วันที่ 1 | วันแรก กรุงเทพฯ - กาฐมาณฑุ |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
07.30 น. | คณะมาพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D เช็คอินกรุ๊ปของสายการบิน การบินไทย ( Thai Airway) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทและหัวหน้าทัวร์ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก |
10.15 น. | นำท่านเดินทางสู่ เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยสายการบิน การบินไทย เที่ยวบินที่ TG319 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 25 นาที |
12.25 น. | เดินทางถึง สนามบินตรีภูวน เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมืองกาฐมัณฑุนั้นเป็นเมืองหลวงและยังเป็นเมืองที่ใหย่ที่สุดของประเทศด้วย เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางไปยัง เมืองปาฏัน “Patan” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลลิตาปูร์” เมืองปาฏัน เป็นหนึ่งในเมืองหลักของประเทศเนปาล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกาฐมาณฑู เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศิลปะงดงามที่สำคัญ 1 ใน 4 เมือง แห่งหุบเขากาญมาณฑุที่เป็นหุบเขามรดกโลกตั้งแต่ค.ศ. 1979 และเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองแห่งศิลปะและหัตถศิลป์ที่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตและงดงาม เมืองปาฏันนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) โดยเฉพาะชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูปทองเหลือง วัดฮินดู เมืองปาฏันนี้นับเป็นผลงานสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ชิ้นเอกแบบเนวารี มีถนนโบราณตัดผ่านตลอดทุกทิศ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน โดยมีจตุรัสปาฏันและพระราชวังปาฏันเป็นศูนย์กลาง นำท่านชม วัดพระกฤษณะ (Krishna Temple) ที่สร้างด้วยหินแกรนิตทั้งหลัง หลังจากนั้นนำท่านชม วัดทองคำ (Golden Temple) วัดทองคำ ลักษณะเป็นเจดีย์สูง 3 ชั้น หลังคาวัดทำด้วยแผ่นทองยาวลงมาจรดดิน ประดับตกแต่งด้วยทองเหลืองและทองแดงจนเหลืองอร่ามเรืองรอง เป็นวัดในพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นที่สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคง หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิเช่นสร้อยคอ สินค้าพื้นเมืองจำพวกลูกปัด พระพุทธรูปต่างๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนากาก็อต (Narkakot) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จากเมืองกาฏมัณฑุ นากาก็อตนั้นอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,175 เมตร ให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติวิวเทือกเขาหิมาลัยอันสวยงาม นากาก็อตนั้นเป็นชื่อภูเขา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในการชมวิว ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน ซึ่งสามารถมองเห็นเทือกเขาหิมาลัยอย่างสวยงาม หากอากาศดียังสามารถมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสจากจุดนี้ได้อีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ |
ที่พัก | Choutari Paradise Inn Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองนากาก็อต |
วันที่ 2 | ยอดเขานากาก็อต - โภครา - น้ำตกเดวิส - ค่ายอพยพชาวทิเบต - ล่องเรือทะเลสาบเฟวา - วัดบาลาฮี |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
05.30 น. | นำท่านชม แสงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ทางด้านทิศตะวันออกของเทือกเขานากาก๊อต ให้ท่านได้สูดอากาศยามเช้าและเก็บภาพความสวยงามของแนวเทือกเขาหิมาลัยที่โดนแสงอาทิตย์ส่องลงมา ให้ท่านได้อิสระเก็บภาพกันตามอัธยาศัย **จะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ** |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองโภครา โดยสายการบินภายในประเทศ |
....... น. | ออกเดินทางสู่เมืองโภครา (Pokhara) โดยสายการบิน Yeti Airline เที่ยวบินที่ .... |
........ น. | เดินทางถึง เมืองโภครา เมืองนี้ตั้งอยู่ ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันตก 200 กิโลเมตร คืออีกเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศเนปาลเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 2 รองจากกาฐมาณฑุจากที่นี่ จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของดานุละคีรี (Dhanulagiri) มนะสลู(Manaslu) มัชฉาปุรณะ (Machhapuchher) และยอดเขาอรรณาปุรณะ (Annapurana) ทั้ง 5 ยอดเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ท่ามกลางวงล้อมของหุบเขาอรรณาปูรณะ ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้้าทะเล 900 เมตร และเป็นจุดชมความงดงามของเทือกเขาหิมาลัยได้ใกล้ที่สุดเนื่องจากห่างจากบริเวณเทือกเขาแค่ 30 กิโลเมตร เป็นทิวทัศน์ ที่สูงตระหง่านเสียดฟ้ากว่า 8,000 เมตร เมื่อได้สัมผัสยากนักที่จะลืมเลือน และที่นี่ยังเป็นสถานที่ของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินปีนเขาเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย |
กลางวัน | บริการอาหารกลางวัน |
บ่าย | จากนั้นนำท่านชมน้ำตกเดวิส (Devi’s Fall) น้ำตกที่มีความลึกถึง 100 เมตร น้ำตกนี้ตั้งชื่อตามนายเดวิสที่ได้เสียชีวิตที่น้ำตกแห่งนี้พร้อมกับคู่รัก หลังจากนั้นนำท่านชม ค่ายอพยพชาวทิเบต (Tibetan refugee camp) ค่ายนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1960 เป็นสถานที่จัดแสดงความเป็นอยู่ของชาวทิเบตในเนปาล ซึ่งได้อพยพมาทางตอนเหนือของเนปาล ในครั้งที่จีนบุกกรุงลาซา ให้ท่านได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทิเบต และชมวิธีการผลิตพรมขนสัตว์แบบชาวบ้าน และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองต่างๆ หลังจากนั้นนำท่านชม แม่น้ำเซติ (Seti River) หรือแม่น้ำนม เป็นแม่น้ำสายหนึ่งของแม่น้ำกังฮารา ซึ่งละลายจากหิมะบนยอดเขาอภิและนามปาในเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนอินเดีย เนปาล และจีน แม่น้ำนี้มีเอกลักษณ์พิเศษคือมีสีขาวคล้ายน้ำนมไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัยและไหลเข้าไปใต้ดิน แม่น้ำนี้จะไหลผ่านเมืองโภคราซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่มีแม่น้ำไหลผ่านใต้ดินของเมืองโภครา ที่นี่เขาจะทดน้ำขึ้นมาให้ไหลไปตามคลองเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย จากนั้นนำท่าน ล่องเรือทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเนปาล ภาพความงามและความใสของทะเลสาบพีวานั้นสะท้อนภาพยอดเขามัจฉาปูชเร เป็นภาพสวยงาม และตรงกลางทะเลสาบเป็นที่ตั้งของวัดบาลาฮี (Barahi Temple) ซึ่งมีสถูปสี ขาวชื่อบาลาฮี ลอยเด่นตัดกับพื้นน้ํา นำท่านสักการะ วัดบาลาฮี วัดที่มีเทพธิดาอจิมา เทพธิดาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเมืองโภครา ทุกวันเสาร์จะมีการบูชายัญสัตว์แด่เทพธิดา หลังจากนั้นให้ทุกท่านได้อิสระช็อปปิ้งตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ |
ที่พัก | Dandelion Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองโภครา |
วันที่ 3 | โภครา - ยอดเขาซารางก็อต - กาฐมาณฑุ - ย่านทาเมล - ชมโชว์พื้นเมืองชาวเนปาล |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้ามืด | นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซารางก็อต (SARANGKOT) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมวิวที่ ยอดเขาอรรณาปุรณะ แสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ตัดกับยอดเขาอันสวยงาม ชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยและแม่น้ำเซติเป็นฉากด้านล่าง โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะอย่างสวยงาม ** ท่านจะเห็นเทือกเขาหิมาลัยหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้น** |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน |
บ่าย | หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยัง เมืองกาฐมาณฑุ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ย่านทาเมล (Thamel) ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ศูนย์กลางของเมืองกาฐมาณฑุ โดยบริเวณย่านนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร โรงแรมที่พัก และร้านขายของมากมาย ย่านนี้จึงเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าต่างๆมากมาย อาทิเช่น สินค้าจำพวกเครื่องประดับ หัตถกรรม เครื่องนุ่งห่มต่างๆมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ให้ท่านได้ชมการแสดงพื้นเมืองของชาวเนปาล |
ที่พัก | Manang Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองกาฏมาณฑุ |
วันที่ 4 | กาฐมาณฑุ – ปาฏัน - จัตุรัสกาฐมาณฑุตูร์บาร์ – วัดกุมารี – กาฐมาณฑป – สถูปโพธินาถ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | **สำหรับท่านใดที่สนใจนั่งเครื่องบินเล็กเพื่อชมยอดเขาเอเวอร์เรส (Mt. Everest) ของเทือกเขาหิมาลัย เพื่อชมความงานและวิวอันสวยงามของยอดเขา โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าขึ้นเครื่องบินเล็กนั้นไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ราคา โดยประมาณอยู่ที่ 220 USD ต่อ 1 ท่าน รบกวนติดต่อสอบถามแจ้งความจำนงค์กับหัวหน้าทัวร์โดยตรง ทางบริษัทเป็นเพียงตัวกลางในการให้ข้อมูลและคำแนะนำเท่านั้น ** บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางไปยัง เมืองปาฏัน “Patan” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ลลิตาปูร์” เป็นหนึ่งในเมืองหลักของประเทศเนปาล เมืองปาฏัน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงกาฐมาณฑู เมืองนี้เป็นเมืองแห่งศิลปะงดงามที่สำคัญ1 ใน 4เมือง แห่งหุบเขากาญมาณฑุที่เป็นหุบเขามรดกโลกตั้งแต่ค.ศ. 1979 และเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองแห่งศิลปะและหัตถศิลป์ที่มีชื่อเสียงในด้านการแกะสลักที่ประณีตและงดงาม เมืองปาฏันนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองคู่แฝดของกรุงกาฐมาณฑุ ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งความงาม (City of Beauty) โดยเฉพาะชื่อเสียงในเรื่องพระพุทธรูป ทองเหลือง วัดฮินดู เมืองปาฏันนี้นับเป็นผลงานสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง ชิ้นเอกแบบเนวารี มีถนนโบราณตัดผ่านตลอดทุกทิศ แบ่งออกเป็น 4ส่วน โดยมีจตุรัสปาฏันและพระราชวังปาฏันเป็นศูนย์กลาง นำท่านชมวัดพระกฤษณะ (Krishna Temple) ที่สร้างด้วยหินแกรนิตทั้งหลัง หลังจากนั้นนำท่านชมวัดทองคำ (Golden Temple) ลักษณะเป็นเจดีย์สูง 3 ชั้น หลังคาวัดทำด้วยแผ่นทองยาวลงมาจรดดิน ประดับตกแต่งด้วยทองเหลืองและทองแดงจนเหลืองอร่ามเรืองรอง เป็นวัดในพุทธศาสนา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป เป็นที่สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคง หลังจากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิเช่นสร้อยคอ สินค้าพื้นเมืองจำพวกลูกปัด พระพุทธรูปต่างๆ นำท่านเดินทางเที่ยว ชมเมืองกาฐมาณฑุ นำท่านชม จัตุรัสกาฐมาณฑุ ตูร์บาร์ (Kathmandu Durbar Square) จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูรบาร์ แห่งนี้ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทที่เก่าแก่ ซึ่งแสดงภาพความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนาและวัฒนธรรมของชาวเนปาล เนื่องจากเป็นสถานที่ราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จัตุรัสแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก้ในปี พ.ศ. 2522 จากนั้นเยี่ยม ชมวัดกุมารี หรือกุมารีฆระ (Temple of Kumari) ซึ่งเป็นที่พำนักของเทพธิดากุมารี ตามความเชื่อของชาวเนปาลนั้น กุมารีคือตัวแทนแห่งพระอุ มาเทวี เป็นเทพบริสุทธิ์ที่ถือกำเนิดจากโลกมนุษย์ ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาจากเด็กหญิงอายุ 3-5 ปี จากตระกูลศากยะหรือตระกูลของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ชาวเนปาลนับถือกุมารีดุจเทพเจ้าและมักจะขอพรให้ประสบความสำเร็จ กุมารีมีหน้าที่ทำพิธีบูชาเทพธิดาแห่งเตาไฟ หรือเทพธิดาแห่งการดำรงชีพ ( Living Goddess) และในช่วงเทศกาลอินทรา ยาตรา (Indra Jatra) หรือเทศกาลบูชาพระอินทร์ที่เวียนมาปีละครั้ง กษัตริย์เนปาลจะมาหากุมารีเพื่อรับพรจากเธอ หลังจากนั้นนำท่าน ชมกาฐมาณฑป (Kasthamandap) เป็นอาคารไม้เก่าแก่ที่สุด และเป็นกำเนิดของชื่อเมืองกาฐมาณฑุ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กับวัดกุมารี สถานที่นี้สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ลักษมี นาสิงห์ มัลละ (King Laxmi Narsingha Malla) ในตอนต้นศตวรรษที่ 16 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน |
บ่าย | จากนั้นนำท่าน สักการะ สถูปโพธินาถหรือพุทธนาถ (Boudhanath) หมายถึงพระพุทธเจ้าผู้เป็นที่พึ่ง สถูปนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล องค์เจดีย์ มีฐานทรงดอกบัวตูม มีเค้าศิลปะค่อนไปในทางทิเบต เห็นได้ชัดจากรูปแบบการก่อสร้างฐานสถูป ที่อิงคติปริศนาธรรมมัณฑลา (Mandala) อันเป็นรูปธรรมนิมิตตามคติพุทธศาสนาแบบทิเบต ในความหมาย เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ต่างๆ บนเจดีย์มีรูปเพ้นท์ลายดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ อันเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนทำดี องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2502 รอบๆองค์เจดีย์ประดับด้วย “ธงมนตรา” ที่ชาวทิเบตและชาวเนปาลนิยมนำมาแขวนเอาไว้อย่างสง่างามอย่างเป็นเอกลักษณ์ ธงนี้จะจารึกบทสวดมนตร์แล้วนำไปปลุกเสก ก่อนจะนำมาประดับที่องค์พระเจดีย์ หรือประดับตามหลังคาอาคารบ้านเรือน ทางเดิน ช่องเขา ฯลฯ เพื่อให้ลมพัดช่วยสวดมนตร์ แล้วพัดพาเอามนตราไปคุ้มครองผู้ผ่านทาง สถูปแห่งนี้สร้างโดยชาวทิเบตที่อพยพหนีสงครามเข้ามาที่นี่เมื่อปี พ.ศ. 2502 เมื่อครั้งที่จีนเข้ารุกรานทิเบต บริเวณวัดจึงเป็นที่ชุมชนของชาวพุทธจากทิเบต |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ |
ที่พัก | Manang Hotel ระดับ 4 ดาว หรือ เทียบเท่า,เมืองกาฏมาณฑุ |
วันที่ห้า | สถูปสวยมภูนาถ - กาฐมาณฑุ - กรุงเทพฯ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ห้า | |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นําท่านสักการะ สถูปสวยมภูนาถ (Swayambhunath) หรือ วัดลิง เป็นเจดีย์ของชาวพุทธ (Buddhist Chaityas) ที่ยิ่งใหญ่ 9 แห่งหนึ่งของโลก โดยคาดว่ามีอายุถึง 2,000 กว่าปี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้ามานะเทวะ ในปี พ.ศ.963 จุดเด่นของภายในวัดนี้คือ ส่วนตรงฐานของสถูปซึ่งมีดวงตาเห็นธรรม หรือ Wisdom Eyes ของพระพุทธเจ้าอยู่โดยรอบทั้ง 4 ด้าน ตัวสถูปตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ของหุบเขากาฐมาณฑุ จึงทําให้เห็นทิวทัศน์เหนือหุบเขาที่งดงาม สถูปแห่งนี้ยังเป็นสถูปที่เก่าแก่ที่สุดของเนปาล และยังเป็นสถานที่ที่มีการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธกับฮินดู โดยองค์กรยูเนสโกได้ทําการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2522 |
10.30 น. | สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินตรีภูวัน เมืองกาฐมัณฑุ |
13.30 น. | นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน การบินไทย ( Thai airway ) เที่ยวบินที่ TG320 |
18.10 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ ** หากท่านที่ต้องออกตั๋วภายใน (เครื่องบิน, รถทัวร์, รถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วเนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ท หรือ เวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ** |
Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel