แหม สำหรับใครที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวแนวนิทาน สวยงาม แถมมีอะไรให้ดูและเลือกเล่นมากมายล่ะก็ ผมขอแนะนำฮ่องกงดีสนีย์แลนด์ ครับ  ซึ่งถือว่า เป็นดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 3 ที่ตั้งอยู่นอกสหรัฐแต่ว่าเป็นแห่งที่ 2 ของเอเชียรองจากญี่ปุ่น เปิดเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 โดยมีการบริการอยู่ 2 แบบ คือ สวนสนุกและโรงแรมมากกว่า 1,000 ห้อง เอาล่ะครับรู้จักฮ่องกง ดีสนีย์แลนด์พอคร่าวๆแล้ว ผมจะพาไปลุยแล้วครับ

Main Street USA ที่ถนนนี้จะทำเป็นถนนคนเดินทั้งสองฟากข้องจะมีการจำลองบ้านของชาวอเมริกัน แล้วจะมีของที่ระลึกขายกันด้วย เพราะงั้นจะแวะซื้อของที่ระลึกและถ่ายรูปสวยๆก็เต็มที่ตามสบายเลยครับ จุดเด่นก็คือ ปราสาทเจ้าหญิงนิทราครับ จะเดินชมรอบๆหรือว่าจะขึ้นรถไฟดูรอบๆสวนสนุกก็ได้
Tomorrowland  จะเกี่ยวกับโลกแห่งอนาคต พวกโลกแห่งอวกาศทำนองนั้น มีเครื่องเล่นธีม starwar  นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอย่างอื่นอีก เช่น Autopia  เป็นรถให้เราขับไปเรื่อยๆตามทาง ส่วนใครที่ยิงเป้าแม่นๆ ผมแนะนำให้ไปลองเล่น Buzz Lightyear Astro Blaster นั่งรถไปเรื่อยๆแล้วใช้ปืนของเล่นยิงเป้าครับ แล้วห้ามพลาดเลยกับ Space Mountain อาคารที่ตกแต่งเหมือนอยู่ในอวกาศ คือ เหมือนให้เราขึ้นรถแล่นไปบนรางมีเพลงประกอบด้วย ได้อารมณ์สุดๆ ฮ่า
Toy Story Land ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่าเป็นดินแดนของเหล่า Andy  และผองเพื่อนจากเรื่อง Toy story ที่นี่ก็มีเครื่องเล่นเหมือนกันนะครับ เช่น Rc  Racer รถด่วนและก็การโดดร่มจำลองอย่าง Toy Soldier Parachute Drop เรียกได้ว่าโซนนี้เหมาะกับเด็กๆมากเลยครับ กรี๊ดกร๊าดสดใสกันสมวัยเชียว และ Grizzly Gulch อันนี้จำลองเหมืองทองคำมาเลยครับ มีเครื่องเล่น Runaway Mine Cars ที่เป็นรถไฟเหาะนั่นเอง
Fantasyland   ก็ชื่อบอกแล้วว่าเป็นแฟนตาซี เพราะงั้นก็เลยจะออกแนวนิทาน เมืองในจินตนาการหน่อยๆ  ก็จะมีมาสคอตตัวการ์ตูนของดิสนีย์มาให้คุณได้ถ่ายรูปกัน จะเลือกมุมไหนก็ได้ครับแล้วแต่เลย 
Adventureland ใครชอบความตื่นเต้นก็อย่าลืมมาเล่นที่โซนนี้กันนะครับ คือ การล่องเรือเข้าไปในป่าดงดิบ เจอกับเกาะของทาร์ซาน รับรองเลยว่ามันส์แน่
หลังจากที่เราได้เล่นเครื่องเล่น ถ่ายรูป ซื้อของที่ระลึกกันอย่างจุใจแล้ว ก็ถึงเวลาพักผ่อนชมวิวกันบ้างล่ะคราวนี้ วันนี้เลยอยากจะพาไปจุดชมวิวยอดนิยมของฮ่องกง  นั่นคือ วิคตอเรียพีค  จุดชมวิวบนยอดเขา วิวสวยแบบพาโนรามา บรรยากาศโรมานซ์มาก น่าพาแฟนมาเที่ยวมาก แต่ถ้าพากิ๊กมาก็อย่าให้แฟนรู้แล้วกัน ฮ่า

จุดเด่นของที่นี่คือสามารถมองเห็นวิวด้านล่างของเมืองฮ่องกงได้แบบครบทุกองศาเลย แสงสีในเมืองกับอ่าวและสันเขาไกลๆ ทำให้เราเห็นว่า แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าขนาดไหนเราก็ยังต้องพึ่งพาธรรมชาติอยู่ดีนะ  โชคดีมากเลยครับที่เรามากันจนช่วงเย็นแล้วครับ ทำให้เห็นแสงอาทิตย์สวยๆลับขอบฟ้า พร้อมกับแสงไฟจากตึกต่างๆที่ทยอยเปิดกัน ทำให้ได้เห็นความงดงามของฮ่องกงยามค่ำ แถมยังได้ดูการแสดงแสงสี Symphony of Lights อีกด้วย 
รถราง Peak Tram ที่ไม่เหมือนใคร เป็นรถรางที่ใช้ขึ้นไปชมวิวบนวิคตอเรียพีคครับ ที่บอกว่าไม่เหมือนใครให้ดูจากวิวด้านนอกเลยครับว่ามันเป็นยังไง เช่น เมื่อเราขึ้นเนินสูงเราก็จะเห็นตึกไกลออกไป แต่ถ้าดูวิวด้านขวามือนั้นจะเหมือนตึกล้มเอียงไปด้านหน้าครับ ไม่เชื่อลองสังเกตดูสิ ผมยังแอบถ่ายเก็บไว้เลยครับผม
เมื่อนั่งรถรางมาถึงแล้วก็จะมาเจอกับอาคารแปลกตาที่ด้านบนเป็นรูปครึ่งวงกลมหงาย เรียกว่า the Peak Tower  ด้านในก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและฉากของฮ่องกงให้ถ่ายรูปกันด้วยล่ะ ด้านบนของอาคารนี้จะมี Sky Terrace 428 ให้คุณนั้นได้ชมวิวของเมืองฮ่องกงกันด้วย แหม วันนี้คึกคักมากเลย คนเยอะเชียวครับ ใครที่ไม่อยากเบียดเสียดกับคนมากๆจะเข้าไปเดินเล่นใน พิพิธภัณฑ์ The Peak Tram Historical Gallery คือจะพูดถึงประวัติต่างๆของวิคตอเรียพีค มีมุมให้ถ่ายรูปเก๋ๆด้วยครับ 
แต่ถ้าเกิดอยากมาทัวร์กับผมครั้งหน้า ผมจะพาขึ้นมาเที่ยววิคตอเรีย พีคตอนกลางวันบ้าง จะได้เดินชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติด้วย เพราะว่าวิคตอเรียพีคนั้นตั้งอยู่บนยอดเขา บนยอดเขานั้นเป็นป่าดิบชื้น  โดยเส้นทางศึกษาธรรมชาติก็จะมี 4 เส้นทาง ใช้ระยะเวลาในการเดินแตกต่างกันไปครับ มี Mount Austin Road (ใช้เวลาเดิน 5-10 นาที, Victoria Peak Garden (ใช้เวลาเดิน 30-40 นาที) ,Hong Kong Trai (ใช้เวลาเดิน 40-60 นาที) Pok Fu Lam Country Park (ใช้เวลาเดิน 35-45 นาที) 
จุดเดียวที่เที่ยวเพียบเลยครับ หลังจากเที่ยวชมวิว กินข้าวกันอิ่มหนำก็ได้เวลากลับที่พักกันแล้วล่ะครับ มาลุ้นกันครับว่าพรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่ไหนกันต่อครับ เช้ามาทุกคนก็มารอกันที่ล็อบบี้ครับ เมื่อวานนี้เราก็ได้ไปเที่ยวที่ดีสนีย์แลนด์กับวิคตอเรียพีคกันแล้ว คราวนี้เราจะไปไหว้พระเทียนถานองค์ใหญ่ที่เขาลันเตากันบ้าง
เมื่อมาถึงนองปิงแล้วความจริงแล้วจะเดินขึ้นบันไดก็ได้นะครับ ขึ้นไปแค่ 200 กว่าขั้นเอง แต่มันจะไปได้ฟิลอะไร มันต้องขึ้นกระเช้านองปิงสิ ใครอยากเสียวๆ ใสๆ ต้องนี่เลยกระเช้านองปิงแบบ Crystal Cabin ที่พื้นของกระเช้าเป็นกระจกใส ให้อารมณ์แบบหลับตาข้าง เปิดตาข้างนึงเลยล่ะ แต่ถ้าไม่ชอบอะไรแบบนี้ก็นั่งกระเช้าแบบธรรมดาก็ได้นะ พื้นไม่ใส นอกจากจะได้สักการะองค์พระใหญ่และชมวิวที่สวยงามแล้ว ยังมีหนังให้ชมด้วยทั้งหนัง Stage 360 แบบผู้ใหญ่หรือว่าจะหนัง Motion 360 แบบเด็ก มีศิลปะโบราณให้ชมด้วยเช่นซุ้มประตูหรือว่าเสาไม้
ไหนๆก็สักการะพระใหญ่ ชมธรรมชาติกันแล้ว คราวนี้ผมก็จะพามาสักการะวัดที่ชาวฮ่องกงให้ความศรัทธามาก อย่างวัดแชกงหมิว  หรือที่เรียกกันว่า วัดกังหันลม  อันที่จริงแล้วมีหลักการสักการะเยอะเหมือนกันครับวัดนี้ ใครเคยศาลเจ้าจีนหรือวัดจีนล่ะก็คล้ายแบบนั้นเลยครับ ฮ่าๆ แต่ไม่ยากหรอกครับ มากี่ครั้งก็จะเจอกรุ๊ปทัวร์ไทยตลอด เพราะงั้นตีเนียนกับเขาไปเลยฮ่า ส่วนไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ การหมุนกังหัน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นกังหันนำโชคครับ ให้หมุน 3 ครั้ง โดยถ้าคิดว่าปีนี้เราเจอแต่เรื่องไม่ดีก็ให้ใช้มือซ้ายหมุนกังหันจากซ้ายไปขวาตามเข็มนาฬิกาแต่ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาดีอยู่กับให้หันหมุนกังหันจากขวาไปซ้ายด้วยครับ ผมต้องบอกเลยว่า ถ้าไม่หมุนกังหันถือว่ามาไม่ถึงวัดแชกงหมิว
ออกจากวัดแชกงหมิวกันแล้ว อ่ะ มาทริปนี้ยังไม่ได้ชอปปิ้งกันเลยใช่ไหมล่ะ งั้นวันนี้ผมจะพาไปแหล่งชอปปิ้งเก่าแก่ของฮ่องกงกันนั่นคือ ย่านจิมซาจุย (Tsim Sha Tsui)  บนถนนนาธาน ฝั่งเกาลูน มีร้านค้ามากมาย ขายของเยอะมาก โรงแรมก็เยอะด้วย รับรองเลยว่า กระเป๋าฉีกแน่นอน ฮ่าๆ ผมพูดจริงๆ นะ ผมให้เวลาแบบเต็มที่เลยล่ะ
สนุกมากเลยล่ะ ทัวร์ของผมนี่ เห็นรอยยิ้มของลูกทัวร์แล้วหายเหนื่อยเลยครับ ถ้าอยาก โปรแกรมทริปทัวร์ฮ่องกง แบบครบรสอย่างนี้ ต้องคิดถึง ดับเบิ้ล เอ็นจอย ทราเวล ของผมครับ