เริ่มจากแลนด์มาร์คของพม่ากันก่อน นั่นคือ เจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่ที่ย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของพม่าครับ สำหรับ "ชเว" นั้นแปลว่า "ทอง" ส่วน "ดากอง" คือ "ชื่อเก่าของย่างกุ้ง" นั่นเอง ผมว่าชื่อนี้จำก็สมชื่อแล้วครับ เพราะว่ามีทองหุ้มไว้เป็นพันโลเลยครับ และสถานที่ที่สำคัญของเจดีย์ชเวดากอง นั่นคือ ลานอธิษฐาน สถานที่นี้เป็นสถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์เลยครับ เพราะว่า บุเรงนอง มักจะไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลนั่นเอง แหม ลูกทัวร์ผมแต่ละคนตั้งจิตอธิษฐานกันน่าดูเลยครับ โดยวิธีการอธิษฐานให้สมหวังก็คือ ให้เราถวายดอกไม้หอม และเดินรอบองค์เจดีย์อธิษฐานขอพร แต่ว่า ถ้าเรานั้นเจ็บขาหรือเดินไม่ถนัด ก็อาจจะนั่งสมาธิหรือนั่งไหว้แทนก็ได้ครับ และนอกจากนี้ยังมีรูปปั้นประจำวันเกิดให้เราได้รดน้ำขอพรกันด้วยนะครับ แต่ต้องรดน้ำให้เกินอายุตัวเองไป 1 ปีครับ หลังจากไหว้เจดีย์ชเวดากองกันแล้ว เราก็ต้องหาอะไรลงท้องก่อนที่จะไปเที่ยวที่ต่อไปครับ ขอบอกว่า ที่พม่านี่ร้านอาหารไทยเยอะครับ รับรองว่าถูกปากถูกใจแน่นอน

อิ่มหนำกันแล้ว ทัวร์พม่าโปรแกรมนี้สายบุญต้องชอบแน่ เพราะเราจะพาคุณไปบูชาเทพทันใจ หรือที่คนพม่าเขาเรียกว่า นัตโบโบยี โดย นัต คือ วิญญาณที่ของคนที่ตายไปแล้วไม่ใช่เทพและไม่ใช่ผี แต่เป็นวิญญาณของผู้ที่สร้างความดีไว้มาก ส่วนโบโบยี ก็คือ เจ้าพ่อ พ่อปู่ในความเชื่อของคนไทยนั่นเอง และเทพทันใจนั้นก็คือ 1 ในนัตหลวง 37 ตน คือการอธิษฐานนี่ ขอได้เพียงข้อเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นให้ถวายธนบัตรแล้วเสียบบนมือของท่าน และให้ยื่นหน้าผากไปแต่ที่นิ้วของท่าน แล้วนำธนบัตรนั้นกลับมา 1 ใบเก็บไว้เป็นเงินขวัญถุง แต่ห้ามหลายใจนะครับขอได้เรื่องเดียวเท่านั้นนะ แต่ความจริงเทพทันใจบ้านเราก็มีเกือบทุกจังหวัดเลยนะครับ แต่ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากที่พม่าเพราะไม่ได้ชี้นิ้วนั่นเอง

ต่อมามุ่งหน้ามาที่เมีองไจก์โถ่ เขตรัฐมอญครับ ความมหัศจรรย์จากธรรมชาติก่อเกิดศรัทธามากมายจริงๆ นะ อย่างเช่นที่พระธาตุอินทร์แขวน พระธาตุที่ตั้งอยู่บนก้อนหินที่มีสีทองอร่ามมาก ดูแล้วก็คิดถึง เขาคิชฌกูฏ จันทบุรีเลย การขึ้นไปนมัสการ เราก็จะใช้รถท้องถิ่นที่มีให้บริการครับ แต่ว่าใครเมารถง่ายก็ไม่อยากให้ขึ้นเหมือนกัน เพราะว่าใช้เวลาตั้ง 4 ชั่วโมงเลยล่ะกว่าจะถึง แต่พอถึงแล้วก็คุ้มค่ามากครับ เพราะบรรยากาศดีจริงๆ มาเช้าก็มีพระอาทิตย์ขึ้นให้ชม มาเย็นก็ชมพระอาทิตย์ตกดิน เรียกว่าคุ้มค่ามากครับ

หลังจากที่เราได้นมัสการพระธาตุอินทร์แขวนกันแล้ว ใครที่ชอบโบราณสถานของเก่าๆ นี่ห้ามพลาดเลยครับ เพราะผมจะพาไปเที่ยวชมทะเลเจดีย์ แห่งเมืองพุกาม ในสมัยศตวรรษที่ 16 เป็นยุคทองของอาณาจักรเลยครับ และกษัตริย์ในสมัยนั้นนิยมสร้างเจดีย์เป็นสิริมงคลครับ ทำให้มีเจดีย์เยอะมากๆ ที่เหลือถึงปัจจุบันก็ 2,000 องค์เลยครับ รับรองว่ามาเที่ยวที่นี่ไม่ผิดหวังครับ โดยเฉพาะใครชอบถ่ายรูป ผมจะแนะนำมุมถ่ายรูปงามๆ ให้ครับ เช่น ถ้าอยากได้ทะเลเจดีย์ตอนเช้าและเย็นแบบแสงสวยต้องมาถ่ายตรง เจดีย์ชเวสันดอร์ แต่ว่านักท่องเที่ยวจะเยอะหน่อยครับ เพราะว่าถ่ายที่นี่แล้วได้แสงที่สวยงามจริงๆ

อ่ะ ผมมีคำถามมาถามครับ ใครเคยดูเรื่องเพลิงพระนางบ้าง ถ้าใครเคยดูจะรู้เกี่ยวกับประวัติของพระราชวังมัณฑะเลย์เลยล่ะครับ เพราะเขาก็ทำละครจากเค้าโครงเรื่องจริงนั่นแหละครับ ความหลงในอำนาจหรือเชื่อเรื่องดวงมากไป ก็ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมมากมาย  และยังโดนผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ทำให้พระราชวังเสียหายไปมาก แต่ไม่เป็นไรครับตอนนี้ก็ได้บูรณะขึ้นใหม่แล้ว แต่ก็เปิดให้เข้าชมบางส่วนและยังคงมีทหารรักษาความปลอดภัยอยู่ด้วยครับ ไหนๆ ก็รู้ประวัติของพระราชวังมัณฑะเลย์กันแล้ว เรามาตามติดกันต่อดีกว่า

เจดีย์สันติมุนี เห็นไหมครับว่าจะมีเจดีย์สีทององค์ใหญ่อยู่องค์หนึ่ง และล้อมรอบด้วยเจดีย์เล็กๆสีขาวเต็มไปหมด ซึ่งสร้างโดยพระเจ้ามินดง และได้มีการอัญเชิญพระสันติมุนี พระพุทธรูปที่ทำจากเหล็กมาเป็นประธานและเจดีย์เล็กๆ ที่ล้อมอยู่คือมณฑปบรรจุศพและพระของพระมหาอุปราชและเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์นั่นเอง ก็ผมบอกแล้วว่า เรื่องราวมันต่อกัน สวยก็สวยครับแต่จะให้ผมมาคนเดียวก็ไม่โอเคนะ แอบวังเวง

ต่อมาขอเชิญมานมัสการ พระคู่บ้านคู่เมืองพม่า นั่นคือ พระมหามัยมุนี ชาวพม่าเชื่อว่า พระมหามัยมุนี คือพระพุทธรูปมีชีวิต จึงมีการล้างพระพักตร์ในเวลาตี 4 ทุกวัน แหม อย่างนี้น่าจะจัดมาทัวร์ช่วงนี้บ้างนะครับเนี่ย กำลังชื่นชมความงามของพระพุทธรูปองค์นี้อยู่ ก็ได้กลิ่นน้ำอบหอมๆ มาเลย หันไปมองสาวพม่านี่เอง หนุ่มสาวๆ ที่นี่ส่วนใหญ่ยังมีการนุ่งโสร่ง ผ้าถุง แถมประแก้มด้วยทานาคา เอาซะเหลืองเลย ไม่เหมือนสาวบ้านเรา โห่ ขนตาเป็นแพ กรีดอายอีก กว่าจะออกบ้านสองชั่วโมงแน่ะ อิอิ แอบบ่นแต่ยังไงผมก็เทใจให้สาวไทยนะครับ

สายบุญก็ได้กราบพระ สายกินก็ได้ทานของอร่อย สายเซลฟี่ก็มีที่ให้กดภาพกันเต็มที่ครับ สำหรับ ทริปทัวร์พม่า ของผม ที่พม่ายังรักษาวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตไว้แบบดั้งเดิมเลยครับ ที่นี่แต่งกายแบบสมัยเก่าๆ กันซะส่วนมาก แต่ดูไทยเราสิครับ ไม่มีมาใส่โจงกระเบนเดินกันหรอก อย่างมากก็ผ้าถุง เสื้อม่อฮ่อม อะไรแบบนั้น ใครชอบเที่ยวแบบไหว้พระทำบุญ ตามรอยเพลิงพระนาง สัมผัสวิถีชาวบ้าน ต้องคิดถึงทัวร์ดับเบิ้ลความสุข อย่าง ดับเบิ้ล เอ็นจอย ทราเวล นะครับ