โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล สังเวชนียถาน 4 ตำบล [บินตรง] เที่ยวเนปาล

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE918 : โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน 4 ตำบล (ไม่เข้าราชคฤห์) [บินตรงลงคยา] 6 วัน 5 คืน (FD)

DE918 : โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล สังเวชนียสถาน 4 ตำบล (ไม่เข้าราชคฤห์) [บินตรงลงคยา] 6 วัน 5 คืน (FD)
Air Asia (FD)

LOTUS NIKKO HOTEL KUSHINAGAR
SGT Plaza Hotel
Taj Darbar Hotel
Zambala Hotel

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1สนามบินดอนเมือง - สนามบินคยา - บ้านนางสุชาดา - แม่น้ำเนรัญชรา - วัดไทยพุทธคยา - มหาเจดีย์พุทธคยา - ต้นพระศรีมหาโพธิ์
05.30 น.

คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 2 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน AIRASIA (FD) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องเนื่องจากเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจอย่าเข้มงวด

**หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที

08.20 น.บินลัดฟ้าสู่ เมืองคยา ประเทศอินเดีย โดยสายการบิน AIRASIA เที่ยวบินที่ FD112 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
10.10 น.

เดินทางถึง สนามบินเมืองคยา ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 1.30 ช.ม.กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

นำท่านเดินทางสู่ พุทธคยา พุทธสังเวชนียสถาน ที่สำคัญที่สุด 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธทั่วโลก

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ บ้านนางสุชาดา เป็นธิดาของ เสนียะ ( เสนานิกุฏุมพี) ผู้มีทรัพย์ซึ่งเป็นนายใหญ่แห่งชาวบ้านเสนานิคม ตำบลอุรุเวลา เมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยสาวนางได้ทำพิธีบวงสรวงต่อเทพยดาที่สิงสถิต ณ ต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งใกล้บ้านของนาง โดยได้ตั้งปณิธานความปรารถนาไว้ 2 ประการ คือ

1.ขอให้ข้าพเจ้าได้สามีที่มีบุญ มีทรัพย์สมบัติ และมีชาติสกุลเสมอกัน 
2.ขอให้ข้าพเจ้ามีบุตรคนแรกเป็นชาย
เมื่อความปรารถนาสำเร็จสมบูรณ์ นางได้ทำพลีกรรมบวงสรวงสังเวยเทพยดาด้วยข้าวมธุปายาส ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖

นำท่านชมวิว ริมสองฝั่ง แม่น้ำเนรัญชรา แม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติ ชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “ลิลาจัน” มาจากคำสันสกฤตว่า “ไนยรัญจนะ” แปลว่า แม่น้ำที่มีสีใสสะอาด แม่น้ำทั้งสายกว้างราว ๑ กิโลเมตร ในสมัยพุทธกาล แม่น้ำเนรัญชราไหลผ่านแคว้นมคธ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำเนรัญชรา อันเป็นภูมิสถานที่สงบน่ารื่นรมย์ พระมหาบุรุษทรงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียร ทรงประทับอยู่ ณ ที่นี้ นานถึง ๖ ปี พระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาและเปลี่ยนมาทรงดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทา จนได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราแห่งนี้

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดไทยพุทธคยา เป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 มีเนื้อที่ราว 12 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณพุทธคยา อยู่ห่างจากองค์เจดีย์พุทธคยาประมาณ 500 เมตร เป็นวัดที่อยู่ในความดูแลและอุปถัมภ์ของรัฐบาลไทย พระอุโบสถของวัดไทยพุทธคยาจำลองแบบมาจากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมของสมัยรัตนโกสินทร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งการจำลองแบบจนดูเหมือนนี้ไม่ใช่เฉพาะภายนอก แต่ยังมีภายในที่เหมือนกันด้วย เช่น องค์พระประธานที่เป็นพระพุทธชินราช แกลประตู แกลหน้าต่าง เป็นต้น 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มหาเจดีย์พุทธคยา เจดีย์พุทธคยาหรือพระมหาโพธิ์เจดีย์ คืออนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงสูง เป็นสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบอินเดีย สูงประมาณ 170 ฟุต แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกประดิษฐานพระพุทธเมตตา พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะปาละ เป็นพระพุทธรูปใหญ่หนึ่งเดียวในเจดีย์ที่ไม่ถูกทำลายจากกษัตริย์ชาวฮินดูในสมัยที่มีการกวาดล้างพระพุทธศาสนาในอินเดีย ส่วนชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาปางประทานพร บริเวณโดยรอบเจดีย์มีเจดีย์บริวารล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศ เดิมเจดีย์พุทธคยาเป็นวิหารขนาดไม่ใหญ่นัก ต่อมาในปี พ.ศ.674 พระเจ้าหุวิชกะทรงบูรณะเพิ่มเติมให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ในปัจจุบันเจดีย์พุทธคยาถือเป็นแลนด์มาร์คของกลุ่มพุทธสถานพุทธคยา 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ด้านหลังมหาเจดีย์ ท่านจะพบกับ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ คือต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับในช่วงเวลาตรัสรู้ เป็นพันธุ์ไม้ที่เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ต้นพระศรีมหาโพธิ์มีทั้งหมด 4 ต้น

-ต้นแรกคือต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ซึ่งตายลงในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช
-ต้นที่สองคือต้นที่แตกหน่อออกมาจากต้นแรกและได้ถูกทำลายลงในสมัยพระเจ้าสาสังการ กษัตริย์ฮินดู
-ต้นที่สามคือต้นที่แตกหน่อออกมาจากต้นแรกและได้ตายลงเพราะขาดการบำรุงดูแล เนื่องจากเป็นช่วงพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียเสื่อมโทรม
-ต้นที่ 4 คือต้นศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันที่แตกหน่อมาจากต้นที่ 3 ได้รับการบำรุงดูแลหน่อโดยเซอร์คันนิงแฮม หัวหน้าคณะสำรวจพุทธศาสนสถานในช่วงที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันมีอายุ 138 ปี

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นที่ประดิษฐานของพระแท่นวัชรอาสน์ พระแท่นที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างขึ้นเพื่อบูชาสถานที่บำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้า ตัวแท่นทำจากทองมีความยาว 7 ฟุต สลักเป็นรูปเพชร พญาหงส์ และดอกมณฑารพสลับกัน พระและพุทธศาสนิกชนนิยมไปสักการะ สวดมนต์ หรือนั่งทำสมาธิอยู่รอบๆ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์แห่งนี้

ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก  Bodhagaya Gautam Hotel  ระดับ3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 2เมืองคยา - เมืองเวสาลี - วัดป่ามหาวัน - เมืองกุสินารา
เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวสาลี  คืออาณาจักรหนึ่งของวัชชี หนึ่งใน 16 แคว้น ของชมพูทวีป

เรียกกันหลายชื่อว่า ไวสาลี ไพสาลี หรือ เวสาลี  เนื่องจากในครั้งนั้นกรุงเวสาวีเกิดฝนแห้ง ข้าวกล้าตายเพราะถูกแดดเผาคนยากจนอดตาย ศพเกลื่อนกลาดทั่วพระนคร อมนุษย์ได้กลิ่นซากศพก็พากันเข้ามาในพระนครผู้คนตายเพิ่มขึ้น เหล่าเจ้าลิจฉวีได้ยินมาว่าพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ปวงสัตว์ทรงมีอานุภาพมาก หากพระงค์ทรงเสด็จมาโปรด ภัยทุกอย่างก็จักสงบไปจึงส่งเจ้าลิจฉวี ชื่อ มหาลิ ซึ่งเป้นผู้ทีพระเจ้าพิมพิสารโปรดปรานและอำมาตย์ผุ้หนึ่งเดินทางไปขอร้องพระเจ้าพิมพิสารให้กราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จไปกรุงเวสาลี  พระบรมศาสดาทรงพิจารณา หากได้ตรัสรัตนสูตรในกรุงเวสาลีนอกจากความเดือดร้อนจักสงบลงมหาชนชาววัชชีเมื่อได้ฟังพระสูตรนี้แล้วจักได้บรรลุมมรรคผล จำนวนมากจึงทรงรำคำกราบทูลเชิญของพวกเจ้าลิจฉวี 

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดป่ามหาวัน อารามที่กษัตริย์ลิจฉวีสร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ในป่ามหาวันทางเหนือของอาณาจักรวัชชีในป่าหิมาลัยและพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 ชมเสาอโศกที่มีรูปสิงห์อยู่ในลักษณะนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่สมบูรณ์ที่สุด ปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ประกอบไปด้วยสังฆาราม ห้องพัก ห้องประชุม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละ อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมือง ปาวา เป็นที่ตั้งของ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า

ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก Om Residency Hotel  ระดับ3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 3มกุฎพันธนเจดีย์ - พระสถูปปรินิพพาน - เนปาล - ลุมพินี
เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ มกุฏพันธนเจดีย์ ตั้งอยู่ห่างจาก มหาปรินิพพานสถูป ไปทางทิศตะวันออก ๑ กิโลเมตร คนท้องถิ่นเรียกว่า “รามภาร์-กา-ดีลา” หรือ รัมภาร์สถูป เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า

 มกุฏพันธนเจดีย์ เดิมทีเป็นเชิงตะกอนไม้จันทร์หอม หลังจากที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้วก็ได้สร้างพระสถูปครอบลง ต่อมาก็ได้ถูกรุกรานทำลายเหลือแต่ซากปรักหักพัง ภายหลังได้ถูกขุดค้นพบเป็นซากกองอิฐพระสถูปขนาดใหญ่ดังที่เห็นในปัจจุบัน พระสถูปนี้วัดโดยรอบฐานได้ ๔๖.๑๔ เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๗.๑๘ เมตร ทั้งนี้ ตามหลักฐานก็เป็นที่ชัดเจนว่านั่นคือสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระหรือมกุฏพันธนเจดีย์ตามที่ชาวพุทธเรียกชื่อกัน ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี

นำท่านเดินทางไปกราบสักการะ มหาปรินิพพานสถูป ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่ เป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าประทานการบวชให้สาวกองค์สุดท้าย และยังเป็นที่ตรัสเทศนาปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือความไม่ประมาท

ชม มหาปรินิพพานสถูป ตั้งอยู่ด้านหลังของมหาปรินิพพานวิหาร เป็นสถูปแบบทรงโอคว่ำขนาดใหญ่ ซึ่งพระเจ้าอโศกมหาราชเป็นผู้สร้างและได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เชื่อกันว่าเป็นที่บรรทมครั้งสุดท้ายและเป็นสถานที่พระพุทธองค์ปรินิพพาน ณ ใต้ต้นสาละคู่ ภายหลังได้สร้างสถูปครอบไว้ดังจะเห็นได้ในปัจจุบัน สถูปมีความสูง ๖.๑๐ เมตรเหนือระดับพื้นดิน ด้านบนของสถูปเป็นฉัตร ๓ ชั้น 

ชม มหาปรินิพพานวิหาร หรือวิหารพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนฐานเดียวกันกับมหาปรินิพพานสถูป มีบันไดอิฐสูงขึ้นไปบนเนิน ภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดงหรือเรียกว่า จุณศิลา องค์พระพุทธรูปยาว ๒๓ ฟุต ๙ นิ้ว (ราว ๗ เมตร) กว้าง ๕ ฟุต ๖ นิ้ว สูง ๒ ฟุต ๑ นิ้ว ศิลปะมถุรา มีอายุมากกว่า ๑,๕๐๐ ปี ที่พระแท่นมีรูปสลักของสุภัททปริพาชกกำลังเข้าไปขอบวช และมีรูปสลักพระอนุรุทธะและพระอานนท์อยู่ด้วย พระพุทธรูปองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพาน ประทับนอนบรรทมตะแคงขวา โดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตก และมีซากศาสนสถานโบราณโดยรอบมากมาย ในจารึกระบุผู้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ คือ หริพละสวามี นายช่างผู้แกะสลักชื่อ ธรรมทินนา เป็นชาวเมืองมถุรา ในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะ เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดา แสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลกทั้งปวง

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หรือ ห้องอาหารในโรงแรม 
บ่าย

ออกเดินทางสู่ เมืองลุมพินีวัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง)ตั้งอยู่ในเขตประเทศเนปาล ผ่าน เมืองโครักข์ปูร์และผ่านเมืองชายแดนโสเนาวลีของอินเดียเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะของเนปาลเป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ  เดินทางถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

จากนั้นจึงเดินทางต่อเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ

 
ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก Nansc Hotel ระดับ3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 4สวนลุมพินีวัน - เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช - วิหารมายาเทวี - เมืองพาราณสี
เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำทุกท่านเดินทางสู่ สวนลุมพินีวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

สวนลุมพินีวัน ตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวา แคว้นอูธ ประเทศเนปาล เป็นพุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย ลุมพินีวัน เดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยานที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน ในสมัยพุทธกาลลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ ในแคว้นสักกะ บนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้ ปัจจุบัน ลุมพินีวันได้รับการบูรณะและมีถาวรวัตถุสำคัญที่ชาวพุทธนิยมไปสักการะ คือ "เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช" ที่ระบุว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ นอกจากนี้ ยังมี "วิหารมายาเทวี" ภายในประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรส โดยเป็นวิหารเก่ามีอายุร่วมสมัยกับเสาหินพระเจ้าอโศก ปัจจุบัน ทางการเนปาลได้สร้างวิหารใหม่ทับวิหารมายาเทวีหลังเก่า และได้ขุดค้นพบศิลาจารึกรูปคล้ายรอยเท้า สันนิษฐานว่าเป็นจารึกรอยเท้าก้าวที่เจ็ดของเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงดำเนินได้เจ็ดก้าวในวันประสูติ

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองพาราณสี เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี (Kingdom of Kashi) ในสมัยพุทธกาล ปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ห่างจากลัคเนาซึ่งเป็นเมืองหลวงของอุตตรประเทศเป็นระยะทาง 320 กิโลเมตร พาราณสีมีแม่น้ำคงคาไหลผ่าน เป็นเมืองที่ศักดิสิทธิ์ที่สุดหนึ่งในเจ็ดเมืองศักดิสิทธิ์ (สัปดาปุริ, Sapta Puri) ในความเชื่อของศาสนาฮินดูและศาสนาเชน พาราณสีมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย[3] ถือว่าเป็นสุทธาวาสที่สถิตแห่งศิวเทพ ถือว่าเป็นเมืองอมตะของอินเดียและเป็นที่แสวงบุญทั้งของชาวฮินดูและชาวพุทธทั่วโลก ครั้งสมัยอาณานิคม เมืองนี้มีชื่อว่า เบนาเรส (Benares)

ค่ำ   บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก City Inn Hotel ระดับ3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 5ล่องแม่น้ำคงคา - สารนาถ - ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทาวัน - เจาคนธีสถูป - พิพิธภัณฑ์สารนาถ - เมืองคยา
เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ล่องเรือแม่น้ำคงคา ซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากมวยผมขององค์พระศิวะ (แม่น้ำนี้ไหลมาจากที่ราบสูงทิเบตเทือกเขาหิมาลัย ประเทศจีนและเนปาล) ให้ทุกท่านได้ ลอยกระทงแม่น้ำคงคา ชม พิธีบูชาไฟ มหาศิวะราตรี และ การเผาศพ ของชาวฮินดูที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน รวมทั้งเป็นสถานที่คนนับล้านมุ่งหน้ามาเพื่อชมพิธีกรรมริมฝั่งแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ (พิธีเผาศพริมแม่น้ำคงคาของศาสนาฮินดู)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสารนาถ

นำท่าน สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ที่ ธัมเมกขสถูป ป่าอิสิปตนมฤคทาวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่แสดงปฐมเทศนาธรรมจักกัปปวัตนสูตร โปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้า ในสมัยพุทธกาลเป็นสถานที่สงบและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษี นักบวชและนักพรตต่าง ๆ ที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะเพื่อเข้าถึงพรหมัน (ตามความเชื่อของพรามหณ์) ทำให้ปัจจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสิทธัตถะมาบำเพ็ญตบะที่นี่

จากนั้นนำท่านชม เจาคันธีสถูป เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงพบกับปัญจวัคคีย์ ณ สถานที่แห่งนี้เมื่อพระพุทธองค์ทรงเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันแล้ว ปัญจวัคคีย์ เมื่อเห็นพระพุทธองค์เสด็จมาแต่ไกล จึงทำสัญญากันว่า จะไม่ลุกรับ จะไม่ต้อนรับ แต่เมื่อพระองค์เสด็จมาถึง ต่างก็ลืมสัญญานั้นสิ้น สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงพบปัญจวัคคีย์เมื่อเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันนี้ ปัจจุบันอยู่ห่างจากสถานที่แสดงปฐมเทศนาไม่ไกลนักประมาณกิโลเมตรเศษ มีการสร้างพระสถูปเป็นเครื่องระลึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงพบกับปัญจวัคคีย์ เรียกว่า เจาคันธีสถูป สันนิษฐานกันว่า สร้างราวๆ พุทธศักราช 1000 ช่วงราชวงศ์คุปตะ

นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ มีพระพุทธรูปโบราณซึ่งน่าทึ่ง และงดงามตามแบบฉบับของคนอินเดีย อายุนับพันปีมากมายครับ แต่เสียดายที่ถูกห้ามนำกล้องมาถ่ายภาพภายใน ต้องใช้เทคนิคพิเศษ จึงมีรูปมาให้ชมกันไม่มาก พอดูเป็นสังเขป อย่างพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา (รูปพระพุทธองค์แรก) เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยคุปตะ อายุประมาณปี พ.ศ.800 - 1,200 ครับ ซึ่งยุคนั้นนับว่าเป็นยุคที่มีความเจริญสูงสุดของพุทธศิลป์ พระพุทธรูปองค์นี้ถูกค้นพบที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันครับ ถือกันว่าเป็นพุทธปฏิมาที่งดงามมาก แต่ก่อนที่อินเดียมีการประกวดพุทธปฏิมากัน หากส่งพระพุทธรูปองค์นี้เข้าประกวด จะได้รับการคัดเลือกว่าเป็นพุทธรูปที่งดงามที่สุดทุกครั้งไป จึงต้องขอให้งดการส่งเข้าประกวด เปิดโอกาสให้องค์อื่นบ้าง จึงนับว่าพระพุทธรูปองค์นี้ น่าจะเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในโลกองค์หนึ่งก็ว่าได้

เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองคยา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) ให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Bodhagaya Gautam Hotel ระดับ3*หรือเทียบเท่า 
วันที่ 6สนามบินคยา - สนามบินดอนเมือง
เช้าบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00 น.นำท่านเดินทางออกจากโรงแรมที่พัก ทำการเช็คเอ้าท์ ออกเดินทางสู่  สนามบินคยา
10.40 น.ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน AIRASIA เที่ยวบินที่ FD123  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที
14.50 น. เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ
  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
    ที่พักโรงแรมตามรายการ 5 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
  • อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 30 กก.
  • ค่ารถรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญเส้นทางดูแลตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันชีวิตกรณีอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวงเงินไม่เกิน ท่านละ 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) 
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย,ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ(Re-Entry) หรือ คนต่างด้าว (เป็นหน้าที่ของผู้เดินทางในการจัดทำเอง)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุเช่นค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ทางไกล, ค่าอินเตอร์เน็ตฯลฯ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าปรับสำหรับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนดไว้20 กก.
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าอินเดียแบบ E-Visaและค่าวีซ่าเนปาลค่าท่านละ 3,900 บาท (ชำระพร้อมค่ามัดจำทัวร์)
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ 1,800บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(ชำระที่สนามบินในวันเดินทาง)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่าน(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถแต่ไม่บังคับทิป
     
  • กรุณาทำการจองก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 45 วันทำการหรือก่อนหน้านั้น โดยส่งแฟกซ์หรืออีเมลล์รายชื่อและหน้าหนังสือเดินทางเพื่อยันการจองที่นั่ง พร้อมชำระมัดจำท่านละ 10,000 บาท
  • ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ บริษัทฯ จะขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมดก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 21 วันทำการ มิเช่นนั้นบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางของท่าน และการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • เมื่อท่านตกลงชำระเงินค่าบริการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขและข้อตกลงการให้บริการที่ได้ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ทั้งหมดนี้แล้ว
  • ยกเลิกการเดินทางก่อนการเดินทาง 30 วัน บริษัทฯจะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยจะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าธรรมเนียมวีซ่ายกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
  • ยกเลิกการเดินทาง 15 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่ามัดจำทัวร์ 50%
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วันเก็บค่าใช้จ่าย100% ของราคาทัวร์ต่อท่าน
  • สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทยและทางบริษัทฯเป็นผู้ยื่นวีซ่าให้เมื่อผลวีซ่าผ่านแล้วมีการยกเลิกการเดินทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด

1.โปรแกรมทัวร์นี้จะสามารถออกเดินทางได้ต้องมีจำนวนผู้เดินทางขั้นต่ำ25ท่านรวมในคณะตามที่กำหนดไว้เท่านั้นหากมีจำนวนผู้เดินทางรวมแล้วน้อยกว่าที่กำหนดไว้บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนกำหนดการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง15-19ท่านต้องเพิ่มเงินท่านละ2,000บาท, กรณีที่มีผู้เดินทาง20-24ท่านต้องเพิ่มเงินท่านละ1,000บาท
2.ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับผลการอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย แบบ E-Visa ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่า E-Visa และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการขอวีซ่าใหม่โดยตรงกับทางศูนย์รับยื่นวีซ่าอินเดีย ประจำประเทศไทย
3.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและเงื่อนไขต่างๆโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯเท่านั้นอีกทั้งข้อสรุปและข้อตัดสินใดๆของบริษัทฯให้ถือเป็นข้อยุติสิ้นสุดสมบูรณ์
4.บริษัทฯและตัวแทนของบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการทัวร์ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ข้อจำกัดด้านภูมิอากาศและเวลาณวันที่เดินทางจริงทั้งนี้ทางบริษัทฯจะยึดถือและคำนึงถึงความปลอดภัยรวมถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าส่วนมากเป็นสำคัญ
5.รายการทัวร์นี้เป็นการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ (Join Tour) จัดทำและดำเนินการโดยบริษัทคู่ค้า (Partner)
6.อัตราค่าบริการคิดคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบันบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนราคาค่าบริการในกรณีที่มีการขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบินค่าประกันภัยสายการบินค่าธรรมเนียมน้ำมันหรือมีการประกาศลดค่าเงินบาทหรืออัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับขึ้นในช่วงใกล้วันที่คณะจะเดินทาง
7.ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้หากท่านไม่ใช้บริการใดๆไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่สามารถเรียกร้องขอคืนค่าบริการได้
8.หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะทัวร์ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ไม่สามารถนำมาขอคืนเงินได้
9.ค่าบริการที่ท่านชำระกับทางบริษัทฯเป็นการชำระแบบเหมาขาดและทางบริษัทฯได้ชำระให้กับบริษัทฯตัวแทนแต่ละแห่งแบบเหมาขาดเช่นกันดังนั้นหากท่านมีเหตุอันใดที่ทำให้ท่านไม่ได้ท่องเที่ยวพร้อมคณะตามรายการที่ระบุไว้ท่านจะขอคืนค่าบริการไม่ได้
10.กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนมีการยกเลิกล่าช้าเปลี่ยนแปลงการบริการจากสายการบินบริษัทขนส่งหรือหน่วยงานที่ให้บริการบริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
11.มัคคุเทศก์พนักงานและตัวแทนของบริษัทฯไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆทั้งสิ้นแทนบริษัทฯนอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯกำกับเท่านั้น
12.บริษัทฯรับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้นการเดินทางของผู้เดินทางด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่นๆเช่นการไปค้าแรงงานการค้าประเวณีการค้ามนุษย์การขนส่งสินค้าหนีภาษีการขนยาเสพติดการโจรกรรมการขนอาวุธสงครามการก่อการร้ายและอื่นๆที่เข้าข่ายผิดกฏหมายผิดศีลธรรมอันดีบริษัทฯมิได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องหรือมีส่วนต้องรับผิดชอบใดๆกับการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้น
13.หากผู้เดินทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆปฏิเสธการเข้า - ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆก็ตามถือเป็นเหตุผลซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจและความรับผิดชอบของบริษัทฯทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบการคืนเงินทั้งหมด
14.ผู้เดินทางต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าต่างๆในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวท่านเองบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบใดๆหากเกิดความไม่พึงพอใจในสินค้าที่ผู้เดินทางได้ซื้อระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนี้
15.ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบต่อการจัดเก็บและดูแลทรัพย์สินส่วนตัวของมีค่าต่างๆอย่างระมัดระวังบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบใดๆหากเกิดการสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัวของมีค่าต่างๆระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
16.บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สินและสัมภาระระหว่างการเดินทางอันมีสาเหตุมาจากสนามบินสายการบินบริษัทขนส่งโรงแรมหรือการโจรกรรมแต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเรียกร้องค่าชดใช้ให้กับผู้เดินทาง
17.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากการยกเลิกหรือความล่าช้าของสายการบินภัยธรรมชาติการนัดหยุดงานการจลาจลการปฏิวัติรัฐประหารที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อมเช่นการเจ็บป่วยการถูกทำร้ายการสูญหายความล่าช้าหรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
18.บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใดๆต่อการไม่เป็นไปตามความคาดหวังและความไม่พึงพอใจของผู้เดินทางที่เกี่ยวข้องกับสภาพธรรมชาติภูมิอากาศฤดูกาลทัศนียภาพวัฒนธรรมวิถีและพฤติกรรมของประชาชนในประเทศที่เดินทางไป
19.ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นหากผู้เดินทางประสบเหตุสภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัวซึ่งไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุในรายการท่องเที่ยว(ซึ่งลูกค้าจะต้องยอมรับในเงื่อนไขนี้ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัททัวร์)
20.กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ(เล่มน้ำเงิน)เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากท่านถูกปฏิเสธในการเข้า-ออกประเทศใดๆก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์และรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
21.กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายในประเทศ เช่น (ตั๋วเครื่องบิน,ตั๋วรถทัวร์,ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆในกรณีถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว
22.หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า6เดือนและบริษัทฯรับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น(หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า6เดือนบริษัทฯไม่รับผิดชอบหากอายุเหลือไม่ถึงและไม่สามารถเดินทางได้

  • แบบฟอร์ม แบบฟอร์มกรอกข้อมูลเพื่อประกอบการดำเนินการขอวีซ่า โดยต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
  • ไฟล์แสกนหนังสือเดินทาง (Passport) ไฟล์สกุล pdf
  • สแกนรูปถ่ายสี ด้านหลัง เป็นสีขาว ไม่มีกรอบ ขนาด 2 x 2นิ้ว 2 รูป
 

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy