ทัวร์อิตาลีใต้ มอลต้า ซิซิลี
บารี - อัลเบอโรเบลโล - มาเทรา - โคเซนซา - เมสซินา - ทอร์มินา - เซฟาลู - ปาแลร์โม - มอนเรอาเล เปียซซา อาร์เมรินา - ปอซซาโล - เซนต์จูเลียน - วัลเลตตา - มาร์ซักลอกก์ - เอ็มดินา - ฮาการ์กิม - ราบัต
วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
20.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน U (แถว U 14-18) ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.00 น. | ออกเดินทางสู่ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.30 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างบิน |
วันที่ 2 | อิสตันบูล – บารี – อัลเบอโรเบลโล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.15 น. | เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน (กระเป๋าเชคทรูไปเมืองบารี ประเทศอิตาลี) |
07.15 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินบารี (BRI) โดยเที่ยวบิน TK1445 (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ช.ม.) |
08.35 น. | เดินทางถึงสนามบินบารี ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่านเที่ยวชม เมืองบารี (ประเทศอิตาลี) เมืองที่อยู่ใกล้กับทะเลเอเดรียติก จนได้รับสมญานามว่า “แคลิฟอร์เนียตอนใต้ของอิตาลี” เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านการค้า เป็นศูนย์กลางการเดินเรือและศูนย์กลางของอาณาจักรไบแซนไทน์ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา เนื่องด้วยเซนต์นิโคลัส มาจาริกแสวงบุญที่เมืองนี้ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองได้ถูกทำลายด้วยระเบิดไดนามิก และได้ทำการบูรณะสร้างเมืองขึ้นใหม่ ปัจจุบันจึงเห็นบ้านเรือนที่ทันสมัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังคงสามารถเห็นซากความเจริญในอดีตที่ยังคงเหลือไว้
นำท่านเข้าชมปราสาทซูโว (Svevo Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจมืด (Dark Symbol of Power) ตัวปราสาทสร้างขึ้นในศิลปะแบบนอร์แมน-สวาเบียน ระหว่างปี 1501-1523 โดย อิซเบลแห่งอารากอน และ โบนา สฟอร์ซา เจ้าหญิงแห่งบารี สร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิโรมันในอดีต นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของปราสาทที่มีป้อมปราการล้อมโดยรอบ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองอัลเบอโรเบลโล (Alberobello) (ระยะทาง 66 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Bari แคว้นปูเกลีย (Puglia) ประเทศอิตาลี เป็นหมู่บ้านหินปูนของชุมชนโบราณ ที่ชื่อว่า Trulli
นำท่านชมความสวยงามของหมู่บ้านหินปูน หลังคาทรงกรวย หรือยอดกลม จึงส่งผลให้หมู่บ้านแห่งนี้มีความสวยงามแปลกตามาก องค์การยูเนสโก ได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1996 อิสระให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพความสวยงามและบรรยากาศของหมู่บ้านโบราณสีขาวแปลกตาที่ยากจะพบเห็นในอิตาลี แต่ยังคงอนุรักษ์ได้อย่างดีเยี่ยม ณ เมืองแห่งนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Colle Del Sole Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | อัลเบอโรเบลโล – มาเทรา – โคเซนซา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาเทรา (Matera) (ระยะทาง 67 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในแคว้น บาซีลีกาตา (Basilicata) หนึ่งใน 20 แคว้นของประเทศอิตาลี ตัวเมืองตั้งอยู่เหนือหุบเขาที่มีแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่าน เมื่อเดินเข้ามาภายในตัวเมืองจะได้พบกับถนนสายเล็กๆ ที่ปูด้วยหิน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันแสนเก่าแก่ เป็นเมืองที่ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองใต้ดิน หรือ เมืองมนุษย์ถ้ำ นั่นเอง จนกระทั่งในปี 1993 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก สำหรับ นครถ้ำโบราณ Sassi di Matera เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 9,000 ปี นำท่านเที่ยวชมความสวยงามแปลกตาของนครถ้ำแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความสวยงามของลักษณะภูมิประเทศอันแปลกตาของเมืองนี้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองโคเซนซา (Cosenza) (ระยะทาง 203 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองทางใต้ของอิตาลี ตรงบริเวณที่แม่น้ำบูเซนโตกับแม่น้ำกราติสไหลมาบรรจบกัน เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโคเซนซา มีสถาบันโคเซนเทียน (Cosentian Academy) ที่ถือเป็นสถานศึกษาด้านปรัชญา และวรรณคดีแห่งแรกที่ก่อตั้งในอิตาลีและในยุโรป (ค.ศ. 1511) ปัจจุบันเมืองยังคงเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์ โรงละคร ห้องสมุดอยู่หลายแห่ง นำท่านเที่ยวชมเมืองโคเซนซา อีกหนึ่งเมืองเก่า และเมืองสวยแห่งอิตาลีใต้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Italiana Hotels Cosenza / Europa Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | โคเซนซา – เมสซินา – ทอร์มินา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองวิลลา ซาน จิโอวานี (Villa San Giovanni) เพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ ข้ามสู่ เกาะซิซิลี (Sicily) เกาะสวรรค์ของคนอิตาลี เกาะที่ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีช่องแคบเมสซีนาคั่นระหว่างตัวเกาะกับแผ่นดินใหญ่อิตาลี บนเกาะมีภูเขาไฟเอตนา สูง 3,320 เมตรเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะ มีประชากรอาศัยอยู่บนเกาะกว่า 5 ล้านคน ซึ่งทั้งเกาะยังมีฐานะเป็นแคว้นปกครองตนเองซิซิลี |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองทอร์มินา (Toarmina) ระยะทาง 52 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาชายทะเลงดงามดังภาพวาด ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอ็ดน่า ที่ยังคุกรุ่นอยู่ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะ ซิซิลี นำท่านเดินทางสู่ ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ (Corso Umberto) ถนนสายหลักของเมือง อิสระให้ท่านได้ ช้อปปิ้ง โดยสองข้างทางมีร้านอาหาร, ร้านขายของฝาก และสินค้าพื้นเมืองมากมาย นำท่านเข้าชม โรงละครกรีก (Greek Theatre)สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล เป็นโรงละครกรีกที่ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดในบรรดาโรงละครกรีกทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก ด้านหลังเป็นวิวของเมืองทอร์มิน่าบนไหล่เขา ทะเลไอโอเนียน และภูเขาไฟเอ็ดน่า โรงละครกรีกแห่งนี้ยังคงถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลงานศิลปะนานาชาติของเมืองที่มีชื่อว่า ทอร์มิน่า อาร์เต้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Villa Esperia Hotel/ Royal Palace Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ทอร์มินา – เซฟาลู – ปาแลร์โม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซฟาลู (Cefalu) (ระยะทาง 232 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองทางตอนเหนือของเกาะซิซิลี ในจังหวัดปาแลร์โม เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีหาดทรายที่สวยงาม ทอดผ่านบ้านเรือนริมชายหาด ที่สร้างไล่ระดับขึ้นไปตามแนวเขา นับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะซิลี ให้ท่านได้แวะถ่ายรูปบน หาดเซฟาลู อันเป็นอีกหนึ่งชายหาดที่สวยงาม และติดอันดับของเกาะซิซิลี |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองปาแลร์โม (Palermo) ระยะทาง 98 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบูทของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรป จึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆ เริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกล ท่านจะสามารถสัมผัสถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป นำท่านถ่ายรูปกับ Palazzo dei Normanni อดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง นำท่านแวะถ่ายรูป Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย หลังคาโดมประดับด้วยโมเสคทองรูปพระเยซู และเทวดาทั้งแปด นำท่านชม น้ำพุ Fontana della Vergogna น้ำพุแกะสลักสไตล์เรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจาก ฟลอเรนซ์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | NH Palermo Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ปาแลร์โม – มอนเรอาเล – เปียซซา อาร์เมรินา – ปอซซาโล – วัลเลตตา (มอลต้า พักค้าง 3 คืน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเข้าชมมหาวิหารมอนเรอาเล (Monreale Duomo) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรม ไบแซนไทน์แห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์วิลเลียมที่ 2 ผู้ปกครองดินแดนซิซิลี ในช่วงปี ค.ศ. 1060 ภายในวิหารท่านจะได้พบกับความอลังการของโมเสคทอง ซึ่งว่ากันว่าใช้ทองในการประดับประดาทั้งหมด 2,200 กก. เลยทีเดียว นับเป็นโบสถ์โมเสคที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากโบสถ์เซนต์โซเฟียที่ตุรกี และที่น่าอัศจรรย์คือ โมเสคที่เห็นทั้งหมดนี้ใช้เวลาสร้างแค่ 8 ปีเท่านั้น
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเปียซซา อาร์เมรินา (Piazza Armeria) ระยะทาง 168 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมคฤหาสน์ขุนนางโรมัน (Roman Villa Del Casale) อดีตบ้านพักตากอากาศของขุนนางโรมันสมัยก่อน ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 จุดเด่นของที่นี่คือฝาผนังและพื้นทางเดินที่ประดับประดาไปด้วยงานศิลปะโมเสค มีการไล่แสงสีทำให้ภาพมีมิติอย่างน่าอัศจรรย์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองปอซซาโล (Pozzallo)เพื่อขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามสู่ เกาะมอลต้า |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
19.30 น. | เรือเฟอร์รี่ออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เกาะมอลต้า |
21.15 น. | เรือเฟอร์รี่เดินทางถึงมอลต้า |
ที่พัก | Golden Tulip Vivaldi Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 7 | วัลเลตตา - มาร์ซักลอกก์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชมเมืองเก่า 3 เมืองแห่งเกาะมอลต้า อันได้แก่ เมืองคอสปิคัว (Cospicua), เมืองแซงเกลีย (Senglea) และเมืองวิททอริโอซา (Vittoriosa) ซึ่งเป็นเมืองที่ได้มีสร้างกำแพงป้อมปราการโอบล้อมโดยรอบ นำท่านแวะถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง และท่าเรือเมืองเก่า |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980 นำท่านชม สวนบารัคคา (Barracca Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน นำท่านเข้าชมวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวินเซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิก และศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 จากนั้น ชม AUBERGE DE CASTILLE อาคารที่มีความสง่างามและใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองวัลเลตตา ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของคาบสมุทรซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสถานที่หรูหราที่สุด ปัจจุบันใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีของประเทศสาธารณรัฐมอลต้า สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1574 โดยสถาปนิกชาวมอลต้าชื่อ GIROLAMO CASSAR และมีการสร้างบูรณะใหม่อีกครั้งในปี 1741 นำท่านเข้าชมพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้า นาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Golden Tulip Vivaldi Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 8 | เอ็มดินา - ป้อมปราการเซนต์เอลโม |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็มดินา (Mdina) เมืองหลวงเก่าของมอลตา อายุประมาณ 1,500 – 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บนเนินเขาความสูงประมาณ 150 เมตรจากระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของชาวฟินิเชีย (Phoenician) เมืองนี้ได้รับอิทธิพลของศิลปะยุคกลาง สไตล์เมดิวัล ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างอาหรับ และยุโรป จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายนอกเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีทอง นำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูเมือง (Mdina Gate) สร้างขึ้นในปี 1724 สถาปัตยกรรมบาโรค นำท่านเดินเที่ยวชมภายในเมืองเก่า และนำท่านแวะถ่ายรูปกับจตุรัสเมสคิตา (Mesquita Square) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ดัง Game of Thornes นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเซ็นต์พอล (St.Paul Cathedral) หรือวิหารเอ็มดินา ขึ้นในศตวรรษที่ 12 เพื่ออุทิศให้แก่นักบุญพอล ต่อมาได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว จึงสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1696-1705 อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ถ่ายรูปในเมืองเอ็มดินาได้ตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชม ป้อมปราการเซนต์เอลโม (Fort Saint Elmo) เป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 บริเวณด้านล่างเป็น พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งชาติ (National War Museum) เป็นสถานที่จัดแสดงเหรียญตรา อาวุธ รถถัง เครื่องบิน และสิ่งของในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ป้อมแห่งนี้ในอดีต เคยใช้เป็นคุกขังเชลยศึกมาก่อน สำหรับด้านบนมีปืนใหญ่ประจำจุดต่างๆ ตรงนี้เราสามารถชมวิวท่าเรือมาร์ซักลอกก์ และท่าเรือแกรนด์ฮาร์เบอร์ จากนั้นนำท่านชม อนุสรณ์ Siege Bell Memorial ระฆังสีทองขนาดใหญ่สไตล์นีโอคลาสิก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1992 เพื่อสดุดีแก่ผู้เสียสละชีวิตในสงครามโลกครั้งที่สอง และในตอนเที่ยงของทุกวัน จะมีการตีระฆังเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์และการสูญเสียของชาวมอลต้าในครั้งนั้น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Golden Tulip Vivaldi Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3) |
วันที่ 9 | ฮาการ์ กิม – ล่องเรือ – ราบัต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน ล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงามของเกาะมอลต้า นำท่านถ่ายรูปกับถ้ำบลูกรอตโต (Blue Grotto) แห่งเกาะมอลต้า จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับหน้าผาดิงลี (Dingli Cliff) อีกหนึ่งผางามแห่งเกาะมอลต้า (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางบริษัทฯ จะจัดกิจกรรมอื่นทดแทน) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมเมืองราบัต (Rabat) เมืองสําคัญในอดีตของมอลต้า และเป็นแหล่งสําคัญของมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมอลต้าอีกด้วย นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์ปอล (St Paul Cathedral) อันเป็นสถานที่กล่าวได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคริสเตียนในเกาะมอลต้า ที่ซึ่งอัครสาวกเซนต์ปอล ได้เคยมาพักเมื่อเดินทางมาถึงเกาะมอลต้า จากนั้นนำท่านเข้าชมวิลลาโรมัน หรือ คฤหาสน์ของขุนนางโรมันโบราณ (Roman Villa) และ พิพิธภัณฑ์โรมัน (Museum of Roman Antiquities) ซึ่งได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนห้องต่างๆของขุนนางโรมันที่มาพำนักอยู่บนเกาะมอลต้าในอดีต |
16.30 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินมอลต้า |
19.35 น. | ออกเดินทางจากสนามบินมอลต้า สู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK1372 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.20 ชม.) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน |
23.05 น. | เดินทางมาถึง กรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน DUTY FREE SHOP ภายในสนามบิน |
วันที่ 10 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 10 | |
01.45 น. | ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง) สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า |
15.25 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิก วีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา จะต้องเห็นคิ้วและใบหู ชัดเจน (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) ***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาวัคซีนพาสปอร์ต หรือหลักฐานแสดงการได้รับวัคซีนครบโดส
4. สำเนาบัตรประชาชน
5. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
6. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
7. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
8. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
9. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
10. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
เอกสารรับรองการทำงานที่ออกในลักษณะจดหมาย ต้องเป็นฉบับจริง มีอายุไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่จะยื่นวีซ่า
11. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement หรือ ปริ้นท์ Statement online ได้)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ใช้เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยทางธนาคารย้อนหลัง 3 เดือนหรือ ปริ้นท์ Statement online ย้อนหลัง 3 เดือนได้ (ห้ามข้ามเดือน) ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วนตามตัวสะกดในพาสปอร์ต มีอายุไม่เกิน 7 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า และ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรองการเดินทาง 1 ท่าน
************* ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น หรือ กระแสรายวันที่ไม่ติดลบ **************
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) **สามารถแนบประกอบได้ (ไม่สามารถใช้เป็นบัญชีหลักในการยื่นได้) ท่านต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ (Saving) เป็นหลักในการยื่น
หากใช้บัญชีฝากประจำในการแนบประกอบ ต้องเตรียมดังนี้
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
**กรณีรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) จะต้องสะกดชื่อให้ถูกตามพาสปอร์ต
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2
(สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel