โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล นมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตําบล เที่ยวเนปาล

ค้นหาโปรแกรมทัวร์

DE831 : โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล นมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตําบล 8 วัน 6 คืน (6E)

DE831 : โปรแกรมทัวร์อินเดีย เนปาล นมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตําบล 8 วัน 6 คืน (6E)
INDIGO AITLINES (6E)

GALAXYHOTEL
GRAPEVINE HOTEL
LOTUS SUTRA HOTEL
OM RESIDENCY HOTEL
ZAMALA HOTEL

รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1สนามบินสุวรรณภูมิ - พาราณาสี - คยา
23.30 น.

คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออกอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบิน Indigo (6E) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องเนื่องจากเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจอย่างเข้มงวด

**หมายเหตุ**เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาทีและผู้โดยสารพร้อมณประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 30 นาที

วันที่ 2สนามบินสุวรรณภูมิ - พาราณาสี - เมืองสารนาถ - ธัมเมกขสถูปป่าอิสิปตนมฤคทาวัน - เจาคันธีสถูป - พิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ - ล่องแม่น้ำคงคา
02.05 น.บินลัดฟ้าสู่ เมืองโกลกาตาประเทศอินเดีย โดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E78 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 05 นาที
03.20 น. เดินทางถึง สนามบินโกลกาตา ประเทศอินเดีย นำท่านเปลี่ยนเครื่อง ผ่าน ต.ม อินเดีย และรับกระเป๋าพร้อมโหลดกระเป๋าใหม่ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองพาราณาสี
07.25 น. บินลัดฟ้าสู่ เมืองพาราณาสี ประเทศอินเดียโดย สายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E713 ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมง05นาที (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
09.05 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองพาราณาสี ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 1.30 ช.ม.กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่นเพื่อสะดวกในการนัดหมาย)หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
​บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองสารนาถ นำท่านสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิที่ธัมเมกขสถูปป่าอิสิปตนมฤคทาวันเป็นพุทธสังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่แสดงปฐมเทศนาธรรมจักกัปปวัตนสูตรโปรดเบญจวัคคีย์ทั้งห้าในสมัยพุทธกาลเป็นสถานที่สงบและเป็นที่ชุมนุมของเหล่าฤษีนักบวชและนักพรตต่างๆที่มาบำเพ็ญตบะและโยคะเพื่อเข้าถึงพรหมัน (ตามความเชื่อของพรามหณ์) ทำให้ปัจจวัคคีย์ที่ปลีกตัวมาจากเจ้าชายสิทธัตถะมาบำเพ็ญตบะที่นี่

จากนั้นนำท่านชม เจาคันธีสถูป เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงพบกับปัญจวัคคีย์ณสถานที่แห่งนี้เมื่อพระพุทธองค์ทรงเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันแล้วปัญจวัคคีย์เมื่อเห็นพระพุทธองค์เสด็จมาแต่ไกลจึงทำสัญญากันว่าจะไม่ลุกรับจะไม่ต้อนรับแต่เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงต่างก็ลืมสัญญานั้นสิ้นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงพบปัญจวัคคีย์เมื่อเสด็จมาถึงป่าอิสิปตนมฤคทายวันนี้ปัจจุบันอยู่ห่างจากสถานที่แสดงปฐมเทศนาไม่ไกลนักประมาณกิโลเมตรเศษมีการสร้างพระสถูปเป็นเครื่องระลึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งพระพุทธองค์ทรงพบกับปัญจวัคคีย์เรียกว่าเจาคันธีสถูปสันนิษฐานกันว่าสร้างราวๆพุทธศักราช 1000 ช่วงราชวงศ์คุปตะ

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ มีพระพุทธรูปโบราณซึ่งน่าทึ่งและงดงามตามแบบฉบับของคนอินเดียอายุนับพันปีมากมายครับแต่เสียดายที่ถูกห้ามนำกล้องมาถ่ายภาพภายในต้องใช้เทคนิคพิเศษจึงมีรูปมาให้ชมกันไม่มากพอดูเป็นสังเขปอย่างพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา (รูปพระพุทธองค์แรก) เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยคุปตะอายุประมาณปีพ.ศ.800 - 1,200 ครับซึ่งยุคนั้นนับว่าเป็นยุคที่มีความเจริญสูงสุดของพุทธศิลป์พระพุทธรูปองค์นี้ถูกค้นพบที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันครับถือกันว่าเป็นพุทธปฏิมาที่งดงามมากแต่ก่อนที่อินเดียมีการประกวดพุทธปฏิมากันหากส่งพระพุทธรูปองค์นี้เข้าประกวดจะได้รับการคัดเลือกว่าเป็นพุทธรูปที่งดงามที่สุดทุกครั้งไปจึงต้องขอให้งดการส่งเข้าประกวดเปิดโอกาสให้องค์อื่นบ้างจึงนับว่าพระพุทธรูปองค์นี้น่าจะเป็นพระพุทธรูปที่สวยงามที่สุดในโลกองค์หนึ่งก็ว่าได้ จากนั้นนำท่าน ล่องเรือแม่น้ำคงคาซึ่งชาวฮินดูเชื่อถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลมาจากมวยผมขององค์พระศิวะ (แม่น้ำนี้ไหลมาจากที่ราบสูงทิเบตเทือกเขาหิมาลัยประเทศจีนและเนปาล) ให้ทุกท่านได้ลอยกระทงแม่น้ำคงคาชมสถานที่การเผาศพของชาวฮินดูที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน

ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
​ที่พักCity Inn Hotel  ระดับ 3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 3พาราณสี - เนปาล - ลุมพินี - เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช - วิหารมายาเทวี
เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองลุมพินีวัน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ7-8 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ในเขตประเทศเนปาลผ่านเมืองโครักข์ปูร์และผ่านเมืองชายแดนโสเนาวลีของอินเดียเข้าสู่เมืองสิทธารัตถะของเนปาลเป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะเดินทางถึงพรมแดนอินเดีย-เนปาลผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
​บ่าย

จากนั้นจึงเดินทางต่อเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ

นำทุกท่านเดินทางสู่ สวนลุมพินีวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธเป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวาแคว้นอูธประเทศเนปาลเป็นพุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดียลุมพินีวันเดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยานที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนในสมัยพุทธกาลลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะในแคว้นสักกะบนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วพระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติเรียกว่าเสาอโศกที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้ปัจจุบันลุมพินีวันได้รับการบูรณะและมีถาวรวัตถุสำคัญที่ชาวพุทธนิยมไปสักการะคือ "เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช" ที่ระบุว่าสถานที่นี้เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะนอกจากนี้ยังมี "วิหารมายาเทวี" ภายในประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรสโดยเป็นวิหารเก่ามีอายุร่วมสมัยกับเสาหินพระเจ้าอโศกปัจจุบันทางการเนปาลได้สร้างวิหารใหม่ทับวิหารมายาเทวีหลังเก่าและได้ขุดค้นพบศิลาจารึกรูปคล้ายรอยเท้าสันนิษฐานว่าเป็นจารึกรอยเท้าก้าวที่เจ็ดของเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงดำเนินได้เจ็ดก้าวในวันประสูติ

ค่ำ   บริการอาหารเย็นณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักNansc Hotel ระดับ 3*หรือเทียบเท่า
วันที่ 4เนปาล - ลุมพินี - เมืองกุสินารา - มกุฎพันธนเจดีย์ - พระสถูปปรินิพพาน 
เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ เมืองกุสินารา เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งที่ 4 ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเอกหนึ่งในสองของแคว้นมัลละอยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำคู่กับเมืองปาวาเป็นที่ตั้งของสาลวโนทยานหรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานและเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
​บ่าย

นำท่านเดินทางสู่ มกุฏพันธนเจดีย์ ตั้งอยู่ห่างจากมหาปรินิพพานสถูปไปทางทิศตะวันออก ๑ กิโลเมตร คนท้องถิ่นเรียกว่า “รามภาร์-กา-ดีลา” หรือรัมภาร์สถูปเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้าเดิมทีเป็นเชิงตะกอนไม้จันทร์หอม หลังจากที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้วก็ได้สร้างพระสถูปครอบลง ต่อมาก็ได้ถูกรุกรานทำลายเหลือแต่ซากปรักหักพัง ภายหลังได้ถูกขุดค้นพบเป็นซากกองอิฐพระสถูปขนาดใหญ่ดังที่เห็นในปัจจุบันพระสถูปนี้วัดโดยรอบฐานได้ ๔๖.๑๔ เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓๗.๑๘ เมตร ทั้งนี้ตามหลักฐานก็เป็นที่ชัดเจนว่านั่นคือสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระหรือมกุฏพันธนเจดีย์ตามที่ชาวพุทธเรียกชื่อกัน ปัจจุบันรัฐบาลอินเดียได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมไว้อย่างดี

นำท่านเดินทางไป กราบสักการะมหาปรินิพพานสถูป ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละคู่เป็นพุทธสถานที่พระพุทธเจ้าประทานการบวชให้สาวกองค์สุดท้ายและยังเป็นที่ตรัสเทศนาปัจฉิมโอวาทสุดยอดแห่งพระธรรมคำสอนคือความไม่ประมาท

ชม มหาปรินิพพานวิหาร หรือ วิหารพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ด้านหน้าบนฐานเดียวกันกับมหาปรินิพพานสถูปมีบันไดอิฐสูงขึ้นไปบนเนินภายในประดิษฐาน “พระพุทธรูปปางปรินิพพาน” อยู่บนพระแท่นทำด้วยหินทรายแดงหรือเรียกว่าจุณศิลาองค์พระพุทธรูปยาว ๒๓ ฟุต ๙ นิ้ว (ราว๗เมตร) กว้าง ๕ ฟุต ๖ นิ้วสูง๒ฟุต๑นิ้วศิลปะมถุรามีอายุมากกว่า ๑,๕๐๐ ปีที่พระแท่นมีรูปสลักของสุภัททปริพาชกกำลังเข้าไปขอบวชและมีรูปสลักพระอนุรุทธะและพระอานนท์อยู่ด้วยพระพุทธรูปองค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธองค์ที่กำลังเสด็จดับขันธปรินิพพานประทับนอนบรรทมตะแคงขวาโดยหันพระพักตร์ไปทางทิศตะวันตกและมีซากศาสนสถานโบราณโดยรอบมากมายในจารึกระบุผู้จัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้คือหริพละสวามีนายช่างผู้แกะสลักชื่อธรรมทินนาเป็นชาวเมืองมถุราในปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ถือได้ว่าเป็นจุดหมายสำคัญที่ชาวพุทธจะมาสักการะเพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะอันพิเศษคือเหมือนคนนอนหลับธรรมดาแสดงให้เห็นว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธปรินิพพานจากไปอย่างผู้หมดกังวลในโลกทั้งปวง

ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
​ที่พักOm Residency Hotel ระดับ 4*หรือเทียบเท่า
วันที่ 5เมืองกุสินารา เมืองเวสาลี - วัดป่ามหาวัน - นาลันทา
​เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวสาลี คืออาณาจักรหนึ่งของวัชชีหนึ่งใน 16 แคว้นของชมพูทวีปเรียกกันหลายชื่อว่าไวสาลีไพสาลีหรือเวสาลีเนื่องจากในครั้งนั้นกรุงเวสาวีเกิดฝนแห้งข้าวกล้าตายเพราะถูกแดดเผาคนยากจนอดตายศพเกลื่อนกลาดทั่วพระนครอมนุษย์ได้กลิ่นซากศพก็พากันเข้ามาในพระนครผู้คนตายเพิ่มขึ้นเหล่าเจ้าลิจฉวีได้ยินมาว่าพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลกพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ปวงสัตว์ทรงมีอานุภาพมากหากพระงค์ทรงเสด็จมาโปรดภัยทุกอย่างก็จักสงบไปจึงส่งเจ้าลิจฉวีชื่อมหาลิซึ่งเป้นผู้ทีพระเจ้าพิมพิสารโปรดปรานและอำมาตย์ผุ้หนึ่งเดินทางไปขอร้องพระเจ้าพิมพิสารให้กราบทูลอาราธนาพระพุทธองค์เสด็จไปกรุงเวสาลีพระบรมศาสดาทรงพิจารณาหากได้ตรัสรัตนสูตรในกรุงเวสาลีนอกจากความเดือดร้อนจักสงบลงมหาชนชาววัชชีเมื่อได้ฟังพระสูตรนี้แล้วจักได้บรรลุมมรรคผลจำนวนมากจึงทรงรำคำกราบทูลเชิญของพวกเจ้าลิจฉวี

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม วัดป่ามหาวัน อารามที่กษัตริย์ลิจฉวีสร้างถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งอยู่ในป่ามหาวันทางเหนือของอาณาจักรวัชชีในป่าหิมาลัยและพระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในพรรษาที่ 5 ชมเสาอโศกที่มีรูปสิงห์อยู่ในลักษณะนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่สมบูรณ์ที่สุดปัจจุบันเหลือเพียงซากโบราณสถานที่ประกอบไปด้วยสังฆารามห้องพักห้องประชุม

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
​บ่าย

นำท่านออกเดินทางสู่ นาลันทา เป็นชื่อเมืองๆหนึ่งในแคว้นมคธอยู่ห่างจากพระนครราชคฤห์ประมาณ 1 โยชน์ (ประมาณ 16 กิโลเมตร) ณเมืองนี้มีสวนมะม่วงชื่อปาวาริกัมพวัน (สวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี) ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับแรมหลายครั้งคัมภีร์ฝ่ายมหายานกล่าวว่าพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะซึ่งเป็นอัครสาวกเกิดที่เมืองนาลันทาแต่คัมภีร์ฝ่ายบาลีเรียกถิ่นเกิดของพระสารีบุตรว่าหมู่บ้านนาลกะหรือนาลันทคาม "นาลันทามหาวิชชาลัยของพุทธศาสนานิกายมหายาน"

ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักNalanda Regency Hotel  หรือเทียบเท่า
วันที่ 6นาลันทา - พุทธรูปองค์ดำ เมืองราชคฤห์ - เขาคิชฌกูฏ - วัดเวฬุวัน - คยา
เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มหาวิทยาลัยนาลันทา มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นศูนย์การศึกษาในสมัยพุทธกาลต่อมาในปีพ.ศ. 1742 กองทัพมุสลิมเติรกส์ได้ยกทัพมารุกรานรบชนะกษัตริย์แห่งชมพูทวีปฝ่ายเหนือกองทัพมุสลิมเติรกส์ได้เผาผลาญทำลายวัดและปูชนียสถานในพุทธศาสนาลงแทบทั้งหมดและสังหารผู้ที่ไม่ยอมเปลี่ยนศาสนานาลันทามหาวิหารก็ถูกเผาผลาญทำลายลงในช่วงระยะเวลานั้นว่ากันว่าไฟที่ลุกโชนเผานาลันทานานถึง 3 เดือนกว่าจะเผานาลันทาได้หมด

จากนั้นนำท่านเดินทางไป นมัสการพระพุทธรูปองค์ดำ เป็นพรพุทธรูปโบราณที่แกะสลักจากหินสีดำหน้าตักกว้าง ๖๐ นิ้วพระเกตุทรงดอกบัวตูมปางสมาธิองคุลีของพระหัตถ์ขวาทั้งหมดชี้ลงธรณีแม้พระนาสิกจะหักบิ่นไปแต่ก็ยังทรงความงดงามอยู่มิได้จืดจางเหลือรอดจากการถูกทุบทำลายจากคนศาสนาอื่นและยังมีสภาพที่ค่อนข้างมบูรณ์มีคำบอกเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ว่าเริ่มจากชาวบ้านอินเดียการบนบานศาลกล่าวขอพรจากพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดียนั้นเป็นไปในลักษณะเดียวกับคนไทยเวลาลูกไม่สบายก็พากันเอาน้ำมันเนยมาทาที่องค์ท่านก่อนแล้วลูบเอาน้ำมันเนยนั้นกลับมาทาตัวลูกทำให้ลูกหายเจ็บป่วยหายงอแงกินข้าวได้อ้วนท้วนสมบูรณ์จนหลายคนขนานนามท่านว่าหลวงพ่อน้ำมัน

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
​บ่าย

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ นครหลวงแห่งแคว้นมคธ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชัวโมง)

นำท่านเดินทางขึ้น เขาคิชญกูฏ หนึ่งในเบญจคีรีชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามนมัสการถ้ำพระโมคคัลลาชมถ้ำพระสารีบุตรสถานที่ที่พระสารีบุตรสำเร็จเป็นพระอรหันต์ชมกุฏีของพระอานนท์นมัสการมูลคันธกุฏีสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าไหว้พระสวดมนต์ที่ยอดเขาคิชกูฎจากนั้นนำท่านชมวัดชีวกัมพวันโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกของโลก

นำท่านเดินทางสู่ วัดเวฬุวนารามมหาสังฆยิกาวาส (วัดเวฬุวัน)วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาและเป็นสถานที่แสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่พระอริยสงฆ์ 1,250 องค์มีสถูปที่บรรจุพระอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระอัญญาโกญฑัญญะ สมควรแก่เวลา

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคยา ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ค่ำบริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักBodhagaya Regency Hotel  ระดับ 4*หรือเทียบเท่า
วันที่ 7เมืองคยา - บ้านนางสุชาดา - แม่น้ำเนรัญชรา - วัดญี่ปุ่น - วัดภูฏาน - วัดทิเบต - วัดไทยพุทธคยา - มหาเจดีย์พุทธคยา - ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ บ้านนางสุชาดา เป็นธิดาของเสนียะ ( เสนานิกุฏุมพี) ผู้มีทรัพย์ซึ่งเป็นนายใหญ่แห่งชาวบ้านเสนานิคมตำบลอุรุเวลาเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยสาวนางได้ทำพิธีบวงสรวงต่อเทพยดาที่สิงสถิตณต้นไทรใหญ่ต้นหนึ่งใกล้บ้านของนางโดยได้ตั้งปณิธานความปรารถนาไว้ 2 ประการคือ
1.ขอให้ข้าพเจ้าได้สามีที่มีบุญมีทรัพย์สมบัติและมีชาติสกุลเสมอกัน
2.ขอให้ข้าพเจ้ามีบุตรคนแรกเป็นชาย
เมื่อความปรารถนาสำเร็จสมบูรณ์ นางได้ทำพลีกรรมบวงสรวงสังเวยเทพยดาด้วยข้าวมธุปายาสในวันขึ้น๑๕ค่ำเดือน๖

นำท่านชมวิว ริมสองฝั่ง แม่น้ำเนรัญชราแม่น้ำสำคัญในพุทธประวัติชาวบ้านแถบนั้นเรียกว่า “ลิลาจัน”มาจากคำสันสกฤตว่า “ไนยรัญจนะ”แปลว่าแม่น้ำที่มีสีใสสะอาดแม่น้ำทั้งสายกว้างราว๑กิโลเมตรในสมัยพุทธกาลแม่น้ำเนรัญชราไหลผ่านแคว้นมคธณตำบลอุรุเวลาเสนานิคมซึ่งตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำเนรัญชราอันเป็นภูมิสถานที่สงบน่ารื่นรมย์พระมหาบุรุษทรงเลือกที่แห่งนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียรทรงประทับอยู่ณที่นี้นานถึง ๖ ปีพระมหาบุรุษทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาและเปลี่ยนมาทรงดำเนินในมัชฌิมาปฏิปทาจนได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิณริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชราแห่งนี้

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดพุทธญี่ปุ่น ซึ่งมีหลวงพ่อองค์โตไดบุสซึและพระอรหันต์ที่วัดญี่ปุ่น องค์พระพุทธรูปสร้างจากหินทราย

วัดพุทธภูฏาน สร้างขึ้นเมื่อปี 2526 ชาวภูฏานนับถือพระพุทธศานา นิกายนิงมะหมวกดำ มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นประธานพุทธบริษัท ถือเป็นชาติที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โดดเด่นด้วยประติมากรรมปูนปั้นสามมิติ แสดงพุทธประวัติองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ประสูตจากครรภ์พระมารดา , ออกผนวชแสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ , ผจญหมู่มารก่อนการตรัสรู้ , รับข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา , ตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งถือเป็นวัดแห่งเดียวในพุทธยาที่มีศิลปะปูนปั้นสามมิติงดงามเช่นนี้

วัดพุทธทิเบต ด้านหน้าวัดประดับธงนิกายมหายาน พระวิหารงดงามด้วยสถาปัตยกรรมเช่นเดียวกับวัดที่ธิเบต  ส่วนพระประทานภายในวิหาร จำลองแบบมาจากพระพุทธเมตตาภายในมหาโพธิ์เจดีย์  ด้านข้างมีรูปปั้นพระพุทธเจ้านับร้อยองค์ เรียงรายอยู่ทั้งสองฝั่ง  ผนังพระวิหารประดับด้วยภาพวาดพุทธประวัติตั้งแต่ประสูต ตรัสรู้ และปรินิพพาน

นำท่านชม วัดไทยพุทธคยา เป็นวัดไทยแห่งแรกในประเทศอินเดียเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2500 มีเนื้อที่ราว 12 ไร่ตั้งอยู่บริเวณพุทธคยาอยู่ห่างจากองค์เจดีย์พุทธคยาประมาณ 500 เมตรเป็นวัดที่อยู่ในความดูแลและอุปถัมภ์ของรัฐบาลไทยพระอุโบสถของวัดไทยพุทธคยาจำลองแบบมาจากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารกรุงเทพมหานครซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมของสมัยรัตนโกสินทร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งการจำลองแบบจนดูเหมือนนี้ไม่ใช่เฉพาะภายนอกแต่ยังมีภายในที่เหมือนกันด้วยเช่นองค์พระประธานที่เป็นพระพุทธชินราชแกลประตูแกลหน้าต่างเป็นต้น

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม
บ่าย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มหาเจดีย์พุทธคยา เจดีย์พุทธคยาหรือพระมหาโพธิ์เจดีย์คืออนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีลักษณะเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงสูงเป็นสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบอินเดียสูงประมาณ 170 ฟุตแบ่งออกเป็น 2 ชั้นชั้นแรกประดิษฐานพระพุทธเมตตาพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะปาละเป็นพระพุทธรูปใหญ่หนึ่งเดียวในเจดีย์ที่ไม่ถูกทำลายจากกษัตริย์ชาวฮินดูในสมัยที่มีการกวาดล้างพระพุทธศาสนาในอินเดียส่วนชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาปางประทานพรบริเวณโดยรอบเจดีย์มีเจดีย์บริวารล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศเดิมเจดีย์พุทธคยาเป็นวิหารขนาดไม่ใหญ่นักต่อมาในปีพ.ศ.674 พระเจ้าหุวิชกะทรงบูรณะเพิ่มเติมให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมในปัจจุบันเจดีย์พุทธคยาถือเป็นแลนด์มาร์คของกลุ่มพุทธสถานพุทธคยา 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ด้านหลังมหาเจดีย์ ท่านจะพบกับ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ คือต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าประทับในช่วงเวลาตรัสรู้เป็นพันธุ์ไม้ที่เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลต้นพระศรีมหาโพธิ์มีทั้งหมด 4 ต้น

-ต้นแรก คือ ต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ซึ่งตายลงในสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช
-ต้นที่ 2 คือ ต้นที่แตกหน่อออกมาจากต้นแรกและได้ถูกทำลายลงในสมัยพระเจ้าสาสังการกษัตริย์ฮินดู
-ต้นที่ 3 คือ ต้นที่แตกหน่อออกมาจากต้นแรกและได้ตายลงเพราะขาดการบำรุงดูแลเนื่องจากเป็นช่วงพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดียเสื่อมโทรม
-ต้นที่ 4 คือ ต้นศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันที่แตกหน่อมาจากต้นที่ 3 ได้รับการบำรุงดูแลหน่อโดยเซอร์คันนิงแฮมหัวหน้าคณะสำรวจพุทธศาสนสถานในช่วงที่อินเดียเป็นอาณานิคมของอังกฤษปัจจุบันมีอายุ 138 ปี

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นที่ประดิษฐานของพระแท่นวัชรอาสน์พระแท่นที่พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างขึ้นเพื่อบูชาสถานที่บำเพ็ญเพียรของพระพุทธเจ้าตัวแท่นทำจากทองมีความยาว 7 ฟุตสลักเป็นรูปเพชรพญาหงส์และดอกมณฑารพสลับกันพระและพุทธศาสนิกชนนิยมไปสักการะสวดมนต์หรือนั่งทำสมาธิอยู่รอบๆบริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์และพระแท่นวัชรอาสน์แห่งนี้

ค่ำ    บริการอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พักBodhagaya Regency Hotel ระดับ 4*หรือเทียบเท่า
วันที่ 8คยา - มหาเจดีย์พุทธคยา - กทม ฯ
เช้า

บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มหาเจดีย์พุทธคยา เจดีย์พุทธคยาหรือพระมหาโพธิ์เจดีย์คืออนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีลักษณะเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมทรงสูงเป็นสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบอินเดียสูงประมาณ 170 ฟุตแบ่งออกเป็น 2 ชั้นชั้นแรกประดิษฐานพระพุทธเมตตาพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะปาละเป็นพระพุทธรูปใหญ่หนึ่งเดียวในเจดีย์ที่ไม่ถูกทำลายจากกษัตริย์ชาวฮินดูในสมัยที่มีการกวาดล้างพระพุทธศาสนาในอินเดียส่วนชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระพุทธปฏิมาปางประทานพรบริเวณโดยรอบเจดีย์มีเจดีย์บริวารล้อมอยู่ทั้ง 4 ทิศเดิมเจดีย์พุทธคยาเป็นวิหารขนาดไม่ใหญ่นักต่อมาในปีพ.ศ.674 พระเจ้าหุวิชกะทรงบูรณะเพิ่มเติมให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิมในปัจจุบันเจดีย์พุทธคยาถือเป็นแลนด์มาร์คของกลุ่มพุทธสถานพุทธคยา  

เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารหรือ ห้องอาหารในโรงแรม

สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางเดินทางสู่  สนามบินคยา
15.20 น.ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ ประเทศไทย โดย สายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 97716 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 35 นาที (ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
​16.40 น. ถึง สนามบินโกกาตา นำท่านเปลี่ยนเครื่อง 
​18.55 น. ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ ประเทศไทย
​23.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

เงื่อนไขในการจอง

  • ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดระบุวันเดินทางไป-กลับพร้อมคณะ
  • ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)
  • ที่พักโรงแรมตามรายการ6 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
    อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  • ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ
  • ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20กก.
  • ค่ารถรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ
  • ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญเส้นทางดูแลตลอดการเดินทาง
  • ค่าประกันชีวิตกรณีอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางคุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาทและค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวงเงินไม่เกินท่านละ 200,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
  • ค่าทำหนังสือเดินทางไทย,ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ(Re-Entry) หรือ คนต่างด้าว (เป็นหน้าที่ของผู้เดินทางในการจัดทำเอง)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุเช่นค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าโทรศัพท์, ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษนอกรายการค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์ทางไกล, ค่าอินเตอร์เน็ตฯลฯ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าปรับสำหรับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนดไว้20 กก.
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าอินเดียแบบ E-Visaและค่าวีซ่าเนปาลค่าท่านละ 3,900 บาท (ชำระพร้อมค่ามัดจำทัวร์)
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ 1,800บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(ชำระที่สนามบินในวันเดินทาง)
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่าน(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถแต่ไม่บังคับทิป)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และหัก ณ ที่จ่าย 3 %
     
  • กรุณาทำการจองก่อนการเดินทางอย่างน้อย 45 วันทำการหรือก่อนหน้านั้นโดยส่งแฟกซ์หรืออีเมลล์รายชื่อและหน้าหนังสือเดินทางเพื่อยันการจองที่นั่งพร้อมชำระมัดจำท่านละ 10,000 บาท
  • ค่าทัวร์ส่วนที่เหลือบริษัทฯจะขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมด15 วันก่อนการเดินทางมิเช่นนั้นบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางของท่านและการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
  • เมื่อท่านตกลงชำระเงินค่าบริการไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนกับทางบริษัทฯทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขการให้บริการที่ได้ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้ทั้งหมดนี้แล้ว
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการยื่นขอวีซ่าประเทศอินเดียแบบ E-Visa ให้กับผู้ร่วมเดินทางเท่านั้น ยกเว้นแต่ผู้ร่วมเดินทางมีวีซ่าปี
  • ยกเลิกการเดินทางก่อนการเดินทาง 30 วัน บริษัทฯจะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด โดยจะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่นค่าธรรมเนียมวีซ่ายกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล,วันหยุดนักขัตฤกษ์ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
  • ยกเลิกการเดินทาง 15 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่ามัดจำทัวร์ 50%
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วันเก็บค่าใช้จ่าย100% ของราคาทัวร์ต่อท่าน
  • สำหรับผู้โดยสารที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางไทยและทางบริษัทฯเป็นผู้ยื่นวีซ่าให้เมื่อผลวีซ่าผ่านแล้วมีการยกเลิกการเดินทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่ามัดจำทั้งหมด
  • โปรแกรมทัวร์นี้จะสามารถออกเดินทางได้ต้องมีจำนวนผู้เดินทางขั้นต่ำ25ท่านรวมในคณะตามที่กำหนดไว้เท่านั้นหากมีจำนวนผู้เดินทางรวมแล้วน้อยกว่าที่กำหนดไว้บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือปรับเปลี่ยนกำหนดการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง15-19ท่านต้องเพิ่มเงินท่านละ2,000บาท, กรณีที่มีผู้เดินทาง20-24ท่านต้องเพิ่มเงินท่านละ1,000บาท
  • ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับผลการอนุมัติวีซ่าเข้าประเทศอินเดีย แบบ E-Visa ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่า E-Visa และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการขอวีซ่าใหม่โดยตรงกับทางศูนย์รับยื่นวีซ่าอินเดีย ประจำประเทศไทย
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาและเงื่อนไขต่างๆโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯเท่านั้นอีกทั้งข้อสรุปและข้อตัดสินใดๆของบริษัทฯให้ถือเป็นข้อยุติสิ้นสุดสมบูรณ์
  • บริษัทฯและตัวแทนของบริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายการทัวร์ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ข้อจำกัดด้านภูมิอากาศและเวลาณวันที่เดินทางจริงทั้งนี้ทางบริษัทฯจะยึดถือและคำนึงถึงความปลอดภัยรวมถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้าส่วนมากเป็นสำคัญ
  • รายการทัวร์นี้เป็นการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะ (Join Tour) จัดทำและดำเนินการโดยบริษัทคู่ค้า (Partner)
  • อัตราค่าบริการคิดคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบันบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนราคาค่าบริการในกรณีที่มีการขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบินค่าประกันภัยสายการบินค่าธรรมเนียมน้ำมันหรือมีการประกาศลดค่าเงินบาทหรืออัตราแลกเปลี่ยนได้ปรับขึ้นในช่วงใกล้วันที่คณะจะเดินทาง
  • ในระหว่างการท่องเที่ยวนี้หากท่านไม่ใช้บริการใดๆไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่สามารถเรียกร้องขอคืนค่าบริการได้
  • หากท่านไม่เดินทางกลับพร้อมคณะทัวร์ตั๋วเครื่องบินขากลับซึ่งยังไม่ได้ใช้ไม่สามารถนำมาขอคืนเงินได้
  • ค่าบริการที่ท่านชำระกับทางบริษัทฯเป็นการชำระแบบเหมาขาดและทางบริษัทฯได้ชำระให้กับบริษัทฯตัวแทนแต่ละแห่งแบบเหมาขาดเช่นกันดังนั้นหากท่านมีเหตุอันใดที่ทำให้ท่านไม่ได้ท่องเที่ยวพร้อมคณะตามรายการที่ระบุไว้ท่านจะขอคืนค่าบริการไม่ได้
  • กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนมีการยกเลิกล่าช้าเปลี่ยนแปลงการบริการจากสายการบินบริษัทขนส่งหรือหน่วยงานที่ให้บริการบริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
  • มัคคุเทศก์พนักงานและตัวแทนของบริษัทฯไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆทั้งสิ้นแทนบริษัทฯนอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯกำกับเท่านั้น
  • บริษัทฯรับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้นการเดินทางของผู้เดินทางด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่นๆเช่นการไปค้าแรงงานการค้าประเวณีการค้ามนุษย์การขนส่งสินค้าหนีภาษีการขนยาเสพติดการโจรกรรมการขนอาวุธสงครามการก่อการร้ายและอื่นๆที่เข้าข่ายผิดกฏหมายผิดศีลธรรมอันดีบริษัทฯมิได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องหรือมีส่วนต้องรับผิดชอบใดๆกับการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้น
  • หากผู้เดินทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆปฏิเสธการเข้า - ออกเมืองด้วยเหตุผลใดๆก็ตามถือเป็นเหตุผลซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจและความรับผิดชอบของบริษัทฯทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบการคืนเงินทั้งหมด
  • ผู้เดินทางต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าต่างๆในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวท่านเองบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบใดๆหากเกิดความไม่พึงพอใจในสินค้าที่ผู้เดินทางได้ซื้อระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนี้
  • ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบต่อการจัดเก็บและดูแลทรัพย์สินส่วนตัวของมีค่าต่างๆอย่างระมัดระวังบริษัทฯจะไม่สามารถรับผิดชอบใดๆหากเกิดการสูญหายของทรัพย์สินส่วนตัวของมีค่าต่างๆระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว
  • บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สินและสัมภาระระหว่างการเดินทางอันมีสาเหตุมาจากสนามบินสายการบินบริษัทขนส่งโรงแรมหรือการโจรกรรมแต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเรียกร้องค่าชดใช้ให้กับผู้เดินทาง
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากการยกเลิกหรือความล่าช้าของสายการบินภัยธรรมชาติการนัดหยุดงานการจลาจลการปฏิวัติรัฐประหารที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อมเช่นการเจ็บป่วยการถูกทำร้ายการสูญหายความล่าช้าหรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใดๆต่อการไม่เป็นไปตามความคาดหวังและความไม่พึงพอใจของผู้เดินทางที่เกี่ยวข้องกับสภาพธรรมชาติภูมิอากาศฤดูกาลทัศนียภาพวัฒนธรรมวิถีและพฤติกรรมของประชาชนในประเทศที่เดินทางไป
  • ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นหากผู้เดินทางประสบเหตุสภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัวซึ่งไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุในรายการท่องเที่ยว(ซึ่งลูกค้าจะต้องยอมรับในเงื่อนไขนี้ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัททัวร์)
  • กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ(เล่มน้ำเงิน)เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากท่านถูกปฏิเสธในการเข้า-ออกประเทศใดๆก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์และรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
  • กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายในประเทศ เช่น (ตั๋วเครื่องบิน,ตั๋วรถทัวร์,ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆในกรณีถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว
  • หนังสือเดินทางต้องมีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า6เดือนและบริษัทฯรับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น(หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือใช้งานไม่น้อยกว่า6เดือนบริษัทฯไม่รับผิดชอบหากอายุเหลือไม่ถึงและไม่สามารถเดินทางได้
  • หนังสือเดินทาง (Passport) หนังสือเดินทาง ต้องมีหน้าเหลือสำหรับประทับวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้า อายุใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันเดินทาง *กรุณาถอดปก Passport ก่อนส่งเอกสารบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีสูญหาย*
  • รูปถ่าย รูปถ่ายสีหน้าตรงขนาด 2x2นิ้ว พื้นหลังสีขาวเท่านั้น จำนวน 2ใบเป็นรูปที่ถ่ายจากร้านถ่ายรูปเท่านั้น รูป (ห้ามสวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ, ไม่ใส่ชุดข้าราชการหรือเครื่องแบบใดๆ ไม่เป็นรูปสติ๊กเกอร์รวมถึงห้ามใช้รูปที่ถ่ายเองและปริ้นท์เอง)
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 2 ชุด ถ้าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตรและบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน 

Address

53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240

จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.

Contact Us

Hotline : 081-873-6566099-191-9288 

Social Network

Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel

 

Add line DoubleEnjoy