แกรนด์ สเปน โปรตุเกส
บาร์เซโลน่า | มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ | ซาราโกซ่า | ซานตามาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ | เซโกเบีย | ปราสาทอัลคาร์ซาร์ | มาดริด | โทเลโด | มหาวิหารโทเลโด | พระราชวังหลวง | คอร์โดบ้า | เซบีญ่า | หอคอยฆีรัลดา | ชมระบำฟลาเมนโก้ | อิโวลา | ซินทรา | พระราชวังพีนา | แหลมโรคา | หอคอยเบเล็ง | ลิสบอน
รหัสทัวร์ | วันที่เดินทาง | เดินทางโดย | ราคา | สถานะ |
---|---|---|---|---|
DE934-001 | 16-25 ม.ค. 68 | Emirates (EK) | 119,900 | จองด่วน |
DE934-002 | 13-22 ก.พ. 68 | Emirates (EK) | 119,900 | จองด่วน |
DE934-003 | 14-23 มี.ค. 68 | Emirates (EK) | 119,900 | จองด่วน |
DE934-004 | 12-21 เม.ย. 68 | Emirates (EK) | 126,900 | จองด่วน |
DE934-005 | 25 เม.ย.-04 พ.ค. 68 | Emirates (EK) | 126,900 | จองด่วน |
DE934-006 | 01-10 พ.ค. 68 | Emirates (EK) | 126,900 | จองด่วน |
DE934-007 | 27 พ.ค.-05 มิ.ย. 68 | Emirates (EK) | 126,900 | จองด่วน |
วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
---|---|
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 1 | |
23.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | บาร์เซโลนา – มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ – ช้อปปิ้งเอาท์เลต |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 2 | |
03.10 น. | ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK371 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน |
06.55 น. | เดินทางถึง ดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน EK185 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย |
08.15 น. | ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ (DXB) สู่ สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7.10 ชม.) |
12.50 น. | เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ กรุงบาร์เซโลนา (Barcelona) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหลากยุคสมัย มีสวนสาธารณะสิ่งแวดล้อมและการวางผังเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ชมผลงานก่อสร้างในศิลปะแบบอาร์ตนูโว ที่แสดงความงดงามอย่างมีชีวิตชีวาโดยฝีมือของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นาม อันโตนีโอ เกาดี้ (Antonio Gaudi) ผู้ที่ทำให้เมือง บาร์เซโลนา ได้รับฉายาว่า “City of Gaudi” นำท่านชม ความงามของเมืองบาร์เซโลนา เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของสเปน นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายในแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2026 อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้ นำท่านผ่านชมอนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ยิ่งใหญ่ที่ออกเดินทางจากบาร์เซโลนา ไปพบหมู่เกาะแคริบเบียนและทวีปอเมริกาในปี คศ.1492 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (พิเศษ Seafood Paella) |
ที่พัก | Alimara Hotel Barcelona **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ยอดเขามองเซอร์รัต - ซาราโกซ่า - ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 3 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขามองเซอร์รัต (Montserrat) จากนั้นนำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้าสู่ยอดเขามองเซอร์รัต นำท่านเข้าชมวิหารมองเซอร์รัตซึ่งตั้งอยู่บนเขามองเซอร์รัตที่สูงถึง 1,236 เมตรจากน้ำทะเล ภูเขามองเซอร์รัต มีลักษณะรูปทรงเป็นหินตะปุ่มตะป่ำแปลกประหลาดโดยคำว่า Montserrat หมายถึง ปุ่มปม ซึ่งในภาษาคาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาหลักของคนในแถบนี้ใช้สื่อสารกัน ว่ากันว่าบริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อนเพราะยังมีซากเศษหอยอยู่ทั่วไปรวมไปถึงหินรูปทรงประหลาดของยอดเขาก็คาดว่าเกิดจากแรงดันตามธรรมชาตินับล้านปีมาแล้ว อาณาบริเวณที่ตั้งของวิหารมองเซอร์รัตซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาได้อย่างตระการตานั้น มีพื้นที่กว้างขวางจนทำให้ฉงนว่าผู้คนในอดีตนำวัสดุก่อสร้างมากมายขึ้นมาสร้างบนเขาที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร เหมือนเมืองในฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ภายในวิหารมีศิลปกรรมที่งดงามตระการตามากมายให้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมรูปปั้นที่ตกแต่งบนอาคารทั้งหลายที่งดงามเกินบรรยาย รอบๆบริเวณวิหารมีทั้งโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิค โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ห้องสมุด ห้องแสดงศิลปะ และสำนักนักบวชเบนาดิก(Benedictine) ซึ่งเป็นองค์กรนักบวชคาทอลิคบริหารวิหารอยู่บนนี้ สถานที่ทั้งหมดจึงเป็นบรรยากาศแบบเงียบเรียบสงบตามแบบฉบับสำนักปฎิบัติธรรมของนักบวช โดยมีจุดเด่นที่มีพระแม่มารีดำ (Black Madonna หรือ The Virgin of Montserrat) ที่มีชื่อเสียงประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวสเปนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิคส่วนใหญ่เขามีความเชื่อว่าภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาราโกซ่า (Zaragoza) (ระยะทาง 310 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ช.ม.) ซึ่งเป็นเมืองหลวงในอดีตของอาณาจักรอารากอน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ริมฝั่งแม่น้ำเอโบร ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของภูมิประเทศอันหลากหลายและงดงามแปลกตาของภูมิภาคสเปนตอนกลาง เมืองซาราโกซ่าได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม (City of Culture) ของทวีปยุโรป นำท่าน เข้าชมมหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (Basilica of our lady of the pillar) หรือที่รู้จักในนาม ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์ ตามตำนานสมัยแรกเริ่มของศาสนจักรกล่าวไว้ว่า อัครสาวกยาคอบหรือเซนต์เจมส์ ในระยะเริ่มแรกนั้นการเผยแพร่พระธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระแม่มารีมาปรากฎเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในนิมิตนั้น พระนางปรากฎอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพนิกร และเชื่อกันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกันกับเสาในซาราโกซ่า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Diagonal Plaza Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | เซโกเวีย - สะพานส่งน้ำโรมัน - ปราสาทอัลกาซาร์ - มาดริด (พักค้าง 2 คืน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 4 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเซโกเวีย (Segovia) (ระยะทาง 409 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ช.ม.) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเวีย ในแคว้นคาสตีลและเลออนของประเทศสเปน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมา (Eresma) กับแม่น้ำกลาโมเรส (Clamores) ณ เชิงเขากวาดาร์รามา |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ลิ้มลอง เมนูหมูหัน อันเลื่องชื่อ) |
บ่าย | นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองเซโกเวีย (Segovia Cathedral) และสะพานส่งน้ำโรมันที่มีชื่อเสียง (Roman Aqueduct) นำชมเขตเมืองเก่าซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 จากนั้น นำท่านเข้าชม ปราสาทแห่งเซโกเวีย หรือปราสาทอัลกาซาร์ หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 แล้วได้รับการต่อเติมในศตวรรษที่ 15 - 16 มีลักษณะเหมาะแก่การตั้งรับข้าศึกในอดีต เพราะมีทั้งช่องเชิงเทินขนาดใหญ่ ใช้สำหรับติดตั้งอาวุธ และมีช่องสำหรับเทน้ำเดือดและกรวดร้อน เพื่อทำลายกองทัพข้าศึกที่เข้าประชิดกำแพงเมือง ภายในปราสาทได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับแสดงของมีค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องใต้หลังคาเป็นที่แสดงแสนยานุภาพของอาวุธในสมัยกลาง รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต และในปี ค.ศ. 1975 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเซโกเวียเป็นเมืองมรดกโลกทางศิลปะวัฒนธรรม ได้เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงมาดริด (Madrid) (ระยะทาง 92 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาที่นี่ และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ ยกเว้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1601-1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปที่ 3 ได้ย้ายเมืองหลวงไปที่เมืองวัลลาโดลิด มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตตาคารจีน |
ที่พัก | Praga Hotel Madrid **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1) |
วันที่ 5 | โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด – พระราชวังหลวง – มาดริด |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 5 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ โทเลโด (Toledo) (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คือ คริสเตียน อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโค (Tajo) ซึ่งเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก นำท่านเที่ยวชมเมืองข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการ ขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง นำท่านสู่เขตเมืองเก่า ผ่านประตูเมืองปูเอร์ตาเดบิซากรา หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุดนำท่านชมการผสมผสานของสถาปัตยกรรมอารบิค มูเดฆาร์โกธิค เรเนสซองส์ จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารโทเลโด (Toledo Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน แต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน มุมด้านในเป็นอัลคาซาร์ ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโทเลโด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปน เอล เกรโก (Ei Greco) ได้เคยจำลองลงบนแผ่นภาพอย่างสวยงาม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด เพื่อเข้าชม พระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ นาฬิกา หนังสือ เครื่องใช้ อาวุธ นำท่านชมอุทยานหลวงที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาล ดอกไม้งดงามตลอดปี ชมอนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ในสวนสาธารณะ (หากพระราชวังหลวงปิด ซึ่งทางพระราชวังจะไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทจะจัดให้ท่านได้เข้าชมพระราชวังฤดูร้อน อรานคูเอซ (Placio Real De Aranjuez) แทน ซึ่งพระราชวังดังกล่าวเป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปน) ได้เวลานำท่านผ่านชม น้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน เป็นสถานที่ที่ใช้ในการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง ผ่านชมประตูชัยอาคาล่า (Puerta De Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จากนั้นนำท่านสู่ พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง นับเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน (กิโลเมตรที่ศูนย์) และยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าใหญ่มากมาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา สัญลักษณ์ของเมือง มีเวลาให้ท่านอิสระและช้อปปิ้งตามอัธยาศัยแบบเต็มๆ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Praga Hotel Madrid **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) |
วันที่ 6 | มาดริด - คอร์โดบา - สุเหร่าเมซกีต้า - เซบีญ่า - ชมระบำฟลาเมนโก้ |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 6 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ “เมืองคอร์โดบา” (Cordoba) (ระยะทาง 397 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม.) ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยชาวโรมันและชาวมัวร์จากอาหรับ เมืองคอร์โดบาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมมุสลิมในประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองคอร์โดบาเป็นเมืองมรดกโลกของประเทศสเปน เมืองนี้เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในสมัยศตวรรษที่10 มีการสร้างมหาวิทยาลัยเน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรม วิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมมัสยิด (สุเหร่า) เมซกีต้า ที่มีขนาดใหญ่โตและออกแบบอย่างวิจิตร ด้วยการใช้เสาหินจำนวนมากถึง 850 ต้น ต่อยอดเสาด้วยโครงสร้างคานโค้งแบบศิลปะโรมัน ผสมกับลวดลายแบบมัวริช ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบ อิฐ และหินฉลุลาย ทั่วทั้งอาคาร ด้านในสุดของมัสยิดจะสร้าง “มีหรับ” อันเป็นครื่องหมายแสดงทิศทางของเมืองเมกกะ ต่อมาเมื่อชาวคริสต์เข้ามายึดครองเมืองคอร์โดบา จึงได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นบริเวณกึ่งกลางของมัสยิด และสร้างหอระฆังสูง 93 เมตร ขึ้นในบริเวณสวนส้มและลานน้ำพุ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ “เมืองเซบีย่า” Seville (ระยะทาง 142 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.) ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย เป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี สวนสาธารณะและสวนดอกไม้ งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองเซบีย่าได้รับการกล่าวขานมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในแคว้นอัลดาลูซีย เมืองนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของแขกมัวร์มานานกว่า 800 ปี จึงได้รับอิทธิพลศิลปะแบบแขกมัวร์ค่อนข้างมาก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำพร้อมชมโชว์ระบำฟลาเมนโก้อันเลื่องชื่อของสเปน |
ที่พัก | Sevilla Center Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เซบีย่า – มหาวิหารเซบีย่า - หอคอยฆีรัลดา – อิโวลา – ลิสบอน (พักค้าง 2 คืน) |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 7 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเข้าชมปลาซาเดเอสปาญา (Plaza De Espanya) ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมซึ่งรวมเอาความเป็น สถาปัตยกรรมแบบสเปนที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละซุ้มโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็น อุทยานมาเรีย ลุยซ่า ซึ่งเคยเป็นราชอุทยานที่ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติก อิสระให้ท่านเก็บภาพความงามรอบบริเวณ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารแห่งเมืองเซบีย่า ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน เครื่องใช้ในศาสนพิธี ที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแล้วแต่ประเมินค่ามิได้ ตอนกลางโบสถ์เป็นที่ตั้งของสุสานคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ นำท่านชมและถ่ายรูปกับหอคอยฆีรัลดา (Giralda Tower) หอศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิม เป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของชาวมุสลิม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองอิโวรา (Evora) (ระยะทาง 267 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ช.ม.) เป็นเมืองและเทศบาลแห่งหนึ่งทางตอนกลางของประเทศโปรตุเกส รวมทั้งเป็นเมืองหลักของเขตแอวูราและภูมิภาคอาเลงแตฌู เมืองอิโวรา มีอายุยาวนานถึงห้าสหัสวรรษ หรือห้าพันปี เมื่อแรกสร้างใช้ชื่อเมืองว่า อิโบร่า โดยชาวเซลติกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ตั้งเมืองหลวงของตน นำท่านเที่ยวชมเมืองเก่าอิโวรา (Old town) ซึ่งมีหมู่อาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่ยังคงความสมบูรณ์ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นเมืองหลวงในอดีต ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo) (ระยะทาง 131 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ช.ม.) โดยผ่านเส้นทางมอเตอร์เวย์สายสำคัญที่ท่านจะได้เพลิดเพลินกับภาพชีวิตชนบท ชาวไร่ ชาวสวน และป่าคอร์ค (Cock) ตลอดการเดินทางท่านจะได้ให้ภูมิประเทศที่แตกต่าง ทั้งริมฝั่งมหาสมุทรและฝั่งแผ่นดินใหญ่ ลิสบอนเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี และเคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส เดอร์ ปองปาล (Marquis de Pombal) ได้เริ่มบูรณะและจัดวางผังเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัย เกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Mercure Lisboa Almada Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 8 | ซินทรา – พระราชวังพีน่า – แหลมโรคา |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 8 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองซินทรา (Sintra) (ระยะทาง 33 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองแห่งสถาปัตยกรรมโรแมนติก ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันงดงาม เป็นที่ตั้งของพระราชวังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังพีน่า, พระราชวังหลวง, พระราชวังมอนเซอราเต้, และพระราชวังควินต้าเดอรีกัลเลร่า นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองนี้เมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรป เมืองซินทราได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1995 อีกด้วย นำท่านชมตัวเมืองเก่าซินทราที่มีอายุมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 และเข้าชมพระราชวังพีน่า (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชม แหลม Cabo da Roca ที่ถือว่าเป็นสุดเขตทวีปยุโรปทางตะวันตก จุดตะวันตกสุดของโปรตุเกสและของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซินทรา ห่างจากลิสบอนเมืองหลวงประมาณ 45 กม. ตัวแหลมจะยื่นออกไปทางตะวันตกสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นชะง่อนผาสูงประมาณ 100 เมตรเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลซึ่งทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตร และถือได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ จากตรงนี้ท่านจะได้ชมความงามของมหาสมุทรแอตแลนติกอันยิ่งใหญ่ไพศาลในยามอาทิตย์อัศดง เป็นภาพที่งดงามยิ่งนักและยังมี ป้อม Cabo da Roca มีความสำคัญมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในด้านการป้องกันตามแนวชายฝั่งและการเดินเรือ ประภาคารบนแหลมนี้ยังคงใช้งานอยู่ถึงปัจจุบัน สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่เมืองลิสบอน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Mercure Lisboa Almada Hotel**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 9 | มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ง - ลิสบอน |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 9 | |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม กรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเตจู้ (Tejo) และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี เคยประสบกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 17 จึงทำให้อาคารเก่าแก่โบราณได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ผู้นำคนสำคัญของเมืองในสมัยนั้น คือ มาร์คิส เดอร์ ปองปาล (Marquis de Pombal) ได้เริ่มบูรณะและจัดวางผังเมืองลิสบอนใหม่ให้ทันสมัย เกิดการสร้างถนนและอาคารสมัยใหม่กลายเป็นเมืองลิสบอนที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตนเองจนถึงปัจจุบัน นำท่านถ่ายรูปหอคอยเบเล็ง (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือ เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบรอบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายเฮนรี่เดอะเนวิเกเตอร์ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา ซึ่งได้เดินเรือสู่ประเทศอินเดียได้เป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 โดยมหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ Freeport Lisboa Fashion Outlet ซึ่งเป็นเอาท์เลตขนาดใหญ่ใกล้เมืองลิสบอน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการซื้อของฝากและเสื้อผ้าแบรนด์ อาทิ ZARA, MANGO และอื่นๆอีกมากมาย |
17.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินลิสบอน (LIS) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund |
20.45 น. | ออกเดินทางสู่ ดูไบ โดยเที่ยวบินที่ EK194 (ใช้เวลาบินประมาณ 7.30ชม.) บริการอาหาร เครื่องดื่ม บนเครื่องบิน |
วันที่ 10 | กรุงเทพมหานคร |
รายละเอียดการเดินทาง วันที่ 10 | |
08.15 น | เดินทางถึง สนามบินดูไบ แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
09.30 น. | ออกเดินทางสู่ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK372 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร |
18.40 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 113,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 14,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 113,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 14,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 113,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 30,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 14,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 126,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 18,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 126,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 18,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 126,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 18,000 บาท |
ผู้ใหญ่ พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ | 126,900 บาท |
เด็กอายุไม่เกิน 12 ขวบ 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (เสริมเตียง) ราคาท่านละ | 119,900 บาท |
ราคาไม่รวมตั๋ว (ผู้ใหญ่) หักคืนท่านละ | 35,000 บาท |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่มท่านละ | 18,000 บาท |
งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 45 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา จะต้องเห็นคิ้วและใบหู ชัดเจน (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) ***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาบัตรประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา)
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา)
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา
10. หลักฐานการเงิน : (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement เท่านั้น!!!)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ย้อนหลัง 6 เดือนพร้อมประทับตราธนาคาร ใช้เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ที่ออกโดยทางธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วนตามตัวสะกดในพาสปอร์ต มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า และ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
************* ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น **************
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) **สามารถแนบประกอบได้ (ไม่สามารถใช้เป็นบัญชีหลักในการยื่นได้)
ท่านต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ (Saving) เป็นหลักในการยื่น
หากใช้บัญชีฝากประจำในการแนบประกอบ ต้องเตรียมดังนี้
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน
**กรณีรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) จะต้องสะกดชื่อให้ถูกตามพาสปอร์ต
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2
(สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)Address
53/286 Soi Nawamin 105, Nawamin Road, Nawamin, Bueng Kum, Bangkok 10240
จันทร์ - ศุกร์ : 09.00 - 18.00 น.
Contact Us
Hotline : 081-873-6566, 099-191-9288
Social Network
Facebook : @DoubleEnjoyTravel
Line : @DoubleEnjoy
Instagram : @DoubleEnjoy
Youtube : Double Enjoy Travel