้าของบัญชี*เป็นภาษาอังกฤษ เท่านั้น******ให้ถูกต้องครบถ้วน มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า โดยมียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
หมายเหตุ หากต้องการรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน


Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy